PayTo: An in-depth guide

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. PayTo ทํางานอย่างไร
  3. มีการใช้งาน PayTo ในพื้นที่ใดบ้าง
  4. ใครคือผู้ที่ใช้ PayTo
  5. ประโยชน์ของการยอมรับ PayTo
  6. มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PayTo
  7. การยอมรับ PayTo เป็นวิธีการชําระเงิน
    1. ข้อกําหนดสําหรับการรับชําระเงินผ่าน PayTo
    2. วิธีเริ่มรับการชําระเงินด้วย PayTo
  8. ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PayTo

PayTo เป็นวิธีการชําระเงินแบบดิจิทัลที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าอนุมัติการชําระเงินจากบัญชีธนาคารของตัวเองได้โดยตรง PayTo เปิดตัวในปี 2022 โดยเป็นส่วนหนึ่งโครงการริเริ่ม New Payments Platform Australia (NPPA) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการปรับโซลูชันการชําระเงินของออสเตรเลียให้ทันสมัยขึ้น

PayTo เป็นตัวเลือกการชําระเงินสําหรับธุรกิจที่ใช้ธนาคารในออสเตรเลียซึ่งรองรับ PayTo หากธุรกิจมีบัญชีธนาคารที่ทําธุรกรรม PayTo ได้ PayTo เปิดโอกาสให้ผู้ใช้จัดการการชําระเงินได้ดีขึ้น โดยรวมถึงใบเรียกเก็บเงิน การชําระเงินตามรอบบิล และการชําระเงินแบบครั้งเดียว โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ดู อนุมัติ ระงับ หรือยกเลิกข้อตกลงการชําระเงินผ่าน PayTo ได้ พร้อมการรักษาความปลอดภัยจากแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร

คู่มือนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่ธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ PayTo ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทํางาน พื้นที่ที่มีการใช้งาน การเปรียบเทียบกับการชําระเงินอื่นๆ และการรับชำระเงินด้วยวิธีนี้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • PayTo ทํางานอย่างไร
  • มีการใช้งาน PayTo ในพื้นที่ใดบ้าง
  • ใครคือผู้ที่ใช้ PayTo
  • ประโยชน์ของการยอมรับ PayTo
  • มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PayTo
  • การยอมรับ PayTo เป็นวิธีการชําระเงิน
  • ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PayTo

PayTo ทํางานอย่างไร

  • วิธีเข้าถึง PayTo: ก่อนที่จะเข้าถึง PayTo ได้ ธุรกิจต่างๆ ต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อเป็นผู้ใช้ PayTo ขั้นตอนนี้ประกอบด้วยการปรึกษากับธนาคาร สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการชําระเงินเพื่อเปิดใช้ฟังก์ชัน PayTo เมื่อได้รับการสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะเริ่มการชําระเงินจากทุกบัญชีที่รองรับ PayTo ใน NPP ในออสเตรเลียได้

  • ข้อตกลงกับ PayTo: เมื่อธุรกิจต้องการเริ่มต้นการขายโดยใช้ PayTo เป็นวิธีการชําระเงิน ธุรกิจก็สามารถสร้างข้อตกลงกับ PayTo ซึ่งจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกําหนดสําหรับการหักเงินจากบัญชีของลูกค้า ข้อกําหนดเหล่านี้ประกอบด้วยจํานวน ความถี่ และระยะเวลาในการชําระเงิน และอาจใช้ได้กับการชําระเงินแบบครั้งเดียว เฉพาะกิจ หรือการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

  • การอนุมัติของลูกค้า: จะมีการส่งข้อตกลงกับ PayTo ไปให้ธนาคารของลูกค้า สมาคมเงินฝากและเงินกู้ หรือเครดิตสหภาพ และจะปรากฏในอินเทอร์เน็ตหรือแอปธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของลูกค้าเพื่อการอนุมัติ ลูกค้าต้องตรวจสอบและอนุมัติข้อตกลงนี้เพื่อให้ประมวลผลการชําระเงินได้

