บัตรเป็นวิธีการชำระเงินหลักสำหรับผู้คนจำนวนมาก โดยมีบัตรชำระเงิน 26,710,000,000 ล้านใบที่หมุนเวียนอยู่ทั่วโลก ณ สิ้นปี 2023 เมื่อชำระเงินด้วยบัตรเดบิตที่หน้าร้าน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ เช่น เครื่องป้อนรหัส PIN โดยเครื่องจะอ่านบัตร รับรหัส PIN เข้ารหัสข้อมูล และทำธุรกรรมให้เสร็จเรียบร้อย ซึ่งมักจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที

การเลือก การตั้งค่า และการดูแลรักษาเครื่องป้อนรหัส PIN ที่ถูกต้องถือเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ยอมรับการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายวิธีเลือกเครื่องป้อนรหัส PIN ตั้งแต่ตัวเลือกฮาร์ดแวร์และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยไปจนถึงการผสานการทำงาน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• เครื่องป้อนรหัส PIN คืออะไร และทํางานอย่างไร
  
• มีเครื่องป้อนรหัส PIN ประเภทใดบ้าง
  
• คุณควรพิจารณาฟีเจอร์ใดบ้างของฮาร์ดแวร์ในเครื่องป้อนรหัส PIN
  
• เครื่องป้อนรหัส PIN สามารถผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์การชำระเงินและระบบ POS ได้อย่างไร
  

เครื่องป้อนรหัส PIN คืออะไร และทํางานอย่างไร

เครื่องป้อนรหัส PIN คืออุปกรณ์ที่ลูกค้าใช้ป้อน PIN เมื่อชำระเงินด้วยบัตรเดบิต ถึงแม้จะดูเหมือนง่าย (ปกติจะมีแค่แป้นพิมพ์และหน้าจอเล็กๆ) แต่เบื้องหลังกลับมีอะไรมากกว่านั้นอีกมาก

เครื่องป้อนรหัส PIN มีหน้าที่ 2 อย่างคือ

• บันทึกและเข้ารหัส PIN ทันทีที่ป้อน ดังนั้น PIN จริงจะไม่ถูกส่งออกจากเครื่องเป็นข้อความธรรมดา

• ส่งรหัส PIN ที่เข้ารหัสไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงิน

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องป้อนรหัส PIN จะติดตั้งอยู่ในเครื่องอ่านบัตรที่มีเครื่องอ่านชิป เครื่องรูดบัตรแถบแม่เหล็ก และความสามารถในการสื่อสารแบบ Near Field Communication (NFC) สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เมื่อลูกค้าเสียบหรือแตะบัตร เครื่องจะอ่านข้อมูลบัตร ขอให้ใส่รหัส PIN (หากจำเป็น) และส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังหน่วยประมวลผล

เมื่อผสานเข้ากับระบบบันทึกขาย (POS) ซอฟต์แวร์ POS จะส่งยอดซื้อไปยังเครื่องป้อนรหัส PIN จากนั้นเครื่องจะจัดการการโต้ตอบกับบัตรและการป้อนรหัส PIN และส่งผลลัพธ์คืนมา เมื่อเครื่องทำงานโดยอัตโนมัติ พนักงานจะพิมพ์จำนวนเงินลงในเครื่องโดยตรง ในขณะที่ลูกค้าจะชำระเงิน ป้อนรหัส PIN และเครื่องจะส่งธุรกรรมไปยังผู้ประมวลผล

บัตรแบบมีชิปบางประเภทสามารถตรวจสอบรหัส PIN ในเครื่องได้ โดยจะตรวจสอบรหัส PIN ที่ป้อนในแป้นพิมพ์กับรหัส PIN ที่อยู่บนชิป ประสบการณ์การใช้งานจะเหมือนกัน คือลูกค้าป้อนรหัส PIN ของตนเอง แต่ตัวบัตรจะยืนยันตัวตนของผู้ซื้อเอง

มีเครื่องป้อนรหัส PIN ประเภทใดบ้าง

"เครื่องป้อนรหัส PIN" เป็นคำที่มีความหมายกว้างที่ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องอ่านบัตรธรรมดาและแป้นพิมพ์ที่เสียบเข้ากับเครื่อง POS ไปจนถึงเครื่องอ่านบัตรอัจฉริยะแบบหน้าจอสัมผัสที่ควบคุมระบบชำระเงินทั้งหมด ความแตกต่างจะขึ้นอยู่กับการออกแบบ ความคล่องตัว และความเหมาะสมกับขั้นตอนการทำงาน

ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมวดหมู่หลักๆ

เทอร์มินัลแบบครบวงจรแบบตั้งโต๊ะ

เทอร์มินัลเหล่านี้ติดตั้งอยู่กับที่และใช้พลังงานจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า เชื่อมต่อผ่านอีเทอร์เน็ตหรือ Wi-Fi โดยทั่วไปจะมีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็ก และมักจะมีเครื่องพิมพ์ใบเสร็จในตัว

ซึ่งเหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจที่มีพื้นที่ชำระเงินแบบตายตัวและต้องการความน่าเชื่อถือมากกว่าความสะดวกในการพกพา มักพบเห็นได้ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินมาตรฐานในร้านค้าปลีก ร้านเสริมสวย และคาเฟ่ขนาดเล็ก

เครื่องแบบตั้งโต๊ะที่มีการเชื่อมต่อ

เครื่องเหล่านี้จะเชื่อมต่อกับระบบ POS หลักที่แคชเชียร์ใช้งาน โดยอาศัยระบบ POS ในการเริ่มต้นและประสานงานธุรกรรม เครื่องคิดเงินแบบตั้งโต๊ะมักจะมีจอแสดงผลขนาดใหญ่สำหรับยอดรวม การแสดงผลแบรนด์ หรือใบเสร็จดิจิทัล เครื่องคิดเงินเหล่านี้มีความปลอดภัยในทางกายภาพ โดยมักติดตั้งบนขาตั้งแบบหมุนได้ โดยมีเครื่องป้อนรหัส PIN อยู่ที่ฝั่งลูกค้าของจุดชำระเงิน

มักพบเห็นได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ และร้านขายยา

เครื่องแบบพกพา

เทอร์มินัลเหล่านี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรือบลูทูธ บางรุ่นมีเพียงหน้าจอสัมผัส ในขณะที่บางรุ่นมีปุ่มกดแบบปุ่มจริง

คุณสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินให้กับลูกค้าของคุณได้ด้วยเครื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่พื้น ริมถนน หรือระหว่างรอคิว เครื่องเหล่านี้มักพบเห็นได้ตามร้านอาหารที่ลูกค้าสามารถชำระเงินที่โต๊ะ รถขายอาหาร และร้านค้าชั่วคราว

เทอร์มินัลอัจฉริยะ

อุปกรณ์เหล่านี้รวมระบบ POS และอุปกรณ์ชำระเงินเข้าด้วยกัน เป็นอุปกรณ์พกพาที่สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth บางครั้งมีการสแกนบาร์โค้ดและการพิมพ์ใบเสร็จ และใช้หน้าจอสัมผัสสำหรับการป้อนรหัส PIN และการให้ทิปบนเครื่องอ่าน

เครื่องเหล่านี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยและแอปพลิเคชันที่มีการผสานการทำงาน (เช่น สินค้าคงคลัง ระบบสะสมคะแนน ระบบสั่งซื้อ) มักพบเห็นได้ในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านอาหารฟาสต์แคชชวล และร้านบูติก

คุณควรพิจารณาฟีเจอร์ใดบ้างของฮาร์ดแวร์ในเครื่องป้อนรหัส PIN

ฮาร์ดแวร์ที่คุณเลือกใช้กับเครื่องป้อนรหัส PIN จะส่งผลต่อความเร็วในการดำเนินการชำระเงินและความทนทานของอุปกรณ์ นี่คือสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อพูดถึงตัวเลือกต่างๆ

การรองรับวิธีการชําระเงิน

เทอร์มินัลควรรองรับสิ่งต่อไปนี้ได้เป็นอย่างน้อย

• บัตรแบบชิป Europay, Mastercard และ Visa (EMV)

• บัตรแบบไร้สัมผัส

• กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Apple Pay, Google Pay)

เครื่องป้อนรหัส PIN รุ่นใหม่ส่วนใหญ่รองรับทั้ง 3 รูปแบบ แต่คุณควรตรวจสอบดูก่อน หากไม่มีแบบใดแบบหนึ่ง คุณอาจปฏิเสธลูกค้าได้เนื่องจากความต้องการในการชำระเงินของพวกเขา

การออกแบบหน้าจอและอินเทอร์เฟซผู้ใช้

• แป้นพิมพ์: หากเป็นแป้นกดแบบมีปุ่ม ควรมีไฟแบ็คไลท์ สัมผัสได้ และสร้างมาให้ทนทานต่อการใช้งานหนัก

• หน้าจอสัมผัส: หน้าจอควรมีขนาดใหญ่และตอบสนองต่อการป้อนรหัส PIN ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุมากหรือผู้ที่มีความสามารถในการเข้าถึงที่แตกต่างกัน

• การป้องกันความเป็นส่วนตัว: นี่เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในสภาพแวดล้อมที่ยุ่งวุ่นวายซึ่งการมีการแอบมองข้อมูล

• ความชัดเจนของหน้าจอ: มองหาหน้าจอที่คมชัดและอ่านง่าย หน้าจอสีอาจมีประโยชน์ในการแจ้งเตือนผู้ใช้ แต่หากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ได้รับการออกแบบมาอย่างดี สิ่งนี้ก็ไม่จำเป็น

ตัวเลือกการเชื่อมต่อ

เทอร์มินัลต้องเชื่อมต่อกับระบบ POS หรืออินเทอร์เน็ตของคุณได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยควรมองหาการเชื่อมต่อดังนี้

• USB (สําหรับการเชื่อมต่อ POS)

• อีเทอร์เน็ต (เสถียรและรวดเร็วสําหรับการใช้งานบนเคาน์เตอร์)

• Wi-Fi (สําหรับเครื่องแบบพกพา)

• บลูทูธ (หากจับคู่กับแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์)

เทอร์มินัลหลายแบบรองรับตัวเลือกที่หลากหลาย ให้เลือกแบบผสมผสานที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการนำเทอร์มินัลไปให้ลูกค้า คุณจะต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth ได้

คุณภาพเครื่อง

ความทนทานเป็นเรื่องสำคัญ อุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้งานตลอดทั้งวันโดยไม่มีวันหยุด ปุ่มต่างๆ ไม่ควรติดขัด หน้าจอไม่ควรแตกง่าย และพอร์ตต่างๆ ไม่ควรหลวมหลังจากใช้งานไป 2-3 เดือน

หากจะวางบนเคาน์เตอร์ ควรตรวจสอบว่าสามารถใช้งานกับขาตั้งแบบหมุนหรือแบบยึดติดเพื่อความปลอดภัยได้หรือไม่ และหากจำเป็นก็ควรเป้นเครื่องที่ส่งให้ลูกค้าได้ง่าย เครื่องแบบพกพาควรมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน และเครื่องแบบตั้งโต๊ะไม่ควรกินพื้นที่เกินความจำเป็น

พลังงานและอายุแบตเตอรี่

อุปกรณ์แบบมีสายมักจะใช้ไฟจากเต้ารับที่ผนังหรือพอร์ต USB ในขณะที่อุปกรณ์ไร้สายใช้แบตเตอรี่ ควรเลือกสเปคที่ครอบคลุมการใช้งานจริงอย่างน้อยหนึ่งวันเต็ม และตรวจสอบว่าแบตเตอรี่สามารถเปลี่ยนหรือชาร์จซ้ำได้หรือไม่ และใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มนานเท่าใด

เครื่องพิมพ์ใบเสร็จและเครื่องสแกนบาร์โค้ด

เครื่องบางเครื่องมีเครื่องพิมพ์ในตัว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการติดตั้งแบบสแตนด์อโลน ในขณะที่เครื่องบางเครื่องต้องใช้เครื่องพิมพ์ภายนอกที่เชื่อมต่อกับระบบ POS ให้พิจารณาว่าอะไรคือสิ่งที่กระบวนการทำงานของคุณต้องการ หากลูกค้าต้องการใบเสร็จรับเงินแบบพิมพ์ และคุณไม่ได้ใช้ระบบ POS เต็มรูปแบบ เครื่องพิมพ์ในเครื่องก็ช่วยได้ คุณอาจต้องการความสามารถในการเชื่อมต่อเครื่องสแกนบาร์โค้ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในร้านค้าปลีก

เครื่องป้อนรหัส PIN บางเครื่องเท่านั้นที่จะรองรับพอร์ตหรือซอฟต์แวร์เหล่านี้ ดังนั้นโปรดตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบด้วย

ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยและการรับรอง

นี่คือสิ่งที่ควรมี

• การรับรองความปลอดภัยธุรกรรม PIN (PTS):__ รับรองว่าเทอร์มินัลตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ระดับโลกสำหรับการชำระเงินด้วย PIN

• การป้องกันการงัดแงะ: อุปกรณ์ควรเช็ดกุญแจและปิดการใช้เครื่องหากถูกงัดแงะ

• การเข้ารหัสแบบจุดต่อจุด (P2PE) : เครื่องควรเข้ารหัสข้อมูลบัตรและ PIN ทันที

• การเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (E2EE) : เครื่องควรเข้ารหัสข้อมูลการชำระเงินตั้งแต่เมื่อป้อนข้อมูลจนถึงเมื่อถึงตัวประมวลผลการชำระเงิน

• การรับรอง EMV ระดับ 1 และระดับ 2:__ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะจัดการบัตรชิปอย่างปลอดภัย

อุปกรณ์ที่ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมการชำระเงินและทำงานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติมคือสิ่งที่คุณควรมี

เครื่องป้อนรหัส PIN จะผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์การชำระเงินและระบบ POS ได้อย่างไร

เครื่องป้อนรหัส PIN จำเป็นต้องสื่อสารกับระบบ POS และผู้ประมวลผลการชำระเงิน ทั้งนี้ การผสานการทำงานโดยรวมของระบบอาจแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของคุณ

การผสานการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย POS (ความเข้ากันได้ทันที)

ธุรกิจหลายแห่งใช้ระบบ POS ที่รองรับเครื่องป้อนรหัส PIN เฉพาะอยู่แล้ว ในรูปแบบนี้ ซอฟต์แวร์ POS จะควบคุมขั้นตอนการทำธุรกรรม โดยส่งยอดรวมไปยังเครื่องรูดบัตร จากนั้นเครื่องจะขอให้แสดงบัตรและ PIN และผลลัพธ์จะถูกส่งกลับไปยังระบบ POS เมื่อการชำระเงินได้รับการอนุมัติ

การผสานการทำงานแบบนี้พบได้ทั่วไปในร้านค้าปลีกหลายช่องทาง ร้านขายของชำ หรือที่ใดก็ตามที่พนักงานแคชเชียร์ควบคุมระบบ POS หลักในขณะที่ลูกค้าโต้ตอบกับเครื่องป้อนรหัส PIN แยกต่างหาก ซึ่งช่วยให้

• การซิงค์การชำระเงินกับใบเสร็จ สินค้าคงคลัง และบันทึกของลูกค้า

• อัปเดตระบบ POS แบบเรียลไทม์ขณะทำธุรกรรม

• ลดการป้อนข้อมูลหรือการตรวจสอบความถูกต้องด้วยตนเอง

แต่คุณจะถูกจำกัดให้ใช้ฮาร์ดแวร์ที่ผู้จำหน่าย POS รองรับ

การผสานการทำงานตาม SDK หรือ API (สำหรับระบบที่กำหนดเองหรือแบบผสานรวม)

หากคุณกำลังสร้างระบบ POS ของตัวเอง คุณอาจจะต้องทำงานโดยตรงกับชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) หรืออินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ของผู้ให้บริการชำระเงิน

ปกติแล้ววิธีนี้จะช่วยให้คุณ

• ควบคุมประสบการณ์การชำระเงิน

• การเข้าถึงเครื่องอ่านด้วยโปรแกรม (การจับคู่ การเชื่อมต่อ และการเก็บเงิน)

• การสื่อสารที่ปลอดภัยและมีการเข้ารหัสกับเครือข่ายการชำระเงิน

ตัวอย่างเช่น Stripe Terminal รองรับการผสานการทำงานตาม API และ SDK สำหรับ iOS, Android, JavaScript และ React Native ที่ให้คุณสื่อสารกับผู้อ่านโดยใช้ Stripe และเซิร์ฟเวอร์

โมเดลนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับแต่งกระบวนการทำงานให้สมบูรณ์แบบ โดยจำเป็นต้องมีการพัฒนาล่วงหน้ามากขึ้น แต่ให้ความยืดหยุ่นในระยะยาว

การผสานการทํางานบนระบบคลาวด์

ในการตั้งค่าบางรูปแบบ เครื่องป้อนรหัส PIN จะสื่อสารกับผู้ประมวลผลโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ โดยระบบ POS ของคุณจะส่งคำขอชำระเงินไปยังบริการระบบคลาวด์ แพลตฟอร์มระบบคลาวด์จะส่งคำขอไปยังเครื่องป้อนรหัส PIN ที่เหมาะสมบนเครือข่ายของคุณ และเครื่องจะจัดการธุรกรรมและส่งผลลัพธ์กลับมาผ่านระบบคลาวด์

วิธีนี้สามารถลดขอบเขตการปฏิบัติตามข้อกำหนดของคุณได้ เนื่องจากระบบ POS จะไม่แตะต้องข้อมูลบัตรเลย นอกจากนี้ยังช่วยให้

• สภาพแวดล้อมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่แยกจากกัน

• การจัดการธุรกรรมแบบรวมศูนย์

• การผสานการทำงานที่ง่ายขึ้นสำหรับระบบ POS ที่ใช้เบราว์เซอร์หรือมีขนาดไม่ใหญ่

การตั้งค่าเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีเครื่องบันทึกหรือเทอร์มินัลจำนวนมาก หรือที่การจับคู่โดยตรงทำได้ยาก

การจัดเตรียมอุปกรณ์และการจัดการระยะไกล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้งานในปริมาณมาก คุณจะต้องมีเครื่องมือสำหรับจัดการอุปกรณ์จำนวนมากในสถานที่ต่างๆ ซึ่งรวมถึง

• การจัดเตรียมและการลงทะเบียน (การเชื่อมโยงอุปกรณ์กับตำแหน่งที่ตั้งหรือบัญชีผู้ค้าแบบเฉพาะ)

• การวินิจฉัยจากระยะไกล (ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ สถานะเครื่องอ่าน และการเชื่อมต่อ)

• อัปเดตเฟิร์มแวร์ (แบบอัตโนมัติหรือตามต้องการ)

• การติดฉลากและการจัดการสินค้าคงคลัง (รู้ตำแหน่งของเครื่องอ่าน)

Stripe Terminal ช่วยให้คุณจัดการเครื่องอ่านบัตรหลายเครื่องได้ง่ายขึ้นด้วยการจัดกลุ่มเครื่องอ่านบัตร ติดตามสถานะการเชื่อมต่อ และแก้ไขการตั้งค่าที่ทำขึ้นตามสถานที่จริง

การผสานการทำงานนี้มีความสำคัญหากคุณทำงานกับเทอร์มินัลมากกว่าหนึ่งเครื่อง มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีหลายสาขาหรือแพลตฟอร์มที่จัดการฮาร์ดแวร์แทนธุรกิจ

การตั้งค่าและการทดสอบ

การผสานการทำงานเครื่องป้อนรหัส PIN มักเกี่ยวข้องกับ

• การเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์ (ผ่าน USB, Bluetooth, Ethernet หรือ Wi-Fi)

• การกำหนดค่าระบบ POS ให้รู้จักและจับคู่กับอุปกรณ์

• การโหลดข้อมูลประจำตัวเฉพาะผู้ค้าหรือคีย์การเข้ารหัส

• การรันธุรกรรมทดสอบเพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อ ลักษณะการทำงานของเครื่องอ่าน และการรับส่งข้อมูล

หากระบบของคุณรองรับการป้อนจำนวนเงินแบบไดนามิก ใบเสร็จรับเงินดิจิทัล หรือการแจ้งเตือนทิป คุณจะต้องทดสอบสิ่งเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ การจำลองธุรกรรมที่ล้มเหลวก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดการข้อผิดพลาดทำงานได้อย่างถูกต้อง