อีคอมเมิร์ซในภูมิภาคลาตินอเมริกามีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดขายปลีกออนไลน์เพียงอย่างเดียวมีมูลค่ารวมกว่า $3.19 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 จำนวนลูกค้าดิจิทัลในภูมิภาคก็เพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกัน โดยสมาร์ทโฟนเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกรรมค้าปลีกออนไลน์เกือบ 3 ใน 4 ในช่วงต้นปี 2025 ธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดลาตินอเมริกาสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเหล่านี้โดยการรองรับช่องทางการชำระเงินที่ลูกค้าในท้องถิ่นนิยมใช้

ด้านล่างนี้ เราจะพูดถึงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่กำลังพิจารณารับชำระเงินในลาตินอเมริกา ซึ่งรวมถึง

• การรักษาสมดุลระหว่างการชำระเงินแบบดิจิทัลและเงินสด
  
• การรวมวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
  
• การให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินที่เข้มงวด
  

สถานะของตลาด

แต่ละประเทศในลาตินอเมริกามีลักษณะเฉพาะตัวที่หล่อหลอมระบบเศรษฐกิจและการเงิน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และวัฒนธรรม ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดรูปแบบการชำระเงินและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศของภูมิภาคนี้

ในอดีต ลาตินอเมริกาพึ่งพาการชำระด้วยเงินสดเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีประชากรที่เข้าไม่ถึงระบบธนาคารเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ประชากรในลาตินอเมริกาประมาณ 26% ไม่มีบัญชีธนาคารในปี 2021 อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกำลังผลักดันระบบการชำระเงินของภูมิภาคไปสู่วิธีวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตและบัตรเดบิต การชำระเงินแบบไร้สัมผัส, และกระเป๋าเงินดิจิทัล

รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งในลาตินอเมริกาผลักดันให้มีการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินและลดการพึ่งพาเงินสด แนวทางการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินและการปกป้องข้อมูลถูกมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการชำระเงินที่เป็นการฉ้อโกง ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคและธุรกิจ แต่การปกป้องธุรกรรมทางการเงินยังคงเป็นเรื่องท้าทายอยู่

วิธีการชำระเงิน

ลูกค้าในลาตินอเมริกาพึ่งพาวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ตั้งแต่เงินสด บัตรเดบิต ไปจนถึงตัวเลือกดิจิทัล เช่น การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ต่อไปนี้คือวิธีการชำระเงินที่พบบ่อยที่สุดในตลาดนี้ ทั้งสำหรับการซื้อสินค้าที่จุดขายและการทำธุรกรรมออนไลน์

การใช้งานในปัจจุบัน

แม้ว่าในลาตินอเมริกาจะยังมีการใช้เงินสดอยู่ค่อนข้างสูง แต่ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจของ McKinsey ในปี 2023 พบว่า การใช้บัตรเดบิตได้แซงหน้าเงินสดและกลายเป็นวิธีการชำระเงินที่ผู้ใช้ภาษาสเปนในลาตินอเมริกานิยมใช้มากที่สุด โดย 36% ของผู้ตอบแบบสำรวจเลือกบัตรเดบิตเป็นวิธีการชำระเงินหลักสำหรับการซื้อสินค้าที่จุดขาย ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว มีเพียงเท่านั้น 30% ที่เลือกใช้เงินสด และอีก 18% เลือกใช้บัตรเครดิต

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของอีคอมเมิร์ซ มีการใช้บัตรเครดิตคิดเป็น 42% ของการชำระเงินทั้งหมดในลาตินอเมริกาในปี 2024 ขณะที่กระเป๋าเงินดิจิทัลมีสัดส่วนอยู่ที่ 10%

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ยอดนิยมในลาตินอเมริกา

• บัตรเครดิต
  
• บัตรเดบิต
  
• กระเป๋าเงินดิจิทัล
  
• การโอนเงินผ่านธนาคาร
  

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ยอดนิยมในลาตินอเมริกา

• บัตรเครดิต
  
• การโอนเงินผ่านธนาคาร
  
• การโอนเงินต่างชาติ
  

โดยทั่วไป อิทธิพลทางวัฒนธรรมซึ่งมีรากมาจากการล่าอาณานิคมและอิทธิพลทางภูมิศาสตร์ ทำให้ระบบการชำระเงินของแต่ละประเทศในลาตินอเมริกามีพัฒนาการที่แตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรมเหล่านี้ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จในภูมิภาคนี้

แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

การโอนเงินผ่านธนาคารแบบทันทีและการชำระเงินด้วยรหัส QR มีจำนวนเพิ่มขึ้นในลาตินอเมริกา ตัวอย่างเช่น Pix ของบราซิล ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบทันทีที่พัฒนาโดยธนาคารกลางบราซิล ช่วยให้สามารถโอนเงินได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกรรมจากบุคคลทั่วไปกว่า 71.5 ล้านคนที่ในช่วงเวลาอย่างน้อย 1 ปีก่อนการเปิดตัว Pix ไม่เคยโอนเครดิตทางอิเล็กทรอนิกส์มาก่อน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2022) ระบบอย่าง Pix ช่วยให้ธุรกิจและลูกค้าเข้าถึงการชำระเงินด้วยรหัส QR ได้ง่ายขึ้น

คริปโตเคอร์เรนซีก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน สกุลเงินดิจิทัลดึงดูดผู้คนในลาตินอเมริกาเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้บัญชีธนาคารแบบดั้งเดิม และเป็นแหล่งทางเลือกในการเก็บมูลค่าที่ไม่เผชิญความเสี่ยงแบบเดียวกับสกุลเงินท้องถิ่น

ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ทำเลที่ตั้งของเม็กซิโกใกล้กับประเทศสหรัฐอเมริกาช่วยให้เกิดการรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ รวมถึงการผสานการทำงานระบบการเงินกับตลาดอเมริกาเหนือ

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

บริษัทจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องภาษี การดึงเงินคืน การชำระเงินข้ามพรมแดน และมาตรการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินก่อนที่จะรับชำระเงินในลาตินอเมริกา ต่อไปนี้คือภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจควรรู้

ภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นภาษีที่พบได้ทั่วไปในประเทศต่างๆ ในลาตินอเมริกา โดยมีอัตราตั้งแต่ 7% ในปานามาไปจนถึง 22% ในอุรุกวัย ลูกค้าจะเป็นผู้จ่ายภาษีนี้ที่ระบบบันทึกการขาย ขณะที่ธุรกิจมีหน้าที่เก็บและนำส่งให้รัฐบาล การจัดการ VAT ให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้มีบทลงโทษตามมาได้

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

กระบวนการดึงเงินคืนสำหรับการชำระเงินด้วยบัตรในลาตินอเมริกาสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และโดยทั่วไปจะดำเนินการโดยเครือข่ายบัตร ธนาคาร และสถาบันการเงิน ลูกค้ามีสิทธิ์โต้แย้งการเรียกเก็บเงินที่ไม่รู้จักหรือการซื้อสินค้าที่ตนไม่เคยได้รับ ธุรกิจจะได้รับแจ้งเมื่อลูกค้าโต้แย้งธุรกรรม และโดยปกติแล้วเงินจะถูกระงับไว้ชั่วคราวในระหว่างดำเนินการตรวจสอบ จากนั้นธุรกิจสามารถส่งหลักฐานการชำระเงิน เช่น ประวัติธุรกรรม การยืนยันการส่งมอบสินค้า หรือการสื่อสารกับลูกค้า อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้อาจแตกต่างกันไปตามวิธีการชำระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบ Pix ของบราซิลมีกลไกจัดการกับการโต้แย้งที่ไม่เหมือนใคร ทำให้สามารถคืนเงินได้ทันทีในกรณีสงสัยว่าเป็นการฉ้อโกงหรือเกิดข้อผิดพลาด

การชำระเงินระหว่างประเทศ

การชำระเงินระหว่างประเทศ มีความท้าทายอยู่ในตัว หากธุรกิจของคุณจะรับชำระเงินจากหลายประเทศหรือในหลายสกุลเงิน ก็ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

• การแปลงสกุลเงิน
  ประเทศส่วนใหญ่ในลาตินอเมริกามีสกุลเงินของตนเอง ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องมีการแปลงสกุลเงินเมื่อคุณรับชำระเงินจากหลายประเทศในภูมิภาคนี้ สถาบันการเงินมักจะบวกส่วนเพิ่มสำหรับลูกค้าธุรกิจในอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นอัตราพื้นฐานสำหรับการแปลงสกุลเงินที่ธนาคารให้กู้ยืมระหว่างกัน ผู้ให้บริการชำระเงินที่เป็นบุคคลที่สามสามารถลดความซับซ้อนของธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ด้วยการจัดการการแปลงสกุลเงินให้โดยอัตโนมัติ