  • การเริ่มต้นการชําระเงิน: เมื่อลูกค้าอนุมัติข้อตกลงแล้ว ธุรกิจจะเริ่มหักเงินจากบัญชีของลูกค้าตามข้อกำหนดการชําระเงิน PayTo มีการตรวจสอบบัญชีของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ณ เวลาที่สร้างหนังสือมอบอํานาจ รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมใช้งานของเงินทุนแบบเรียลไทม์ ณ เวลาที่ชําระเงิน ธุรกิจต่างๆ จึงยืนยันความสําเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกรรมได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีกฎทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าสถาบันการเงินของลูกค้าจะดำเนินการตามข้อความการเริ่มต้นการชําระเงินได้

  • การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงกับ PayTo: ธุรกิจจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อข้อตกลงของ PayTo ถูกระงับ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกโดยลูกค้า นอกจากนี้ ทางฝั่งของธุรกิจก็สามารถแก้ไข ระงับ กลับมาใช้งานต่อ หรือยกเลิกข้อตกลงได้เมื่อจำเป็น

  • ระเบียนหนังสือมอบอํานาจ: PayTo มีฐานข้อมูลที่รวมอยู่ในส่วนกลางสําหรับการสร้าง จัดเก็บ และดูแลรักษาระเบียนการมอบอํานาจ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์และดําเนินงานโดย NPP Australia

มีการใช้งาน PayTo ในพื้นที่ใดบ้าง

PayTo มีการใช้งานในออสเตรเลียเพื่อจัดการการชําระเงินแบบครั้งเดียวและการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น การสมัครใช้บริการ การซื้อทางออนไลน์หรือในแอป บัญชีเงินเดือน และบัญชีเจ้าหนี้ ในประเทศที่ชาวออสเตรเลียทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 730 รายการโดยเฉลี่ยต่อคนในช่วงปีภาษี 2022-2023 ก็มีความต้องการใช้วิธีการชําระเงินแบบดิจิทัล เช่น PayTo ในปริมาณสูง

PayTo ต้องรับมือกับความท้าทายหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการหักบัญชีอัตโนมัติแบบเดิมๆ โดยใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบบัญชีลูกค้า การตรวจสอบความพร้อมใช้งานของเงิน และการยืนยันการชําระเงินทันที โดยสามารถใช้วิธีนี้ได้ทั้งในแอปและธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเบิกจ่ายใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ ทําให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับเงินเร็วขึ้นและปรับปรุงกระบวนการแบบ Procure to Pay ในฐานะธุรกิจที่พร้อมให้บริการอยู่เสมอ PayTo ยังรองรับฟังก์ชันภายนอก เช่น บัญชีเงินเดือนและบัญชีเจ้าหนี้ การเพิ่มผลการดําเนินงานของธุรกิจโดยรวม และการขจัดความจําเป็นในการคำนวณเงินซ้ำซ้อนจํานวนมากกับผู้ให้บริการเงินเดือน

ใครคือผู้ที่ใช้ PayTo

ธุรกิจประเภทต่อไปนี้ใช้ PayTo เพื่อปรับปรุงกระบวนการชําระเงิน

  • ธุรกิจและผู้เรียกเก็บเงิน: PayTo เหมาะสําหรับธุรกิจและผู้เรียกเก็บเงินที่ต้องการวิธีเก็บเงินที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ PayTo มีประโยชน์เป็นพิเศษสําหรับธุรกิจที่ต้องการทางเลือกในการหักบัญชีอัตโนมัติอันทันสมัยซึ่งต่างจากวิธีการแบบเดิมๆ และยังรองรับธุรกรรมภายในแอปและอีคอมเมิร์ซด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจที่ต้องใช้ระบบการชําระเงินแบบดิจิทัล ธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้ PayTo สําหรับการชําระเงินแบบครั้งเดียวหรือเฉพาะกิจ หรือเพื่อการรักษาข้อมูล "บัญชีที่บันทึกไว้ในระบบ" สําหรับลูกค้าได้

