สมาร์ทโฟนที่คนส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นใช้กันนั้น ไม่ได้มีไว้แค่โทรและส่งข้อความเท่านั้น แต่ยังใช้สำหรับดูวิดีโอ ช้อปปิ้ง ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ดำเนินการชำระเงิน และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อุปกรณ์เหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคที่สังคมดิจิทัลกำลังเฟื่องฟูมากขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การชำระเงินแบบไร้เงินสด ซึ่งรวมถึงการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน ได้แพร่หลายอย่างกว้างขวางทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก ทำให้การช้อปปิ้งสะดวกสบายและหลากหลายมากขึ้น ปัจจุบันผู้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งได้ง่ายขึ้นบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ นอกจากนี้ เว็บไซต์ช้อปปิ้ง เช่น ห้างสรรพสินค้าอีคอมเมิร์ซ ก็ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการคำนึงถึงผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลักเพื่อส่งเสริมการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ด้วยเหตุนี้ การช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแอปจึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์เคลื่อนถูกเรียกว่า "การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่" หรือ "เอ็มคอมเมิร์ซ" โดยมีธุรกรรมหลายประเภทที่นอกเหนือจากการช้อปปิ้งที่จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ ในบทความนี้ เราจะอธิบายพื้นฐานของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ รวมถึงประเภทต่างๆ ข้อดี ข้อที่ควรทราบ และขนาดตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในญี่ปุ่น

เนื้อหาหลักในบทความ

• การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเอ็มคอมเมิร์ซคืออะไร
  
• ขนาดตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในญี่ปุ่น
  
• ประเภทของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  
• ข้อดีของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  
• ข้อควรทราบเกี่ยวกับการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  
• Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
  

การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเอ็มคอมเมิร์ซคืออะไร

ดังที่อธิบายไว้ข้างต้น การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือที่เรียกว่าเอ็มคอมเมิร์ซ หมายถึงธุรกรรมเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินการโดยเสร็จสมบูรณ์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ตัวอย่างเช่น เมื่อนักช้อปซื้อสินค้าผ่านแอพบนโทรศัพท์ และชำระเงินผ่านระบบการชำระเงินออนไลน์ของธุรกิจ โดยธุรกรรมดังกล่าวถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เมื่อไม่นานมานี้ วิธีการชำระเงินผ่านการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ขยายขอบเขตออกไปนอกเหนือจากบัตรเครดิต ไปสู่ตัวเลือกการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนที่หลากหลาย (เช่น รหัส QR, บัตรประจำตัวประชาชน และการชำระเงินผ่านผู้ให้บริการ) ซึ่งช่วยทำให้สภาพแวดล้อมการซื้อของลูกค้าง่ายขึ้นไปอีก

เราจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้านล่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่นี้ไม่ได้ครอบคลุมแค่การช้อปปิ้งออนไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกรรมประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้ด้วย

• บริการการชำระเงินตามรอบบิลและการชำระเงินตามการใช้งานสำหรับเนื้อหาดิจิทัล
  
• บริการตามตำแหน่งที่ตั้ง (เช่น กลไกที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในพื้นที่ที่ลูกค้าอยู่ในปัจจุบัน)
  
• โมบายแบงก์กิ้ง
  
• การโอนเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  
• การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
  

ความแตกต่างระหว่างอีคอมเมิร์ซและการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ความแตกต่างระหว่างอีคอมเมิร์ซและการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจสร้างความสับสนในตอนแรก อีคอมเมิร์ซจะครอบคลุมธุรกรรมเชิงพาณิชย์ทั้งหมดที่ดำเนินการผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ในทางกลับกัน การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คืออีคอมเมิร์ซที่ปรับแต่งให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยเฉพาะ ซึ่งหมายถึงธุรกรรมเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินการผ่านแอปและเว็บไซต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งหมายความว่าธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านสมาร์ทโฟนจัดอยู่ในนิยามของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่ธุรกรรมอีคอมเมิร์ซที่ดำเนินการผ่านคอมพิวเตอร์และผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซไม่จัดอยู่ในนิยามนี้ ดังนั้น การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จึงเป็นส่วนหนึ่งของนิยามกว้างๆ ของอีคอมเมิร์ซ

ขนาดตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในญี่ปุ่น

ตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในญี่ปุ่นกำลังขยายตัวขึ้นทุกๆ ปี จากการสำรวจขนาดตลาดที่จัดทำโดย Mobile Content Forum (MCF) พบว่าขนาดตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในปี 2023 มีมูลค่าเกือบ 9.6 ล้านล้านเยน โดยเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า

การเติบโตของตลาดการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสมาร์ทโฟน ซึ่งได้ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงเพิ่มความหลากหลายให้กับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าด้วย โดยมาตรการต่างๆ ที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซนำมาใช้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็มีส่วนช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดเช่นกัน ซึ่งรวมถึง

• การปรับระบบสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  
• การเพิ่มประสิทธิภาพของสภาพแวดล้อมการชำระเงิน
  
• ปรับปรุงความสะดวกสบายของแอป
  

ประเภทของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทกว้างๆ ได้แก่ การช้อปปิ้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โมบายแบงก์กิ้ง และการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ต่อไปนี้คือรายละเอียดของประเภทต่างๆ เหล่านี้ทีละประเภท

การช้อปปิ้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ตามชื่อของการช้อปปิ้ง การช้อปปิ้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คือการช้อปปิ้งออนไลน์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ข้อดีที่สุดของการช้อปปิ้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คือความสะดวกสบาย ลูกค้าสามารถทำได้จากทุกที่ ทุกเวลา ตัวอย่างเช่น สมมติว่ามีคนสนใจสินค้าบางอย่าง แต่ติดงานจนไม่มีเวลาไปที่ร้านจริงในช่วงกลางวัน พวกเขาสามารถซื้อจากร้านค้าออนไลน์ในช่วงพักได้ หรือสมมติว่ามีคนต้องการจองที่นั่งบนรถไฟหัวกระสุน (เช่น ชินคันเซ็น) หรือตั๋วคอนเสิร์ตในทันทีที่วางจำหน่าย การช้อปปิ้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถจองและซื้อได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บไซต์หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยไม่ต้องไปที่ร้านค้าจริง

โมบายแบงก์กิ้ง

เช่นเดียวกับการช้อปปิ้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โมบายแบงก์กิ้งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกรรมต่างๆ เช่น การโอนเงินและการสอบถามยอดคงเหลือได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ตโดยใช้สมาร์ทโฟน ไม่จำเป็นต้องนำสมุดบัญชีตัวจริงไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารหรือไปที่เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ (ATM) โดยลูกค้าสามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนได้ และเมื่อมีข้อสงสัย ก็สามารถพูดคุยกับแชทบอทหรือผู้ให้บริการแชทเฉพาะได้

การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่

อาจกล่าวได้ว่ารูปแบบที่สำคัญที่สุดของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คือการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ด้วยจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมากในปัจจุบัน การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่จึงได้รับความสนใจจากทั่วโลกในฐานะวิธีการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่มีอยู่ การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าพวกเขาจะลืมกระเป๋าเงินเมื่อออกไปข้างนอก พวกเขาก็ยังคงสามารถซื้อสินค้าจากร้านค้า ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ บริการขนส่ง และธุรกิจอื่นๆ ที่ให้บริการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้

ข้อดีของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มอบข้อดีมากมายให้กับผู้ใช้ ลองมาดูกัน

ความสะดวกสบายเป็นพิเศษ

อย่างที่คุณอาจทราบกันดีอยู่แล้ว ข้อดีที่สุดของการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คือความสะดวกสบายอย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ และสามารถซื้อเนื้อหาดิจิทัล เช่น วิดีโอและเพลงต่างๆ เพื่อความบันเทิงได้ทันที ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากที่มักจะพบในการซื้อของต่างๆ (เช่น การต้องรอคิวซื้อสินค้า) และส่งผลให้ลูกค้ามีความเต็มใจที่จะซื้อมากขึ้น

นอกจากนี้ เว็บไซต์และแอปอีคอมเมิร์ซที่ปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ยังมีระบบที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับบริการที่สะดวกสบายจากสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกันกับคอมพิวเตอร์

การชำระเงินที่สะดวกสบายและรวดเร็ว

ความแพร่หลายของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ทำให้สภาพแวดล้อมการชำระเงินสะดวกสบายมากขึ้น โดยช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทั้งในร้านค้าจริงและบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

ธุรกิจต่างๆ เริ่มนำวิธีการชำระเงินที่หลากหลายมาใช้มากขึ้น รวมถึงการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยคำนึงถึงทั้งลูกค้าชาวญี่ปุ่นและลูกค้าต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณอาจพิจารณาเปิดใช้งานวิธีการชำระเงินที่ใช้กันทั่วโลก เช่น WeChat Pay ซึ่งเป็นวิธีการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศจีน บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและร้านค้าจริงของคุณเพื่อดึงดูดลูกค้าจากต่างประเทศ วิธีนี้จะเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและธุรกิจการท่องเที่ยวขาเข้า

บริการที่เหนือชั้นผ่านการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่ดียิ่งขึ้น

การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ประกอบด้วยการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการแนะนำสินค้าและบริการเฉพาะบุคคลให้กับผู้ใช้โดยอิงจากข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งจากอุปกรณ์เคลื่อนที่และข้อมูลประวัติการซื้อ การแนะนำเฉพาะบุคคลจะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการได้อย่างง่ายดาย

ข้อดีอีกประการหนึ่งของการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็คือผู้ใช้สามารถเพิ่มสินค้าที่หมดสต๊อกลงในรายการสินค้าที่ต้องการหรือตั้งค่าการแจ้งเตือนเพื่อรับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านการแจ้งเตือนแบบพุชหรือข้อความเมื่อสินค้ากลับมาอยู่ในสต๊อก

วิธีหนึ่งในการนำการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่ดียิ่งขึ้นไปใช้คือการใช้กลยุทธ์ธุรกิจสำหรับการค้าแบบหลายช่องทางซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้นตามตำแหน่งที่ตั้ง ด้วยการค้าแบบหลายช่องทาง คุณสามารถให้ข้อมูลสินค้าคงคลังของร้านค้าจริงที่ใกล้กับผู้ใช้ที่สุด โดยอ้างอิงจากตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถให้คำแนะนำโดยอิงตามสินค้าที่ผู้ใช้กำลังดูอยู่ได้อีกด้วย

การผสานการช้อปปิ้งออนไลน์และร้านค้าจริงเข้าด้วยกันนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจทั้งอีคอมเมิร์ซและร้านค้าจริง

ข้อควรทราบเกี่ยวกับการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

แม้ว่าการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะมีข้อดี แต่ก็มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา

มีข้อจำกัดในการแสดงผลเนื่องจากหน้าจอของอุปกรณ์เคลื่อนที่มีขนาดเล็ก

การซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านสมาร์ทโฟน เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ ขนาดหน้าจอนั้นจะเล็กกว่ามาก ทำให้ขอบเขตของเนื้อหาที่แสดงบนสมาร์ทโฟนนั้นมีจำกัด ดังนั้น เมื่อผู้ใช้ต้องการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดมากขึ้น พวกเขาอาจต้องแตะหน้าจอซ้ำๆ หรือไปยังหน้าอื่นๆ ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางสถานการณ์

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือธุรกิจต่างๆ จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยสร้างการออกแบบและระบบที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายที่จะช่วยทำให้ลูกค้าต้องการใช้งานแอปต่อไป

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้อาจทำให้เกิดความไม่สะดวก

เนื่องจากการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียรอาจทำให้เกิดปัญหาที่ทำให้การช้อปปิ้งนั้นไม่ราบรื่น

การรักษาการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือให้เสถียรถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ระบบการรับชำระเงินคุณภาพสูงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ

ประเด็นสำคัญประการหนึ่งสำหรับการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คือระบบการรับชำระเงินที่ได้รับการพัฒนาอย่างเพียงพอหรือไม่ ให้พิจารณาสองประเด็นต่อไปนี้เป็นพิเศษ

ตัวเลือกวิธีการชำระเงิน

หากคุณมีตัวเลือกการชำระเงินไม่มากนัก ลูกค้าอาจไม่สามารถชำระเงินด้วยวิธีที่ต้องการได้ และอาจยกเลิกการซื้อสินค้า ไม่ว่าจะที่ร้านค้าจริงหรือบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ นอกจากนี้ หากร้านค้าของคุณไม่มีช่องทางการชำระเงินแบบไร้เงินสด เช่น การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ก็มีความเสี่ยงที่ลูกค้าอาจหันไปใช้ช่องทางอื่น ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้พิจารณาถึงความต้องการของลูกค้าเมื่อนำเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม การนำวิธีการชำระเงินที่หลากหลายมาใช้โดยไม่ไตร่ตรองอาจทำให้ลูกค้าสับสนว่าควรเลือกวิธีใด สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าควรนำวิธีการชำระเงินใดมาใช้โดยพิจารณาจากความเข้าใจในฐานลูกค้าเป้าหมายของคุณ

ความปลอดภัยในการชำระเงิน

การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นมีความสะดวกสบายอย่างยิ่ง แต่ลูกค้าบางรายอาจลังเลที่จะชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย ความกังวลเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่เป็นการชำระเงินแบบไร้เงินสดโดยทั่วไป ดังนั้น ธุรกิจที่ให้บริการชำระเงินแบบไร้เงินสดจึงควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก ทุกธุรกิจต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งภายในระบบของตนเอง และนำเสนอบริการชำระเงินที่มีความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ ลูกค้าต้องไม่เปิดเผยข้อมูลการชำระเงินส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่านกับผู้อื่น และควรใช้ความระมัดระวังอยู่เสมอเมื่อต้องจัดการกับสิ่งของมีค่า รวมถึงสมาร์ทโฟน ปัจจุบันมีตัวเลือกการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มากมายหลายรูปแบบ และบางครั้งลูกค้าอาจรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินที่เหมาะสม เราขอแนะนำให้ลูกค้าพิจารณาก่อนว่าวิธีการชำระเงินนั้นปลอดภัยและเหมาะสมหรือไม่ แล้วจึงเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขาเมื่อทำการชำระเงิน

Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง

Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินระดับโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจใดๆ ตั้งแต่สตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตไปจนถึงองค์กรระดับโลก โดยรับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกได้

Stripe Payments ช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณ: สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าและประหยัดเวลาในการทำงานวิศวกรรมได้หลายพันชั่วโมงด้วย UI การชำระเงินที่สร้างไว้ให้แล้ว, สิทธิ์เข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 125 วิธี และ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่สร้างโดย Stripe
  
• ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดน ที่มีให้บริการใน 195 ประเทศและมากกว่า 135 สกุลเงิน
  
• รวมการชำระเงินที่จุดขายและทางออนไลน์ไว้ด้วยกัน: สร้างประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมในช่องทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อปรับแต่งการโต้ตอบ ตอบแทนความภักดี และเพิ่มรายรับ
  
• ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและความสามารถขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
  
• เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีระยะเวลาให้บริการ 99.999% โดยแทบจะไม่หยุดทำงานเลย และมีความน่าเชื่อถือระดับแนวหน้าของวงการ
  

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Payments สามารถขับเคลื่อนการชำระเงินออนไลน์และที่จุดขายได้ หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้