รหัส QR กําลังเปลี่ยนแปลงวิธีการชําระเงินของชาวออสเตรเลีย การชําระเงินด้วยรหัส QR เป็นทางเลือกที่มีประโยชน์ที่ใช้ทดแทนวิธีการชําระเงินแบบเดิมๆ ตั้งแต่การชําระเงินที่คาเฟ่ไปจนถึงการชําระเงินที่ร้านค้าปลีกโดยไม่ต้องแตะบัตร ธุรกิจต่างๆ ใช้การชำระเงินแบบนี้เพื่อลดค่าธรรมเนียมธุรกรรม เร่งกระบวนการ และเชื่อมต่อกับลูกค้าที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลักในรูปแบบใหม่ๆ
ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการชําระเงินด้วยรหัส QR ในออสเตรเลีย เหตุใดการชำระเงินแบบนี้จึงเติบโต ข้อเปรียบเทียบกับวิธีอื่นๆ และวิธีที่ธุรกิจต่างๆ จะผสานการชำระเงินแบบนี้เข้ากับระบบการชําระเงินของตน
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- การชําระเงินด้วยรหัส QR คืออะไรและมีหลักการทํางานอย่างไร
- เหตุใดการชําระเงินด้วยรหัส QR จึงได้รับความนิยมในออสเตรเลีย
- อุตสาหกรรมใดบ้างที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการชําระเงินด้วยรหัส QR ในออสเตรเลีย
- ข้อแตกต่างระหว่างการชําระเงินด้วยรหัส QR เทียบกับวิธีชำระเงินอื่นๆ ในออสเตรเลีย
- ธุรกิจจะผสานการชำระเงินด้วยรหัส QR เข้ากับระบบที่มีอยู่ได้อย่างไร
- Stripe รองรับการชําระเงินด้วยรหัส QR ในออสเตรเลียอย่างไร
การชําระเงินด้วยรหัส QR คืออะไรและมีหลักการทํางานอย่างไร
วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้าชําระเงินด้วยการสแกนโค้ดตอบกลับด่วน (QR) ด้วยสมาร์ทโฟน สัญลักษณ์ตารางสี่เหลี่ยมสีขาวดําดังกล่าวบรรจุไปด้วยรายละเอียดการชําระเงิน เช่น รหัสธุรกรรมและข้อมูลบัญชีผู้ค้า การสแกนภาพดังกล่าวจะดึงหน้าจอการชําระเงินขึ้นมา ซึ่งปกติแล้วจะเป็นหน้าสรุปที่มีตัวเลือกว่าจะชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล แอปชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง
ธุรกิจสร้างรหัส QR ได้ 2 วิธี ดังนี้
รหัสคงที่: รหัสแบบนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงและเป็นลิงก์ทั่วไปที่นําไปยังหน้าการชําระเงินของธุรกิจ
รหัสแบบไดนามิก: รหัสแบบนี้จะเป็นรหัสเฉพาะสําหรับแต่ละธุรกรรมซึ่งระบุยอดเงินตรงตามธุรกรรมนั้น
ผู้ซื้อทำการสแกนและอนุมัติการชําระเงิน จากนั้นเงินทุนจะเคลื่อนไหวทันที วิธีการที่ใช้ QR เหล่านี้ไม่ได้มาแทนที่การแตะจ่ายเงิน แต่เป็นตัวเลือกที่ใช้งบประหยัดที่ใช้แทนธุรกรรมผ่านบัตรได้ และยังให้ประสบการณ์ใช้งานที่สะดวกสําหรับผู้บริโภคที่ใช้ระบบดิจิทัลเป็นหลักและลูกค้าต่างประเทศ
เหตุใดการชําระเงินด้วยรหัส QR จึงได้รับความนิยมในออสเตรเลีย
แม้ว่าการใช้รหัส QR ในออสเตรเลียจะล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ เช่น จีนแต่ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การประหยัดต้นทุน ความสะดวกสบาย และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปผลักดันให้ธุรกิจต่างๆ ผสานการชําระเงินด้วยรหัส QR เข้ามาในกระบวนการชําระเงินของตนมากขึ้น ต่อไปนี้คือสิ่งที่ช่วยเพิ่มแรงส่ง
พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่นำการชําระเงินแบบไร้สัมผัสมาใช้ก่อนประเทศอื่นๆ ในโลก จากข้อมูลของธนาคารกลางออสเตรเลีย ในปี 2022 ธุรกรรมผ่านบัตรที่จุดขาย 95%เป็นแบบแตะจ่าย การเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ทําให้โซลูชันแบบไร้สัมผัสทั้งหมดได้รับความนิยมมากขึ้น โดยการสแกนรหัส QR เข้ามาอยู่ในกระแสหลักมากขึ้น ประมาณหนึ่งในสามของผู้บริโภคในออสเตรเลียบอกกับธนาคารกลางในปี 2022 ว่าเคยได้ยินเรื่องการชําระเงินด้วย QR และประมาณ 10% รายงานว่าใช้ฟีเจอร์นี้ซื้อสินค้าในปีก่อนหน้า
การเตรียมใช้งานที่ง่าย
การใช้รหัส QR ไม่จําเป็นต้องมีเทอร์มินัลใหม่หรือการอัปเกรดที่มีค่าใช้จ่ายสูง ธุรกิจสามารถแสดงรหัสเหล่านี้บนเมนูฉบับพิมพ์ หน้าจอ ใบเสร็จ รวมถึงบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ ส่วนลูกค้าก็แค่สแกนและชําระเงินด้วยโทรศัพท์ รหัส QR เป็นวิธีต้นทุนต่ำสําหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือร้านค้าป๊อปอัปในการเริ่มรับชําระเงินแบบดิจิทัลโดยไม่ต้องลงทุนกับฮาร์ดแวร์
ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ช่วยให้อัตรากําไรสูงขึ้น
ธุรกรรมบัตรเครดิต มาพร้อมกับค่าธรรมเนียม การชําระเงินด้วย QR สามารถออกแบบให้ไม่ต้องใช้เครือข่ายเหล่านั้นโดยส่งเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ซื้อไปยังธุรกิจโดยตรงผ่านแอปธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น ผู้ค้าปลีกยา Chemist Warehouse เริ่มนำวิธีนี้มาใช้เพื่อลดค่าธรรมเนียมบัตรที่ต้องจ่าย 15 ล้านดอลลาร์ต่อปี ค่าธรรมเนียมการชําระเงินด้วยรหัส QR บางอย่างอาจไม่ได้ต่ำ แต่การโอนเงินผ่านธนาคารที่เริ่มต้นผ่านรหัส QR สามารถลดค่าธรรมเนียมการประมวลผลของวิธีการชำระเงินแบบอื่นๆ ที่สูงกว่าได้
การชําระเงินที่รวดเร็วขึ้น
ในร้านอาหารและคาเฟ่ การชําระเงินด้วยรหัส QR ช่วยลดการรอเครื่องรูดบัตร โดยลูกค้าที่มารับประทานอาหารสามารถสแกนโค้ด หารค่าใข้จ่ายหากต้องการ และชําระเงินได้ทันที ธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมการชําระเงินด้วยรหัส QR เข้ากับโปรแกรมสะสมคะแนน ส่วนลด และใบเสร็จดิจิทัล ซึ่งจะทำให้มีโอกาสสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้ลึกซึ้งมากขึ้น
ดึงดูดลูกค้าต่างประเทศ
การชำระเงินแบบนี้เปิดโอกาสให้เกิดธุรกรรมที่เน้นการทำผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแอป ซึ่งมักดึงดูดนักช้อปอายุน้อยและนักเดินทางจากต่างประเทศ การเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินด้วยรหัส QR ผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น Alipay และ WeChat Pay ช่วยให้สามารถเจาะตลาดนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติในออสเตรเลียซึ่งเป็นตลาดที่ทำเงินได้
การรองรับและการนําไปใช้ที่มากขึ้นในอุตสาหกรรม
ในขณะที่การใช้งานการชําระเงินด้วยรหัส QR เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคาร สตาร์ทอัพฟินเทค และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ต่างก็พากันลงทุนในโซลูชันเหล่านี้ ในปี 2022 เครือข่ายการชําระเงินของออสเตรเลีย (AusPayNet) ได้ออกหลักเกณฑ์สำหรับอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้รหัส QR จะทํางานได้อย่างสอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม
อุตสาหกรรมใดบ้างที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการชําระเงินด้วยรหัส QR ในออสเตรเลีย
โดยทั่วไปแล้วการรับชําระเงินด้วยรหัส QR จะไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันในทุกอุตสาหกรรม ในออสเตรเลีย การชำระเงินประเภทนี้กําลังได้รับความนิยมมากที่สุดในภาคธุรกิจที่ความเร็ว ความสะดวกสบาย และการประหยัดต้นทุนเป็นสิ่งสําคัญ
บริการ
รหัส QR ทํางานได้ดีในผับ คาเฟ่ และร้านอาหาร ลูกค้าสแกน ส่งคําสั่งซื้อ และชําระเงินโดยไม่ต้องรอให้พนักงานเสิร์ฟนําบิลหรือเครื่องรูดบัตรมาให้ชำระเงิน แพลตฟอร์มเช่น Me&you และ Payo เปิดให้ลูกค้าหารค่าใช้จ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้พนักงาน
เวลาที่ใช้จัดการธุรกรรมที่ลดลงช่วยให้การหมุนเวียนโต๊ะเร็วขึ้นและเกิดข้อผิดพลาดน้อยลง ลูกค้าควบคุมประสบการณ์การชําระเงินของตัวเองได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดคําสั่งซื้อที่มากขึ้น
การค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
ผู้ค้าปลีกหันมาใช้การชําระเงินด้วยรหัส QR เพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงเส้นทางการชอปปิง ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Chemist Warehouse ใช้ตัวเลือกนี้เพื่อลดค่าธรรมเนียมการประมวลผลบัตร และร้านค้าปลีกอื่นๆ ก็ทำตาม รหัสบนป้ายผลิตภัณฑ์สามารถเชื่อมไปยังรายละเอียดรายการสินค้า รีวิวจากลูกค้า หรือการชําระเงินทันทีเพื่อผสานการซื้อสินค้าภายในร้านและทางออนไลน์เข้าด้วยกัน รหัส QR สามารถใช้ส่วนลด รางวัล หรือตัวเลือกการผ่อนชําระที่ระบบบันทึกการขายได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งต่างจากการชําระเงินแบบแตะจ่าย
ปัจจุบันผู้ค้าปลีกระดับนานาชาติในออสเตรเลีย เช่น MUJI รับชําระเงินด้วย Alipay และ WeChat Pay ผ่านรหัส QR เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและนักเรียนต่างชาติ การนําเสนอวิธีการชำระเงินที่ใช้ QR ที่คุ้นเคยในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวสูง เช่น ซิดนีย์และเมลเบิร์นสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้
ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รหัส QR ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านระหว่างประสบการณ์การจับจ่ายทางกายภาพและดิจิทัลดีขึ้น ธุรกิจต่างๆ เพิ่มรหัส QR ไว้ในสื่อการตลาด โปสเตอร์ และบรรจุภัณฑ์เพื่อนําทางผู้ซื้อไปยังหน้าชําระเงินทันที
บริการวิชาชีพและการเรียกเก็บเงิน
รหัส QR ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินให้กับบริการวิชาชีพ เช่น สํานักงานบัญชี ที่ปรึกษา และผู้ให้บริการแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) แทนที่จะกําหนดให้ต้องโอนเงินผ่านธนาคารด้วยตนเอง ผู้ให้บริการสามารถสร้างป้ายกํากับเหล่านี้เพื่อให้ลิงก์ไปยังหน้าการชําระเงินที่กรอกข้อมูลไว้ล่วงหน้าได้ ทำให้ลูกค้าสแกนและชําระเงินทันที ซึ่งจะช่วยลดการชําระเงินล่าช้าและข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยตัวเอง
อีเวนต์ ความบันเทิง และกรณีการใช้งานอื่นๆ
รหัส QR เหมาะสําหรับสภาพแวดล้อมที่ดําเนินไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งความเร็วและความสะดวกสบายเป็นสิ่งสําคัญ
คอนเสิร์ตและเทศกาล: ผู้เข้าร่วมงานสแกนจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าโดยไม่ต้องรอคิวนาน
ที่จอดรถและการเดินทาง: ขณะนี้ที่จอดรถบางแห่งในออสเตรเลียเปิดให้ผู้ขับขี่สแกนรหัสเพื่อชําระค่าบริการ ทำให้ไม่ต้องใช้เหรียญหรือดาวน์โหลดแอป
ตลาดและผู้ขายรายย่อย: รถขายอาหาร ช่างฝีมือท้องถิ่น และร้านป๊อบอัปสามารถรับชําระเงินด้วยรหัส QR ได้โดยไม่ต้องลงทุนกับเทอร์มินัลบัตร
องค์กรการกุศลและการระดมทุน: องค์กรไม่แสวงผลกําไรและพิพิธภัณฑ์ใช้ป้ายเหล่านี้เพื่อให้คนบริจาคได้ง่ายขึ้น
ข้อแตกต่างระหว่างการชําระเงินด้วยรหัส QR เทียบกับวิธีชำระเงินอื่นๆ ในออสเตรเลีย
ออสเตรเลียเป็นตลาดที่การทำธุรกรรมมีความก้าวหน้า โดยมีการใช้บัตรแตะจ่าย การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล และการโอนเงินผ่านธนาคารอย่างกว้างขวาง การชําระเงินด้วยรหัส QR ไม่ได้มาแทนที่วิธีการเหล่านี้ แต่เป็นการเติมช่องว่าง ซึ่งประกอบด้วย:
ธุรกิจที่ต้องการลดค่าธรรมเนียมด้วยการทำธุรกรรมแบบไม่ผ่านเครือข่ายบัตร
ลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์การชําระเงินที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น (เช่น โปรแกรมความภักดี ใบเสร็จดิจิทัล การชำระแบบแบ่งยอดค่าใข้จ่าย)
การโอนเงินผ่านธนาคารที่ต้องรวดเร็วและเข้าถึงได้มากขึ้น
การชําระเงินที่ต้องทำงานได้มากกว่าเทอร์มินัล NFC (เช่น มิเตอร์จอดรถ ใบแจ้งหนี้ สื่อสิ่งพิมพ์)
ข้อมูลเปรียบเทียบวิธีการชําระเงินมีดังนี้
รหัส QR กับการแตะแบบไร้สัมผัส
บัตรแบบไร้สัมผัสมีอยู่ทั่วไป ในออสเตรเลีย การแตะจ่ายทำได้เร็วกว่า แต่รหัส QR มีข้อได้เปรียบหากธุรกิจต้องการค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงและประสบการณ์การใช้งานที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น วิธีนี้ต่างจากการแตะบัตร เนื่องจากไม่ต้องผ่านเครือข่ายบัตรเพราะสามารถโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรงด้วยค่าใข้จ่ายที่ต่ำกว่า
รหัส QR กับกระเป๋าเงินดิจิทัล
กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Apple Pay, Google Pay) มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในออสเตรเลีย โดยคิดเป็น 35% ของยอดค้าปลีก ในปี 2023 และยังคงเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดสําหรับการชําระเงินภายในร้าน แต่รหัส QR ใช้งานได้คล่องตัวกว่าในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเทอร์มินัล NFC และสามารถลดต้นทุนการดําเนินงานได้เมื่อใช้การโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง
การใช้รหัส QR ช่วยเติมเต็มการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลมากกว่าที่จะเป็นคู่แข่งกัน บางครั้งก็เป็นการเรียกใช้ Apple Pay หรือ Google Pay บนโทรศัพท์ ซึ่งทําให้ขั้นตอนการทําธุรกรรมคล้ายกับการแตะจ่าย นอกจากนี้ยังใช้งานได้ในกรณีที่ไม่มีเทอร์มินัล NFC เช่น ใช้ในใบแจ้งหนี้ฉบับพิมพ์ มิเตอร์ค่าจอดรถ หรือการชําระเงินบนเว็บไซต์
รหัส QR กับเงินสด
การใช้เงินสดในออสเตรเลียมีจำนวนลดลง โดยธุรกิจส่วนใหญ่นิยมวิธีการชําระเงินออนไลน์มากกว่า การชําระเงินด้วยรหัส QR ทำหน้าที่คล้ายกับธนบัตร ตรงที่ยืนยันการชำระเงินได้ทันทีและไม่มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารเมื่อชําระด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร วิธีนี้มีประโยชน์เหมือนเงินสดโดยไม่มีความเสี่ยงจากการถือเงิน ทําให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสําหรับธุรกิจที่ต้องการเลิกใช้เงินสด
การชําระเงินด้วย QR มีบันทึกธุรกรรมดิจิทัลซึ่งแตกต่างจากเงินสด ซึ่งทำให้ปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การชำระเงินวิธีนี้ต้องใช้สมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้การใช้งานในหมู่ผู้บริโภคที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือผู้บริโภคที่ไม่ค่อยเข้าใจเทคโนโลยีมีจำกัด
รหัส QR กับการโอนเงินผ่านธนาคาร
การชําระเงินด้วยรหัส QR สามารถทํางานร่วมกับวิธีการโอนเงินผ่านธนาคาร เช่น PayID และ PayTo เพื่อให้ธุรกิจและลูกค้าโอนเงินผ่านธนาคารได้เร็วและง่ายขึ้น ผู้ซื้อสามารถสแกนรหัส QR และอนุมัติการโอนเงินผ่านธนาคารด้วย PayID หรือ PayTo ได้โดยไม่ต้องป้อนรายละเอียดบัญชีด้วยตนเอง
รหัส QR เทียบกับซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
บริการซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) เช่น Afterpay และ Zip ช่วยให้ลูกค้าแบ่งชําระการซื้อออกเป็นหลายงวดได้ บริการ BNPL บางประเภทรองรับการชําระเงินด้วยรหัส QR การสแกนสามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้ซื้อไปยังประสบการณ์การชําระเงินด้วยตัวเลือกบริการจัดหาเงินทุน เช่นเดียวกับกระเป๋าเงินดิจิทัลและการโอนเงินผ่านธนาคาร
ธุรกิจจะผสานการชำระเงินด้วยรหัส QR เข้ากับระบบที่มีอยู่ได้อย่างไร
การนําการชําระเงินด้วยรหัส QR มาใช้นั้นง่ายกว่าที่เคยด้วยแพลตฟอร์มการชําระเงินที่มีโซลูชันพร้อมใช้งานทันที ธุรกิจต่างๆ ไม่จําเป็นต้องมีระบบที่สร้างเอง เพียงแค่มีผู้ให้บริการที่ใช่และกระบวนการจัดเตรียมที่ชัดเจน ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องทํา
เลือกผู้ให้บริการชําระเงิน
ขั้นตอนแรกคือการเลือกแพลตฟอร์มการชําระเงินที่รองรับการชำระเงินด้วยรหัส QR มองหาผู้ให้บริการที่เหมาะกับขนาดการดําเนินงานของคุณและรองรับทั้งธุรกรรมที่จุดขายและธุรกรรมออนไลน์ Stripe ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสร้างรหัส QR เพื่อแชร์กับลูกค้าบนเว็บไซต์ หน้าโซเชียลมีเดีย หรือในร้านค้าได้
สร้างรหัส QR สําหรับการชําระเงิน
เมื่อคุณเลือกผู้ให้บริการแล้ว การสร้างรหัส QR นั้นง่ายมาก บางระบบเปิดให้คุณสร้างได้ทั้งรหัสแบบคงที่และแบบไดนามิก ในร้านค้าแบบมีหน้าร้านสามารถแสดงรหัสบนหน้าจอ ใบเสร็จ หรือป้ายที่พิมพ์ออกมาได้ ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสามารถเพิ่มรหัส QR ลงในหน้าการชําระเงินเพื่อให้ลูกค้าย้ายจากเดสก์ท็อปมาเป็นการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย
ผสานการทํางานกับระบบ POS หรือเว็บไซต์ของคุณ
ร้านค้าและร้านอาหารที่มีหน้าร้านต้องตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ระบบบันทึกการขาย (POS) ที่มีรองรับการชําระเงินด้วย QR หรือไม่ ปัจจุบันระบบสมัยใหม่บางระบบจะแสดงรหัส QR หรือพิมพ์รหัสลงบนใบเสร็จที่ขั้นตอนการชําระเงิน หาก POS ไม่รองรับสิ่งนี้ การติดแสดงป้าย "สแกนจ่าย" ที่เคาน์เตอร์ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ทำได้ง่ายๆ
ธุรกิจออนไลน์สามารถแสดงรหัส QR ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
แสดงในใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าทำธุรกรรมในคลิกเดียว
เพื่อให้ผู้ซื้อสแกนจ่ายผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay หรือ Google Pay ได้ในตอนชำระเงิน
แสดงบนสื่อการตลาดเพื่อนําทางผู้ซื้อไปยังหน้าผลิตภัณฑ์หรือหน้าโปรโมชันพิเศษ
ระบบของคุณจะต้องจัดการแบ็กเอนด์ได้เพื่อให้มีการเปลี่ยนสถานะการชำระเงินด้วยรหัส QR เป็นเสร็จสมบูรณ์เช่นเดียวกับธุรกรรมผ่านบัตร
ป้องกันการฉ้อโกง
รหัส QR ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นฐานเพื่อป้องกันการฉ้อโกงเช่นเดียวกับวิธีการชําระเงินอื่น เนื่องจากรหัส QR ฉบับพิมพ์อาจมีการปลอมแปลงได้ แนะนำให้ใช้จอแสดงผลดิจิทัลหากเป็นไปได้ เป็นที่ทราบกันดีว่ามิจฉาชีพมักติดสติกเกอร์รหัสปลอมทับสติกเกอร์ของจริง ตรวจสอบรหัส QR ฉบับพิมพ์อยู่เป็นประจําเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ถูกเปลี่ยน และทํางานร่วมกับผู้ให้บริการที่ใช้เทคนิคเข้ารหัสและมีฟีเจอร์ตรวจสอบการฉ้อโกงเพื่อให้ธุรกรรมปลอดภัย
ฝึกอบรมพนักงานและแนะนําลูกค้า
ลูกค้าบางรายอาจไม่คุ้นเคยกับการชําระเงินด้วยรหัส QR ดังนั้นคําแนะนําง่ายๆ จึงช่วยได้ ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการทํางานของการชําระเงินด้วย QR และการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น (เช่น หากโทรศัพท์ไม่สแกนโค้ด ให้ตรวจสอบการอนุญาตใช้กล้อง) ป้ายเล็กๆ ที่มีข้อความ "สแกนจ่าย ไม่ต้องใช้บัตร" ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการทำธุรกรรมด้วยรหัส QR ได้
เชื่อมโยงการชําระเงินด้วยรหัส QR เข้ากับระบบบัญชีของคุณ
การชําระเงินทุกรายการจะต้องติดตามได้ ไม่ว่าคุณจะใช้ผู้ให้บริการชําระเงินรายใด ให้ยืนยันว่า
ธุรกรรมมีการอ้างอิงที่ชัดเจน (เช่น หมายเลขใบแจ้งหนี้ รหัสคําสั่งซื้อ)
การชําระเงินด้วย QR ซิงก์กับซอฟต์แวร์บัญชีของคุณเพื่อให้กระทบยอดได้ง่าย
รายงานยอดขายรายวันรวมข้อมูลธุรกรรมผ่านรหัส QR ด้วย
Stripe รองรับการชําระเงินด้วยรหัส QR ในออสเตรเลียอย่างไร
Stripe ช่วยให้ธุรกิจรับชําระเงินด้วยรหัส QR ได้ง่ายโดยไม่ต้องสร้างระบบที่ออกแบบเอง เครื่องมือของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ผสานการวิธีการชําระเงินด้วยรหัส QR ได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมที่จุดขาย ทางออนไลน์ หรือระหว่างประเทศ วิธีการมีดังนี้
ลิงก์ชําระเงินที่มีรหัส QR
Stripe Payment Links ช่วยให้ธุรกิจสร้างหน้าชําระเงินสําหรับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือการบริจาคใดๆ ได้โดยไม่จําเป็นต้องเขียนโค้ด ธุรกิจสร้างรหัส QR ที่เชื่อมโยงกับลิงก์ชําระเงินและแชร์ลิงก์นั้นกับลูกค้าที่จุดขายหรือทางออนไลน์ นักช็อปจะสแกนรหัสและชําระเงินให้เสร็จสิ้นด้วยระบบการชําระเงินที่ปลอดภัยของ Stripe
การชําระเงินด้วยรหัส QR ทั่วโลก
การชําระเงินด้วยรหัส QR เปิดประตูสู่ลูกค้าต่างประเทศได้อีกด้วย Stripe ช่วยให้ธุรกิจในออสเตรเลียรับชําระเงินจากต่างประเทศด้วยวิธีที่ใช้กันโดยทั่วไปได้ เช่น Alipay (ผ่านอีคอมเมิร์ซเท่านั้น) และ WeChat Pay ขณะที่ภาพรวมการชำระเงินในออสเตรเลียมีการพัฒนา Stripe ก็พร้อมที่จะรองรับระบบการชําระเงินด้วย QR ระดับภูมิภาค เช่น PayNow ของสิงคโปร์ (ผ่านอีคอมเมิร์ซเท่านั้น) การผสานวิธีการชำระเงินด้วย QR ของ Stripe ช่วยลดความยุ่งยากในการชําระเงินข้ามพรมแดนสําหรับธุรกิจที่ให้บริการนักท่องเที่ยว นักเรียนต่างชาติ หรือผู้ซื้อทั่วโลก
การผสานการทํางานที่เป็นมิตรกับนักพัฒนา
อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) และเครื่องมือนักพัฒนาของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจสร้างการชําระเงินโดยใช้รหัส QR ได้โดยง่าย ทำให้ธุรกิจสามารถรับธุรกรรมผ่านรหัส QR ได้อย่างมั่นคง
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