  • ผู้ให้บริการชําระเงิน (PSP): PSP สามารถผสานการทํางาน PayTo เป็นบริการการชําระเงินขั้นสูงสําหรับลูกค้าที่เป็นธุรกิจได้ โดยเกตเวย์การชําระเงินและผู้ประมวลผลที่มองหาโซลูชันการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็อาจพบว่า PayTo มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง

  • ผู้ให้บริการภายนอก: บุคคลที่สามและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การทําบัญชีที่จัดการกระบวนการภายนอก เช่น บัญชีเงินเดือนและบัญชีเจ้าหนี้สามารถใช้ PayTo เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟังก์ชันเหล่านี้ได้ ฟีเจอร์ "เปิดตลอดเวลา" ของ PayTo ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการประมวลผลการชําระเงินแบบเรียลไทม์ที่ต่อเนื่อง

  • บริษัทที่ให้บริการทางการเงิน: แพลตฟอร์มการซื้อขาย การลงทุน และธนาคารสามารถใช้ฟังก์ชันการโอนเงินทันทีของ PayTo โดยจะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายทันที ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี

  • บริษัทส่งเงิน: ธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปลงสกุลเงินและการส่งเงินสามารถใช้ฟังก์ชันการโอนเงินทุนทันทีของ PayTo เป็นวิธีลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินและเร่งกระบวนการส่งเงินได้

  • บริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์: บริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ใช้ PayTo เพื่อการเก็บเงินที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงานด้านการเงินได้

ประโยชน์ของการยอมรับ PayTo

PayTo มีประโยชน์มากมายต่อธุรกิจเมื่อเทียบกับวิธีการชําระเงินอื่น สิทธิประโยชน์ต่างๆ มีดังนี้

  • การยืนยันลูกค้าแบบเรียลไทม์: ธุรกิจที่ใช้ PayTo จะได้รับประโยชน์จากการยืนยันรายละเอียดบัญชีและความพร้อมใช้งานของเงินทุนของลูกค้าทันที ณ เวลาที่ชําระเงิน วิธีนี้ช่วยลดโอกาสที่จะทําธุรกรรมไม่สําเร็จ การดึงเงินคืน หรือการโต้แย้งการชําระเงินที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากเงินทุนไม่เพียงพอหรือรายละเอียดบัญชีไม่ถูกต้อง

  • ธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้น: การชําระเงินผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติแบบเดิมๆ อาจใช้เวลาตอบกลับนานสูงสุด 3 วัน ขณะที่ PayTo จะประมวลผลการชําระเงินแบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจจะได้รับการชําระเงินเร็วขึ้น รวมทั้งเพิ่มความคล่องตัวของกระแสเงินสดและประสิทธิภาพในการดําเนินงาน

  • การแจ้งเตือนการชําระเงินทันที: PayTo จะแจ้งให้ธุรกิจทราบแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานะของธุรกรรม รวมถึงเมื่อลูกค้าแก้ไข ระงับ หรือยกเลิกข้อตกลงการชําระเงิน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจได้รับข้อมูลและเปิดโอกาสให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสถานะการชําระเงินได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ PayTo ยังมีการยืนยันลูกค้าและเงินทุนแบบเรียลไทม์ พร้อมการแจ้งเตือนทุกขั้นตอนของวงจรการชําระเงินด้วย

  • การตรวจสอบความถูกต้องของลูกค้า: PayTo กําหนดให้ลูกค้าต้องยอมรับข้อตกลงการชําระเงินในแอปธนาคารก่อนที่จะเริ่มต้นการเรียกเก็บเงินได้ ขั้นตอนนี้จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกรรมโดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าให้ความยินยอมและลดความเสี่ยงของการหักบัญชีที่ไม่ได้รับอนุญาต

  • ข้อมูลการชําระเงิน: ฟังก์ชันด้านข้อมูลอันครบครันของ PayTo ช่วยให้ธุรกิจสามารถทําบัญชีและกระทบยอดได้ง่ายขึ้น ข้อมูลธุรกรรมโดยละเอียดจะช่วยจับคู่การชําระเงินกับใบแจ้งหนี้หรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง

  • บริการที่ราบรื่น: PayTo ให้บริการประมวลผลการชําระเงินอย่างต่อเนื่องโดยไม่ติดขัด รวมทั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ขณะที่ระบบธนาคารแบบเดิมอาจไม่ประมวลผลการชําระเงินนอกเวลาทําการหรือในช่วงวันหยุด

  • ขั้นตอนการลงทะเบียนที่เรียบง่าย: ธุรกิจจะต้องได้รับการสนับสนุนในฐานะผู้ใช้ PayTo โดยธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือผู้ให้บริการชําระเงิน แต่การสมัครใช้ PayTo นั้นเป็นแบบดิจิทัลอย่างสมบูรณ์และไม่มีการใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ โดยปกติแล้วจะเป็นประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และตรงไปตรงมากว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการตั้งค่าการหักบัญชีอัตโนมัติแบบเดิมๆ ซึ่งอาจต้องใช้แบบฟอร์มที่เป็นกระดาษ

  • ระบบที่ให้ลูกค้าบริการตัวเอง: ลูกค้าสามารถจัดการข้อตกลงกับ PayTo ภายในแอปธนาคารของตัวเองได้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกค้าย้ายข้อตกลงระหว่างบัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงินได้โดยที่การเรียกเก็บไม่หยุดชะงักหรือสร้างงานด้านการบริหารเพิ่มเติมสําหรับธุรกิจ

  • ต้นทุนธุรกรรมที่ลดลง: PayTo เป็นทางเลือกที่ประหยัดต้นทุนกว่าการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ซึ่งปกติแล้วจะมาพร้อมกับค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูง

  • มาตรการรักษาความปลอดภัยอันรัดกุม: โครงสร้างพื้นฐานของ PayTo ได้รับการออกแบบโดยคํานึงถึงความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมาย จีงลดความเสี่ยงต่อธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง และช่วยป้องกันข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน ปัจจัยนี้ช่วยยกระดับระบบหักบัญชีอัตโนมัติแบบเดิมๆ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการฉ้อโกงมากกว่า

  • ฟีเจอร์การชําระเงินที่ยืดหยุ่น: PayTo ช่วยให้ธุรกิจปรับแต่งกลยุทธ์การชําระเงินได้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในแง่ของความเร็ว ความปลอดภัย หรือค่าใช้จ่าย ความยืดหยุ่นนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในภาคธุรกิจที่ให้ความสําคัญกับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนและการตรวจสอบการชําระเงินทันที

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PayTo

PayTo ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยดังต่อไปนี้เพื่อรับรองความปลอดภัยและความถูกต้องสมบูรณ์ของธุรกรรม

  • การอนุมัติการชําระเงิน
    ระบบจะส่งข้อตกลงกับ PayTo ไปที่แอปธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรืออินเทอร์เน็ตของลูกค้าเพื่อขอรับการอนุมัติ จากนั้นธุรกิจจะสามารถหักเงินจากบัญชีตามข้อกําหนดการชําระเงินที่ตกลงกันไว้ได้

  • การตรวจสอบสิทธิ์ขั้นสูง
    เนื่องจากข้อตกลงกับ PayTo ดําเนินการผ่านแอปธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ลูกค้าจึงมีสิทธิ์ใช้แนวทางปฏิบัติในการตรวจสอบสิทธิ์ที่ปลอดภัยของธนาคารเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่อนุมัติการชําระเงินเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง

  • การเข้ารหัส
    NPP ของออสเตรเลียจัดการฐานข้อมูลที่ปลอดภัยและเข้ารหัส ซึ่งมีการจัดเก็บข้อตกลงกับ PayTo ไว้ที่ส่วนกลาง ซึ่งจะช่วยป้องกันรายละเอียดธนาคารของผู้ใช้จากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตที่อาจพยายามสกัดกั้นหรือถอดรหัสข้อมูลนี้

  • การอัปเดตความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
    ธนาคารต่างๆ อัปเดตมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าฟังก์ชันของ PayTo จะมีความเป็นปัจจุบันอยู่เสมอและมาพร้อมโปรโตคอลการรักษาความปลอดภัยล่าสุด

การยอมรับ PayTo เป็นวิธีการชําระเงิน

PayTo ช่วยให้ธุรกิจเริ่มการชําระเงินแบบเรียลไทม์จากบัญชีธนาคารของลูกค้าได้ แต่การยอมรับ PayTo เป็นวิธีการชําระเงินก็มาพร้อมกับข้อกําหนดที่เจาะจงบางประการ

ข้อกําหนดสําหรับการรับชําระเงินผ่าน PayTo

ธุรกิจจะต้องมีบัญชีธนาคารในออสเตรเลียที่เปิดใช้ PayTo หรือใช้ PSP ที่เสนอ PayTo เป็นตัวเลือกการชําระเงิน สถาบันการเงินหรือ PSP ที่เข้าร่วมจะช่วยอํานวยความสะดวกในการโอนเงินได้ หมายเลขธุรกิจของออสเตรเลีย (ABN) ซึ่งมักจะใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารท้องถิ่นของธุรกิจ

วิธีเริ่มรับการชําระเงินด้วย PayTo

ไม่ว่าจะทํางานกับธนาคารหรือ PSP ที่ยอมรับธุรกรรม PayTo ธุรกิจก็จะต้องได้รับการสนับสนุนในฐานะผู้ใช้ PayTo ของสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง จากนั้นธุรกิจจะสามารถเริ่มต้นการชําระเงินจากบัญชีที่เปิดใช้ PayTo ได้โดยการสร้างข้อตกลงกับ PayTo ที่แสดงรายละเอียดข้อกําหนดของธุรกรรม ซึ่งรวมถึงจํานวนเงินและความถี่ของการชําระเงิน ลูกค้าจะต้องอนุมัติข้อตกลงเหล่านี้ก่อน จึงจะประมวลผลการชําระเงินใดๆ ได้

ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PayTo

บริษัทในออสเตรเลียมีตัวเลือกวิธีการชําระเงินแบบดิจิทัลหลายวิธี โดยจะขึ้นอยู่กับความต้องการทางธุรกิจของบริษัทเหล่านั้นโดยเฉพาะ ตัวเลือกยอดนิยมอื่นๆ นอกเหนือจาก PayTo มีดังนี้

  • การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ BECS: การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ BECS คือระบบการโอนเงินผ่านธนาคารในออสเตรเลียที่นิยมใช้กับการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเรียกเก็บเงินที่ได้รับอนุญาตโดยอัตโนมัติและจากบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยตรง จึงเป็นที่นิยมสําหรับการสมัครใช้บริการและธุรกรรม B2B แบบเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

  • BPAY: BPAY เป็นระบบจ่ายบิลที่ได้รับความนิยม ซึ่งลูกค้าสามารถชําระเงินจากบัญชีธนาคารของตัวเองได้โดยตรง การผสานการทํางาน BPAY เข้ากับระบบออกใบแจ้งหนี้ที่มีอยู่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รับการชําระเงินได้โดยตรง

  • แอปชําระเงิน: แอปอย่าง PayID และ Osko ช่วยอํานวยความสะดวกในการโอนเงินผ่านธนาคารแบบทันที จึงช่วยให้ลูกค้าชําระเงินได้อย่างรวดเร็ว เมื่อธุรกิจลงทะเบียน PayID และเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารที่ต้องการแล้ว ธุรกรรม PayID จะส่งเงินไปยังบัญชีของธุรกิจโดยตรง

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe