การชำระเงินในไต้หวัน: คู่มือเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานะของตลาด
  3. วิธีการชำระเงิน
    1. การใช้งาน
    2. แนวโน้ม
  4. ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การเรียกเก็บเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
    3. การชำระเงินระหว่างประเทศ
    4. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. รองรับการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
    2. ลงทุนกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
    3. สร้างความไว้วางใจจากลูกค้า

ตลาดบัตรและการชำระเงินของไต้หวันเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่ารวมของธุรกรรมบัตรในปี 2024 สูงถึง 168,000 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจที่ต้องการรับการชำระเงินในไต้หวันสามารถใช้ประโยชน์จากการขยายตัวนี้ได้โดยทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการตั้งค่าการชำระเงินในประเทศและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของธุรกรรม

ด้านล่างนี้ เราจะสำรวจว่าธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าสู่ระบบการชำระเงินของไต้หวันได้สำเร็จได้อย่างไร

  • รองรับการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • การลงทุนกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
  • การได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

สถานะของตลาด

ไต้หวันใช้วิธีการชำระเงินแบบเดิมและแบบสมัยใหม่ แม้ว่าเงินสดจะยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกรรมด้วยตนเอง แต่ความนิยมของการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์กำลังเพิ่มขึ้น ในปี 2022 ชาวไทเป 49% นิยมวิธีการชำระเงินแบบไร้เงินสด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีความต้องการใช้บัตร การชำระเงินผ่านมือถือ และกระเป๋าเงินดิจิทัลกันมากขึ้น

โครงสร้างการกำกับดูแลของไต้หวันรองรับนวัตกรรมดิจิทัลและสามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐจีน (สาธารณรัฐจีนคือชื่อทางการของไต้หวัน) เป็นสถาบันหลักที่กำกับดูแลนโยบายการเงินของประเทศ คณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน (FSC) ทำหน้าที่ดูแลเสถียรภาพและความสมบูรณ์ของตลาดการเงินของไต้หวัน โดยกำกับดูแลภาคธนาคาร หลักทรัพย์ และประกันภัยให้ปฏิบัติตามแนวทางของหน่วยงาน

วิธีการชำระเงิน

ลูกค้าชาวไต้หวันใช้วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งเงินสดและรหัส QR โดยมีวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดดังนี้

การใช้งาน

แม้จะมีการเติบโตของการเงินดิจิทัล แต่ไต้หวันก็ยังคงพึ่งพาเงินสดเป็นอย่างมาก ในปี 2023 มีสัดส่วนเงินสดมากกว่า 42% ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมด แต่การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตก็เพิ่มขึ้น โดยมีมูลค่าการชำระเงินด้วยบัตรทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20.8% จากปี 2022 ถึง 2023

การสำรวจในปี 2023 พบว่าประมาณ 36.6% ของชาวไต้หวันรายงานว่าใช้การชำระเงินผ่านมือถือ แต่ก็มีช่องว่างระหว่างอายุที่กว้าง ประมาณ 64.0% ของคนอายุ 30 ถึง 39 ปีใช้การชำระเงินผ่านมือถือ เทียบกับประมาณ 5.6% ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี กระเป๋าเงินดิจิทัลทั่วโลก เช่น Apple Pay และ Samsung Pay ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมโยงรายละเอียดบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกับสมาร์ทโฟน แต่โซลูชันในประเทศที่ปรับให้เข้ากับความต้องการและความชอบของลูกค้าชาวไต้หวันนั้นโดดเด่นในการชำระเงินผ่านมือถือ LINE Pay และ Jkopay เป็นสองแพลตฟอร์มที่มักใช้สำหรับมือถือและการชำระเงินด้วยรหัส QR ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ทำได้มากกว่าการชำระเงิน เพื่อให้ผู้ใช้ส่งเงินให้เพื่อน ชำระค่าสาธารณูปโภค และจองตั๋วงานอีเวนต์

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ยอดนิยมในไต้หวัน

  • บัตรเครดิต
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น LINE Pay)
  • รหัส QR (เช่น Jkopay)
  • ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง (BNPL)

