ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีมีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีการบริโภค การขายเป็นเงื่อนไขหลักที่ทำให้ธุรกิจต้องเสียภาษี แต่ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีเลือกที่จะเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษ๊โดยสมัครใจได้ เมื่อธุรกิจที่ต้องเสียภาษียื่นและจ่ายภาษีการบริโภค ธุรกิจจะจ่ายยอดภาษีที่หักออกจากยอดภาษีที่เรียกเก็บจากการซื้อ

บทความนี้ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจที่ต้องเสียภาษี โดยอธิบายเงื่อนไขสําหรับธุรกิจที่ต้องเสียภาษีและธุรกรรมที่ต้องเสียภาษี นอกจากนี้ เราจะอธิบายรายการที่เกี่ยวข้องในรายงานภาษีสำหรับ Election of Consumption Taxpayer ที่ธุรกิจที่ยกเว้นภาษีส่งเมื่อเข้าเป็นธุรกิจที่เสียภาษีโดยสมัครใจ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีเพื่อจุดประสงค์ทางภาษีการบริโภคคืออะไร
  
• ข้อกําหนดสําหรับธุรกิจที่ต้องเสียภาษีมีอะไรบ้าง
  
• ธุรกรรมที่ต้องเสียภาษีเพื่อจุดประสงค์ทางภาษีการบริโภคคืออะไร
  
• การจ่ายและการแสดงรายการภาษีการบริโภค
  
• หมายเหตุเกี่ยวกับรายงานภาษีสำหรับ Election of Consumption Taxpayer
  

ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีเพื่อจุดประสงค์ทางภาษีการบริโภคคืออะไร

ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีการบริโภคต้องรับผิดต่อภาษีการบริโภค ซึ่งเป็นภาษีในการซื้อสินค้าและบริการที่ลูกค้าชําระ

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าไม่ได้จ่ายภาษีการบริโภคให้กับรัฐบาลโดยตรง แต่จะจ่ายให้ธุรกิจ โดยเพิ่มจากราคาสินค้าที่ซื้อ จากนั้นธุรกิจที่ได้รับภาษีการบริโภคจะต้องชําระส่วนต่างให้กับสํานักงานภาษีที่เกี่ยวข้องหลังจากหักยอดภาระภาษีการบริโภคที่ตนจ่ายให้กับต้นทางการซื้อแล้ว (การหักนี้คือเครดิตภาษีการซื้อ)

ดังนั้นภาษีการบริโภคจึงเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า ไม่ใช่ธุรกิจ และธุรกิจก็ชําระเงินโดยอ้อมในนามของลูกค้า

ในทางกลับกัน ธุรกิจที่ยกเว้นภาษีจะไม่จ่ายภาษีการบริโภค

จนถึงตอนนี้ ลูกค้าจะไม่มีทางรู้เลยว่าร้านค้าที่จําหน่ายสินค้าหรือบริการต้องเสียภาษีหรือได้รับการยกเว้นภาษี อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามข้อกําหนดของใบแจ้งหนี้หรือใบแจ้งหนี้อย่างง่ายตามที่ระบุไว้ในการรายงานใบแจ้งหนี้ ธุรกิจจะต้องทําเครื่องหมายใบเสร็จด้วยหมายเลขจดทะเบียนระบบใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ดังนั้นลูกค้าทั่วไปจึงมีโอกาสมากขึ้นที่จะดูเอกสารดังกล่าว และสามารถตัดสินได้ว่าธุรกิจนั้นต้องเสียภาษีหรือไม่ โดยดูจากหมายเลขจดทะเบียน โปรดทราบว่ามีเพียงธุรกิจที่ต้องเสียภาษี (ธุรกิจที่มีการออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่จดทะเบียนในระบบใบแจ้งหนี้) เท่านั้นที่จะออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ได้

ข้อกําหนดสําหรับธุรกิจที่ต้องเสียภาษีมีอะไรบ้าง

ธุรกิจจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขหลายข้อจึงจะต้องเสียภาษี หากธุรกิจตรงตามเงื่อนไขใดๆ เหล่านี้ จะต้องเสียภาษีและต้องจ่ายภาษีการบริโภค

ยอดขายที่ต้องเสียภาษีสําหรับ 2 ปีก่อนหน้า (หรือ 2 ปีงบประมาณก่อนหน้า) เกิน 10 ล้านเยน

หากต้องการพิจารณาว่าธุรกิจต้องเสียภาษีหรือได้รับการยกเว้นภาษี จุดสําคัญคือยอดขายที่ต้องเสียภาษีของธุรกิจสําหรับสองปีที่แล้วสําหรับกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวหรือบริษัทต้องเกิน 10 เยนล้านสําหรับ 2 ปีงบประมาณก่อนหน้านั้น ซึ่งจะทําให้ธุรกิจต้องเสียภาษีในปีถัดไป (หรือปีงบประมาณถัดไป ในกรณีของบริษัท)

