วิธีคำนวณจุดคุ้มทุนและใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจทางธุรกิจ

Sigma
Sigma

ข้อมูลทางธุรกิจที่เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. จุดคุ้มทุนคืออะไร
  3. การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนคืออะไร แล้วเหตุใดจึงสำคัญ
    1. การทดสอบการตั้งราคาของคุณภายใต้แรงกดดัน
    2. การช่วยให้เห็นต้นทุนของคุณอย่างตรงไปตรงมา
    3. การตั้งเป้าหมายยอดขายที่สมเหตุสมผล
    4. การทำโมเดลความเสี่ยงและความยืดหยุ่น
    5. การทำความเข้าใจส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยของคุณ
    6. การตัดสินใจอย่างเป็นกลางมากขึ้น
    7. การทำตามความคาดหวังทางการเงิน
  4. คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนได้อย่างไร
    1. เพิ่มต้นทุนคงที่
    2. กำหนดต้นทุนแปรผันต่อหน่วย
    3. ทราบราคาขายของคุณ
  5. การคำนวณจุดคุ้มทุนมีสูตรอย่างไร
    1. จุดคุ้มทุนในรูปแบบหน่วยที่ต้องขายให้ได้
    2. จุดคุ้มทุนในรูปแบบรายรับที่ต้องทำให้ถึง
  6. คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนสำหรับสินค้าหลายรายการได้อย่างไร
    1. กำหนดส่วนผสมยอดขาย
    2. คำนวณราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักและต้นทุนแปรผัน
    3. คำนวณหากำไรส่วนเกินเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก
    4. คำนวณหน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนแบบรวม
    5. จัดสรรหน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนโดยแยกตามสินค้า
  7. คุณคำนวณจุดคุ้มทุนแบบรายเดือนและรายปีได้อย่างไร
    1. จุดคุ้มทุนแบบรายเดือน
    2. จุดคุ้มทุนแบบรายปี
  8. คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนใน Excel ได้อย่างไร
    1. ตั้งค่าการคำนวณ
    2. ใช้ ’ค้นหาค่าเป้าหมาย’ (Goal Seek) เพื่อช่วยหาจุดคุ้มทุน

บางครั้ง เมตริกที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณไม่ใช่ผลกำไรหรือการเติบโต แต่เป็นเกณฑ์พื้นฐานที่ต้องทำให้ถึงจึงจะไม่จมทุน เกณฑ์นี้ก็คือจุดคุ้มทุนของคุณ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ระบุถึงรายรับ (หรือจำนวนการขาย) ที่ต้องทำให้ได้จึงจะรองรับต้นทุนได้ครบทั้งหมด เงินทุกบาททุกสตางค์ก่อนถึงจุดคุ้มทุนคือเงินที่คุณเสียไปเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ส่วนเงินที่เกินมาจากจุดดังกล่าวจะช่วยให้คุณต่อยอดธุรกิจได้

เราจะอธิบายวิธีคำนวณจุดคุ้มทุน วิธีปรับให้เหมาะกับสินค้าและลำดับเวลาต่างๆ รวมถึงวิธีนำไปใช้ใน Excel หรือการตัดสินใจในแต่ละวันไว้ที่ด้านล่างนี้

เนื้อหาหลักในบทความ

  • จุดคุ้มทุนคืออะไร
  • การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนคืออะไร แล้วเหตุใดจึงสำคัญ
  • คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนได้อย่างไร
  • การคำนวณจุดคุ้มทุนมีสูตรอย่างไร
  • คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนสำหรับสินค้าหลายรายการได้อย่างไร
  • คุณคำนวณจุดคุ้มทุนแบบรายเดือนและรายปีได้อย่างไร
  • คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนใน Excel ได้อย่างไร

จุดคุ้มทุนคืออะไร

จุดคุ้มทุนคือจุดที่ธุรกิจของคุณไม่ขาดทุนอีกและรองรับต้นทุนของธุรกิจได้ครบทั้งหมด จุดคุ้มทุนคือจำนวนรายรับที่คุณต้องการจึงจะรองรับค่าใช้จ่ายได้ครบทั้งหมด คุณจะทำกำไรไม่ได้เลยหากไม่ผ่านจุดคุ้มทุนให้ได้เสียก่อน และเมื่อทราบจุดคุ้มทุน คุณก็จะสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจได้

ตัวอย่างเช่น หากคุณมียอดใช้จ่ายรายเดือนรวม 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อขายสินค้าแต่ละหน่วยจะได้ส่วนต่างกำไร 50 ดอลลาร์สหรัฐ คุณจะต้องขายสินค้าให้ได้ 200 หน่วยต่อเดือนจึงจะคุ้มทุน หากคุณขายได้ไม่ถึง 200 หน่วย คุณก็จะขาดทุน

ตัวเลขนี้ใช้ในการวางแผน การตั้งราคา การคาดการณ์ และการสนทนากับนักลงทุน หากคุณเข้าใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว แสดงว่าธุรกิจของคุณเริ่มมีรากฐานที่มั่นคง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น แสดงว่าคุณอาจต้องเปลี่ยนแปลงบางอย่างในโมเดลธุรกิจ

การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนคืออะไร แล้วเหตุใดจึงสำคัญ

การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนจะช่วยให้คุณทราบถึงระดับผลการดำเนินงานขั้นต่ำที่ธุรกิจของคุณต้องทำให้ได้จึงจะไม่ขาดทุน ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณคำนวณหาจุดที่รายรับพอดีกับต้นทุนรวมของคุณได้อย่างแน่ชัด การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนจะช่วยให้คุณประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจได้ดังนี้

การทดสอบการตั้งราคาของคุณภายใต้แรงกดดัน

การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนจะช่วยให้เข้าใจว่าการตั้งราคาของคุณต้องตอบโจทย์เป้าหมายอะไรบ้าง

สมมติว่าคุณกำลังจะลดราคาสินค้าเพื่อให้เกิดการชำระเงินมากขึ้น ถึงวิธีนี้อาจจะได้ผล แต่เมื่อสินค้ามีราคาน้อยลง คุณจะต้องขายให้ได้เท่าใดจึงจะถึงจุดคุ้มทุน หากคำตอบที่ได้ดูแล้วไม่น่าจะทำได้ การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนก็จะช่วยให้คุณทราบถึงข้อมูลนี้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาทางการเงินในภายหลัง

การวิเคราะห์นี้ยังช่วยให้คุณทราบด้วยว่า การตั้งราคาของคุณรองรับโมเดลธุรกิจหรือไม่ หากคุณขายสินค้าหรือบริการมูลค่า 25 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องการรายรับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วยจึงจะคุ้มทุน แสดงว่าผลการดำเนินงานของคุณไม่ได้แย่ แต่คุณตั้งราคาสินค้าหรือบริการไม่เหมาะสมต่างหาก

การช่วยให้เห็นต้นทุนของคุณอย่างตรงไปตรงมา

หากต้องการคำนวณจุดคุ้มทุนอย่างถูกต้อง คุณต้องระบุต้นทุนให้ครบถ้วนทั้งหมด ได้แก่ ต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน ต้นทุนที่ต้องจ่ายซ้ำๆ และต้นทุนที่จ่ายครั้งเดียว ขั้นตอนนี้จะส่งผลให้เกิดความรับผิดชอบทางการเงินโดยระบุค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจถูกมองข้ามไปในส่วนต่างกำไรหากใช้วิธีอื่น

หากการคำนวณจุดคุ้มทุนได้ตัวเลขที่ดูผิดปกติ มักเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างขาดหายไปหรือได้รับการจัดหมวดหมู่ไม่ถูกต้อง

การตั้งเป้าหมายยอดขายที่สมเหตุสมผล

เมื่อทราบจุดคุ้มทุนแล้ว คุณก็จะทราบว่าธุรกิจของคุณต้องขายให้ได้เป็นจำนวนเท่าใด (รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี) ธุรกิจจึงจะยังพอไปต่อได้

คุณไม่จำเป็นต้องทำยอดให้ถึงจุดคุ้มทุนในทุกๆ เดือน แต่จุดคุ้มทุนจะเป็นเกณฑ์พื้นฐานของคุณ หากคุณดำเนินงานไม่ถึงจุดคุ้มทุนอยู่เรื่อยๆ แสดงว่าคุณกำลังจมทุนอยู่ แต่หากคุณทำยอดเกินจุดดังกล่าวได้แบบสบายๆ แสดงว่าคุณกำลังทำกำไรและมีส่วนเผื่อเอาไว้รองรับเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น

การทำโมเดลความเสี่ยงและความยืดหยุ่น

การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนจะช่วยวางเฟรมเวิร์กในการทดสอบภายใต้ความกดดัน และช่วยให้คุณตั้งคำถามต่างๆ ได้ เช่น

  • จุดคุ้มทุนจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างหากต้นทุนวัสดุเพิ่มขึ้น 15%
  • ถ้าเราเปิดสาขาที่ 2 และมีต้นทุนคงที่เพิ่มเป็น 2 เท่า เราจะต้องขายให้ได้อีกเท่าไหร่
  • ถ้าเราเปลี่ยนไปใช้โมเดลการชำระเงินตามรอบบิล เราต้องมีลูกค้าที่จ่ายเงินเดือนละกี่คนจึงจะมีกระแสเงินสดไม่ลดลงไปจากเดิม

เมื่อใช้โมเดลการทำงาน คุณสามารถนำตัวแปรตามจริงมาใช้ และดูได้ว่าธุรกิจของคุณจะรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดีเพียงใด

การทำความเข้าใจส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยของคุณ

การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนจะช่วยให้คุณทราบส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (ยอดขายที่เกินมาจากจุดคุ้มทุน) ยิ่งเกินมามากใหญ่เท่าไหร่ ธุรกิจของคุณก็จะรับมือกับความผันผวนได้ดีมากขึ้นเท่านั้น แต่ยิ่งเกินมาน้อยเท่าไหร่ ธุรกิจของคุณก็จะยิ่งเสี่ยงเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

การตัดสินใจอย่างเป็นกลางมากขึ้น

การตัดสินใจที่สำคัญ เช่น การจ้างงาน การเปลี่ยนแปลงราคา สายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการขยายธุรกิจ ย่อมส่งผลต่อโครงสร้างต้นทุนและศักยภาพในการสร้างรายรับของคุณ การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนจะช่วยให้คุณประเมินทางเลือกดังกล่าวได้

หากโครงการใหม่ทำให้คุณมีต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้น คุณสามารถคำนวณรายรับที่ต้องหาเพิ่มเพื่อรองรับการขยายธุรกิจนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว หากคุณจะเปิดตัวสินค้าที่มีส่วนต่างกำไรต่ำ คุณก็จะคาดการณ์ปริมาณที่ต้องขายให้ได้จึงจะคุ้มทุนสำหรับสินค้านั้นๆ ได้

การทำตามความคาดหวังทางการเงิน

หากคุณกำลังระดมทุนหรือยื่นขอจัดหาเงินทุน คุณจะได้รับคำถามเกี่ยวกับจุดคุ้มทุนแทบจะทุกครั้ง คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจสถานภาพทางเศรษฐกิจของธุรกิจและมีแผนที่น่าเชื่อถือที่จะยับยั้งการจมทุนและเริ่มสร้างผลตอบแทน การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนที่มีโครงสร้างอย่างดีจะช่วยให้คุณตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมั่นใจ

คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนได้อย่างไร

หากต้องการคำนวณหาจุดคุ้มทุน ให้เริ่มต้นด้วยตัวเลข 3 อย่างดังนี้

  • ต้นทุนคงที่ของคุณ
  • ต้นทุนแปรผันต่อหน่วยของคุณ
  • ราคาขายต่อหน่วยของคุณ

หลังจากมีตัวเลขเหล่านี้แล้ว ให้ทำตามคำแนะนำด้านล่าง

เพิ่มต้นทุนคงที่

ต้นทุนเหล่านี้คือค่าใช้จ่ายของคุณไม่ว่าคุณจะขายได้มาก (หรือน้อย) แค่ไหน ซึ่งรวมถึงค่าเช่า เงินเดือน การชำระเงินตามรอบบิลเป็นค่าซอฟต์แวร์ ประกันภัย และค่าเช่าอุปกรณ์ ต้นทุนเหล่านี้จะคงที่เท่าเดิมในทุกๆ เดือน

กำหนดต้นทุนแปรผันต่อหน่วย

ต้นทุนเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการขายในแต่ละครั้ง ได้แก่ ค่าวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ การจัดส่ง กำลังคนในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ และค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงิน หากคุณมีค่าใช้จ่าย 5 ดอลลาร์สหรัฐในการผลิต บรรจุ และจัดส่งสินค้าแต่ละหน่วย คุณก็จะมีต้นทุนแปรผันต่อหน่วยอยู่ที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐ

รวมค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินไว้ในต้นทุนแปรผัน Stripe จะแสดงค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรมในแดชบอร์ดของคุณ เพื่อให้นำค่าธรรมเนียมเหล่านี้ไปคำนวณรวมในต้นทุนแปรผันได้ง่าย

ทราบราคาขายของคุณ

ราคาขายคือจำนวนเงินที่คุณเรียกเก็บเป็นค่าสินค้าหรือบริการ 1 หน่วย

อย่าลืมว่าตัวเลขทั้งหมดนี้จะต้องอิงตามช่วงเวลาเดียวกัน หากคุณใช้ต้นทุนคงที่ต่อเดือน จุดคุ้มทุนที่คุณคำนวณได้ก็จะเป็นตัวเลขรายเดือน หากคุณใช้ต้นทุนคงที่ต่อปี จุดคุ้มทุนก็จะเป็นแบบรายปี หากกำไรส่วนเกินของคุณดูมากหรือน้อยแปลกๆ ให้ตรวจสอบตัวเลขดังกล่าวอีกครั้ง ปัญหามักเกิดจากต้นทุนที่ขาดหายไปหรือการตั้งราคาสมมติที่ไม่ถูกต้อง

การคำนวณจุดคุ้มทุนมีสูตรอย่างไร

เมื่อคุณระบุต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน และราคาขายแล้ว คุณสามารถคำนวณจุดคุ้มทุนได้ 2 วิธี ได้แก่ การคำนวณเป็นจำนวนหน่วยที่ต้องขายให้ได้ และเป็นจำนวนรายรับที่ต้องทำให้ถึง วิธีคำนวณในแต่ละวิธีมีดังนี้

จุดคุ้มทุนในรูปแบบหน่วยที่ต้องขายให้ได้

เมตริกนี้จะระบุจำนวนหน่วยที่คุณต้องขายให้ได้เพื่อรองรับต้นทุนคงที่และต้นทุนแปรผันให้ครบทั้งหมด

สูตรมีดังนี้

จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่ / (ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนแปรผันต่อหน่วย)

นอกจากนี้ยังเขียนเป็นดังนี้ได้ด้วย

จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่ / กำไรส่วนเกิน

กำไรส่วนเกินของคุณคือราคาขายต่อหน่วยลบด้วยต้นทุนแปรผันต่อหน่วย

ตัวอย่าง:

  • ต้นทุนคงที่: 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ราคาต่อหน่วย: 50 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ต้นทุนแปรผันต่อหน่วย: 5 ดอลลาร์สหรัฐ
  • กำไรส่วนเกิน: 45 ดอลลาร์สหรัฐ

จุดคุ้มทุน (หน่วย) = 15,000 / 45 ดอลลาร์สหรัฐ = 333.33 หน่วย

คุณจะรองรับต้นทุนคงที่จำนวน 15,000 ดอลลาร์สหรัฐได้เมื่อขายได้ 334 หน่วย (ปัดเศษขึ้น) ต่อเดือน ผลกำไรจะเป็น 0 (ไม่ว่าจะปัดเศษขึ้นหรือลง) หากขายได้ 335 หน่วย ก็จะได้กำไรเพิ่มมา 45 ดอลลาร์สหรัฐ

จุดคุ้มทุนในรูปแบบรายรับที่ต้องทำให้ถึง

หากต้องการคำนวณหาจุดคุ้มทุนโดยมีสกุลเงินเป็นดอลลาร์แทนที่จะเป็นหน่วย ให้ใช้สูตรคำนวณจุดคุ้มทุนสำหรับรายรับ

สูตรมีดังนี้

จุดคุ้มทุน (รายรับ) = ต้นทุนคงที่ / อัตราส่วนกำไรส่วนเกิน

หากต้องการคำนวณหาอัตราส่วนกำไรส่วนเกิน ให้นำกำไรส่วนเกินมาหารด้วยราคาขายต่อหน่วย

  • ในตัวอย่างข้างต้น: 45 / 50 ดอลลาร์สหรัฐ = 0.9 (หรือ 90%)
  • จุดคุ้มทุน (รายรับ) = 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ / 0.9 = 16,666.67 ดอลลาร์สหรัฐ

จำนวนนี้คือรายรับจากการขายขั้นต่ำที่คุณต้องทำให้ถึงในช่วงเวลานั้นๆ จึงจะถึงจุดคุ้มทุน

สูตรทั้งสองนี้ใช้ตรรกะเดียวกัน สูตรแรกจะแสดงเป้าหมายปริมาณการขาย ส่วนอีกสูตรหนึ่งจะให้ตัวเลขเป็นดอลลาร์ ใช้สูตรใดก็ได้ที่ช่วยให้คุณวางแผนได้ชัดเจนขึ้น และคอยตรวจสอบเมื่อต้นทุนมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการปรับราคา

คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนสำหรับสินค้าหลายรายการได้อย่างไร

เมื่อคุณขายสินค้าหรือบริการมากกว่า 1 รายการ การคำนวณจุดคุ้มทุนก็จะไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือนกับการคำนวณสำหรับสินค้ารายการเดียว โดยแต่ละรายการก็น่าจะมีราคา ต้นทุน และส่วนต่างกำไรแตกต่างกันไป คุณจึงไม่สามารถใช้ตัวเลขเพียงตัวเดียวในสูตรได้

แต่คุณจะต้องคำนึงถึงส่วนผสมสินค้าโดยใช้ค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก เรามาดูกันว่าต้องทำอย่างไร

กำหนดส่วนผสมยอดขาย

เริ่มด้วยการระบุเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมต่อหน่วยของสินค้าแต่ละรายการ เช่น

  • สินค้า A = 50%
  • สินค้า B = 30%
  • สินค้า C = 20%

เปอร์เซ็นต์เหล่านี้ควรสัมพันธ์กับค่าเฉลี่ยที่คาดการณ์ไว้หรือที่ผ่านมาในอดีต

คำนวณราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักและต้นทุนแปรผัน

คำนวณราคาแบบผสมและต้นทุนแปรผันต่อหน่วยแบบผสมโดยใช้ส่วนผสมยอดขายของคุณ

ตัวอย่างเช่น

  • สินค้า A: ราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐ, ต้นทุนแปรผัน 60 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สินค้า B: ราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐ, ต้นทุนแปรผัน 30 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สินค้า C: ราคา 30 ดอลลาร์สหรัฐ, ต้นทุนแปรผัน 15 ดอลลาร์สหรัฐ

ในสถานการณ์จำลองนี้ ราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักจะเป็นดังนี้

(0.5 × 100 ดอลลาร์สหรัฐ) + (0.3 × 50 ดอลลาร์สหรัฐ) + (0.2 × 30 ดอลลาร์สหรัฐ) = 50 + 15 + 6 ดอลลาร์สหรัฐ = 71 ดอลลาร์สหรัฐ

ต้นทุนแปรผันเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักจะเป็นดังนี้

(0.5 × 60 ดอลลาร์สหรัฐ) + (0.3 × 30 ดอลลาร์สหรัฐ) + (0.2 × 15 ดอลลาร์สหรัฐ) = 30 + 9 + 3 ดอลลาร์สหรัฐ = 42 ดอลลาร์สหรัฐ

คำนวณหากำไรส่วนเกินเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก

สูตร: กำไรส่วนเกินเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก = ราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก – ต้นทุนแปรผันเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก

เมื่อใช้ตัวอย่างก่อนหน้านี้ การคำนวณจะเป็นดังนี้

71 – 42 ดอลลาร์สหรัฐ = 29 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย

คำนวณหน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนแบบรวม

สูตร: จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่ / กำไรส่วนเกินเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก

หากต้นทุนคงที่ของคุณอยู่ที่ 58,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะคำนวณได้ว่า

58,000 ดอลลาร์สหรัฐ / 29 ดอลลาร์สหรัฐ = 2,000 หน่วย

จัดสรรหน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนโดยแยกตามสินค้า

นำหน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนแบบรวมไปคูณด้วยส่วนผสมยอดขายของสินค้าแต่ละรายการ เพื่อดูว่าคุณต้องขายสินค้าแต่ละรายการให้ได้เท่าใด

  • สินค้า A: 2,000 × 50% = 1,000 หน่วย
  • สินค้า B: 2,000 × 30% = 600 หน่วย
  • สินค้า C: 2,000 × 20% = 400 หน่วย

เป้าหมายในการคุ้มทุนคือการขายสินค้าต่างๆ ให้ได้สมดุล หากคุณขายสินค้าที่มีส่วนต่างกำไรสูงขึ้นได้มากขึ้น คุณก็จะถึงจุดคุ้มทุนได้เร็วขึ้น แต่หากยอดขายส่วนใหญ่ของคุณมาจากสินค้าที่มีส่วนต่างกำไรน้อย คุณก็จะต้องขายสินค้าโดยรวมให้ได้มากขึ้นจึงจะถึงจุดคุ้มทุน

คุณคำนวณจุดคุ้มทุนแบบรายเดือนและรายปีได้อย่างไร

สูตรคำนวณจุดคุ้มทุนจะไม่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา แต่คุณเปลี่ยนตัวเลขที่ใช้ในสูตรได้ การเลือกคำนวณหาจุดคุ้มทุนแบบรายเดือนหรือรายปีนั้นขึ้นอยู่กับแผนของคุณและข้อมูลที่คุณต้องการดู วิธีคำนวณหาจุดคุ้มทุนแต่ละแบบมีดังนี้

จุดคุ้มทุนแบบรายเดือน

จุดคุ้มทุนแบบรายเดือนจะช่วยให้คุณทำได้ดังนี้

  • ติดตามผลการดำเนินงานแบบเรียลไทม์
  • ระบุเดือนที่มีผลกำไร
  • ตั้งงบประมาณรายเดือน

ให้คำนวณโดยใช้ต้นทุนคงที่ต่อเดือนและตัวเลขยอดขาย เพื่อให้เห็นภาพระยะสั้นเกี่ยวกับยอดขายที่ต้องทำให้ได้เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ในแต่ละเดือน

ตัวอย่างเช่น

  • ต้นทุนคงที่ต่อเดือน = 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • กำไรส่วนเกินต่อหน่วย = 40 ดอลลาร์สหรัฐ
  • หน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนต่อเดือน = 12,000 / 40 ดอลลาร์สหรัฐ = 300 หน่วย

จุดคุ้มทุนแบบรายปี

จุดคุ้มทุนแบบรายปีจะช่วยคุณในเรื่องต่อไปนี้

  • การวางแผนหรือการระดมทุน
  • การเห็นภาพรวมเกี่ยวกับสถานภาพของธุรกิจตลอดทั้งปี
  • การเฉลี่ยความผันผวนระหว่างเดือนต่างๆ ในธุรกิจที่อิงตามฤดูกาล

ใช้ตัวเลขแบบรายปีเพื่อให้เห็นภาพระยะยาวพร้อมต้นทุนคงที่ทั้งหมดของปีนั้นๆ

ตัวอย่างเช่น

  • ต้นทุนคงที่ต่อปี = 144,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • กำไรส่วนเกินต่อหน่วย = 40 ดอลลาร์สหรัฐ
  • หน่วยที่ต้องขายจึงจะคุ้มทุนต่อปี = 144,000 / 40 ดอลลาร์สหรัฐ = 3,600

ธุรกิจอาจถึงจุดคุ้มทุนได้ใน 1 ปี แต่ยังคงจมทุนในบางเดือนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของธุรกิจที่อิงตามฤดูกาล การทราบจุดคุ้มทุนแบบรายเดือนจะช่วยให้คุณวางแผนสำหรับช่วงเดือนที่มียอดขายน้อยได้ และช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะมีแผนรองรับหรือกระแสเงินสดเพียงพอที่จะรับมือกับช่วงเหล่านั้น แต่ในทางกลับกัน ธุรกิจบางแห่งจะใช้จุดคุ้มทุนแบบรายปีเพื่อหาจำนวนที่ต้องขายให้ได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายตลอดทั้งปี

หากใช้ Stripe ในการชำระเงิน คุณจะดึงข้อมูลรายงานรายรับแบบรายเดือนหรือรายปีจากแดชบอร์ดได้ ช่วยให้คุณเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับเป้าหมายรายรับในการคุ้มทุนตามกรอบเวลาต่างๆ และปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นได้ง่ายขึ้น

คุณจะคำนวณจุดคุ้มทุนใน Excel ได้อย่างไร

Excel และ Google Sheets เหมาะสำหรับใช้สร้างโมเดลจุดคุ้มทุน คุณจะทำโมเดลเป็นแบบเรียบง่ายหรือเสริมความซับซ้อนเพิ่มเข้าไปก็ได้ เมื่อตั้งค่าโมเดลแล้ว คุณจะใช้โมเดลนี้เพื่อทดสอบสถานการณ์จำลองต่างๆ ได้ในไม่กี่วินาที วิธีคำนวณจุดคุ้มทุนในสเปรดชีตมี 2-3 วิธีดังนี้

ตั้งค่าการคำนวณ

สร้างแถวไว้สำหรับรายการต่อไปนี้

  • ราคาต่อหน่วย
  • ต้นทุนแปรผันต่อหน่วย
  • ต้นทุนคงที่

ป้อนตัวเลข จากนั้นให้เขียนสูตรการคำนวณลงในเซลล์ใหม่โดยใช้ตำแหน่งเซลล์แทนตัวแปรต่างๆ ที่ต้องการ เช่น หากราคาต่อหน่วยอยู่ในเซลล์ B1 และต้นทุนแปรผันต่อหน่วยอยู่ในเซลล์ B2 สูตรการคำนวณจะเป็นดังนี้

  • กำไรส่วนเกิน = ราคาต่อหน่วย - ต้นทุนแปรผันต่อหน่วย
  • กำไรส่วนเกิน = B1 - B2

หากต้นทุนคงที่อยู่ในเซลล์ B4 และคุณคำนวณกำไรส่วนเกินไว้ในเซลล์ B3 คุณจะต้องทำดังนี้เพื่อคำนวณจุดคุ้มทุนเป็นจำนวนหน่วยที่ต้องขาย

  • จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่ / กำไรส่วนเกิน
  • จุดคุ้มทุน (หน่วย) = B4 / B3

เมื่อคุณคำนวณใน Excel หรือ Google Sheets ได้สะดวก คุณก็จะคำนวณรายการเหล่านี้ในสเปรดชีตที่คำนวณต้นทุนคงที่และตัวแปรอื่นๆ อยู่แล้วได้เลย แต่สูตรนี้เป็นสูตรพื้นฐานที่คุณต้องเริ่มต้นใช้งาน

ใช้ "ค้นหาค่าเป้าหมาย" (Goal Seek) เพื่อช่วยหาจุดคุ้มทุน

หากคุณมีสเปรดชีตที่มีการคำนวณต้นทุนและรายรับในปัจจุบันอยู่แล้ว คุณก็สามารถใช้เครื่องมือ "ค้นหาค่าเป้าหมาย" (Goal Seek) ของ Excel เพื่อคำนวณหาจุดคุ้มทุนของคุณได้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

  • ไปที่แท็บ "ข้อมูล" (Data)
  • คลิกที่ "การวิเคราะห์แบบ What-If" (What-If Analysis)
  • คลิก "ค้นหาค่าเป้าหมาย" (Goal Seek)
  • ตั้งค่าช่อง "ตั้งค่าในเซลล์" (Set cell) เป็นเซลล์ที่มีการคำนวณกำไร/ขาดทุน
  • กำหนดค่าที่ต้องการสำหรับเซลล์กำไร/ขาดทุนเป็น 0
  • ป้อนเซลล์ที่มีหน่วยที่ขายลงในช่อง "โดยการเปลี่ยนเซลล์" (By changing cell)
  • คลิก "ตกลง" (OK)

Excel จะคำนวณจำนวนหน่วยสินค้าที่ต้องขายให้ได้จึงจะคุ้มทุนให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะใช้ได้ดีเมื่อข้อมูลที่ป้อนกับผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงเส้นกันอย่างสมบูรณ์ หรือเมื่อคุณกำลังสร้างโมเดลที่ซับซ้อนขึ้น

สเปรดชีตจะใช้ได้ผลดีสำหรับจุดคุ้มทุนเนื่องจากคุณสามารถอัปเดตข้อมูลที่ป้อนได้ตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ สร้างโมเดลผลิตภัณฑ์ กรอบระยะเวลา หรือกลยุทธ์การกำหนดราคามากมายได้ง่ายๆ และใช้การทำแผนภูมิที่มีอยู่ใน Excel เพื่อแสดงให้เห็นเกณฑ์การคุ้มทุนตามระยะเวลาได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Sigma

Sigma

Stripe Sigma ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูล Stripe ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว และเปิดโอกาสให้ทีมงานได้รับข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

Stripe Docs เกี่ยวกับ Sigma

สืบค้นข้อมูลในบัญชีขององค์กร