• มูลค่าสกุลเงินที่ผันผวน
  หลายสกุลเงินในภูมิภาคนี้ เช่น เปโซอาร์เจนตินา และโบลิวาร์เวเนซุเอลา มีความผันผวนรุนแรงกว่าดอลลาร์สหรัฐและยูโร การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินเหล่านี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกรรมข้ามพรมแดน ตลอดจนกำลังซื้อของลูกค้าในลาตินอเมริกา

• การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย
  ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินระหว่างประเทศแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศในภูมิภาค และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามการเติบโตของธุรกรรมดิจิทัล ควรตรวจสอบให้แน่ใจธุรกิจของคุณปฏิบัติตามกฎหมายเฉพาะของแต่ละประเทศที่คุณดำเนินธุรกิจ

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ประเทศในลาตินอเมริกาให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินอย่างจริงจัง มีการใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล กฎระเบียบป้องกันการฟอกเงิน (AML) และกำหนดให้มีการตรวจสอบสิทธิ์เพื่อปกป้องระบบการชำระเงิน เราได้สรุปข้อควรพิจารณาด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวไว้ดังนี้

• กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
  กฎหมายในประเทศต่างๆ เช่น โคลอมเบียและบราซิล กำหนดให้ธุรกิจต้องคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า และต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดเจนก่อนที่จะเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนตัว

• ข้อกำหนดในการยืนยันตัวตนของลูกค้า
  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกรรมออนไลน์ การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยเป็นวิธีที่ใช้กันแพร่หลาย โดยช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะลดโอกาสในการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตรวมถึงกิจกรรมฉ้อโกง

• กฎระเบียบ AML
  แนวทาง AML ในลาตินอเมริกาสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติสากล โดยกำหนดให้สถาบันการเงินต้องตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจะต้องมีติดตามตรวจสอบบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชีที่มีธุรกรรมปริมาณมาก เพื่อตรวจหากิจกรรมที่น่าสงสัย

• มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS)
  การปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI DSS เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจหรือแพลตฟอร์มการชำระเงินใดๆ ที่รับธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต มาตรฐานสากลนี้ระบุแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดเก็บ ประมวลผล และส่งต่อข้อมูลผู้ถือบัตรเพื่อลดความเสี่ยงในการฉ้อโกง

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

การเข้าสู่ตลาดการชำระเงินในลาตินอเมริกาจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่ปรับให้เหมาะกับท้องถิ่น เพื่อรับมือกับความเหลื่อมล้ำของระบบการเงิน การเติบโตของตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และภัยคุกคามด้านการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงิน ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในการขยายเข้าสู่ลาตินอเมริกา

• วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
  แม้จะมีความก้าวหน้าอยู่บ้าง แต่ประชากรจำนวนมากในลาตินอเมริกายังคงเป็นกลุ่มที่เข้าไม่ถึงระบบธนาคาร การเข้าถึงบริการทางการเงินที่จำกัดนี้ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการชำระเงินแบบดิจิทัล ซึ่งธุรกิจสามารถแก้ไขได้ด้วยการรับเงินสดสำหรับการชำระเงินที่จุดขาย และเสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลายสำหรับการสั่งซื้อออนไลน์

• การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ราบรื่น
  ลาตินอเมริกามีส่วนแบ่งยอดค้าปลีกออนไลน์ที่มาจากการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สูงสุดรองจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้ ธุรกิจควรปรับปรุงหน้าการชำระเงินให้เหมาะกับอุปกรณ์อุปกรณ์เคลื่อนที่ รวมทั้งรองรับแอปชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระเป๋าเงินดิจิทัลในขั้นตอนการชำระเงิน

• หน้าการชำระเงินที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น
  หลายประเทศในลาตินอเมริกามีวิธีการชำระเงินเฉพาะท้องถิ่นที่ไม่พบในที่อื่น การรองรับรูปแบบเหล่านี้จะส่งสัญญาณให้ลูกค้ารู้ว่าธุรกิจของคุณเข้าใจชุมชนท้องถิ่น ในทำนองเดียวกัน การแปลภาษาบนอินเทอร์เฟซการชำระเงินให้เหมาะกับท้องถิ่นยังช่วยให้กระบวนการชำระเงินใช้งานง่ายและเป็นมิตรมากขึ้นด้วย

• มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
  จากรายงานปี 2023 ลาตินอเมริกามีการโจมตีทางไซเบอร์คิดเป็น 12% ของการโจมตีทั่วโลก ธุรกิจควรลงทุนในระบบตรวจจับการฉ้อโกงขั้นสูง และใช้เกตเวย์การชำระเงินที่ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงจากธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงและหลีกเลี่ยงความสูญเสียทางการเงิน

ประเด็นสำคัญ

ธุรกิจที่ต้องการขยายเข้าสู่ลาตินอเมริกาต้องเข้าใจความต้องการและข้อจำกัดในท้องถิ่น เมื่อใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม ธุรกิจจะสามารถปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงิน พร้อมเพิ่มยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ลูกค้าชาวลาตินอเมริกาได้

ต่อไปนี้คือบทสรุปพร้อมกับเคล็ดลับสำหรับธุรกิจของคุณ

การรักษาสมดุลระหว่างการชำระเงินแบบดิจิทัลและเงินสด

• อย่ามองข้ามเงินสด
  แม้ว่าการชำระเงินแบบดิจิทัลจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินหลักในหลายพื้นที่ของภูมิภาคนี้ หากธุรกิจของคุณจะเปิดหน้าร้านจริง การรับเงินสดสามารถรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ไม่ได้ใช้วิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลได้

• รับบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
  การชำระเงินด้วยบัตรได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับธุรกรรมประเภทต่างๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจควรเพิ่มตัวเลือกบัตรเครดิตและบัตรเดบิตในขั้นตอนการชำระเงินสำหรับลูกค้าที่ต้องการชำระเงินด้วยบัตร

• รองรับกระเป๋าเงินดิจิทัล
  กระเป๋าเงินดิจิทัลมีการใช้งานเพิ่มขึ้น ดังนั้นการรับชำระผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลทั้งที่จุดขายและทางออนไลน์จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการชำระเงินนี้

รวมวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น

• รองรับวิธีการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในท้องถิ่น
  กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Nubank, Mercado Pago และ PicPay เป็นที่นิยมในลาตินอเมริกา การรองรับวิธีการชำระเงินเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการชำระเงินแบบดิจิทัลมากขึ้น

• ผสานการทำงานกับระบบการชำระเงินแบบทันที
  ใช้ประโยชน์จากระบบการชำระเงินแบบทันทีในท้องถิ่น เช่น Pix ของบราซิล เพื่อมอบกระบวนการชำระเงินที่รวดเร็วและสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า

• เสนออินเทอร์เฟซที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น
  การแปลอินเทอร์เฟซการชำระเงินของคุณให้เหมาะกับแต่ละประเทศผ่านตัวเลือกการชำระเงินและภาษา จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินของลูกค้าและสร้างความไว้วางใจในบริษัทของคุณได้

ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินที่เข้มงวด

• การชำระเงินออนไลน์ที่ปลอดภัย
  การขายผ่านอีคอมเมิร์ซเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต เครื่องมือตรวจจับการฉ้อโกง เช่น อัลกอริทึมของแมชชีนเลิร์นนิงและ 3D Secure สามารถตรวจพบความเสี่ยงการฉ้อโกงการชำระเงินออนไลน์ได้ก่อนที่จะเกิดขึ้น

• จัดเก็บข้อมูลลูกค้าให้ปลอดภัย
  ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตลอดจนมาตรฐาน PCI DSS ระดับสากล เพื่อปกป้องข้อมูลผู้ถือบัตรและหลีกเลี่ยงบทลงโทษจากการจัดการข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

• ติดตามการอัปเดตการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงิน
  กฎระเบียบด้านการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นธุรกิจของคุณต้องติดตามแนวทางล่าสุดของแต่ละประเทศอยู่เสมอ นอกจากนี้การอัปเดตกระบวนการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงของธุรกิจอย่างสม่ำเสมอยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมการชำระเงินของคุณให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้