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ยอดนิยมในไต้หวัน

  • บัตรเครดิต
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร
  • การหักบัญชีอัตโนมัติ

แนวโน้ม

โซลูชันซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลังหรือ BNPL กำลังได้รับความสนใจในไต้หวัน โดยคาดว่าการชำระเงินจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 14% แตะ 1,280 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 ผู้ให้บริการเช่น Atome และ Shopee Taiwan ให้ทางเลือกแก่ลูกค้าในการผ่อนชำระ ทำให้กระบวนการมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

นอกจากวิธีการชำระเงินแล้ว ธุรกิจที่ต้องการรับชำระเงินในไต้หวันยังต้องพิจารณาเรื่องภาษี การขอคืนเงิน การชำระเงินระหว่างประเทศ และกฎระเบียบด้านความปลอดภัยในการชำระเงินด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

ภาษี

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของไต้หวันสำหรับสินค้าและบริการส่วนใหญ่อยู่ที่ 5% แม้ว่าลูกค้าจะเห็นภาษีนี้ในราคาที่จ่าย แต่ธุรกิจต่างๆ ก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่รัฐบาลไต้หวัน การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือการชำระเงินล่าช้าอาจส่งผลให้มีโทษปรับ

ธุรกิจในอุตสาหกรรมเฉพาะ รวมถึงสถาบันการเงิน จะต้องเสียภาษีรายรับจากธุรกิจรวม (GBRT) ด้วย สำหรับธนาคารและธุรกิจประกันภัย อัตรา GBRT อยู่ที่ 5% ของรายได้จากการดำเนินธุรกิจหลัก

การเรียกเก็บเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

สำหรับการขอคืนเงิน ไต้หวันมักจะเข้าข้างลูกค้า ซึ่งเป็นจุดยืนที่เป็นทางการในกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศ เช่นเดียวกับกระบวนการระงับข้อพิพาทในยุโรป ธุรกิจในไต้หวันจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของธุรกรรมหากเกิดข้อพิพาทขึ้น

การชำระเงินระหว่างประเทศ

การรับชำระเงินระหว่างประเทศ (B2C และ B2B) ในไต้หวันจำเป็นต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับการชำระเงินภายในประเทศ ประเด็นสำคัญ ได้แก่

  • ฟีเจอร์สกุลเงินหลายสกุล: ธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าต่างประเทศหรือดำเนินการออนไลน์สามารถรวมคุณลักษณะสกุลเงินหลายสกุลไว้ในอินเทอร์เฟซการชำระเงินผ่านเกตเวย์การชำระเงินเพื่อแสดงราคาในสกุลเงินท้องถิ่นของลูกค้า

  • การแปลงสกุลเงิน: เมื่อลูกค้าชำระเงินด้วยสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ จำเป็นต้องแปลงสกุลเงิน อัตราการแปลงสกุลเงินจะถูกกำหนดตามเวลาจริง โดยมีค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 1% ถึง 3% ที่สามารถดูดซับหรือส่งต่อไปยังลูกค้าได้ แพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เช่น Stripe ช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจต่างๆ โดยดำเนินการแปลงสกุลเงิน ณ เวลาชำระเงิน

  • วิธีการชำระเงินจากตลาดอื่นๆ: การยอมรับวิธีการชำระเงินยอดนิยมจากประเทศอื่นๆ เช่น WeChat Pay ของจีนและ PayNow ของสิงคโปร์ สามารถเพิ่มยอดขายในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ด้วยการทำให้ขั้นตอนการชำระเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

เนื่องอีคอมเมิร์ซและธุรกรรมดิจิทัลเป็นที่นิยมกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรอบการกำกับดูแลของไต้หวันจึงให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลลูกค้า การปราบปรามกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย และการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ มาใช้อย่างปลอดภัย โดยมีภาพรวมดังนี้

  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูล: กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของไต้หวันควบคุมการรวบรวม การประมวลผล การใช้ และการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลต้องระบุวัตถุประสงค์เบื้องหลังการรวบรวมอย่างชัดเจน และไม่สามารถใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ระบุไว้ นอกจากนี้ หน่วยงานเหล่านี้ยังรับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่เก็บรวบรวมและป้องกันการละเมิดข้อมูล

  • มาตรการการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์: กฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์อนุญาตให้ใช้ลายเซ็นและบันทึกทางอิเล็กทรอนิกส์ในการทำธุรกรรมทางกฎหมาย ทำให้ธุรกิจและลูกค้าสามารถดำเนินธุรกรรมทางดิจิทัลได้ง่ายขึ้น โดยไม่กระทบต่อความถูกต้องตามกฎหมาย

  • ความปลอดภัยในการชำระเงินด้วยบัตร: เช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ชิป Europay, Mastercard และ Visa (EMV) ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับบัตรที่ออกในไต้หวัน ซึ่งมอบความปลอดภัยอีกระดับเมื่อเทียบกับบัตรแถบแม่เหล็กแบบเดิม เทคโนโลยีชิป EMV สามารถลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงจากการขโมยข้อมูลบัตรและกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน

  • กฎหมายป้องกันการฟอกเงิน: กฎหมายควบคุมการฟอกเงินและกฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายถือเป็นรากฐานความพยายามของไต้หวันในการต่อต้านกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย สถาบันการเงินต้องจัดตั้งระบบการควบคุมภายในและระบบตรวจสอบ และรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยเพื่อป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

  • การกำกับดูแลของรัฐบาล: ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลหลัก FSC ทำหน้าที่กำกับดูแลธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัย และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรเหล่านี้จะปฏิบัติตามกฎระเบียบและใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการความเสี่ยง

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

ระบบการชำระเงินของไต้หวันต้องรองรับประชากรที่หลากหลายและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาและสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป ความท้าทายเหล่านี้อธิบายถึงลักษณะการชำระเงินที่เปลี่ยนแปลงไปในไต้หวันและพลวัตของตลาดโดยรวม ให้ลองพิจารณาสิ่งต่อไปนี้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของไต้หวัน

  • ตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น: แม้ว่าการนำระบบการชำระเงินดิจิทัลและอุปกรณ์เคลื่อนที่มาใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เงินสดยังคงมีบทบาทสำคัญในการทำธุรกรรมประจำวัน ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมด เนื่องจากจำเป็นต้องรองรับการผสมผสานระหว่างระบบการชำระเงินดิจิทัลและระบบการชำระเงินแบบเดิม ธุรกิจที่รับชำระเงินด้วยตนเองจะได้รับประโยชน์จากการรับเงินสดควบคู่ไปกับการชำระเงินดิจิทัล และธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถมอบตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้า ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิต ฟีเจอร์ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง และอื่นๆ

  • การยอมรับกระเป๋าเงินดิจิทัล: กระเป๋าเงินดิจิทัลในประเทศ เช่น LINE Pay และ Jkopay เป็นข่องทางชำระเงินรายสำคัญในตลาดการชำระเงิน การยอมรับวิธีการชำระเงินเหล่านี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การชำระเงินของลูกค้า และแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณรู้ว่าลูกค้าในประเทศต้องการอะไร

  • การสนับสนุนลูกค้าแบบเจาะจง: การปรับกลยุทธ์การชำระเงินของคุณให้เหมาะกับประเทศไต้หวันนั้นไม่ใช่แค่การเลือกว่าจะใช้วิธีการชำระเงินใดบ้างเท่านั้น การมอบตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าในภาษาท้องถิ่นที่ผู้คนใช้กันมากที่สุดอย่างภาษาจีนกลางไต้หวัน จะช่วยให้กระบวนการชำระเงินราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า และลดการละทิ้งตะกร้าสินค้า

  • มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น: เนื่องด้วยการชำระเงินดิจิทัลกำลังเพิ่มสูงขึ้น จึงมีการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้นตามไปด้วย ภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์จึงจำเป็นต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าและรักษาความน่าเชื่อถือ อย่าลืมปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) และใช้เครื่องมือป้องกันการฉ้อโกง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 3D Secure

ประเด็นสำคัญ

ระบบการชำระเงินที่กำลังพัฒนาของไต้หวันสร้างทั้งความท้าทายและโอกาส ธุรกิจสามารถปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินของลูกค้าโดยปรับให้เข้ากับความชอบในประเทศพร้อมกับติดตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและกฎระเบียบอยู่เสมอ โดยมีบทสรุปและกลยุทธ์ในการรับชำระเงินในไต้หวันให้ประสบความสำเร็จดังนี้

รองรับการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่

  • อำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล: มีการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระเป๋าเงินดิจิทัลในไต้หวันกันมากขึ้น เช่น LINE Pay ที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคน การยอมรับวิธีการชำระเงินเหล่านี้สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณตอบสนองความต้องการของประชากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีได้

  • ใช้รหัส QR เมื่อชำระเงิน: กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Jkopay ทำให้ชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสได้อย่างรวดเร็วโดยใช้รหัส QR ช่วยให้ประหยัดเวลาสำหรับธุรกิจและลูกค้า ให้เพิ่มการชำระเงินประเภทนี้ลงในกระบวนการชำระเงินของคุณเพื่อให้ตามทันเทรนด์การชำระเงินล่าสุด

  • เปิดรับวิธีการชำระเงินในประเทศ: ไต้หวันมีสภาพแวดล้อมการชำระเงินในประเทศที่หลากหลาย ซึ่ง LINE Pay, Jkopay และ Taiwan Pay ล้วนได้รับความสนใจกันทั้งสิ้น การผสานรวมตัวเลือกเหล่านี้ควบคู่ไปกับวิธีการชำระเงินทั่วโลกจะทำให้ผู้ใช้เห็นว่าคุณเข้าใจความชอบในประเทศและกระตุ้นให้เกิดการทำธุรกรรมมากขึ้น

ลงทุนกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

  • เลือกโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่ปลอดภัย: เกตเวย์การชำระเงินที่ปลอดภัยซึ่งเข้ารหัสรายละเอียดธุรกรรมทางการเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิต เพื่อส่งข้อมูลอย่างปลอดภัย ถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการฉ้อโกง ให้เลือกเกตเวย์การชำระเงินและผู้ให้บริการชำระเงินที่คำนึงถึงความปลอดภัย

  • ยืนยันตัวตนลูกค้า: การตรวจสอบว่าลูกค้าเป็นบุคคลเดียวกับที่อ้างจริงๆ สามารถลดค่าใช้จ่ายฉ้อโกงและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ ให้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยและ 3D Secure เพื่อให้การยืนยันตัวตนง่ายขึ้น

  • ปกป้องข้อมูลลูกค้าในทุกขั้นตอน: การรักษาข้อมูลการชำระเงินของลูกค้าให้ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญต่อการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และสร้างความเชื่อมั่นในธุรกิจของคุณ ปฏิบัติตามกฎ PCI DSS เพื่อให้ข้อมูลมีความปลอดภัยสูงสุด

สร้างความไว้วางใจจากลูกค้า

  • ให้การสนับสนุนลูกค้าที่เข้ากับคนในประเทศ: ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการชำระเงินอาจเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับลูกค้า การให้บริการสนับสนุนเป็นภาษาจีนกลางไต้หวัน ไม่ว่าจะผ่านแชทบอทหรือเจ้าหน้าที่ออนไลน์ จะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ทันทีและทำให้ขั้นตอนการชำระเงินราบรื่นยิ่งขึ้น

  • ลดความซับซ้อนของนโยบายการคืนเงินและการคืนสินค้า: การมีนโยบายการคืนเงินและการคืนสินค้าที่ชัดเจนจะทำให้ลูกค้าไว้ใจมากขึ้น ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการที่โปร่งใสและใช้งานง่ายมีแนวโน้มที่จะมีลูกค้าประจำมากขึ้น

  • รองรับลูกค้าที่ต้องการชำระด้วยเงินสด: สำหรับลูกค้าที่ต้องการชำระด้วยเงินสดเมื่อทำธุรกรรมด้วยตนเอง หากมีช่องทางให้ลูกค้าทำได้ตามต้องการก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อมากขึ้น หากธุรกิจของคุณดำเนินการทางออนไลน์เต็มรูปแบบ ให้ลองเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสที่ดีที่สุดในการค้นหาวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมกับตนเอง

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe