ในเยอรมนี หากคุณต้องการจดทะเบียนบริษัท คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการเสียก่อน หนึ่งในข้อกำหนดที่สำคัญที่สุดคือการยื่นขอหมายเลขภาษี เนื่องจากผู้ประกอบอาชีพอิสระและบริษัทต่างๆ ไม่สามารถทำธุรกิจในเยอรมนีได้หากไม่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าหมายเลขภาษีคืออะไร ใครบ้างที่จำเป็นต้องใช้ และเหตุใดจึงจำเป็นต่อการทำธุรกิจในแต่ละวัน รวมถึงอธิบายวิธียื่นขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในเยอรมัน เอกสารที่จำเป็น และกำหนดเวลาที่คุณต้องรู้

เนื้อหาหลักในบทความ

• หมายเลขภาษีคืออะไร
  
• ใครบ้างที่ต้องยื่นขอหมายเลขภาษี
  
• ทำไมธุรกิจในเยอรมนีต้องมีหมายเลขภาษี
  
• วิธียื่นขอหมายเลขภาษีสำหรับธุรกิจในเยอรมนี
  
• ธุรกิจต้องใช้เอกสารใดบ้างเพื่อยื่นขอหมายเลขภาษีของเยอรมนี
  
• ธุรกิจในเยอรมนีต้องรู้วันครบกําหนดอะไรบ้าง
  

หมายเลขภาษีคืออะไร

หมายเลขภาษีคือหมายเลขประจำตัวที่กำหนดให้โดยเฉพาะสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ต้องเสียภาษีในประเทศเยอรมนี โดยสำนักงานสรรพากรที่เกี่ยวข้องเป็นผู้กำหนดหมายเลขประจำตัวนี้เพื่อให้สามารถระบุการยื่นภาษีและการชำระภาษีได้อย่างชัดเจน หมายเลขภาษีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัท ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และฟรีแลนซ์ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันทางภาษีได้ตามกฎระเบียบ

ความยาวของหมายเลขภาษีจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรัฐ โดยในหลายรัฐของเยอรมนี หมายเลขภาษีจะเป็นไปตามรูปแบบมาตรฐานที่มี 10-11 หลัก แต่ก็ยังมีรูปแบบระดับชาติที่มี 13 หลัก ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านพอร์ทัล ELSTER

หมายเลขภาษีประกอบด้วยข้อมูลหลากหลายที่ช่วยให้สามารถระบุตัวผู้เสียภาษีได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงหมายเลขสำนักงานภาษีและหมายเลขเขตพื้นที่ ซึ่งแสดงถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ภายในสำนักงานภาษี นอกจากนี้ หมายเลขดังกล่าวยังประกอบด้วยหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีส่วนบุคคล และรหัสยืนยันสำหรับตรวจสอบหมายเลขทั้งหมดด้วย

คุณสามารถดูแผนภูมิสำหรับการแปลงหมายเลขภาษีของคุณเป็นรูปแบบระดับชาติได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลาง (Bundeszentralamt für Steuer หรือ BZSt)

หมายเลขภาษี กับ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

สำหรับในเยอรมนี หมายเลขภาษีและหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Tax ID) นั้นไม่เหมือนกัน โดยพลเมืองเยอรมนีทุกคนจะได้รับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจาก BZSt ตั้งแต่เกิด ซึ่งหมายเลขประจำตัวนี้จะมีอายุการใช้งานตลอดชีวิต และจะยังคงเป็นหมายเลขเดิมเมื่อเปลี่ยนชื่อหรือที่อยู่

หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีใช้เพื่อระบุตัวตนของพลเมืองในระบบภาษีอย่างชัดเจน โดยจำเป็นต้องใช้เมื่อติดต่อกับกรมสรรพากร เปิดบัญชีธนาคาร รายงานต่อบริษัทประกันภัย หรือสมัครขอรับสวัสดิการดูแลเด็ก นอกจากนี้ นายจ้างยังใช้หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อชำระภาษีเงินได้ในจำนวนที่ถูกต้องให้กับกรมสรรพากรอีกด้วย

ถึงแม้หมายเลขภาษีจะระบุเฉพาะผู้เสียภาษีที่ทำหน้าที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ แต่หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจะระบุเฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น

ใครบ้างที่ต้องยื่นขอหมายเลขภาษี

รูปแบบธุรกิจต่อไปนี้ในประเทศเยอรมนีจะต้องยื่นขอหมายเลขภาษี

• เจ้าของกิจการรายเดียว รวมถึงผู้เชี่ยวชาญอิสระ ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ค้าที่จดทะเบียน

• ห้างหุ้นส่วน เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญ (OHG) และห้างหุ้นส่วนจำกัด (KG)

• บริษัท เช่น บริษัทจำกัด (GmbH) และบริษัทมหาชน (AG)

• บริษัทต่างชาติที่มีสถานที่ประกอบธุรกิจหรือกิจกรรมที่ต้องเสียภาษีในประเทศเยอรมนี

ทำไมธุรกิจในเยอรมนีต้องมีหมายเลขภาษี

หมายเลขภาษีเป็นสิ่งสําคัญในการดำเนินธุรกิจแต่ละวันของบริษัท เนื่องจากจําเป็นต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางภาษีดังต่อไปนี้

• แบบแสดงรายการภาษี: จำเป็นต้องมีหมายเลขภาษีเมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษี โดยหมายเลขนี้ใช้กับแบบแสดงรายการภาษีที่ยื่นโดยบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการอิสระ รวมถึงแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลและแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เบื้องต้นที่ยื่นโดยนิติบุคคล

• การชำระเงินให้กับกรมสรรพากร: สำหรับการชำระภาษีทุกครั้ง เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีการค้า หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทต่างๆ จะต้องระบุหมายเลขภาษีเพื่อให้สามารถบันทึกการชำระเงินได้อย่างถูกต้อง

• การติดต่อกับกรมสรรพากร: จดหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ส่งถึงกรมสรรพากร ไม่ว่าจะเป็นการสอบถาม การตอบ หรือคัดค้าน จะต้องระบุหมายเลขภาษี ซึ่งจะทำให้กรมสรรพากรสามารถออกหนังสือให้กับธุรกิจได้อย่างถูกต้อง

• ใบแจ้งหนี้: บริษัทต่างๆ จะต้องระบุหมายเลขภาษีในใบแจ้งหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

Stripe Invoicing ช่วยให้คุณออกใบแจ้งหนี้ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถสร้างและส่งใบแจ้งหนี้ได้แบบอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยลดข้อผิดพลาดในการคำนวณอัตราภาษีและจำนวนเงินในใบแจ้งหนี้ และคุณจะมีทุกข้อมูลที่จำเป็น เช่น หมายเลขภาษี จะถูกรวมไว้อย่างถูกต้อง

วิธียื่นขอหมายเลขภาษีสำหรับธุรกิจในเยอรมนี

หากคุณต้องการหมายเลขภาษีในเยอรมนี คุณต้องส่งแบบสอบถามการจดทะเบียนภาษีไปให้กับกรมสรรพากร แบบสอบถามนี้ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญที่สุดของบริษัทคุณ และเป็นพื้นฐานของการจดทะเบียนภาษี โดยมีขั้นตอนในการส่งแบบสอบถามดังนี้

รับหรือขอแบบสอบถาม

หากคุณเริ่มต้นธุรกิจในเยอรมนี คุณอาจได้รับแบบสอบถามการจดทะเบียนภาษีโดยอัตโนมัติ หรือคุณต้องขอเอง ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณจดทะเบียนธุรกิจหรือลงทะเบียนบริษัทในทะเบียนพาณิชย์ คุณไม่จำเป็นต้องขอ ในกรณีนี้ สำนักงานสรรพากรจะส่งแบบสอบถามให้คุณโดยอัตโนมัติ

ในทางกลับกัน ผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องขอแบบฟอร์มนี้จากกรมสรรพากร ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทางโทรศัพท์หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มผ่านกระทรวงการคลังของรัฐบาลกลาง (Bundesministerium der Finanzen หรือ BMF) หรือกรอกแบบสอบถามออนไลน์ผ่าน ELSTER

ขั้นตอนการยื่นขอหมายเลขภาษี

ลงทะเบียนกับ ELSTER

หากต้องการยื่นขอหมายเลขภาษีในเยอรมนี คุณต้องลงทะเบียนกับ ELSTER ก่อน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการกรอกแบบสอบถามการลงทะเบียนภาษี สำหรับการสร้างบัญชี ELSTER คุณสามารถใช้ไฟล์ใบรับรอง, บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมอุปกรณ์อ่านและแอปพลิเคชันระบุตัวตน, Security Stick หรือบัตรลายเซ็นได้

เลือกแบบสอบถามการจดทะเบียนภาษี

หลังจากลงทะเบียนกับ ELSTER แล้ว ให้ค้นหาแบบสอบถามการจดทะเบียนภาษีที่ศูนย์แบบฟอร์ม โดยตรงนี้ คุณต้องเลือกแบบสอบถามที่เหมาะสมตามรูปแบบการจัดตั้งทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งมีแบบฟอร์มพิเศษสำหรับนิติบุคคลส่วนบุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท และบริษัทต่างชาติที่ต้องเสียภาษีในเยอรมนี คุณจะต้องตรวจสอบว่าคุณเลือกแบบฟอร์มที่ถูกต้อง เนื่องจากข้อกำหนดอาจแตกต่างกันไปตามโครงสร้างของบริษัท

ป้อนรายละเอียดบริษัท

ในขั้นตอนถัดไป ให้กรอกแบบสอบถามซึ่งมีหลายส่วน โดยคุณต้องกรอกข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบริษัทของคุณดังต่อไปนี้

• ชื่อบริษัท

• โครงสร้างทางกฎหมาย

• ประเภทกิจกรรมทางธุรกิจ

• วันที่ก่อตั้ง

• ผลกําไรโดยประมาณ

ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

คุณอาจต้องป้อนข้อมูลเพิ่มเติมตามประเภทของบริษัท ตัวอย่างเช่น บริษัทต้องตอบคำถามเกี่ยวกับภาษีนิติบุคคล ภาษีการค้า และผู้ถือหุ้นของบริษัท ในกรณีของกิจการเจ้าของคนเดียว จำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายได้และภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม

ตรวจทานแบบสอบถามและส่ง

เมื่อคุณกรอกข้อมูลในช่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว โปรดตรวจสอบแบบสอบถามอย่างละเอียด โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องและครบถ้วน ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้องอาจทำให้การดำเนินการล่าช้าได้ หากไม่แน่ใจ ให้ใช้ฟีเจอร์ช่วยเหลือของ ELSTER หรือปรึกษาที่ปรึกษาด้านภาษี เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว คุณสามารถส่งแบบสอบถามที่กรอกข้อมูลครบถ้วนได้

รับหมายเลขภาษี

หลังจากประมวลผลใบสมัครและตรวจสอบแบบสอบถามของคุณแล้ว สำนักงานสรรพากรจะส่งหมายเลขภาษีให้คุณ โดยทั่วไปจะส่งทางไปรษณีย์ไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้ โดยระยะเวลาในการดำเนินการจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสำนักงานสรรพากรที่ดำเนินการตรวจสอบและปริมาณเอกสารที่คุณส่งมา ทันทีที่คุณได้รับหมายเลขภาษี คุณสามารถใช้หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาษี เช่น การยื่นแบบแสดงรายการภาษีและการออกใบแจ้งหนี้

ธุรกิจต้องใช้เอกสารใดบ้างเพื่อยื่นขอหมายเลขภาษีของเยอรมนี

สำหรับการยื่นขอหมายเลขภาษีในเยอรมนี คุณต้องมีเอกสารประกอบบางรายการ โดยเอกสารที่จำเป็นจะขึ้นอยู่กับประเภทและการดำเนินงานของบริษัท โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้เอกสารดังต่อไปนี้

• แบบสอบถามการจดทะเบียนภาษี แบบสอบถามที่กรอกครบถ้วนเป็นเอกสารพื้นฐานสำหรับการยื่นขอหมายเลขภาษี

• บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง: คุณต้องมีเอกสารยืนยันตัวตนที่ถูกต้องเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ

• หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี: คุณจำเป็นต้องลงทะเบียนเป็นผู้เสียภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของกิจการรายเดียวและผู้ประกอบอาชีพอิสระ

• การจดทะเบียนธุรกิจ: หากคุณประกอบกิจการ คุณจะต้องส่งการจดทะเบียนธุรกิจที่คุณได้รับจากเทศบาลหรือเมืองที่เกี่ยวข้อง

• ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจและผลประกอบการที่คาดหวัง: ในแบบสอบถามการจดทะเบียนภาษี คุณต้องระบุประเภทของกิจกรรมทางธุรกิจและผลประกอบการที่คาดหวัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการคาดการณ์ผลประกอบการและกำไรสำหรับปีงบประมาณแรกและปีงบประมาณที่สองของคุณมีความสมจริงมากที่สุด จำนวนเงินที่ต่ำหรือสูงเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาในการจัดประเภทภาษีของคุณ

• รายละเอียดธนาคาร: รายละเอียดบัญชีของคุณจำเป็นต่อการขอคืนเงินหรือการหักบัญชีโดยตรง

ธุรกิจในเยอรมนีต้องรู้วันครบกําหนดอะไรบ้าง

มาตรา 138 ของประมวลกฎหมายการคลังเยอรมนี (Abgabenordnung หรือ AO) กำหนดให้คุณต้องกรอกและยื่นแบบฟอร์มจดทะเบียนภาษีภายใน 4 สัปดาห์หลังจากเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์

หากคุณยื่นแบบล่าช้าเกินกำหนด คุณจะต้องเสียค่าปรับสำหรับการยื่นแบบล่าช้าตามมาตรา 240 ของพระราชบัญญัติภาษีอากร (AO) หากการยื่นแบบล่าช้ามาก สำนักงานสรรพากรมีทางเลือกในการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีตามประมาณการของตนเอง โดยทั่วไปแล้ว ประมาณการเหล่านี้ไม่เอื้ออำนวยต่อผู้เสียภาษี เนื่องจากตั้งอยู่บนสมมติฐานที่อาจไม่สอดคล้องกับรายได้ที่แท้จริง การล่าช้าในการจดทะเบียนภาษีอากรมากยิ่งขึ้นอาจส่งผลให้ถูกปรับหรือถูกดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับภาษี