ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภคในญี่ปุ่น

Tax
Tax

Stripe Tax จะทำให้การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีทั่วโลกเป็นไปโดยอัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้คุณไปมุ่งเน้นกับการขยายธุรกิจ โดยจะระบุภาระหน้าที่ทางภาษีของคุณ จัดการการจดทะเบียน คำนวณและเรียกเก็บภาษีด้วยจำนวนที่ถูกต้องทั่วโลก และช่วยในการยื่นภาษี ทั้งหมดนี้ทำได้ในที่เดียว

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ความแตกต่างระหว่างปลอดภาษี ไม่ต้องเสียภาษี และได้รับยกเว้นภาษี
    1. ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) คืออะไร
    2. ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) คืออะไร
    3. ธุรกรรมที่ได้รับการยกเว้นภาษี (menzei) คืออะไร
  3. เหตุใดจึงต้องแยกแยะธุรกรรมประเภทเหล่านี้
  4. คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค
    1. ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) กับธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) แตกต่างกันอย่างไร
    2. จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณสับสนระหว่างธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) และธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei)
    3. ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นภาษี
  5. ทําความเข้าใจเกี่ยวกับหมวดหมู่ภาษีและขั้นตอนการทําบัญชีที่เกี่ยวข้อง

โดยทั่วไปธุรกรรมสินค้าและบริการที่ดําเนินการในญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีการบริโภค เมื่อลูกค้าซื้อสินค้า ลูกค้าจะต้องชําระยอดรวมให้กับธุรกิจซึ่งรวมภาษีการบริโภคด้วย (เช่น ที่ร้านค้าจริงหรือห้างอีคอมเมิร์ซ) จากนั้นเจ้าของธุรกิจจะจ่ายภาษีการบริโภคที่เรียกเก็บส่งให้กับรัฐบาลในนามของลูกค้า

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ แม้ว่าภาษีการบริโภคจะเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากลูกค้า แต่เจ้าของธุรกิจต้องรับผิดชอบการชําระภาษีที่เรียกเก็บให้กับรัฐบาล เจ้าของธุรกิจที่มีภาระหน้าที่ในการเสียภาษีเรียกว่าเจ้าของธุรกิจที่ต้องเสียภาษี

อย่างไรก็ตาม ก็มีธุรกรรมบางอย่างที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค ในญี่ปุ่น ธุรกรรมเหล่านี้แบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ ได้แก่ ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) และธุรกรรมที่ได้รับยกเว้นภาษี (menzei) ในบทความนี้เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างธุรกรรมประเภทเหล่านี้ ความหมายของแต่ละคํา และทําไมจึงจําเป็นต้องแยกแยะความแตกต่รางระหว่างธุรกรรมเหล่านี้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • ความแตกต่างระหว่างปลอดภาษี ไม่ต้องเสียภาษี และได้รับยกเว้นภาษี
  • เหตุใดจึงต้องแยกแยะธุรกรรมประเภทเหล่านี้
  • คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค
  • ทําความเข้าใจเกี่ยวกับหมวดหมู่ภาษีและขั้นตอนการบัญชีที่ต้องใช้

ความแตกต่างระหว่างปลอดภาษี ไม่ต้องเสียภาษี และได้รับยกเว้นภาษี

ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ปกติแล้วภาษีการบริโภคจะเรียกเก็บกับผลิตภัณฑ์และบริการส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น แต่ก็มีธุรกรรมบางอย่างที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค

มีธุรกรรมหลักๆ 3 ประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค ได้แก่ ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) แบบไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) และแบบได้รับยกเว้นภาษี (menzei)

ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) คืออะไร

ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) มีดังนี้

  • ธุรกรรมที่เกิดขึ้นนอกประเทศญี่ปุ่น
  • ธุรกรรมที่ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
  • ธุรกรรมที่ดําเนินการโดยไม่มีค่าตอบแทน
  • ธุรกรรมที่ไม่ใช่การโอน การให้กู้ยืม หรือการให้บริการตามคําจํากัดความของหน่วยงานภาษีแห่งชาติ (NTA) ของญี่ปุ่น

เนื่องจากธุรกรรมเหล่านี้ไม่เป็นไปตามข้อกําหนดในการเก็บภาษี จึงไม่มีต้องจ่ายภาษี และไม่ต้องเก็บภาษีการบริโภค ตัวอย่างหนึ่งของธุรกรรมแบบปลอดภาษีคือการบริจาค การบริจาคคือธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภคเพราะเป็นการให้โดยไม่คาดหวังว่าจะสิ่งตอบแทน กล่าวคือ ไม่มีใครร้องขอค่าตอบแทน

NTA ได้ระบุตัวอย่างธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีไว้ ประกอบด้วยธุรกรรมไปนี้

  • ธุรกรรมต่างประเทศ
  • เงินเดือนและค่าแรง
  • เงินปันผลจากการลงทุน
  • เงินบริจาคและบรรเทาทุกข์
  • ค่าตอบแทนความเสียหาย

ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) คืออะไร

ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) คือธุรกรรมที่เป็นไปตามข้อกําหนดในการเก็บภาษี แต่ไม่มีการเก็บภาษี ทั้งนี้เนื่องจาก NTA ถือว่าธุรกรรมเหล่านั้นไม่เหมาะสมต่อการเรียกเก็บภาษี หรือเป็นเพราะธูรกรรมเหล่านั้นอยู่ภายใต้ข้อพิจารณาบางประการเกี่ยวกับนโยบายทางสังคม

ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีพบได้บ่อยกว่าเมื่อเทียบกับธุรกรรมประเภทปลอดภาษีและได้รับการยกเว้นภาษี ด้วยเหตุนี้ จึงมีแนวโน้มว่าคุณจะต้องดําเนินการขั้นตอนการทําบัญชีที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่นี้มากว่า บางครั้งอาจตัดสินได้ยากว่าธุรกรรมนั้นเป็นแบบที่ต้องเสียภาษีหรือไม่ต้องเสียภาษี (fukazei) ดังนั้นการความเข้าใจความแตกต่างจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การพิจารณาว่าธุรกรรมใดไม่ต้องเสียภาษีอาจเป็นเรื่องซับซ้อน หากต้องการความช่วยเหลือ โปรดลองอ่านคู่มือธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) ที่จัดทำโดย NTA ตัวอย่างธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี ได้แก่

  • การโอนหรือเงินกู้ซื้อที่ดิน
  • การโอนสแตมป์ไปรษณีย์หรืออากรสแตมป์
  • การโอนหลักทรัพย์และบัตรของขวัญ
  • ค่ารักษาพยาบาลประกันสังคม
  • ค่าใช้จ่ายบริการดูแลพยาบาล
  • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผดุงครรภ์
  • ค่าธรรมเนียมการศึกษาตามที่ระบุไว้ในกฎหมายว่าด้วยการศึกษาในโรงเรียน

ธุรกรรมที่ได้รับการยกเว้นภาษี (menzei) คืออะไร

การยกเว้นภาษี (menzei) จากชื่อ สื่อความหมายว่าลูกค้าไม่ต้องจ่ายภาษี ธุรกรรมหมวดหมู่นี้หมายถึงสินค้าและบริการสําหรับการส่งออกโดยเฉพาะ ซึ่งลูกค้าไม่จําเป็นต้องจ่ายภาษีการบริโภคในการซื้อเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ไม่มีถิ่นที่อยู่ในญี่ปุ่น เช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นจากต่างประเทศมีสิทธิ์ซื้อสินค้าและบริการที่ได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากการยกเว้นภาษีมีผลกับสินค้าและบริการที่บริโภคนอกญี่ปุ่นเท่านั้น บุคคลทั่วไปที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นจึงไม่มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นนี้

จึงควรทำความเข้าใจว่าธุรกรรมแบบปลอดภาษีจะใข้กับธุรกรรมส่งออกและธุรกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ใช้ในญี่ปุ่นเท่านั้น ตัวอย่างธุรกรรมที่ได้รับยกเว้นภาษี ได้แก่

เหตุใดจึงต้องแยกแยะธุรกรรมประเภทเหล่านี้

ธุรกรรมประเภทเหล่านี้ไม่มีการเรียกเก็บภาษีการบริโภค ดังนั้นคุณอาจสงสัยว่าเหตุใดจึงจําเป็นต้องแยกความแตกต่างระหว่างธุรกรรมเหล่านี้

จําเป็นต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่างประเภทธุรกรรมเหล่านี้ เนื่องจากการจำแนกประเภทช่วยให้คำนวณอัตราส่วนการขายที่ต้องเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง (กล่าวคือ การคำนวนเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมที่ต้องเสียภาษี) ขั้นตอนการจำแนกประเภทอาจซับซ้อน และยอดภาษีการบริโภคที่ชําระอาจไม่ถูกต้องหากคุณคํานวณภาษีไม่ถูกต้อง โปรดระมัดระวังการทำบัญชีขณะที่บันทึกว่าธุรกรรมนั้นๆ ต้องเสียภาษีการบริโภคหรือไม่เพื่อเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการยื่นภาษี

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค

ธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) กับธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) แตกต่างกันอย่างไร

แม้ว่าธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) และธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) ผิวเผินแล้วอาจดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างมากในแง่ที่ว่าธุรกรรมเข้าข้อกำหนดการเสียภาษีการบริโภคหรือไม่

ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ธุรกรรมแบบปลอดภาษีคือธุรกรรมที่ไม่เข้าข้อกําหนดที่จะต้องเสียภาษีการบริโภคตั้งแต่แรก ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีคือธุรกรรมที่เข้าข้อกําหนดสําหรับการเก็บภาษี แต่หน่วยงานด้านภาษีตั้งใจไม่เรียกเก็บภาษีด้วยเหตุผลบางประการ ซึ่งรวมถึงเหตุผลด้านนโยบายทางสังคม หรือเพราะลักษณะของธุรกรรมดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสมสําหรับการเก็บภาษีการบริโภค

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณสับสนระหว่างธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei) และธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei)

หากคุณจำแนกประเภทธุรกรรมผิด อาจทําให้เกิดปัญหากับการยื่นภาษีได้ สาเหตุเป็นเพราะวิธีการคำนวณสัดส่วนยอดขายที่ต้องเสียภาษี

ในอัตราส่วนยอดขายที่ต้องเสียภาษี ตัวส่วนคือยอดขายรวม (ซึ่งได้แก่ผลรวมของธุรกรรมที่ต้องเสียภาษี ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี (hikazei) และธุรกรรมที่ได้รับการยกเว้นภาษี (menzei)) และตัวเศษคือยอดขายที่ต้องเสียภาษี (ยอดรวมของธุรกรรมที่ต้องเสียภาษีและธุรกรรมแบบปลอดภาษี (fukazei)) ตามที่ระบุโดย NTA ธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีจะรวมอยู่ในตัวส่วนด้วยเมื่อคำนวณอัตราส่วนการขายที่ต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมแบบปลอดภาษีไม่ต้องเสียภาษีการบริโภคอยู่แล้ว ดังนั้นจะนำไปรวมไว้ในตัวเศษหรือตัวส่วนในสูตรการคํานวณ

หากคุณจัดการความแตกต่างระหว่างธุรกรรม 2 ประเภทนี้ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ได้ยอดเครดิตภาษีซื้อที่ผิดพลาดซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนภาษีการบริโภคที่ชำระ

คุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ในภายหลัง แต่ก็ต้องพบความยุ่งยากเพิ่มเติมในการยื่นภาษีฉบับแก้ไข และอาจต้องชำระภาษีเพิ่มเติมหรือถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ เจ้าหน้าที่บัญชีควรตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างธุรกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษีและธุรกรรมปลอดภาษีในขณะปฏิบัติหน้าที่

ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นภาษี

ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีคือธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นการรายงานภาษีและการชําระภาษีการบริโภค โดยหลักการแล้ว ได้แก่กิจการแบบเจ้าของคนเดียวที่มียอดขายไม่ถึง 10 ล้านเยน ธุรกิจที่ก่อตั้งใหม่ที่ไม่มีประวัติการขายมักจะอยู่ในหมวดหมู่นี้

โปรดทราบว่าตั้งแต่เริ่มประกาศใช้ระบบใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของญี่ปุ่น ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีมักจะไม่สามารถรับเครดิตภาษีจากธุรกรรมและการซื้อที่ทำกับธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษี ธุรกิจต่างๆ ควรทําความเข้าใจระบบใบแจ้งหนี้ให้มากขึ้นและใช้มาตรการที่เหมาะสมเมื่อทําธุรกรรมแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B)

ทําความเข้าใจเกี่ยวกับหมวดหมู่ภาษีและขั้นตอนการทําบัญชีที่เกี่ยวข้อง

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 ภาษีการบริโภคมาตรฐานในญี่ปุ่นมีอัตรา 10% สําหรับสินค้าและบริการที่ต้องเสียภาษี(โดยใช้อัตราภาษีการบริโภคในอัตราลดที่ 8%สําหรับผลิตภัณฑ์บางรายการ)

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ไม่คิดภาษีการบริโภค เช่น ธุรกรรม 3 ประเภทที่อธิบายในบทความนี้ ธุรกรรมเหล่านี้ได้รับการยกเว้นภาษีการบริโภค โดยมีเหตุผลในการยกเว้นแตกต่างกัน

คุณจําเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างธุรกรรมที่ต้องเสียภาษีการบริโภคกับธุรกรรมอื่นที่ไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากจะมีผลต่อการจัดเตรียมบันทึกทางบัญชีที่เหมาะสม การออกใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จ รวมถึงการยื่นแบบแสดงรายการภาษีในอนาคต

Stripe ได้พัฒนาStripe Tax ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชันการคํานวณภาษีการบริโภคอัตโนมัติที่ปรับแต่งได้ โดยสามารถกําหนดและคำนวณอัตราภาษี 8% หรือ 10% ที่แตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์ได้ และเนื่องจากการประมวลผลภาษีการบริโภคสำหรับธูรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทุกรายการเป็นระบบรวมศูนย์ จึงสามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการปฏิบัติงานหลังบ้านได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Tax

Tax

ช่วยให้คุณทราบพื้นที่ที่ต้องจดทะเบียน เรียกเก็บภาษีในจำนวนที่ถูกต้องได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนเข้าถึงรายงานที่ใช้สำหรับยื่นเงินคืนภาษี

Stripe Docs เกี่ยวกับ Tax

เรียกเก็บภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ GST รวมทั้งสร้างรายงานธุรกรรมทั้งหมดของคุณแบบอัตโนมัติ พร้อมเชื่อมต่อระบบโดยเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องเขียนโค้ดเลย