ออสเตรียตั้งอยู่ใจกลางยุโรป ดังนั้นจึงมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจอย่างมากโดยเป็นสะพานเชื่อมโยงภูมิภาคตะวันออก กลาง และตะวันตกของทวีปผ่านการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในออสเตรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานด้านเสถียรภาพทางการเงิน การธนาคารแบบดั้งเดิมดำรงอยู่ควบคู่กับเทคโนโลยีการชำระเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่
นอกจากนี้ ตลาดออสเตรียยังพึ่งพาสถาบันการเงินของประเทศที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถืออย่างมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมการชำระเงิน คู่มือนี้จะนำเสนอภาพรวมของระบบนิเวศการชำระเงินในออสเตรีย โดยมุ่งเน้นไปที่แง่มุมที่ธุรกิจที่ต้องการขยายการดำเนินการในออสเตรียควรคำนึงถึง ซึ่งรวมถึงแง่มุมต่อไปนี้
- การรับชำระเงินที่หลากหลาย
- การเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
- การรับฟังความต้องการของผู้คนท้องถิ่น
สถานะของตลาด
หัวใจสำคัญของภาคส่วนการเงินของออสเตรียคือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ Erste Group Bank AG, Raiffeisen Bank International AG และ UniCredit Bank Austria AG ซึ่งแห่งสุดท้ายเป็นสมาชิกของ UniCredit Group และสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของตนที่มีอยู่ทั่วยุโรปได้
การใช้วิธีการชำระเงินที่ไม่ใช่วิธีการแบบดั้งเดิมและโซลูชันฟินเทคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในออสเตรีย โดยเฉพาะในใจกลางเมือง เช่น เวียนนา ซึ่งในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ออสเตรียปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ เช่นคำสั่งว่าด้วยบริการชำระเงินฉบับแก้ไข (PSD2) และกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) คำสั่งเหล่านี้จะช่วยรับรองว่าผู้ให้บริการชำระเงินรักษามาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า การมีส่วนร่วมของออสเตรียในเขตพื้นที่เพื่อการชำระเงินในยุโรป (Single Euro Payments Area - SEPA) เพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและลูกค้า
สภาพแวดล้อมด้านระเบียบข้อบังคับของออสเตรียมีความซับซ้อน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในการส่งเสริมความโปร่งใสและควบคุมกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อสหภาพยุโรปพยายามจำกัดการชำระเงินด้วยเงินสดไว้ที่ 10,000 ยูโร รัฐบาลออสเตรียกลับต่อต้าน และนายกรัฐมนตรีก็ได้ประกาศแผนที่จะสงวนสิทธิในการชำระเงินด้วยเงินสดไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเน้นใช้ระเบียบข้อบังคับในการส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลและตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจมีความพร้อมที่จะจัดการกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
วิธีการชำระเงิน
ชาวออสเตรียใช้การชำระเงินหลายรูปแบบ และบางครั้งก็แสดงออกให้เห็นว่าชอบใช้วิธีแบบดั้งเดิมมากกว่า เช่น ธนบัตรและเหรียญ แต่ก็เช่นเดียวกับเขตเศรษฐกิจคู่แข่งหลายแห่งในยุโรป ออสเตรียกำลังปรับใช้ตัวเลือกการชำระเงินที่สะดวกและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างรวดเร็ว
การใช้งานในปัจจุบัน
ชาวออสเตรียนิยมใช้เงินสดอย่างมาก ซึ่งข้อมูลของธนาคารกลางยุโรประบุว่า 70% ของการชำระเงินในร้านค้าดำเนินการโดยใช้เงินสดในปี 2022 อย่างไรก็ตาม มูลค่าของธุรกรรมที่มาจากการชำระเงินด้วยเงินสดมีเพียง มีเพียง 52% ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้เงินสดส่วนใหญ่เป็นการใช้กับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ
นอกจากนี้ ชาวออสเตรียยังเปิดรับการบริหารจัดการเงินทางดิจิทัล จากจำนวนของผู้ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ 72% ใช้บริการธนาคารออนไลน์ในปี 2019
ชาวออสเตรียใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตด้วย โดยบัตรคิดเป็น 34% ของค่าธุรกรรมของระบบบันทึกการขาย (POS) ในปี 2022 ตามข้อมูลของธนาคารกลางยุโรป นอกจากนี้ ชาวออสเตรียยังทำการชำระเงินด้วยบัตรมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 81 พันล้านยูโร ทั้งนี้แม้ว่าบัตรเครดิตได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีการใช้บัตรเดบิตอย่างแพร่หลายในประเทศ ซึ่งเป็นความนิยมที่พบได้บ่อยในประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศในยุโรป
วิธีการชำระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในออสเตรเลีย
- เงินสด
- บัตรเดบิต (และบัตรเครดิตในระดับที่น้อยกว่า)
- กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay, Google Pay และทางเลือกท้องถิ่นอย่าง Bluecode
วิธีการชำระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในออสเตรเลีย
- บัตรเดบิตและบัตรเครดิต
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
- เงินสด
แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
การใช้กระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในออสเตรีย ข้อมูลจากธนาคารแห่งชาติออสเตรีย (Oesterreichische Nationalbank หรือ OeNB) เปิดเผยว่าในปี 2024 นั้น 95% ของธุรกรรมด้วยบัตรเดบิต ณ ระบบบันทึกการขายดำเนินการโดยใช้วิธีแบบไร้สัมผัส
นวัตกรรมต่างๆ เช่น การชำระเงินแบบไร้สัมผัส บริการธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และกระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่ชาวออสเตรียมีกับเงินสด เปอร์เซ็นต์ของชาวออสเตรียที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นทุกปี ผลสำรวจในปี 2019 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 9 จาก 10 คนไม่เคยออกจากบ้านโดยไม่พกสมาร์ทโฟนไปด้วย การชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็เพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน การสำรวจในปี 2023 พบว่า 20% ของผู้ค้าปลีกชาวออสเตรียรับชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay และ Google Pay ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเพียง 4% ในปี 2018
ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
การเข้าสู่ตลาดต่างประเทศใหม่ย่อมหมายถึงการต้องคำนึงถึงความเป็นจริงทางธุรกิจหลายประการ ต่อไปนี้คือปัจจัยบางส่วนที่ธุรกิจที่กำลังขยายการดำเนินการเข้าสู่ออสเตรียควรพิจารณาเกี่ยวกับภาษี การเรียกเก็บเงินที่มีการโต้แย้งการชำระเงิน และการชำระเงินระหว่างประเทศ
ภาษี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นแง่มุมสำคัญของระบบการเงินในออสเตรียที่ส่งผลต่อทั้งลูกค้าและธุรกิจ สินค้าและบริการส่วนใหญ่ในออสเตรียมีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานที่ 20% โดยที่แม้ว่าลูกค้าจะเป็นผู้รับภาระต้นทุนส่วนนี้โดยตรง แต่หน้าที่ในการเก็บภาษีนี้และนำส่งแก่รัฐบาลเป็นหน้าที่ของธุรกิจ ความผิดพลาดในการเก็บหรือการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มอาจนำไปสู่บทลงโทษทางการเงิน ทั้งลูกค้าและธุรกิจจำเป็นต้องตระหนักถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากการดำเนินการใดๆ ที่ไม่สอดคล้องกันอาจทำให้ถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานภาษีและนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายได้
การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
นโยบายของออสเตรียเกี่ยวกับการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินเน้นปกป้องผู้บริโภค ขณะที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมและการแข่งขันที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ เนื่องจากระเบียบข้อบังคับของยุโรปกำหนดกรอบการทำงานที่กว้างมากขึ้น สถาบันภายในของออสเตรียจึงต้องปรับขั้นตอนดำเนินการให้สอดคล้องกับค่านิยมและเป้าหมายทางเศรษฐกิจของประเทศ
การชำระเงินระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจของออสเตรียมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป และสภาพแวดล้อมของออสเตรียที่เป็นมิตรกับธุรกิจและการท่องเที่ยวก็ทำให้ธุรกิจต่างๆ มักจะต้องรับหรือส่งการชำระเงินระหว่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ต่อไปนี้เป็นข้อควรพิจารณาบางประการที่ควรคำนึงถึง
SEPA
ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป ออสเตรียเป็นสมาชิกของเขต SEPA ซึ่งประกอบด้วย 36 ประเทศ และช่วยให้โอนเครดิตได้อย่างรวดเร็วทั่วยุโรป ออสเตรียดำเนินการค้าระหว่างประเทศประมาณ 30% กับเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอย่างเยอรมนี ซึ่งการชำระเงินแบบ SEPA ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมากการแปลงสกุลเงิน
ตัวเลือกในการชำระเงินของบุคคลที่สามหลายรายการช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการแปลงสกุลเงินในออสเตรีย ซึ่งรวมถึง Bluecode, Wise (เดิมชื่อ TransferWise) และ Revolut ชาวออสเตรียสามารถใช้โซลูชันเหล่านี้เพื่อให้ได้รับอัตราที่ดีขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าเดิมสำหรับธุรกรรมที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินยูโร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์การค้าระหว่างประเทศ
คู่ค้าที่สำคัญของออสเตรียและเพื่อนบ้านหลายประเทศไม่ได้ใช้เงินยูโร ซึ่งรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ (ฟรังก์สวิส) สาธารณรัฐเช็ก (โครูนาหรือคราวน์) และฮังการี (ฟอรินต์) ผู้อยู่อาศัยในประเทศเหล่านี้และประเทศอื่นๆ นอกยูโรโซน ทั้งในและนอกทวีปมักทำธุรกรรมในออสเตรีย ธุรกิจในออสเตรียจึงควรเตรียมพร้อมที่จะยอมรับสกุลเงินที่หลากหลาย ให้บริการแปลงสกุลเงิน หรือรองรับวิธีการชำระเงินอื่นๆ
การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรปและยูโรโซน ออสเตรียให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงิน ภาพรวมโดยย่อมีดังนี้
กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
หลักฐานความมุ่งมั่นของออสเตรียในการคุ้มครองข้อมูลพบเห็นได้ชัดจากการปฏิบัติตาม GDPR อย่างเข้มงวด ซึ่งออกแบบมาเพื่อคุ้มครองข้อมูลของพลเมืองสหภาพยุโรป โดยกำหนดให้ธุรกิจต้องขอรับความยินยอมที่ชัดเจนเมื่อมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบในกรณีที่มีการละเมิดข้อมูล และอนุญาตให้พลเมืองเข้าถึงข้อมูลของตนได้PSD2 และผลกระทบ
PSD2 มีอิทธิพลต่อวิถีการชำระเงินของออสเตรียอย่างมาก คำสั่งของสหภาพยุโรปนี้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการแข่งขันทั่วยุโรปและการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการชำระเงิน รวมถึงการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนที่ไม่ใช่ธนาคาร การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) เป็นรากฐานที่สำคัญของ PSD2 เพื่อรับรองว่าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมบทบาทของหน่วยงานคุ้มครองข้อมูล (Datenschutzbehörde)
Datenschutzbehörde ของออสเตรียกำกับดูแลการปฏิบัติตามข้อกำหนด GDPR ภายในประเทศ หน่วยงานนี้จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจดำเนินงานตามกฎการคุ้มครองข้อมูลและมีอำนาจในการเรียกเก็บค่าปรับจำนวนมากหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและป้องกันการสนับสนุนเงินทุนให้แก่การก่อการร้าย
ตามคำสั่งของสหภาพยุโรป ออสเตรียมีจุดยืนที่แน่วแน่ต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนเงินทุนให้แก่การก่อการร้าย หน่วยงานตลาดการเงินของออสเตรีย (FMA) กำกับดูแลการดำเนินงานเหล่านี้ สถาบันการเงินจะต้องเก็บรักษาบันทึกอย่างพิถีพิถันและดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งต้องรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยด้วยระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์
ธุรกรรมและข้อตกลงดิจิทัลมักต้องใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในออสเตรีย ซึ่งออสเตรีย ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ Electronic Identification, Authentication, and Trust Services (eIDAS) ที่กำหนดมาตรฐานว่าด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์สำหรับทุกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ออสเตรียยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์สามประเภท โดยแต่ละประเภทมีระดับการรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ได้แก่ ระดับง่าย ระดับขั้นสูง และระดับที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การตรวจสอบและการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง
สถาบันหลายแห่งของออสเตรียตรวจสอบกิจกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดและรักษาความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIU) ที่สำนักงานตำรวจอาชญากรรมของรัฐบาลกลางตรวจสอบกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย โดยปฏิบัติหน้าที่เป็นป้อมปราการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ
ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
แวดวงการชำระเงินของออสเตรียมีรากฐานที่มั่นคง แต่ก็มีความท้าทายเฉพาะตัวเช่นเดียวกับระบบใดๆ ที่ซับซ้อน ต่อไปนี้คือสิ่งที่ธุรกิจควรคำนึงถึงเมื่อพัฒนากลยุทธ์ด้านการชำระเงินสำหรับออสเตรีย
การใช้การรับชำระเงินด้วยวิธีดั้งเดิม
แม้กระแสดิจิทัลจะแพร่กระจายไปทั่วยุโรป แต่ชาวออสเตรียจำนวนมากยังคงนิยมใช้เงินสดอยู่ การใช้เงินสดอย่างแพร่หลายนี้อาจเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับเทคโนโลยีการชำระเงินใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และบังคับให้ธุรกิจต้องใช้ช่องทางการทำธุรกรรมหลายรูปแบบความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
การเปิดรับแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติมากขึ้นทำให้ลูกค้าชาวออสเตรียเริ่มคาดหวังการชำระเงินแบบเรียลไทม์ การคืนเงินทันที และการชำระเงินดิจิทัลที่ใช้งานง่าย การบรรลุผลตามความคาดหวังเหล่านี้ต้องอาศัยการลงทุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นรายเล็กสามารถทำได้เสมอไปการปฏิบัติตามข้อกำหนด GDPR
เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ออสเตรียปฏิบัติตามกฎหมาย GDPR อย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้า ซึ่งแม้ว่าจะช่วยคุ้มครองผู้ใช้งาน แต่ข้อกำหนดที่เข้มงวดนี้อาจส่งผลให้ต้องลงทุนจำนวนมากและต้องคอยติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคส่วนที่ต้องจัดการธุรกรรมเป็นจำนวนมากความซับซ้อนของธุรกรรมข้ามพรมแดน
สถานะของออสเตรียในฐานะผู้ส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 203 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ตามข้อมูลจาก World Integrated Trade Solution (WITS) ยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของธุรกรรมข้ามพรมแดน แม้ว่า SEPA จะช่วยให้ดำเนินธุรกรรมยูโรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่การทำธุรกรรมในสกุลเงินอื่นๆ (หรือนอกเขต SEPA) ก็นำมาซึ่งความท้าทาย เช่น อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและข้อบังคับเฉพาะประเทศ
ประเด็นสำคัญ
ออสเตรียมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีภาคส่วนทางการเงินที่แข็งขัน ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงขณะที่พัฒนากลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดแห่งนี้
ยอมรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
ใช้ประโยชน์จากการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง
ชาวออสเตรียมักใช้การโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการธนาคารออนไลน์ แพลตฟอร์มที่รองรับการโอนธนาคารระหว่างธนาคารกับธนาคารทันทีจะเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าได้อีกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงๆตระหนักว่าชาวออสเตรียชอบใช้เงินสดมาอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าธุรกรรมดิจิทัลจะกำลังได้รับความนิยม แต่เงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ชาวออสเตรียจำนวนมากเลือกใช้ เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีสถานประกอบการที่มีหน้าร้านจริง สามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้โดยการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วยเงินสดและรักษาระบบการจัดการเงินสดที่มีประสิทธิภาพปรับใช้ตัวเลือกการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
แม้ว่าเงินสดจะยังคงเป็นที่นิยม แต่ออสเตรียก็มีการเติบโตในด้านการชำระเงินด้วยบัตรแบบไร้สัมผัสและกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การผสานการทำงานกับระบบ POS ที่ยอมรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและส่งเสริมตัวเลือกต่างๆ เช่น Apple Pay หรือ Google Pay จึงจะรองรับประชากรชาวออสเตรียที่ชอบใช้เทคโนโลยีได้
เพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงาน
ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่โปร่งใส
เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นของออสเตรียกับเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นคู่ค้าการส่งออกสามอันดับแรกในปี 2022 ตามข้อมูลของ WITS ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จึงควรเพิ่มความคล่องตัวในด้านการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ซึ่งรวมถึงการแจ้งเกี่ยวกับอากร ภาษี และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศที่อาจเรียกเก็บอย่างชัดเจนติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับ
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ออสเตรียปฏิบัติตามคำสั่งว่าด้วยการชำระเงินและการคุ้มครองข้อมูลบางรายการ เจ้าของธุรกิจจึงควรมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและข้อผูกพันด้านความเป็นส่วนตัวเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจจากลูกค้าใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
เมื่อธุรกรรมออนไลน์เติบโตขึ้น ความเสี่ยงของการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นได้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน การลงทุนกับเทคโนโลยีการเข้ารหัสที่ล้ำสมัยและการสื่อสารเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้เป็นประจำก็สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้
รับฟังความต้องการของผู้คนท้องถิ่น
ต้องใช้ร่วมกับบัตร Maestro ได้
ชาวออสเตรียจำนวนมากใช้บัตรเดบิต Maestro ดังนั้น การตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบการชำระเงินนั้นใช้ร่วมกับ Maestro และเครือข่ายบัตรระหว่างประเทศรายใหญ่อื่นๆ จะเพิ่มอัตราการทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ได้แปลภาษาในแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นภาษาท้องถิ่น
ภาษาประจำชาติของออสเตรียคือภาษาเยอรมัน แม้ว่าภาษาเยอรมันที่ชาวออสเตรียใช้จะแตกต่างจากคนในประเทศเพื่อนบ้านในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์เล็กน้อยก็ตาม ดังนั้นจึงควรเขียนเนื้อหาในเกตเวย์และเว็บไซต์เป็นภาษาเยอรมันของออสเตรียและตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าอีคอมเมิร์ซสอดคล้องตามบรรทัดฐานในท้องถิ่น เพื่อดึงดูดลูกค้าชาวออสเตรียให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบแจ้งนโยบายการคืนเงินและการคืนสินค้าที่ชัดเจน
นโยบายการคืนสินค้าและการคืนเงินที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาสามารถบรรเทาความวิตกกังวลของลูกค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อทางออนไลน์ การแสดงข้อมูลนี้อย่างเด่นชัดและแจ้งขั้นการคืนสินค้าที่ไม่ยุ่งยากจะส่งเสริมให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกภักดีได้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