ตัวอย่าง: ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษี รวมถึงกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว ซึ่งมียอดขายที่ต้องเสียภาษี 8 ล้านเยนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2023 และ 11 ล้านเยนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 31 ธันวาคม 2024 จะได้รับการยกเว้นภาษีในปี 2025 แต่จะต้องเสียภาษีในปี 2026

ยอดขายที่ต้องเสียภาษีสําหรับครึ่งแรกของปีก่อนหน้าเกิน 10 ล้านเยน (กิจการที่มีเจ้าของคนเดียว)

หากยอดขายหรือค่าแรงที่ต้องเสียภาษีของกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวเกิน 10 ล้านเยนในครึ่งแรกของระยะเวลาที่กําหนด (1 มกราคมถึง 30 มิถุนายน) เจ้าของกิจการจะต้องเสียภาษีในปีถัดมา ธุรกิจที่ตรงตามเงื่อนไขเหล่านี้ต้องรับผิดต่อภาษีการบริโภค ไม่ว่ายอดขายที่ต้องเสียภาษีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเป็นไปตามที่อธิบายไว้หรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายที่ต้องเสียภาษีในช่วงเวลาที่ระบุจะเกิน 10 ล้านเยน แต่หากยอดรวมของเงินเดือนและการชําระเงินอื่นๆ ไม่เกิน 10 ล้านเยน ธุรกิจจะได้รับการยกเว้นภาษีตามจํานวนเงินเดือนและการชําระเงินอื่นๆ

ยอดขายที่ต้องเสียภาษีสําหรับ 6 เดือนแรกของปีก่อนหน้าเกิน 10 ล้านเยน (บริษัท)

บริษัทต้องเสียภาษีหากยอดขายหรือเงินเดือนที่ต้องเสียภาษีที่จ่ายไปเกิน 10 ล้านเยนในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณก่อนหน้า โปรดทราบว่าในกรณีนี้ เช่นเดียวกับเงื่อนไขของกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว ธุรกิจจะกลายเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีไม่ว่ายอดขายที่ต้องเสียภาษีในช่วงสองปีงบประมาณที่ผ่านมาจะเป็นเท่าไรก็ตาม

เช่นเดียวกับกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว แม้ว่ายอดขายในช่วงที่กำหนดจะเกิน 10 ล้านเยน แต่ธุรกิจจะได้รับการยกเว้นภาษีตามจํานวนเงินเดือนและการชําระเงินอื่นๆ หากยอดเงินเดือนและการชําระเงินอื่นๆ รวมกันไม่เกิน 10 ล้านเยน

นอกเหนือจากเงื่อนไขข้างต้นที่เกี่ยวข้องกับยอดขายและเงินเดือน ฯลฯ ซึ่งจ่ายในช่วงเวลาหนึ่งๆ แล้ว กรณีต่อไปนี้ยังทำให้ธุรกิจกลายเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีด้วย

บริษัทที่ก่อตั้งใหม่ซึ่งมีเงินทุน 10 ล้านเยนขึ้นไป

ตามหลักการแล้ว บริษัทที่ก่อตั้งใหม่ด้วยเงินทุนไม่ถึง 10 ล้านเยนจะได้รับการยกเว้นภาษีสําหรับปีงบประมาณแรกและปีที่ 2 แต่หากเงินทุนมากกว่า 10 ล้านเยน บริษัทจะกลายเป็นต้องเสียภาษีตั้งแต่ปีงบประมาณปีแรกที่จัดตั้ง ในทางกลับกัน กิจการที่มีเจ้าของคนเดียวซึ่งไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับเงินทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีสําหรับ 2 ปีแรกหลังจากเปิด เนื่องจากไม่มียอดขายที่จะตรวจสอบว่าต้องเสียภาษีในช่วงเวลาที่เปิดหรือไม่

บริษัทที่ก่อตั้งใหม่ที่ระบุ

บริษัทที่จัดตั้งใหม่ที่ระบุคือบริษัทที่มีบริษัทแม่ ธุรกิจในเครือ หรือบุคคลทั่วไปมีกรรมสิทธิ์ในหุ้นของบริษัทมากกว่า 50% และยอดขายที่ต้องเสียภาษีของเจ้าของเกิน 500 ล้านเยน ในกรณีนี้แม้ว่าเงินทุนของบริษัทที่ก่อตั้งใหม่จะน้อยกว่า 10 ล้านเยน แต่ธุรกิจจะต้องเสียภาษีตั้งแต่ปีแรกของการก่อตั้งและไม่มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษี

ธุรกิจส่งรายงานภาษีสำหรับ Election of Consumption Taxpayer ให้กับสำนักงานภาษี

แม้แต่ธุรกิจที่อยู่ในหมวดหมู่ของธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีก็อาจเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีได้โดยการส่งรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer โดยสมัครใจ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันครบกําหนดส่ง ให้ดูที่ "หมายเหตุเกี่ยวกับรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer"

ธุรกิจที่ยกเว้นภาษีต้องส่งรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer เมื่อสมัครเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่ต้องเสียภาษีโดยสมัครใจ ดังนั้นธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีจึงไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีการบริโภคและยังคงได้รับการยกเว้นภาษีต่อไปได้

จดทะเบียนเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านการออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ระบบใบแจ้งหนี้

นอกจากขั้นตอนรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer แล้ว ยังมีกรณีที่ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น กิจการที่มีเจ้าของคนเดียว ต้องเสียภาษีเพื่อจุดประสงค์ทางภาษีการบริโภคด้วย

หากคุณจดทะเบียนเป็นธุรกิจการออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติ คุณจะเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีแม้ว่าคุณจะไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสําหรับธุรกิจที่ต้องเสียภาษี ซึ่งก็คือกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวซึ่งมียอดขายไม่เกิน 10 ล้านเยน ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่ต้องเสียภาษีโดยไม่รู้ตัว คุณควรทำความเข้าใจระบบใบแจ้งหนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมทั้งพิจารณาขนาดของธุรกิจและกําไร/ขาดทุนของคุณก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่ออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติหรือไม่

หากคุณกลายมาเป็นธุรกิจที่ออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติ ซึ่งเป็นมาตรการเพ่อปฏิบัติตามระบบใบแจ้งหนี้ คุณควรพิจารณาการใช้ระบบที่ช่วยให้คุณออก จัดเก็บ และจัดการเอกสารที่ตรงตามข้อกําหนดสําหรับใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติในระบบเดียว Stripe Invoicing ซึ่งสามารถจัดการความต้องการที่เกี่ยวข้องกับใบแจ้งหนี้และสร้างใบแจ้งหนี้ที่เป็นไปตามระบบใบแจ้งหนี้ จะช่วยปรับแต่งการดําเนินงานหลังบ้านอย่างละเอียด Stripe Tax ซึ่งมีการคํานวณภาษีการบริโภคอัตโนมัติที่คุณปรับแต่งได้ตามความต้องการจะดําเนินการทางภาษีสําหรับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทุกรายการโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ดําเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ธุรกรรมที่ต้องเสียภาษีเพื่อจุดประสงค์ทางภาษีการบริโภคคืออะไร

ธุรกรรมที่ต้องเสียภาษีคือธุรกรรมที่อยู่ภายใต้ภาษีการบริโภค ธุรกรรมจะต้องเสียภาษีหากเป็นไปตามข้อกําหนดเหล่านี้ทั้งหมด

• ธุรกรรมที่ดําเนินการในญี่ปุ่น: ภาษีการบริโภคครอบคลุมธุรกรรมที่ดําเนินการในญี่ปุ่น ดังนั้น ภาษีการบริโภคของญี่ปุ่นจึงไม่มีผลกับธุรกรรมที่ดําเนินการในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาของ "การโอนหรือการกู้ยืมสินทรัพย์" หากสินทรัพย์อยู่ในญี่ปุ่น นั่นจะถือเป็นธุรกรรมภายในประเทศ และในทำนองเดียวกัน หากคุณดําเนินการ "การให้บริการ" ในญี่ปุ่น นั่นจะเป็นธุรกรรมภายในประเทศ

• ธุรกรรมที่ดําเนินการโดยธุรกิจในฐานะธุรกิจ: "ธุรกิจ" หมายถึงกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวและบริษัท และ "ในฐานะธุรกิจ" หมายถึงการดําเนินการธุรกรรมซ้ําๆ อย่างต่อเนื่องและเป็นอิสระ ตัวอย่างเช่น การขายรถหรือบ้านส่วนตัวที่ไม่ใช่ในฐานะธุรกิจ แต่ในฐานะบุคคลเพียงผู้เดียว จะไม่ต้องเสียภาษีการบริโภค

• ธุรกรรมที่ต้องพิจารณา: "ธุรกรรมที่ต้องพิจารณา" รวมถึงการรับชําระเงินค่าขายสินค้า การเช่าสํานักงาน และการรับค่าเช่า และอื่นๆ ดังนั้น คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีการขายจากการบริจาค เงินสนับสนุน หรือบริการที่ได้รับฟรี

• ธุรกรรมที่เป็นการโอนสินทรัพย์ การกู้ยืมสินทรัพย์ หรือการให้บริการ: ตามที่ระบุไว้ใน "การโอนสินทรัพย์ ฯลฯ" โดยสํานักงานภาษีแห่งชาติ (NTA) ธุรกรรมเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ "ธุรกรรมที่ต้องพิจารณา" ข้างต้น และคุณทำธุรกรรมในฐานะธุรกิจโดยคิดค่าธรรมเนียม (เช่น การขายสินค้า การให้ผู้อื่นกู้ยืมสินทรัพย์ และการให้บริการตามความเชี่ยวชาญหรือความสามารถ เช่น นักบัญชีสาธารณะและนักกฎหมายที่ได้รับการรับรอง)

โปรดทราบว่าหากธุรกิจไม่เป็นไปตามข้อกําหนดเหล่านี้ จะไม่มีการคิดภาษีการบริโภค

เอกสารอ้างอิง: บทความ NTA "What transactions are covered?" and "Taxable"

การจ่ายและการแสดงรายการภาษีการบริโภค

สําหรับบริษัทและกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว ให้ส่งแบบแสดงรายการภาษีให้สํานักงานภาษีของเขตอํานาจศาลที่มีการชําระภาษี

สำหรับการชำระภาษี เนื่องจากสํานักงานภาษีไม่ได้ส่งสลิปการชําระเงินให้คุณหลังจากที่คุณส่งแบบแสดงรายการภาษี คุณจึงจําเป็นต้องชําระเงินให้เหมาะสมด้วยตัวเอง

คุณต้องส่งแบบรายงานภาษีการบริโภคและชําระเงินภายใน 2 เดือนนับจากวันหลังจากสิ้นสุดปีงบประมาณ (วันสุดท้ายของเดือนงบประมาณ) ในกรณีของบริษัท ตัวอย่างเช่น หากปีงบประมาณเริ่มต้นในวันที่ 1 เมษายนและสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี วันที่ครบกำหนดชำระเงินก็คือวันที่ 31 พฤษภาคม

สําหรับวันครบกําหนดยื่นภาษีของกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว จะยาวไปถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป (หรือวันจันทร์ถัดไปหากตรงกับวันเสาร์หรือวันอาทิตย์) แต่โปรดทราบว่าวันที่ดังกล่าวไม่ตรงกับวันครบกําหนดยื่นภาษีเงินได้ (15 มีนาคม)

คุณสามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ที่สํานักงานภาษี ทางไปรษณีย์ หรือทาง e-Tax คุณสามารถชําระเงินที่สํานักงานภาษี หรือผ่านวิธีการอื่นๆ เช่น การชําระเงินด้วยบัตรเครดิตและการชําระเงินที่ร้านสะดวกซื้อ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ "ขั้นตอนการชําระเงินสําหรับภาษีแห่งชาติ"

หมายเหตุเกี่ยวกับรายงานภาษีสำหรับ Election of Consumption Taxpayer

ตามที่อธิบายไว้ การที่ธุรกิจต้องเสียภาษีหรือไม่นั้นอิงตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น ยอดขายที่ต้องเสียภาษี หากธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษี ให้ทําการเปลี่ยนแปลงโดยส่งรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีควรทราบก่อนที่จะส่งรายงาน

ต้องส่งรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer เมื่อใด

จากหน้าขั้นตอนรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer ของ NTA ธุรกิจจะต้องส่งรายงานภาษีสําหรับ Election of Consumption Taxpayer ภายในวันก่อนวันแรกของรอบที่ต้องเสียภาษี (วันสุดท้ายของปีงบประมาณ) ที่ต้องการทําการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีปีงบประมาณตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 31 มีนาคม และกลายเป็นบริษัทที่ต้องเสียภาษีตั้งแต่ปีงบประมาณหน้าเป็นต้นไป วันครบกำหนดในการส่งรายงานสำหรับ Election of Consumption Taxpayer คือวันที่ 31 มีนาคมของปีงบประมาณปัจจุบัน สําหรับกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว จะต้องส่งภายในวันที่ 31 ธันวาคมของปีก่อนปีที่ต้องเสียภาษี

ฉันจะกลายเป็นธุรกิจที่ยกเว้นภาษีอีกครั้งได้อย่างไรหลังจากทำตามขั้นตอนการเลือกที่เป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษี

ในกรณีเช่นนี้ โปรดทําตามขั้นตอนรายงานภาษี Nonsuitability for Election of Consumption Taxpayer โปรดทราบว่าหลังจากเลือกที่จะเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีแล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีเป็นเวลา 2 ปีนับจากวันแรกของระยะเวลาที่ต้องเสียภาษี