ปัญหากระแสเงินสดมีสาเหตุหลายประการ บางครั้งเป็นผลมาจากการวางแผนที่ไม่ดี และบางครั้งคุณอาจกำลังขยายธุรกิจเร็วกว่าที่วงจรรายรับของคุณจะรองรับได้ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนของ Small Business Administration (SBA) มีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาเหล่านี้ โดยสินเชื่อเหล่านี้เป็นตัวเลือกการจัดหาเงินทุนแบบมีโครงสร้างและยืดหยุ่น ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถบริหารจัดการช่วงรอยต่อของการเติบโตได้

ด้านล่างนี้ เราจะพูดถึงวิธีการทำงานของสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA, ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับสินเชื่อเหล่านี้ และวิธีการสมัครและใช้สินเชื่อเหล่านี้อย่างมีกลยุทธ์

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA คืออะไร
  
• สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA แตกต่างจากการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจประเภทอื่นๆ อย่างไร
  
• ใครบ้างที่มีสิทธิ์ได้รับสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA
  
• วิธีการสมัครสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA
  
• ธุรกิจมักจะใช้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA อย่างไร
  
• ธุรกิจจะสามารถเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA ได้อย่างไร
  

สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA คืออะไร

สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA คือเงินกู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กครอบคลุมค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ เช่น เงินเดือน ค่าเช่า ค่าสินค้าคงคลัง และค่าสาธารณูปโภค

โดยทาง SBA นั้นจะไม่ได้ให้เงินกู้โดยตรง แต่จะรับประกันเงินกู้บางส่วนให้กับธนาคารหรือผู้ให้กู้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ให้กู้และทำให้สามารถเสนอข้อกำหนดที่ดีขึ้นได้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ระยะเวลาการคืนเงินที่ยาวนานขึ้น และวงเงินสินเชื่อที่สูงขึ้น

ต่างจากสินเชื่อสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรืออุปกรณ์ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนช่วยให้ธุรกิจยังคงมีความคล่องตัวด้วยการครอบคลุมค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน สินเชื่อเหล่านี้ไม่ได้กำหนดว่าคุณจะต้องนำเงินไปใช้อย่างไร (ตามเหตุผลอันสมควร) คุณจึงสามารถนำเงินไปใช้เพื่อสิ่งต่อไปนี้ได้:

• การชำระค่าเช่าและค่าแรง

• การเติมสต็อกสินค้าคงคลัง

• ครอบคลุมช่องว่างเงินสดระหว่างช่วงการออกใบแจ้งหนี้และการชำระเงิน

• การให้ทุนสนับสนุนแคมเปญการตลาดหรือการจ้างงานตามฤดูกาล

หากธุรกิจของคุณต้องการเงินทุนเพื่อให้ดำเนินงานต่อไปได้ตลอดวงจรปัจจุบันโดยไม่ต้องลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA นั้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับระดับความยืดหยุ่นหรือโครงสร้างที่คุณต้องการ โปรแกรมสินเชื่อ SBA 7(a) จะประกอบด้วยสินเชื่อ SBA Express สำหรับคำตัดสินผลการสมัครที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และสินเชื่อ Export Working Capital สำหรับธุรกิจที่สร้างยอดขายจากการส่งออก โดยคุณจะได้รับเงินกู้เป็นก้อนและชำระคืนตามระยะเวลา ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและมีระยะเวลาการชำระคืนที่ยาวนานกว่าที่คุณจะได้รับจากผู้ให้กู้ส่วนใหญ่ ในปี 2024 SBA ได้เปิดตัวโปรแกรม 7(a) Working Capital Pilot ซึ่งช่วยให้คุณสามารถกู้ยืมได้สูงสุดถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรูปแบบของวงเงินสินเชื่อที่มีการติดตามตรวจสอบ

สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA แตกต่างจากการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจประเภทอื่นๆ อย่างไร

ตัวเลือกการจัดหาแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาพร้อมกับการแลกเปลี่ยน เช่น ต้นทุนที่สูงขึ้น การเข้าถึงเงินทุนที่ช้ากว่า และมีความเสี่ยงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA ไม่ใช่ทางเลือกที่รวดเร็วที่สุด แต่มีค่าใช้จ่ายไม่แพง ยืดหยุ่น และเข้าถึงได้สำหรับธุรกิจที่ไม่มีคุณสมบัติได้รับสินเชื่อธนาคารแบบดั้งเดิม ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบสินเชื่อเหล่านี้กับการจัดหาเงินทุนรูปแบบอื่น:

ต้นทุน

สินเชื่อ SBA จัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกเงินทุนหมุนเวียนที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในตลาด ด้วยการค้ำประกันจากรัฐบาล ผู้ให้กู้จึงสามารถขยายสินเชื่อได้โดยมีความเสี่ยงน้อยลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยโดยทั่วไปดีกว่าทางเลือกอื่น อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อ SBA 7(a) นั้นจะต้องไม่สามารถเกินอัตราสูงสุดของ SBA ซึ่งอิงตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำหรืออัตราดอกเบี้ยอ้างอิงทางเลือก

สินเชื่อธนาคารแบบดั้งเดิมอาจเสนออัตราดอกเบี้ยที่ใกล้เคียงกัน แต่โดยปกติแล้วจะเสนอให้กับผู้กู้ระดับสูงที่มีเครดิตดีเยี่ยมและมีประวัติยาวนานเท่านั้น ส่วนสินเชื่อออนไลน์และการจ่ายเงินสดล่วงหน้าให้กับผู้ค้ามักจะอนุมัติเร็วกว่ามาก แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า

ข้อกำหนดการคืนเงิน

ข้อกำหนดการคืนเงินสำหรับสินเชื่อ Working Capital Pilot ของ SBA คือสูงสุดห้าปี ซึ่งทำให้การชำระเงินรายเดือนของคุณสามารถบริหารจัดการได้ นั่นเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับผู้ให้กู้เอกชน ซึ่งอาจต้องมีการคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 12-24 เดือน หรือเร็วกว่านั้น

วงเงินสินเชื่อภายใต้ SBA จะคิดดอกเบี้ยเฉพาะจากจำนวนเงินที่มีการเบิกใช้เท่านั้น และสามารถหมุนเวียนใช้ได้คล้ายกับบัตรเครดิต ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับการกู้ยืมของตนได้เมื่อกระแสเงินสดผันผวน ซึ่งเหมาะสำหรับโมเดลแบบตามฤดูกาลหรือตามรอบ

การมีคุณสมบัติ

สินเชื่อเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับธุรกิจที่ไม่สามารถเข้าถึงการจัดหาแหล่งเงินทุนแบบปกติได้ในข้อกำหนดที่สมเหตุสมผล โดยขั้นตอนการประเมินและควบคุมความเสี่ยงนั้นจะเข้มงวด แต่ครอบคลุมมากกว่า ซึ่งมีความหมายดังต่อไปนี้:

• คุณไม่จำเป็นต้องมีเครดิตที่สมบูรณ์แบบ แต่คุณต้องมีความน่าเชื่อถือทางเครดิตและแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการชำระคืนเงินกู้

• คุณยังไม่จำเป็นต้องทำกำไรได้ ตราบใดที่คุณสามารถแสดงแผนที่เป็นรูปธรรมได้ว่าสินเชื่อนี้จะช่วยสนับสนุนการคืนเงินอย่างไร

ในทางตรงกันข้าม ผู้ให้กู้แบบดั้งเดิมมีแนวโน้มที่จะสงวนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนไว้สำหรับผู้กู้ที่มีประวัติเครดิตดีเยี่ยมและมีผลกำไรมาหลายปี หากธุรกิจของคุณอยู่ในช่วงเริ่มต้น เป็นธุรกิจตามฤดูกาล หรือเพิ่งฟื้นตัวจากภาวะซบเซา สินเชื่อ SBA อาจเป็นโอกาสเดียวของคุณที่จะได้รับสินเชื่อที่มีต้นทุนไม่แพง

ความเร็ว

สินเชื่อ SBA จะใช้เวลานาน โดยสินเชื่อ Standard 7(a) อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์นับจากการสมัครไปจนถึงการได้รับเงินทุน ในระหว่างการประเมินและควบคุมความเสี่ยงของผู้ให้กู้ การอนุมัติจาก SBA และการจัดทำเอกสาร ขั้นตอนทั้งหมดอาจใช้เวลาหนึ่งเดือนขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินเชื่อที่มีวงเงินสูงกว่าหรือซับซ้อนกว่า

SBA Express ช่วยเร่งกระบวนการนี้ได้ โดยคำตัดสินผลการสมัครอาจเกิดขึ้นภายใน 36-48 ชั่วโมง แต่สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนคือวงเงินที่ต่ำลง (500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และแม้จะได้รับอนุมัติแล้ว การเบิกจ่ายเงินก็ยังต้องใช้เวลาเพิ่มเติมอีก หากความต้องการของคุณมีความเร่งด่วน สินเชื่อ SBA อาจไม่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วเพียงพอ

ใครบ้างที่มีสิทธิ์ได้รับสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA

สินเชื่อ SBA ได้รับการออกแบบมาสำหรับธุรกิจที่มีความมั่นคงพอที่จะชำระคืนเงินกู้ได้ แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะขอรับการจัดหาเงินทุนแบบดั้งเดิมด้วยตัวเอง ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้ให้กู้และ SBA กำลังมองหาในผู้ยื่นกู้:

ประเภทและขนาดของธุรกิจ

สินเชื่อ SBA มีไว้สำหรับธุรกิจที่แสวงหาผลกำไรเท่านั้น องค์กรไม่แสวงผลกำไรจะไม่มีสิทธิ์ และคุณจะต้องดำเนินธุรกิจอยู่และจัดตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาหรือดินแดนของสหรัฐอเมริกา

ธุรกิจของคุณจะต้องอยู่ภายใต้คำจำกัดความของ “ธุรกิจขนาดเล็ก” ของ SBA ซึ่งอิงตามรายได้หรือจำนวนพนักงาน และแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม บริษัทด้านการผลิตส่วนใหญ่ที่เป็นบริษัทที่มีพนักงาน 500 คนหรือน้อยกว่านั้นจะเข้าเงื่อนไขคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่นเดียวกับธุรกิจที่ไม่ใช่ด้านการผลิตส่วนใหญ่ที่มีรายรับต่อปีเฉลี่ยต่ำกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การใช้เงินทุน

คุณต้องแสดงให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ทางธุรกิจสำหรับการใช้เงินทุน แต่เงินเหล่านั้นสามารถนำไปใช้ได้อย่างกว้างขวาง โดยการใช้เงินทุนอาจรวมถึงสิ่งต่อไปนี้:

• การครอบคลุมการจ่ายเงินเดือนหรือค่าเช่า

• การซื้อสินค้าคงคลัง

• การครอบคลุมกระแสเงินสดในช่วงเดือนที่ธุรกิจซบเซา

• การเติมเต็มช่องว่างระหว่างรายรับที่ค้างชำระกับค่าใช้จ่าย

• การให้ทุนสนับสนุนงานตามสัญญาจ้างหรือการจ้างงานตามฤดูกาล

ตราบใดที่เงินดังกล่าวจะสนับสนุนธุรกิจหลักของคุณ คุณก็สามารถมีคุณสมบัติได้

ความน่าเชื่อถือทางการเงิน

แม้จะไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำที่ตายตัวในทุกกรณี แต่ผู้ให้กู้ยังคงมองหาเครดิตที่แข็งแกร่งพอที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณจะชำระคืนเงินกู้ได้ คะแนนเครดิตที่ต่ำก็อาจยังเป็นที่ยอมรับได้ หากโปรไฟล์ส่วนที่เหลือของคุณแข็งแกร่งและดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ให้กู้ที่เน้นพันธกิจ

นอกจากนี้ คุณจะต้องแสดงแผนการคืนเงินที่น่าเชื่อถือด้วย หากธุรกิจของคุณมีกำไรอยู่แล้วก็เยี่ยมมาก แต่ถ้ายัง คุณจะต้องยืนยันการคาดการณ์ของคุณด้วยเหตุผลและเอกสารที่แสดงให้เห็นว่าสินเชื่อนี้จะช่วยให้คุณไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร เตรียมพร้อมนำเสนองบการเงิน แบบแสดงรายการภาษี และคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนการดำเนินงานและปัจจัยขับเคลื่อนรายได้ของคุณ

เวลาในการทำธุรกิจ

โปรแกรม 7(a) Working Capital Pilot ของ SBA กำหนดให้ต้องมีการดำเนินงานอย่างน้อย 12 เดือน วงเงินสินเชื่อของ SBA ไม่มีข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง แต่คุณจะต้องเป็นธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่แล้ว

การทดสอบ “เครดิตจากแหล่งอื่น”

นี่เป็นข้อกำหนดเฉพาะของ SBA ที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือคุณต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคุณไม่สามารถรับการหาเงินทุนที่คล้ายกันที่มีข้อกำหนดที่สมเหตุสมผลจากที่อื่นได้ หากผู้ให้กู้เชื่อว่าธุรกิจของคุณไม่เป็นไปตามเกณฑ์การกู้ยืมแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีระยะเวลาในการทำธุรกิจไม่นาน มีหลักประกันไม่เพียงพอ หรือมีกระแสเงินสดที่ไม่สม่ำเสมอ นั่นมักจะเพียงพอต่อการผ่านการทดสอบนี้

เงินกู้ SBA มีจุดประสงค์เพื่อเติมเต็มช่องว่างเมื่อการจัดหาเงินทุนแบบดั้งเดิมไม่ใช่ตัวเลือกที่สามารถใช้ได้ ไม่ใช่เพื่อมาแทนที่สินเชื่อที่คุณสามารถขอได้ง่ายๆ โดยไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล

ข้อกำหนดอื่นๆ

คุณจะต้องมีสถานะที่ดีกับรัฐบาล โดยไม่มีหนี้สินรัฐบาลกลางที่ผิดนัดชำระหรือภาษีค้างจ่าย โปรดเตรียมพร้อมที่จะส่งแผนธุรกิจ คำอธิบายว่าคุณจะใช้เงินทุนอย่างไร และการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลสำหรับผู้ค้ำประกันทุกคน

วิธีการสมัครสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA

การสมัครขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนของ SBA นั้นมีเอกสารค่อนข้างมาก แต่ข้อกำหนดต่าง ๆ สามารถคาดเดาได้ ต่อไปนี้คือคำแนะนำแบบทีละขั้นตอนสำหรับขั้นตอนนี้:

เลือกประเภทสินเชื่อ SBA ที่เหมาะสม

ก่อนสมัคร ให้คุณเลือกตัวเลือกสินเชื่อ SBA ที่ตรงกับความต้องการด้านเงินทุนหมุนเวียนของคุณ:

• สินเชื่อ Standard 7(a) เหมาะที่สุดสำหรับการจัดหาเงินทุนแบบครั้งเดียวที่ยืดหยุ่น คุณสามารถกู้ยืมได้สูงถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสามารถใช้เงินนั้นได้กับเกือบทุกวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ

• สินเชื่อ SBA Express เป็นสินเชื่อ 7(a) เวอร์ชันที่รวดเร็วกว่า โดยมีวงเงินกู้ที่น้อยกว่า (สูงสุดถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) คำตัดสินผลการสมัครมักเกิดขึ้นภายใน 36 ชั่วโมง ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการเงินอย่างรวดเร็วและสามารถทำงานได้ด้วยวงเงินที่ต่ำลง

• สินเชื่อ Export Working Capital มีไว้สำหรับธุรกิจที่ต้องการเงินทุนเพื่อสนับสนุนยอดขายจากการส่งออกโดยเฉพาะ คุณสามารถกู้ยืมได้สูงสุดถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีข้อกำหนดการคืนเงินไม่เกิน 36 เดือน

• โปรแกรม Working Capital Pilot เสนอวงเงินสินเชื่อแบบหมุนเวียน (สูงสุดถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ภายใต้กรอบของสินเชื่อ 7(a) สินเชื่อเหล่านี้คือวงเงินที่มีติดตามตรวจสอบที่ช่วยให้คุณสามารถเบิกใช้เงินได้ตามต้องการ จ่ายดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่คุณใช้เท่านั้น และสนับสนุนได้ทั้งเงินทุนหมุนเวียนในประเทศและเงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก

• โปรแกรม CAPLines ของ SBA เสนอวงเงินสินเชื่อสำหรับเงินทุนหมุนเวียนแบบระยะสั้นและแบบตามรอบ โดยมี CAPLines สำหรับความผันผวนตามฤดูกาล งานตามสัญญาจ้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง

จัดเตรียมเอกสารของคุณให้เรียบร้อย

ผู้ให้กู้ SBA ต้องการข้อมูลที่ครอบคลุมและละเอียดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและการดำเนินธุรกิจของคุณ ซึ่งหมายถึงการรวบรวมเอกสารต่อไปนี้:

• ข้อมูลทางการเงินของธุรกิจ: งบกำไรขาดทุน งบดุล และงบกระแสเงินสดล่าสุด

• แบบแสดงรายการภาษี: แบบแสดงรายการภาษีของธุรกิจและแบบแสดงรายการภาษีส่วนบุคคลของคุณ เพื่อยืนยันรายได้ของคุณและช่วยให้ผู้ให้กู้ประเมินความสามารถในการชำระคืนของคุณ

• รายการเดินบัญชีธนาคาร: กิจกรรมบัญชีธนาคารของคุณ รายการเดินบัญชีธนาคารจะถูกใช้วัดแนวโน้มกระแสเงินสดและยอดคงเหลือในบัญชี

• ตารางหนี้สิน: รายการหนี้สินธุรกิจปัจจุบันของคุณ พร้อมยอดคงค้างและการชำระเงินรายเดือน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งหากคุณกำลังรีไฟแนนซ์

• เอกสารจัดตั้งธุรกิจ: เอกสารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือกิจการของคุณ, ข้อตกลงในการดำเนินงานหรือข้อบังคับ, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และหมายเลขประจำตัวนายจ้าง (EIN)

• แผนธุรกิจหรือข้อมูลสรุปการจัดหาเงินทุน: ภาพรวมคร่าวๆ เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ วิธีการใช้เงินกู้ และวิธีที่เงินกู้นี้มีส่วนช่วยในการคืนเงิน ไม่ใช่ผู้ให้กู้ทุกรายที่จะต้องการแผนที่เป็นทางการ แต่ส่วนใหญ่ต้องการเห็นเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการกู้ยืม

• ข้อมูลประวัติโดยย่อของเจ้าของ (หากมีการร้องขอ): บางครั้งอาจต้องมีการยื่นเอกสารเหล่านี้ หากคุณเป็นธุรกิจใหม่หรือธุรกิจที่กำลังเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ โดยให้เน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องและวิธีที่ประสบการณ์เหล่านั้นช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ

เครื่องมืออย่าง Stripe จะช่วยรวบรวมข้อมูลทางการเงินของคุณ โดยคุณสามารถส่งออกรายงานที่เรียบร้อยและชัดเจนเกี่ยวกับรายรับ กิจกรรมของลูกค้า และแนวโน้มการชำระเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้ให้กู้ต้องการเห็นได้

ค้นหาผู้ให้กู้ที่ได้รับการอนุมัติจาก SBA

คุณจะสมัครขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนผ่านผู้ให้กู้ที่ทำงานร่วมกับ SBA ไม่ใช่ผ่าน SBA เอง คุณสามารถค้นหาผู้ให้กู้โดยใช้แหล่งเหล่านี้:

• Lender Match: นี่คือเครื่องมือฟรีบนเว็บไซต์ของ SBA ที่จะที่เชื่อมต่อคุณกับผู้ให้กู้ที่เข้าร่วมโดยอิงตามความต้องการของคุณ

• ธนาคารและสหภาพเครดิต: สถาบันหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะสถาบันระดับภูมิภาคหรือระดับชาติขนาดใหญ่จะมีการเสนอสินเชื่อ SBA

ผู้ให้กู้บางรายมุ่งเน้นไปที่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์มากกว่าสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนหรือให้บริการเฉพาะลูกค้าขนาดใหญ่เท่านั้น อย่ากลัวที่จะเปรียบเทียบหรือสอบถามโดยตรงเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาในการให้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA

ส่งใบสมัครของคุณ

เมื่อคุณเลือกผู้ให้กู้แล้ว ทางผู้ให้กู้จะแนะนำคุณตลอดขั้นตอนการสมัครสินเชื่อ SBA ของพวกเขา โดยให้คาดว่าคุณจะต้องกรอกเอกสารต่อไปนี้:

• แบบฟอร์มข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้ให้กู้

• แบบฟอร์มข้อมูลผู้กู้ (แบบฟอร์ม SBA 1919)

• งบการเงินส่วนบุคคล (แบบฟอร์ม SBA 413)

• แบบแสดงประวัติส่วนบุคคล (แบบฟอร์ม SBA 912) หากจำเป็น

เอกสารที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่สอดคล้องกันอาจทำให้การอนุมัติล่าช้าได้ หากคุณคาดการณ์รายรับ โปรดตรวจสอบว่ารายรับนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มในอดีตและระบุสมมติฐานของคุณให้ชัดเจน

รอการอนุมัติ

หลังจากที่คุณสมัคร ผู้ให้กู้ของคุณจะประเมินและควบคุมความเสี่ยงของสินเชื่อ หากผู้ให้กู้เป็น SBA Preferred Lender พวกเขาสามารถอนุมัติสินเชื่อได้โดยตรง หากไม่ใช่ พวกเขาจะส่งเรื่องสินเชื่อไปยัง SBA เพื่อขอการตัดสินใจเรื่องการค้ำประกัน จากนั้น:

• สินเชื่อ Standard 7(a) มักใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการดำเนินการ

• คำตัดสินผลการสมัครสำหรับสินเชื่อ SBA Express อาจเกิดขึ้นภายใน 36-48 ชั่วโมง แต่การเบิกจ่ายยังคงต้องใช้เวลา

จงเตรียมพร้อมตอบคำถามหรือส่งเอกสารเพิ่มเติมในระหว่างการประเมินและควบคุมความเสี่ยง การตอบอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้ขั้นตอนดำเนินต่อไป

สรุปข้อตกลง

เมื่อได้รับการอนุมัติ คุณจะต้องลงนามในสัญญาเงินกู้ กำหนดแผนการเบิกจ่ายเงิน (เช่น จ่ายเป็นเงินก้อน หรือเบิกใช้แบบหมุนเวียน) และจะได้รับเงินทุนเข้าบัญชีธนาคารของคุณ นอกจากนี้ คุณอาจต้องใช้หลักประกันเพื่อค้ำประกันสินเชื่อ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้

หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องใด ให้ใช้แหล่งข้อมูลฟรีที่มีอยู่ ทาง SBA มีพันธมิตรในพื้นที่ที่สามารถช่วยคุณเตรียมเอกสารขอสินเชื่อได้ ซึ่งรวมถึงที่ปรึกษา SCORE, ศูนย์พัฒนาธุรกิจขนาดเล็ก (SBDCs) และศูนย์ธุรกิจสำหรับผู้หญิง (WBCs)

ธุรกิจมักจะใช้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA อย่างไร

สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับช่วงเวลาที่เงินสดเริ่มฝืดเคือง จังหวะเวลาไม่เอื้ออำนวย หรือการเติบโตไม่สามารถรอได้ นี่คือวิธีที่สินเชื่อเหล่านี้มักถูกนำไปใช้

การเติมเต็มช่องว่างเงินสด

เงินสดนั้นไม่ค่อยเข้ามาตรงตามเวลาที่คุณต้องการ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนสามารถช่วย:

• ตอบสนองความต้องการระยะสั้น เช่น การจ่ายเงินเดือน ค่าเช่า และค่าสาธารณูปโภค

• ซื้อเวลาเมื่อรายรับที่ค้างชำระเข้ามาล่าช้ากว่าค่าใช้จ่าย

• ทำให้วงจรรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอให้ราบรื่นขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาสินเชื่อระยะสั้นที่มีดอกเบี้ยสูง

สำหรับหลายๆ ธุรกิจ การมีวงเงินสินเชื่อสำรองไว้ ไม่ว่าจะเบิกใช้หรือไม่ก็ตาม ก็เพียงพอที่จะช่วยหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ฉุกละหุกในช่วงเดือนที่การเงินเริ่มฝืดเคือง

การจัดหาเงินทุนสำหรับสินค้าคงคลังและต้นทุนด้านอุปทาน

คุณจำเป็นต้องสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากล่วงหน้าก่อนถึงฤดูกาลขายดีหรือเติมสต็อกรายการสินค้าที่ขายออกเร็วเพื่อให้ทันกับความต้องการหรือไม่ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนมักจะครอบคลุมสิ่งเหล่านี้:

• การซื้อสินค้าคงคลังจำนวนมากก่อนถึงช่วงที่มียอดขายสูงสุด

• การหยุดชะงักหรือความล่าช้าของซัพพลายเชนซึ่งต้องมีการซื้อล่วงหน้า

• ส่วนลดการชำระเงินก่อนกำหนดจากผู้ให้บริการ

การเปลี่ยนเงินสดให้เป็นสินค้าที่สามารถขายหรือนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว เป็นการใช้เงินทุน SBA ที่พบบ่อย

การครอบคลุมช่วงฤดูกาลที่ธุรกิจซบเซา

ธุรกิจที่พึ่งพารายรับตามฤดูกาล (เช่น การท่องเที่ยว ค้าปลีก การเกษตร) จะใช้เงินสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพื่อคงความคล่องตัวในช่วงนอกฤดูกาลเอาไว้ โดยสามารถใช้สินเชื่อเหล่านี้เพื่อ:

• จ่ายค่าจ้างพนักงานในช่วงไตรมาสที่ธุรกิจเงียบเหงา

• ครอบคลุมค่าเช่าและค่าใช้จ่ายคงที่

• รักษาความต่อเนื่องจนกว่ารายรับจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

โปรแกรม Working Capital Pilot จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีนี้ โดยจะให้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจที่มีวงจรตามฤดูกาลและธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยสัญญา

การช่วยสนับสนุนการจ่ายเงินเดือนและการจ้างงาน

สินเชื่อระยะสั้นไม่ใช่โซลูชันระยะยาวสำหรับการจ่ายเงินเดือน แต่สามารถช่วยให้:

• จ่ายเงินเดือนพนักงานได้ครบตามกำหนดในช่วงที่ขาดแคลนเงินสด

• เพิ่มการจ้างงานก่อนจะถึงการเติบโตที่คาดการณ์ไว้

• รักษาพนักงานที่สำคัญไว้ในช่วงที่ธุรกิจซบเซาหรืออยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน

เมื่อนำมาใช้อย่างรอบคอบ เงินทุนหมุนเวียนสามารถช่วยให้คุณรักษาจำนวนพนักงานให้คงที่ หรือสร้างพื้นที่ให้ลงทุนในตำแหน่งงานใหม่ๆ ได้

การเปิดตัวโครงการริเริ่มด้านการตลาดและการเติบโต

บางครั้งการขาดแคลนเงินสดก็เกี่ยวกับการคว้าโอกาสในการเติบโต คุณสามารถใช้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA เพื่อ:

• เปิดตัวแคมเปญการตลาด

• จัดหาเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจหรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์

• จ่ายค่าซอฟต์แวร์หรือบริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหรือการมองเห็น

หากสินเชื่อช่วยเพิ่มรายรับได้ตามการคาดการณ์ของคุณ นั่นก็เป็นกรณีการใช้งานที่แข็งแกร่งสำหรับให้ผู้ให้กู้พิจารณา

การสร้างเงินสำรองฉุกเฉิน

ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น อุปกรณ์ชำรุด การชำระเงินล่าช้า และใบเรียกเก็บเงินค่าภาษีที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ธุรกิจต่างๆ ใช้สินเชื่อ SBA เพื่อ:

• สร้างตาข่ายนิรภัยโดยไม่ต้องพึ่งพาบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูง

• แก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยุดการดำเนินงาน

• รักษาเสถียรภาพในช่วงที่เกิดการหยุดชะงักในวงกว้าง (เช่น โควิด-19, วิกฤตการณ์ซัพพลายเชน)

วงเงินสินเชื่อ SBA สามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนรูปแบบหนึ่งของการประกันตนเองได้ หากจำเป็น

การรีไฟแนนซ์หนี้ที่มีดอกเบี้ยแพง

สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนยังสามารถนำไปใช้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เก่าได้เช่นกัน หากการทำเช่นนั้นช่วยปรับปรุงสถานะทางการเงินของคุณได้ โดยคุณอาจ:

• ใช้แทนที่สินเชื่อระยะสั้นที่มีดอกเบี้ยสูงหรือการจ่ายเงินสดล่วงหน้าให้กับผู้ค้า

• รวบรวมหนี้หลายรายการให้เป็นสินเชื่อก้อนเดียวที่บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

• เพิ่มสภาพคล่องให้เงินทุนด้วยการลดการชำระเงินคืนรายเดือน

หากปัจจุบันคุณกำลังจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงสำหรับเงินสดด่วน การรีไฟแนนซ์เป็นสินเชื่อ SBA ระยะยาวสามารถช่วยลดแรงกดดันทางการเงินของคุณได้

ธุรกิจจะสามารถเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน SBA ได้อย่างไร

หากต้องการขอรับสินเชื่อ SBA คุณต้องยื่นหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าธุรกิจของคุณสามารถชำระคืนเงินกู้ได้และจะใช้เงินก้อนดังกล่าวอย่างดี โดยผู้ให้กู้จะมองหาการเตรียมความพร้อม ความโปร่งใส และแผนที่ชัดเจน ต่อไปนี้คือวิธีเพิ่มโอกาสให้การสมัครขอรับสินเชื่อของคุณประสบความสำเร็จ

สร้างโปรไฟล์ทางการเงินของคุณให้ดีเยี่ยม

ผู้ให้กู้ต้องการเห็นคะแนนเครดิตส่วนบุคคลที่ดีสำหรับการขอสินเชื่อ SBA คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถจัดการหนี้สินได้อย่างมีความรับผิดชอบ ให้คุณชำระเงินต้นของยอดคงค้างที่สูง แก้ไขข้อผิดพลาดในรายงานเครดิตของคุณ และหลีกเลี่ยงการสมัครสินเชื่อใหม่ๆ ก่อนที่คุณจะทำการสมัคร

ถัดไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมุดบัญชีของคุณเรียบร้อยและเป็นปัจจุบัน โดยคุณจะต้องมีงบการเงินที่เป็นข้อมูลล่าสุดและถูกต้องที่แสดงแนวโน้มที่เสถียรหรือเป็นบวก

ผู้ให้กู้ต้องการตัวเลขที่พวกเขาสามารถเชื่อถือได้ และเรื่องราวที่พวกเขาสามารถทำความเข้าใจได้ เครื่องมืออย่าง Stripe สามารถช่วยสร้างรายงานที่ชัดเจนและข้อมูลสรุปกิจกรรมทางธุรกิจของคุณแบบเรียลไทม์เป็นเอกสารประกอบได้

สร้างเหตุผลในการขอสินเชื่อที่เฉพาะเจาะจง

ใบสมัครขอรับสินเชื่อแบบกว้างๆ ทั่วไปมักไม่โดดเด่น โดยผู้ให้กู้จะต้องการทราบว่า:

• คุณจะนำเงินไปใช้ทำอะไร

• เหตุใดคุณจึงต้องการเงินตอนนี้

• เงินนี้จะช่วยปรับปรุงกระแสเงินสดหรือเพิ่มรายรับของคุณได้อย่างไร

จงระบุให้ชัดเจน: หากคุณจะจ้างงาน ให้ระบุจำนวนตำแหน่งและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากคุณจะซื้อสินค้าคงคลัง ให้เชื่อมโยงการซื้อนั้นกับยอดขายที่คาดการณ์ไว้ หากคุณจะใช้เงินครอบคลุมค่าใช้จ่ายระยะสั้น ให้แสดงว่าสิ่งนั้นจะนำไปสู่รายได้ในอนาคตได้อย่างไร ยิ่งคุณเจาะจงมากเท่าใด กรณีของคุณก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้นเท่านั้น

จัดระเบียบเอกสารประกอบของคุณอย่างละเอียด

สินเชื่อ SBA ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก ข้อมูลที่ขาดหายไปหรือข้อมูลไม่ถูกต้องเป็นสาเหตุทั่วไปที่ทำให้เกิดความล่าช้า โปรดตรวจสอบว่า:

• ข้อมูลทางการเงินของคุณตรงกับแบบแสดงรายการภาษีของคุณ

• ตารางหนี้สินของคุณเป็นปัจจุบันและถูกต้อง

• ข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลและการเงินของธุรกิจของคุณแยกกันอย่างชัดเจน

• เอกสารประกอบของคุณ (เช่น รายการเดินบัญชีธนาคาร, เอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคล) พร้อมใช้งานทั้งหมด

เอกสารที่ไม่เป็นระเบียบอาจทำให้ผู้ให้กู้มีข้อสงสัยว่าคุณพร้อมสำหรับความผิดชอบที่มีต่อสินเชื่อหรือไม่

เน้นประสบการณ์ของคุณ

แสดงให้เห็นว่าทีมของคุณรู้วิธีดำเนินธุรกิจนี้ ใส่คำอธิบายตัวเองสั้นๆ หรือข้อมูลประวัติโดยย่อของผู้จัดการหรือผู้ก่อตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธุรกิจของคุณอยู่ในช่วงเริ่มต้น หรือกำลังเข้าสู่ตลาดใหม่ อธิบายรายละเอียดว่าคุณรับมือกับความท้าทาย จัดการกับการเติบโต หรือประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมที่คล้ายคลึงกันได้อย่างไร

หากมีช่องว่าง (เช่น คุณมีความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ใช่ด้านการเงิน) ให้แสดงให้เห็นว่าคุณจะจัดการกับช่องว่างเหล่านั้นอย่างไร บางทีคุณอาจได้รับการสนับสนุนจากประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ภายนอก, ที่ปรึกษา หรือบุคคลในคณะกรรมการที่ปรึกษาของคุณ โดยเป้าหมายคือการแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณอยู่ในมือคนที่มีความสามารถ

เสนอหลักประกัน หากทำได้

สินเชื่อ SBA ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกันในทุกกรณี แต่ผู้ให้กู้มักจะขอหลักประกันเสมอ และการเสนอหลักประกันจะช่วยคุณได้ ต่อไปนี้คือสินทรัพย์บางส่วนที่คุณอาจใช้เป็นหลักประกัน:

• อุปกรณ์หรือเครื่องจักร

• สินค้าคงคลังหรือรายรับที่ค้างชำระ

• อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีภาระผูกพัน

หากคุณมีหลักประกันไม่มาก ก็ไม่เป็นไร แต่คุณจะต้องมีความน่าเชื่อถือทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อชดเชยส่วนนั้น

สมัครก่อนที่จะตกอยู่ในวิกฤต

ผู้ให้กู้นิยมปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจที่มีความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ธุรกิจที่อยู่ในช่วงวิกฤตแล้ว อย่ารอจนกว่าคุณเหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์ก่อนถึงกำหนดจ่ายเงินเดือน ให้สมัครสินเชื่อเมื่อธุรกิจของคุณมีสถานะดีพอสำหรับการคืนเงิน และเมื่อข้อมูลทางการเงินล่าสุดของคุณแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เป็นบวก

หากคุณกำลังอยู่ในช่วงที่ธุรกิจซบเซาชั่วคราว ให้แสดงให้เห็นสัญญาณของการฟื้นตัว เช่น อัตรากำไรที่ดีขึ้น การเติบโตของยอดขายที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต หรือลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำ

ทำงานร่วมกับผู้ให้กู้ที่เหมาะสมและขอคำแนะนำ

ผู้ให้กู้ SBA นั้นไม่ได้เหมือนกันทุกราย บางรายมีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่บางรายมุ่งเน้นไปที่เงินทุนหมุนเวียน ดังนั้น ให้มองหาผู้ให้กู้ที่มี:

• ประสบการณ์ด้านสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน

• ความคุ้นเคยกับอุตสาหกรรมและโมเดลธุรกิจของคุณ

• ผู้ติดต่อที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

อย่าลังเลที่จะถามคำถาม ผู้ให้กู้ SBA ที่ดีจะช่วยคุณปรับปรุงใบสมัครและชี้จุดอ่อนก่อนที่จะประเมินและควบคุมความเสี่ยงของสินเชื่อ หากคุณไม่แน่ใจ ให้ปรึกษาแหล่งข้อมูลฟรีของ SBA ซึ่งช่วยให้คุณเตรียมพร้อมได้