วิธีการชำระเงินออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์: คู่มือสำหรับร้านค้าออนไลน์

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. วิธีการชำระเงินออนไลน์ยอดนิยมในเนเธอร์แลนด์มีวิธีใดบ้าง
    1. iDEAL
    2. บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
    3. ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)
    4. กระเป๋าเงินดิจิทัล
    5. การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA
  3. iDEAL ทำงานอย่างไร และทำไมจึงสำคัญต่อร้านค้าออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์
  4. คุณจะเพิ่มวิธีการชำระเงินออนไลน์ เช่น iDEAL หรือ Klarna ในร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร
    1. เลือกผู้ให้บริการที่รองรับวิธีการชำระเงินต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์
    2. เปิดใช้งานวิธีการชำระเงินต่างๆ ในบัญชีของคุณ
    3. อัปเดตการชำระเงินให้แสดงตัวเลือกใหม่ๆ
    4. ทดสอบก่อนเปิดตัว
    5. เปิดตัวและแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
  5. วิธีเลือกวิธีการชำระเงินออนไลน์ที่จะนำเสนอให้ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์
    1. เริ่มต้นจาก iDEAL
    2. เพิ่มบัตรเพื่อขยายการเข้าถึง
    3. พิจารณาใช้ BNPL หากเหมาะกับหมวดหมู่สินค้าของคุณ
    4. ใช้การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA กับการชำระเงินตามรอบบิลหรือการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า
    5. รองรับกระเป๋าเงินดิจิทัลหากลูกค้าของคุณมักใช้วิธีนี้กัน
    6. ใช้ข้อมูลเพื่อปรับแต่งวิธีการชำระเงินที่คุณนำเสนอ
  6. คุณควรคำนึงถึงอะไรบ้างเมื่อเลือกผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์
    1. การรองรับวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
    2. โครงสร้างค่าบริการ
    3. การดำเนินการผสานการทำงาน
    4. UX ในการชำระเงิน
    5. ระบบป้องกันการฉ้อโกง การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการรักษาความปลอดภัย
    6. ระยะเวลาในการเบิกจ่ายและความยืดหยุ่นด้านสกุลเงิน
    7. การรองรับ ความน่าเชื่อถือ และความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น

บัตรเครดิตไม่ใช่วิธีการชำระเงินยอดนิยมสำหรับลูกค้าชาวเนเธอร์แลนด์ส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ ธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงผู้ซื้อชาวเนเธอร์แลนด์จึงควรคิดหาวิธีจัดการการชำระเงินในเนเธอร์แลนด์อย่างรอบคอบ หากธุรกิจของคุณคุ้นเคยกับตลาดที่นิยมใช้บัตร คุณก็อาจไม่คุ้นกับระบบของเนเธอร์แลนด์ในช่วงแรก แต่เมื่อเข้าใจว่าชาวเนเธอร์แลนด์ชอบชำระเงินแบบไหนและเหตุผลที่เป็นเช่นนั้น คุณก็จะปรับสแต็กการชำระเงินของธุรกิจให้คนกลุ่มนี้ได้รับความสะดวกได้

ด้านล่างนี้ เราจะพาไปดูความคาดหวังของลูกค้าชาวเนเธอร์แลนด์ วิธีการทำงานของการชำระเงินผ่าน iDEAL และวิธีสร้างหน้าการชำระเงินที่ประสบความสำเร็จในประเทศนี้

เนื้อหาหลักในบทความ

  • วิธีการชำระเงินออนไลน์ยอดนิยมในเนเธอร์แลนด์มีวิธีใดบ้าง
  • iDEAL ทำงานอย่างไร และทำไมจึงสำคัญต่อร้านค้าออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์
  • คุณจะเพิ่มวิธีการชำระเงินออนไลน์ เช่น iDEAL หรือ Klarna ในร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร
  • วิธีเลือกวิธีการชำระเงินออนไลน์ที่จะนำเสนอให้ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์
  • คุณควรคำนึงถึงอะไรบ้างเมื่อเลือกผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์

วิธีการชำระเงินออนไลน์ยอดนิยมในเนเธอร์แลนด์มีวิธีใดบ้าง

ผู้ซื้อออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์ไม่ได้ใช้วิธีการชำระเงินแบบเดียวกับผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หรือเยอรมนี หากธุรกิจของคุณขายสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ซื้อในเนเธอร์แลนด์ คุณก็จะต้องปรับตัวไปตามพฤติกรรมของคนประเทศนี้ โดยเริ่มจากการนำเสนอวิธีการชำระเงินที่คนกลุ่มนี้ไว้วางใจ

iDEAL

ผู้คนใช้ iDEAL เป็นสัดส่วนประมาณ 3/4 ของการชำระเงินออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์ โดยลูกค้าชาวเนเธอร์แลนด์แทบทุกคนชำระเงินด้วยวิธีนี้ได้ เนื่องจากมีการผสานการทำงานกับธนาคารค้าปลีกรายใหญ่ทุกราย ทั้งยังเป็นวิธีการชำระเงินหลักที่ร้านค้าออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์ส่วนใหญ่ใช้กัน ในขั้นตอนการชำระเงิน ผู้ซื้อจะเลือกธนาคาร เข้าสู่ระบบแอปธนาคาร อนุมัติข้อมูลธุรกรรมที่กรอกไว้เรียบร้อยแล้ว และการชำระเงินก็จะเสร็จสิ้นในทันที ผู้ซื้อจะได้รับการยืนยันแบบเรียลไทม์ และไม่มีการดึงเงินคืน แต่ยังสามารถขอเงินคืนได้

บัตรเครดิตและบัตรเดบิต

ผู้คนในเนเธอร์แลนด์ใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตกันอย่างแพร่หลาย แต่ผู้ซื้อในเนเธอร์แลนด์ไม่ค่อยเอามาใช้ในการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่ผู้คนยังคงใช้บัตรดังกล่าวในการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ และมีการใช้กันในหมู่ชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว และผู้ซื้อแบบ B2B

ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)

BNPL กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะกับสินค้าประเภทแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าภายในบ้าน เป็นต้น Klarna, Riverty (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Afterpay) และ PayPal (Pay Later) เป็นวิธียอดนิยม ในขณะที่ผู้ให้บริการอย่าง in3 ก็มีให้บริการเช่นกัน

บริการเหล่านี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการ

  • ลองใช้ก่อนจ่ายเงิน

  • ทยอยแบ่งชำระเงินก้อนใหญ่

  • เลื่อนเวลาที่ต้องชำระเงินออกไปโดยไม่ใช้บัตรเครดิต

กระเป๋าเงินดิจิทัล

ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์ยังใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay, Google Pay และ PayPal ซึ่งช่วยให้ชำระเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องป้อนรายละเอียดของบัตร วิธีนี้มักเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ซื้อที่มีอายุน้อยและใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก

คุณควรใส่วิธีการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลไว้ด้วยในกรณีต่อไปนี้

  • คุณพบปริมาณการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในระดับสูง

  • ฐานลูกค้าของคุณมีแนวโน้มเป็นคนอายุน้อยหรือเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมากขึ้น

  • คุณต้องการลดความซับซ้อนในการชำระเงินด้วยตัวเลือกแบบแตะครั้งเดียว

การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA

การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA ใช้สำหรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น การชำระเงินตามรอบบิล การเป็นสมาชิก และการเรียกเก็บเงินรายเดือน โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำและเข้าถึงในผู้คนยุโรปเป็นวงกว้าง แต่การชำระเงินจะใช้เวลาดำเนินการ 2-3 วัน

iDEAL ทำงานอย่างไร และทำไมจึงสำคัญต่อร้านค้าออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์

iDEAL เป็นระบบการรับชำระเงินหลักสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ในเนเธอร์แลนด์ หากการชำระเงินของคุณไม่รองรับวิธีนี้ ก็อาจสูญเสียลูกค้าได้

เมื่อเลือก iDEAL ในขั้นตอนการชำระเงินของธุรกิจ ผู้ซื้อจะเลือกธนาคารจากรายการ และระบบจะนำไปยังหน้าเข้าสู่ระบบที่ปลอดภัยของธนาคารนั้นๆ (ผ่านเดสก์ท็อปหรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่) ระบบจะกรอกข้อมูลการชำระเงิน (ได้แก่ จำนวนเงิน ผู้รับ และข้อมูลอ้างอิง) ไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้จะตรวจสอบสิทธิ์ในการทำธุรกรรม และธนาคารจะยืนยันการชำระเงินในทันที จากนั้นระบบจะนำลูกค้ากลับมายังเว็บไซต์ของธุรกิจพร้อมแสดงข้อความว่าชำระเงินสำเร็จแล้ว และธุรกิจจะได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการตามคำสั่งซื้อ

ผู้ซื้อในเนเธอร์แลนด์มักชอบใช้ iDEAL มากกว่าวิธีอื่นด้วยสาเหตุดังนี้

  • iDEAL ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องจำหรือค้นหาวันหมดอายุหรือค่าการยืนยันบัตร (Card Verification Value หรือ CVV) และไม่เสี่ยงที่จะใช้จ่ายมากเกินไปหรือเกิดหนี้สินมากขึ้น

  • ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์ใช้บริการธนาคารออนไลน์จนคุ้นเคยเป็นอย่างดี และ iDEAL ก็พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับนิสัยเช่นนี้โดยตรง

  • iDEAL ใช้โครงสร้างพื้นฐานของธนาคารที่มีอยู่ จึงมีความปลอดภัยระดับสูง ผู้ใช้ไม่ต้องพิมพ์หมายเลขบัตรหรือให้ความไว้วางใจกับเกตเวย์ของบริษัทอื่นที่ไม่คุ้นเคย

ธุรกิจจะได้รับประโยชน์ดังนี้เมื่อรับชำระเงินผ่าน iDEAL

  • เมื่อลูกค้าชำระเงินเสร็จแล้ว ธุรกิจจะได้รับการตอบกลับว่าชำระเงินสำเร็จแล้วในทันที ซึ่งจะช่วยให้ดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น วิธีนี้จึงช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและยกระดับการดำเนินงานในแต่ละวันไปด้วยในตัว

  • การชำระเงินผ่าน iDEAL นั้นต่างจากบัตรเครดิตตรงที่ลูกค้าไม่สามารถยกเลิกการชำระเงินได้หลังจากยืนยันไปแล้ว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการดึงเงินคืนสำหรับธุรกิจที่นำเสนอวิธีการชำระเงินนี้ร่วมกับวิธีอื่นๆ ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถขอเงินคืนได้ และควรเป็นทางเลือกหนึ่งของเหตุผลในการให้บริการลูกค้าและเป็นส่วนหนึ่งในสิทธิ์ของลูกค้า แต่เป็นการคืนเงินจะเริ่มจากฝั่งของผู้ค้า

  • ผู้ให้บริการชำระเงินมักเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราคงที่ต่อธุรกรรมผ่าน iDEAL โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดการขายเหมือนกับบัตรต่างๆ จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ยสูงกว่า

  • เนื่องจากการประมวลผล iDEAL ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในระบบธนาคารของลูกค้า เว็บไซต์ของธุรกิจจึงไม่ต้องจัดการข้อมูลบัตรที่ละเอียดอ่อนเลย จึงช่วยลดขอบเขตมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) และลดภาระงานทางเทคนิคที่ต้องทำเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ อีกด้วย

คุณจะเพิ่มวิธีการชำระเงินออนไลน์ เช่น iDEAL หรือ Klarna ในร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร

การเพิ่มวิธีการชำระเงิน เช่น iDEAL, Klarna หรือการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA ในการชำระเงินนั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อน คุณไม่จำเป็นต้องมีสัญญาแยกต่างหากกับธนาคารหรือการผสานการทำงานแบบเฉพาะตัวที่ยุ่งยาก แค่มีผู้ให้บริการชำระเงินที่เหมาะสมและการติดตั้งใช้งานที่เรียบง่ายก็เพียงพอแล้ว

วิธีการทำงานมีดังนี้

เลือกผู้ให้บริการที่รองรับวิธีการชำระเงินต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์

ผู้ให้บริการบางรายก็อาจไม่ได้รองรับการชำระเงินแบบ SEPA และ iDEAL ตั้งแต่ต้น ให้มองหาคุณสมบัติดังนี้

  • การรองรับ iDEAL ในตัว

  • ตัวเลือก BNPL แบบผสานการทำงาน เช่น Klarna หรือ Riverty

  • การรองรับการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA หากคุณมีการชำระเงินตามรอบบิล

ตัวอย่างเช่น Stripe นำเสนอ iDEAL, Klarna, การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA และ Apple Pay ในการผสานการทำงานเพียงครั้งเดียว คุณสามารถเปิดรับวิธีการชำระเงินส่วนใหญ่จากแดชบอร์ด Stripe ได้เลย แต่หากคุณใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify หรือ WooCommerce ก็ให้ตรวจสอบดูว่ามีปลั๊กอินหรือเกตเวย์ใดบ้างที่รองรับวิธีเหล่านี้ในตัว

อย่างไรก็ตาม iDEAL ใช้ได้กับสกุลเงินยูโรเท่านั้น ดังนั้น หากร้านค้าของคุณใช้สกุลเงินอื่น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการจะแปลงสกุลเงินหรือตั้งราคาเป็นยูโรสำหรับลูกค้าชาวเนเธอร์แลนด์ได้

เปิดใช้งานวิธีการชำระเงินต่างๆ ในบัญชีของคุณ

เมื่อคุณเลือกผู้ให้บริการแล้ว คุณมักจะไปที่การตั้งค่าการชำระเงินหรือแดชบอร์ด แล้วเปิดใช้ iDEAL, Klarna หรือวิธีอื่นๆ ผู้ให้บริการบางรายอาจกำหนดให้คุณต้องยอมรับข้อกำหนดเพิ่มเติม ในบางกรณี คุณอาจต้องระบุรายละเอียดธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อการประเมินและควบคุมความเสี่ยง โดย Klarna มักต้องใช้ที่อยู่ในการเรียกเก็บเงินและที่อยู่สำหรับจัดส่ง วันเกิด และอีเมลในการประเมินและควบคุมความเสี่ยงของธุรกรรม ดังนั้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าการชำระเงินของคุณได้เก็บข้อมูลที่จำเป็นมา

อัปเดตการชำระเงินให้แสดงตัวเลือกใหม่ๆ

ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการสร้างเว็บไซต์ของคุณ

  • หากคุณใช้หน้าการชำระเงินแบบโฮสต์อยู่ เช่น Stripe Checkout ระบบก็จะแสดงตัวเลือกการชำระเงินที่เหมาะสมตามตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้าโดยอัตโนมัติ

  • หากคุณใช้ปลั๊กอินหรือส่วนขยายสำหรับอีคอมเมิร์ซ คุณจะต้องตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งานวิธีการชำระเงินในการตั้งค่าของปลั๊กอินแล้ว

  • หากกำลังสร้างหน้าการชำระเงินแบบเฉพาะตัว คุณจะใช้อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ของผู้ให้บริการเพื่อเพิ่มวิธีต่างๆ เช่น iDEAL หรือ Klarna ลงในรายการตัวเลือกที่มีให้ใช้

ผู้ให้บริการชำระเงินที่ดีควรมีองค์ประกอบของอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) ที่ช่วยให้ทำเรื่องนี้ได้ง่ายๆ เช่น ปุ่มสำเร็จรูปหรือเมนูแบบเลื่อนลงในการเลือกธนาคาร (ในกรณีที่เป็น iDEAL)

ทดสอบก่อนเปิดตัว

ใช้โหมดทดสอบของผู้ให้บริการหรือสภาพแวดล้อมแซนด์บ็อกซ์เพื่อ

  • จำลองการชำระเงินผ่าน iDEAL

  • จำลองขั้นตอนใน Klarna (เช่น การอนุมัติ การปฏิเสธ รถเข็นที่ถูกละทิ้ง)

  • ยืนยันว่าการเปลี่ยนเส้นทาง การยืนยันการชำระเงิน และสถานะสำรองล้วนทำงานอย่างถูกต้อง

คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าจะเห็นตัวเลือกที่เหมาะสมและกลับมายังเว็บไซต์ของคุณพร้อมข้อความที่ระบุชัดเจนว่าชำระเงินสำเร็จหรือไม่ โดย Klarna กับ iDEAL จะมีกำหนดเวลาและขั้นตอนการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้น โปรดตรวจสอบว่าวิธีการชำระเงินต่างๆ จัดการเรื่องการคืนเงินอย่างไรบ้าง

เปิดตัวและแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

เมื่อทุกอย่างทำงานถูกต้องแล้ว ให้เปลี่ยนการผสานการทำงานของคุณเป็นโหมดใช้งานจริง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าโลโก้ iDEAL และ Klarna ปรากฏบนหน้าการชำระเงินของคุณ ให้แจ้งให้ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์ทราบว่ามีตัวเลือกเหล่านี้ให้บริการแล้ว เช่น ติดป้าย "เรารับ iDEAL และ Klarna" เล็กๆ แต่เห็นชัดเจนไว้ที่ส่วนท้าย

วิธีเลือกวิธีการชำระเงินออนไลน์ที่จะนำเสนอให้ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์

คุณจะเห็นได้เลยว่า iDEAL เป็นวิธีการชำระเงินที่สำคัญที่สุดในระบบการชำระเงินของเนเธอร์แลนด์ แต่เมื่อพิจารณากลุ่มลูกค้า ประเภทการซื้อ และความต้องการข้ามพรมแดนแล้ว การนำเสนอวิธีการชำระเงินไว้มากกว่าหนึ่งทางก็ย่อมเป็นแนวคิดที่ชาญฉลาดกว่า

แนวทางตัดสินใจเลือกวิธีการชำระเงินที่จะนำเสนอมีดังนี้

เริ่มต้นจาก iDEAL

iDEAL เป็นวิธีมาตรฐานสำหรับอีคอมเมิร์ซในเนเธอร์แลนด์ หากคุณจำหน่ายสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์และไม่ได้นำเสนอ iDEAL ลูกค้าบางรายก็อาจเลิกชำระเงินกลางคันได้

เพิ่มบัตรเพื่อขยายการเข้าถึง

บัตรเครดิตและบัตรเดบิตครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและสถานการณ์ต่างๆ ที่ iDEAL อาจไม่รองรับ ได้แก่

  • คนต่างชาติ นักท่องเที่ยว หรือลูกค้าต่างประเทศ

  • ผู้ซื้อที่เป็นธุรกิจ

  • การชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าหรือสินค้าที่มีช่วงทดลองใช้

ลูกค้าที่ชอบใช้บัตรเครดิตมักจะไม่เปลี่ยนมาใช้ iDEAL เพียงเพื่อจะซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ หากผู้ให้บริการของคุณรองรับวิธีนี้ การนำเสนอวิธีการชำระเงินผ่านบัตรร่วมกับ iDEAL ก็ทำได้ง่าย ทั้งยังช่วยให้คุณให้บริการแก่ลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้นด้วย

พิจารณาใช้ BNPL หากเหมาะกับหมวดหมู่สินค้าของคุณ

บริการ BNPL เช่น Klarna เป็นที่นิยมสำหรับสินค้าเหล่านี้

  • แฟชั่นและค้าปลีก

  • เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ในครัวเรือน

  • สินค้าและเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้าน

"ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง" ช่วยให้ลูกค้าชำระเงินได้แบบยืดหยุ่น วิธีนี้ไม่ได้มีไว้ใช้แทน iDEAL แต่สามารถเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินสำหรับสินค้าที่มีราคาสูงหรือรองรับผู้ซื้อที่มีอายุน้อยซึ่งอาจต้องให้ชำระเงินได้แบบยืดหยุ่น

ใช้การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA กับการชำระเงินตามรอบบิลหรือการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

SEPA ไม่ได้มีไว้สำหรับการชำระเงินอีคอมเมิร์ซแบบทันที แต่หากคุณดำเนินธุรกิจที่มีการชำระเงินตามรอบบิล (ไม่ว่าจะเป็นการสมัครสมาชิกหรือบริการที่เรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน หรือในกรณีที่คุณขายสินค้าที่มีการออกใบแจ้งหนี้โดยมีค่าธรรมเนียมประจำ) การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA ก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เมื่อลูกค้าตั้งค่าการมอบอำนาจแล้ว คุณก็หักเงินจากธนาคารของลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าชำระเงินหรือพบเจอกับการแจ้งเตือนที่ไม่เป็นผล ลูกค้าชาวเนเธอร์แลนด์ที่เคยใช้วิธีนี้ในการจ่ายค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และค่าสมัครฟิตเนสก็จะคุ้นเคยกับการตั้งค่าอยู่แล้ว ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการต่ำอีกด้วย

รองรับกระเป๋าเงินดิจิทัลหากลูกค้าของคุณมักใช้วิธีนี้กัน

กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay และ Google Pay ช่วยให้การชำระเงินรวดเร็วขึ้น เป็นวิธีที่เปิดใช้งานได้ง่ายหากคุณรองรับบัตรอยู่แล้ว และมีประโยชน์ต่อร้านค้าที่มุ่งเน้นการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อย แต่คนเนเธอร์แลนด์ก็ไม่ได้ใช้กระเป๋าเงินเป็นวิธีหลักในการซื้อเหมือนอย่าง iDEAL

ใช้ข้อมูลเพื่อปรับแต่งวิธีการชำระเงินที่คุณนำเสนอ

การเปิดให้ชำระเงินได้หลายวิธีเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ผู้ซื้ออาจรู้สึกยุ่งยาก และประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) ในหน้าชำระเงินก็อาจชวนสับสนได้ แดชบอร์ดการชำระเงินของคุณควรแสดงวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าใช้งานอยู่จริงๆ และช่วยให้คุณปรับแต่งการชำระเงินแบบต่างๆ ได้ ให้คอยสังเกตติดตามรูปแบบการชำระเงินของลูกค้า

  • หากลูกค้าไม่ค่อยใช้บัตร ก็ให้นำไปไว้ในจุดที่ไม่เด่นนัก

  • ผู้ซื้อใหม่ๆ นิยมใช้ BNPL กัน ก็ให้โปรโมตวิธีนี้ให้เด่นขึ้น

  • หากแต่ละวิธีมีอัตราการคืนเงินต่างกัน ให้ตรวจสอบดูว่า UX หรือกลุ่มลูกค้าไม่ตรงกันหรือไม่

การชำระเงินนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง พฤติกรรมของลูกค้าก็เปลี่ยนไปตลอด โดยเฉพาะเมื่อเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามา การตรวจสอบวิธีการชำระเงินต่างๆ เป็นประจำทุกปีจะช่วยให้คุณปรับตัวไปตามวิธีการชำระเงินที่ผู้ซื้อต้องการใช้ได้

คุณควรคำนึงถึงอะไรบ้างเมื่อเลือกผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์

ผู้ให้บริการชำระเงินที่เหมาะสมจะกำหนดประสบการณ์การชำระเงิน ส่วนต่างกำไร และเวลาที่ทีมของคุณใช้ในการดำเนินงาน คุณควรคำนึงเรื่องต่อไปนี้เมื่อตัดสินใจ

การรองรับวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น

ก่อนอื่น ให้ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการของคุณรองรับ iDEAL หรือไม่ วิธีนี้เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยในเนเธอร์แลนด์ ให้มองหาผู้ให้บริการที่มีบริการต่อไปนี้ด้วย

  • Klarna หรือตัวเลือก BNPL อื่นๆ

  • การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA สำหรับการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

  • บัตร กระเป๋าเงินดิจิทัล และการรองรับหลายสกุลเงินสำหรับลูกค้าต่างประเทศ

หากคุณจัดการทั้งหมดนี้ได้จากการผสานการทำงานเพียงครั้งเดียว ก็จะยิ่งดี เช่น Stripe จะรวมการชำระเงินผ่าน iDEAL, Klarna, SEPA, บัตร และกระเป๋าเงินดิจิทัลไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

โครงสร้างค่าบริการ

ทำความเข้าใจวิธีการเรียกเก็บเงินจากคุณ ค่าธรรมเนียมอาจมีดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์

  • ค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม

  • ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน

  • ค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืน

  • ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มหรือค่าธรรมเนียมการตั้งค่ารายเดือน

อย่าลืมตรวจสอบค่าใช้จ่ายรวม หากธุรกิจของคุณกำลังขยายตัว ให้ตรวจสอบค่าบริการตามปริมาณการชำระเงินหรือระดับแบบกำหนดเอง

การดำเนินการผสานการทำงาน

หากคุณกำลังพัฒนาเป็นการภายใน ให้ตรวจสอบว่า

  • ผู้ให้บริการมี API ที่เรียบง่ายและจัดทำเอกสารเป็นอย่างดีหรือไม่

  • ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) พร้อมใช้งานสำหรับสแต็กของคุณหรือไม่

  • Webhook มีความน่าเชื่อถือและรวดเร็วหรือไม่

หากคุณไม่ได้พัฒนาเป็นการภายใน ให้ตรวจสอบดังนี้

  • ปลั๊กอินที่เป็นทางการสำหรับ Shopify, WooCommerce หรือแพลตฟอร์มใดก็ตามที่คุณใช้

  • การชำระเงินที่ปรับแต่งได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านวิศวกรรม

หลีกเลี่ยงผู้ให้บริการชำระเงินที่ไม่เข้ากับสแต็กของคุณ และบังคับให้คุณต้องรวมหลายๆ ระบบเข้าด้วยกัน

UX ในการชำระเงิน

ตั้งคำถามเหล่านี้เพื่อดูว่าผู้ให้บริการนั้นเหมาะกับธุรกิจของคุณหรือไม่

  • ผู้ให้บริการมีหน้าการชำระเงินแบบโฮสต์ให้หรือไม่ หรือคุณต้องสร้างหน้าของตัวเองขึ้นมา

  • คุณสามารถแปลตัวเลือกการชำระเงินที่ปรากฏตามตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้าได้หรือไม่

  • UI รับมือกับอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างไร

  • ลูกค้าชำระเงินได้ในไม่กี่คลิกหรือไม่

รูปแบบการออกแบบของผู้ให้บริการมีผลต่ออัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน ให้มองหารูปแบบที่ช่วยลดความยุ่งยากให้กับลูกค้า

ระบบป้องกันการฉ้อโกง การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการรักษาความปลอดภัย

ผู้ให้บริการของคุณควรมีคุณสมบัติขั้นต่ำดังนี้

  • ปฏิบัติตาม PCI DSS ระดับ 1

  • จัดการการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) โดยอัตโนมัติ

  • รองรับ 3D Secure 2 และมีมาตรการป้องกันการฉ้อโกงแบบต่างๆ ที่พบบ่อย

Stripe Radar มีฟีเจอร์ทั้งหมดเหล่านี้แบบครบครัน รวมถึงเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์และเกณฑ์ความเสี่ยงที่กำหนดค่าได้ ยิ่งผู้ให้บริการจัดการเรื่องนี้ได้มากเท่าไร ทีมของคุณก็ยิ่งมีความเสี่ยงน้อยลงตามไปด้วย และคุณจะใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาน้อยลง

ระยะเวลาในการเบิกจ่ายและความยืดหยุ่นด้านสกุลเงิน

ทำความเข้าใจว่าคุณจะได้รับเงินเมื่อใด ผู้ให้บริการบางรายมีการเบิกจ่ายเป็นรายวัน ส่วนบางรายก็เป็นรายสัปดาห์ หากคุณขายสินค้าหรือบริการในหลายสกุลเงิน คุณจะรับชำระเงินเป็นสกุลเงินเหล่านั้นได้หรือไม่ หรือผู้ให้บริการจะแปลงทุกอย่างเป็นสกุลเงินพื้นฐานของคุณ หากคุณขายข้ามพรมแดน วิธีนี้จะช่วยลดการบังคับแปลงสกุลเงินและค่าธรรมเนียมที่ตามมาได้ ผู้ให้บริการบางรายอนุญาตให้คุณเก็บเงินได้หลายสกุลเงินและนำเงินในสกุลเหล่านั้นไปใช้ชำระได้ แต่ผู้ให้บริการบางรายก็ไม่เป็นเช่นนั้น

การรองรับ ความน่าเชื่อถือ และความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น

หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น คุณจะติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือได้หรือไม่

ให้มองหาผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติดังนี้

  • พร้อมช่วยเหลือทุกวันตลอด 24 ชม. ผ่านแชท อีเมล หรือโทรศัพท์

  • มีชื่อเสียงด้านการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  • เอกสารประกอบที่เป็นประโยชน์จริงๆ

  • ทีมที่เข้าใจความคาดหวังในภูมิภาคนั้นๆ

เมื่อคุณไว้ใจให้ผู้ให้บริการรายนี้ดูแลกระแสรายรับของคุณ ผู้ให้บริการก็ควรพร้อมตอบข้อสงสัยและให้ความช่วยเหลือที่จำเป็น

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe