การรับชำระเงินในตะวันออกกลางสามารถเปิดประตูธุรกิจของคุณสู่ตลาดที่กำลังเติบโต ตลาดอีคอมเมิร์ซของตะวันออกกลางคาดว่าจะไปแตะ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ซึ่งเป็น 2 เท่าของมูลค่าในปี 2020 โดยธุรกิจที่เข้าสู่พื้นที่การชำระเงินของภูมิภาคควรเตรียมพร้อมที่จะเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายและปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าให้เหมาะกับประชากรท้องถิ่น

ด้านล่างนี้ เราจะไปสำรวจกลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่ต้องการรับชำระเงินในตะวันออกกลาง ซึ่งประกอบด้วย

• วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
  
• การปรับประสบการณ์ของลูกค้าให้เข้ากับท้องถิ่น
  
• การเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงิน
  

สถานะของตลาด

ตลาดการชำระเงินของตะวันออกกลางกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้า แม้ว่าจะยังคงมีการใช้เงินสดอยู่ทั่วทั้งภูมิภาค ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้รับการพัฒนาและประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารได้ แต่การริเริ่มของรัฐบาลและกฎระเบียบล่าสุดได้สนับสนุนการชำระเงินดิจิทัล

สมาชิกของคณะมนตรีความร่วมมือแห่งรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย โอมาน กาตาร์ และคูเวตได้จัดทำความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจร่วมกันและประสานกรอบการทำงานเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งแนวทางการรักษาความปลอดภัยการชำระเงินของตะวันออกกลางเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกเพื่อลดความเสี่ยงของการชำระเงินที่เป็นการฉ้อโกง เนื่องจากการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการกำกับดูแลยังคงมีความสำคัญต่อการเติบโตในตลาดการชำระเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

วิธีการชำระเงิน

ลูกค้าในตะวันออกกลางใช้วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบดั้งเดิมไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ต่อไปนี้คือวิธีการชำระเงินที่พบบ่อยที่สุดสำหรับทั้งที่หน้าร้านและธุรกรรมออนไลน์

การใช้งานในปัจจุบัน

เงินสดมักใช้สำหรับการชำระเงินที่ระบบบันทึกการขาย (POS) ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2025 ซึ่งคิดเป็น 22% ของธุรกรรมแบบ B2C ในซาอุดีอาระเบีย และคิดเป็น 23% ของธุรกรรมแบบ B2C ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

บัตรเครดิตและกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับธุรกรรมอีคอมเมิร์ซอยู่บ่อยครั้ง และคิดเป็นมูลค่าส่วนใหญ่ของมูลค่าธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั้งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบียในปี 2022\ ซึ่งมีการนำกระเป๋าเงินดิจิทัลมาใช้เพิ่มมากขึ้น โดยตลาดกระเป๋าเงินดิจิทัลในตะวันออกกลางและแอฟริกาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 20.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เป็นประมาณ 103.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2032\ กระเป๋าเงินที่ให้บริการทั่วโลก เช่น Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่นเดียวกับผู้เล่นในประเทศ เช่น Etisalat Wallet

ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) เองก็ได้รับความนิยมในตะวันออกกลาง ตัวอย่างเช่น ในอิสราเอล การชำระเงินแบบซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลังคาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 36% ต่อปีเป็นถึงเกือบ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 โดยผู้ให้บริการซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลังระดับภูมิภาค ได้แก่ Sunbit, Tamara และ Taly

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ยอดนิยมในตะวันออกกลาง

• บัตรเครดิต
  
• กระเป๋าเงินดิจิทัล
  
• ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
  

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ยอดนิยมในตะวันออกกลาง

• บัตรเครดิต
  
• การโอนเงินผ่านธนาคาร
  
• การโอนเงินระหว่างธนาคาร
  
• การหักบัญชีอัตโนมัติ
  

แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

New Payments Index 2022 ของ Mastercard พบว่า 85% ของชาวตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือใช้วิธีการการชำระเงินที่เกิดขึ้นใหม่อย่างน้อย 1 วิธีในปีที่ผ่านมา ได้แก่ กระเป๋าเงินดิจิทัล, ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง, ไบโอเมตริก และอุปกรณ์เทคโนโลยีสวมใส่ที่ใช้ชำระเงินได้ สำหรับชาวตะวันออกกลางที่แสวงหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจไม่เสถียรหรือมีข้อจำกัด จึงทำให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นทางออก ใน 2023 Crypto Wealth Report ระบุว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลกที่นำคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้ แม้ว่าความสัมพันธ์ของประชากรทั่วไปกับสกุลเงินดิจิทัลจะยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

การรับชำระเงินในตะวันออกกลางมาพร้อมกับข้อควรพิจารณาที่ไม่เหมือนใครในแง่ของภาษี การดึงเงินคืน การชำระเงินข้ามพรมแดน และมาตรการรักษาความปลอดภัยการชำระเงิน ซึ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่ธุรกิจควรรู้

ภาษี

ประเทศสมาชิก GCC กำหนดภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% สำหรับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ ประเทศอื่นๆ มีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของตนเอง ตัวอย่างเช่น อิสราเอลกำหนดภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 18% ลูกค้าจ่ายภาษีนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อสินค้า และธุรกิจมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดเก็บและนำส่งให้กับรัฐบาล

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

กฎระเบียบการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดให้ลูกค้าในตะวันออกกลางมีสิทธิ์โต้แย้งการเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของตน โดยทั่วไปแล้วเครือข่ายบัตร ธนาคาร และสถาบันการเงินจะเป็นผู้นำในการดำเนินการดึงเงินคืน ธุรกิจจะได้รับแจ้งเมื่อลูกค้าโต้แย้งธุรกรรม และโดยปกติแล้วจำนวนเงินดังกล่าวจะถูกระงับไว้ชั่วคราวในระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากแนวทางนั้นมีแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้า ธุรกิจจึงต้องตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายของธุรกรรม

การชำระเงินระหว่างประเทศ

การชำระเงินข้ามพรมแดนก็มีโอกาสที่จะเกิดอุปสรรคขึ้นได้เช่นกัน ให้พิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ หากธุรกิจของคุณมีแผนที่จะรับการชำระเงินระหว่างประเทศ

• การแปลงสกุลเงิน
  เนื่องจากแต่ละประเทศในตะวันออกกลางใช้สกุลเงินของตนเอง และหากคุณรับการชำระเงินข้ามพรมแดนก็จำเป็นต้องมีการแปลงสกุลเงิน สำหรับลูกค้าธุรกิจ สถาบันการเงินมักจะเพิ่มการเพิ่มราคาไปยังอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นอัตราพื้นฐานสำหรับการแปลงสกุลเงินที่ธนาคารให้กู้ยืมซึ่งกันและกัน ส่วนผู้ให้บริการชำระเงินที่เป็นบุคคลที่สาม เช่น Stripe สามารถจัดการการแปลงสกุลเงินโดยอัตโนมัติ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสำหรับธุรกิจง่ายขึ้น

• ฟังก์ชันหลายสกุลเงิน
  ธุรกิจจำนวนมากที่รองรับลูกค้าต่างประเทศใช้งานฟังก์ชันหลายสกุลเงินผ่านผู้ให้บริการชำระเงิน เนื่องจากการแสดงราคาในสกุลเงินท้องถิ่นของลูกค้าช่วยสร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจลูกค้าได้ แม้ว่าบางครั้งการผสานการทำงานโซลูชันเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ศักยภาพในการเข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างกว่ามักจะมีค่าสูงกว่าการลงทุนเริ่มแรก

• การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย
  กฎระเบียบการชำระเงินระหว่างประเทศจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจได้ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นของแต่ละประเทศที่คุณรับชำระเงิน

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ประเทศในตะวันออกกลางกำหนดกฎการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และกำกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อปกป้องภาคการชำระเงินในประเทศ ต่อไปนี้คือรายละเอียดของกฎหมายและแนวทางด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ต้องนำไปพิจารณา

• กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
  หลายๆ ประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงบาห์เรนและกาตาร์ มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่คล้ายคลึงกับกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ของสหภาพยุโรป กฎหมายเหล่านี้กำหนดให้ธุรกิจที่เก็บหรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อจัดเก็บและส่งข้อมูลอย่างปลอดภัย

• ข้อกำหนดในการตรวจสอบสิทธิ์
  กฎหมาย เช่น รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียวและการยืนยันข้อมูลไบโอเมตริกกำลังกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งให้กับการชำระเงิน

• กฎระเบียบเกี่ยวกับเงินอิเล็กทรอนิกส์
  ธนาคารกลางในภูมิภาคได้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับเงินอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อกำหนดมาตรฐานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และปกป้องข้อมูลของลูกค้า ตัวอย่างเช่น กฎระเบียบด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บมูลค่าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำหนดให้ต้องจัดเก็บและรักษาข้อมูลไว้ในประเทศ

• กฎระเบียบ AML
  กฎหมาย AML ที่เข้มงวดกำหนดให้หน่วยงานทางการเงินต้องมีการตรวจสอบธุรกรรมเป็นประจำ ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC) และกระบวนการรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยที่ค้นพบ

• มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS)
  ธุรกิจที่รับบัตรเครดิตต้องปฏิบัติตาม PCI DSS ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่สรุปแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดเก็บ ประมวลผล และส่งข้อมูลเจ้าของบัตร

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

การขยายการดำเนินธุรกิจของคุณไปยังตะวันออกกลางสามารถสร้างโอกาสในการเติบโตมากมาย แต่จะต้องมีความเข้าใจในความต้องการในท้องถิ่นและความท้าทายที่ตลาดการชำระเงินต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง ต่อไปนี้คือรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การรับชำระเงินในตะวันออกกลาง

• วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
  เงินสด, บัตรเครดิต, ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง และกระเป๋าเงินดิจิทัลล้วนมีการใช้งานทั่วไปเพื่อชำระเงินในตะวันออกกลาง ดังนั้นการรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลายจะช่วยให้ธุรกิจรองรับฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นได้ สำหรับการชำระเงินที่จุดขาย ให้เสนอตัวเลือกการชำระเงินดิจิทัลและไม่ใช่ดิจิทัลรวมกัน และสำหรับการชำระเงินออนไลน์ ให้เสนอตัวเลือกการชำระเงินดิจิทัลที่หลากหลาย

• โครงสร้างพื้นฐานอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ได้รับการปรับปรุง
  ตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับตะวันออกกลางและแอฟริกามีมูลค่า 810.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตเป็นมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030\ การอัปเดตหน้าการชำระเงินของธุรกิจให้ทำงานได้ดีบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และการรับชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากความเฟื่องฟูของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้

• ประสบการณ์การชำระเงินที่ปรับแต่งเอง
  มีการใช้ภาษาและสกุลเงินที่แตกต่างหลากหลายทั่วทั้งตะวันออกกลาง การมีอินเทอร์เฟซที่รองรับหลายภาษา การสนับสนุนลูกค้าอย่างทันท่วงที และตัวเลือกสกุลเงินที่ยืดหยุ่น จะช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าในท้องถิ่นและสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

• ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
  การสำรวจในปี 2023 พบว่า 42% ของบริษัทในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รายงานว่ามีการฉ้อโกงเพิ่มมากขึ้น ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนและทุกๆ 1 ดีแรห์มสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (AED) ที่ต้องเสียไปให้กับการฉ้อโกง ทำให้องค์กรต้องมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 4.19 AED โดยธุรกิจที่ดำเนินกิจการทั่วทั้งภูมิภาคสามารถลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงและหลีกเลี่ยงความสูญเสียทางการเงินได้ด้วยการลงทุนในระบบตรวจจับการฉ้อโกงขั้นสูง เลือกเกตเวย์การชำระเงินที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลก เช่น การปฏิบัติตาม PCI DSS

ประเด็นสำคัญ

แม้ว่าทุกประเทศในตะวันออกกลางจะแตกต่างกัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันในภาคการชำระเงินที่จะเป็นแนวทางให้กับธุรกิจที่กำลังพิจารณารับชำระเงินในภูมิภาคนี้ นี่คือสรุปพร้อมกับเคล็ดลับสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ

วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย

• ผสมผสานตัวเลือกทั้งในและระหว่างประเทศ
  วิธีการชำระเงินทั้งในและระหว่างประเทศจากกระเป๋าเงินดิจิทัลไปยังซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง ได้รับความนิยมในตะวันออกกลาง ให้สื่อสารกับลูกค้าอย่างชัดเจนว่าวิธีการชำระเงินในประเทศและระหว่างประเทศใดบ้างที่ธุรกิจของคุณยอมรับ

• ปรับแต่งสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
  ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าการชำระเงินของคุณทำงานบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อย่างราบรื่น และเลือกเกตเวย์การชำระเงินที่รองรับวิธีการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้หลายวิธี

• เปิดใจรับกระเป๋าเงินดิจิทัล
  กระเป๋าเงินที่ให้บริการในท้องถิ่น เช่น Etisalat Wallet และกระเป๋าเงินที่ให้บริการทั่วโลก เช่น Google Pay มีการใช้งานทั่วทั้งภูมิภาค รับกระเป๋าเงินสำหรับการทำธุรกรรมทั้งที่หน้าร้านและแบบออนไลน์เพื่อขั้นตอนการชำระเงินที่สะดวกและรวดเร็ว

ปรับประสบการณ์ลูกค้าให้เข้ากับท้องถิ่น

• ทำให้อินเทอร์เฟซของคุณรองรับหลายภาษา
  ตะวันออกกลางมีประชากรจำนวนมากที่ไม่ได้พูดภาษาอาหรับ ลองใส่ภาษาต่างๆ เช่น ภาษาฮิบรูและภาษาฟาร์ซีเข้ามาในอินเทอร์เฟซและเครื่องมือสนับสนุนลูกค้า เพื่อให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณครอบคลุมมากขึ้นและง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า

• ให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างทันท่วงที
  ทำให้ลูกค้ารับคำตอบเกี่ยวกับการชำระเงินได้ง่าย เพราะการซื้ออาจมีเวลาจำกัด การช่วยเหลือให้ทันท่วงทีจึงถือเป็นตัวกำหนดว่าผลลัพธ์จะเป็นธุรกรรมที่ประสบความสำเร็จหรือรถเข็นที่ถูกละทิ้ง

• รับสกุลเงินท้องถิ่น
  ตั้งแต่ริยาลซาอุดีอาระเบียไปจนถึงเชเกลอิสราเอล ในภูมิภาคนี้มีการใช้สกุลเงินที่หลากหลาย การอนุญาตให้ลูกค้าชำระเงินในสกุลเงินท้องถิ่นของตนจะช่วยลดอุปสรรคในการชำระเงินได้

เพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงิน

• ปกป้องการชำระเงินออนไลน์
  ธุรกิจอีคอมเมิร์ซประสบปัญหาธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงหลากหลายประเภท ทำให้ต้องใช้เครื่องมือตรวจจับการฉ้อโกงด้วยแมชชีนเลิร์นนิงและการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 3D Secure เพื่อตรวจจับการฉ้อโกงการชำระเงินออนไลน์ตั้งแต่เนิ่นๆ และช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงินให้กับธุรกิจของคุณ

• ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านข้อมูลทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล
  กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในแต่ละประเทศจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานระดับชาติในการจัดการและการปกป้องข้อมูลที่ธุรกิจต้องปฏิบัติตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจข้อกำหนดเหล่านี้รวมถึงแนวทาง PCI DSS สากล

• เลือกระบบการรับชำระเงินที่ปลอดภัย
  เลือกเกตเวย์การชำระเงินที่ใช้วิธีการเข้ารหัสเพื่อส่งข้อมูลธุรกรรมที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิต อย่างปลอดภัย