การชำระเงินในออสเตรีย: คู่มือเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานะของตลาด
  3. วิธีการชำระเงิน
    1. การใช้งานในปัจจุบัน
    2. แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
  4. ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
    3. การชำระเงินระหว่างประเทศ
    4. การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. ยอมรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
    2. เพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงาน
    3. รับฟังความต้องการของผู้คนท้องถิ่น

ออสเตรียตั้งอยู่ใจกลางยุโรป ดังนั้นจึงมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจอย่างมากโดยเป็นสะพานเชื่อมโยงภูมิภาคตะวันออก กลาง และตะวันตกของทวีปผ่านการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในออสเตรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานด้านเสถียรภาพทางการเงิน การธนาคารแบบดั้งเดิมดำรงอยู่ควบคู่กับเทคโนโลยีการชำระเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่

นอกจากนี้ ตลาดออสเตรียยังพึ่งพาสถาบันการเงินของประเทศที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถืออย่างมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมการชำระเงิน คู่มือนี้จะนำเสนอภาพรวมของระบบนิเวศการชำระเงินในออสเตรีย โดยมุ่งเน้นไปที่แง่มุมที่ธุรกิจที่ต้องการขยายการดำเนินการในออสเตรียควรคำนึงถึง ซึ่งรวมถึงแง่มุมต่อไปนี้

  • การรับชำระเงินที่หลากหลาย
  • การเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
  • การรับฟังความต้องการของผู้คนท้องถิ่น

สถานะของตลาด

หัวใจสำคัญของภาคส่วนการเงินของออสเตรียคือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ Erste Group Bank AG, Raiffeisen Bank International AG และ UniCredit Bank Austria AG ซึ่งแห่งสุดท้ายเป็นสมาชิกของ UniCredit Group และสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของตนที่มีอยู่ทั่วยุโรปได้

การใช้วิธีการชำระเงินที่ไม่ใช่วิธีการแบบดั้งเดิมและโซลูชันฟินเทคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในออสเตรีย โดยเฉพาะในใจกลางเมือง เช่น เวียนนา ซึ่งในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ออสเตรียปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ เช่นคำสั่งว่าด้วยบริการชำระเงินฉบับแก้ไข (PSD2) และกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) คำสั่งเหล่านี้จะช่วยรับรองว่าผู้ให้บริการชำระเงินรักษามาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า การมีส่วนร่วมของออสเตรียในเขตพื้นที่เพื่อการชำระเงินในยุโรป (Single Euro Payments Area - SEPA) เพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและลูกค้า

สภาพแวดล้อมด้านระเบียบข้อบังคับของออสเตรียมีความซับซ้อน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในการส่งเสริมความโปร่งใสและควบคุมกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อสหภาพยุโรปพยายามจำกัดการชำระเงินด้วยเงินสดไว้ที่ 10,000 ยูโร รัฐบาลออสเตรียกลับต่อต้าน และนายกรัฐมนตรีก็ได้ประกาศแผนที่จะสงวนสิทธิในการชำระเงินด้วยเงินสดไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเน้นใช้ระเบียบข้อบังคับในการส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลและตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจมีความพร้อมที่จะจัดการกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

วิธีการชำระเงิน

ชาวออสเตรียใช้การชำระเงินหลายรูปแบบ และบางครั้งก็แสดงออกให้เห็นว่าชอบใช้วิธีแบบดั้งเดิมมากกว่า เช่น ธนบัตรและเหรียญ แต่ก็เช่นเดียวกับเขตเศรษฐกิจคู่แข่งหลายแห่งในยุโรป ออสเตรียกำลังปรับใช้ตัวเลือกการชำระเงินที่สะดวกและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างรวดเร็ว

การใช้งานในปัจจุบัน

ชาวออสเตรียนิยมใช้เงินสดอย่างมาก ซึ่งข้อมูลของธนาคารกลางยุโรประบุว่า 70% ของการชำระเงินในร้านค้าดำเนินการโดยใช้เงินสดในปี 2022 อย่างไรก็ตาม มูลค่าของธุรกรรมที่มาจากการชำระเงินด้วยเงินสดมีเพียง มีเพียง 52% ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้เงินสดส่วนใหญ่เป็นการใช้กับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ

นอกจากนี้ ชาวออสเตรียยังเปิดรับการบริหารจัดการเงินทางดิจิทัล จากจำนวนของผู้ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ 72% ใช้บริการธนาคารออนไลน์ในปี 2019

ชาวออสเตรียใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตด้วย โดยบัตรคิดเป็น 34% ของค่าธุรกรรมของระบบบันทึกการขาย (POS) ในปี 2022 ตามข้อมูลของธนาคารกลางยุโรป นอกจากนี้ ชาวออสเตรียยังทำการชำระเงินด้วยบัตรมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 81 พันล้านยูโร ทั้งนี้แม้ว่าบัตรเครดิตได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีการใช้บัตรเดบิตอย่างแพร่หลายในประเทศ ซึ่งเป็นความนิยมที่พบได้บ่อยในประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศในยุโรป

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในออสเตรเลีย

  • เงินสด
  • บัตรเดบิต (และบัตรเครดิตในระดับที่น้อยกว่า)
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay, Google Pay และทางเลือกท้องถิ่นอย่าง Bluecode

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในออสเตรเลีย

  • บัตรเดบิตและบัตรเครดิต
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร
  • เงินสด

แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

การใช้กระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในออสเตรีย ข้อมูลจากธนาคารแห่งชาติออสเตรีย (Oesterreichische Nationalbank หรือ OeNB) เปิดเผยว่าในปี 2024 นั้น 95% ของธุรกรรมด้วยบัตรเดบิต ณ ระบบบันทึกการขายดำเนินการโดยใช้วิธีแบบไร้สัมผัส

นวัตกรรมต่างๆ เช่น การชำระเงินแบบไร้สัมผัส บริการธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และกระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่ชาวออสเตรียมีกับเงินสด เปอร์เซ็นต์ของชาวออสเตรียที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นทุกปี ผลสำรวจในปี 2019 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 9 จาก 10 คนไม่เคยออกจากบ้านโดยไม่พกสมาร์ทโฟนไปด้วย การชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็เพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน การสำรวจในปี 2023 พบว่า 20% ของผู้ค้าปลีกชาวออสเตรียรับชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay และ Google Pay ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเพียง 4% ในปี 2018

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

การเข้าสู่ตลาดต่างประเทศใหม่ย่อมหมายถึงการต้องคำนึงถึงความเป็นจริงทางธุรกิจหลายประการ ต่อไปนี้คือปัจจัยบางส่วนที่ธุรกิจที่กำลังขยายการดำเนินการเข้าสู่ออสเตรียควรพิจารณาเกี่ยวกับภาษี การเรียกเก็บเงินที่มีการโต้แย้งการชำระเงิน และการชำระเงินระหว่างประเทศ

ภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นแง่มุมสำคัญของระบบการเงินในออสเตรียที่ส่งผลต่อทั้งลูกค้าและธุรกิจ สินค้าและบริการส่วนใหญ่ในออสเตรียมีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานที่ 20% โดยที่แม้ว่าลูกค้าจะเป็นผู้รับภาระต้นทุนส่วนนี้โดยตรง แต่หน้าที่ในการเก็บภาษีนี้และนำส่งแก่รัฐบาลเป็นหน้าที่ของธุรกิจ ความผิดพลาดในการเก็บหรือการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มอาจนำไปสู่บทลงโทษทางการเงิน ทั้งลูกค้าและธุรกิจจำเป็นต้องตระหนักถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากการดำเนินการใดๆ ที่ไม่สอดคล้องกันอาจทำให้ถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานภาษีและนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายได้

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

นโยบายของออสเตรียเกี่ยวกับการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินเน้นปกป้องผู้บริโภค ขณะที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมและการแข่งขันที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ เนื่องจากระเบียบข้อบังคับของยุโรปกำหนดกรอบการทำงานที่กว้างมากขึ้น สถาบันภายในของออสเตรียจึงต้องปรับขั้นตอนดำเนินการให้สอดคล้องกับค่านิยมและเป้าหมายทางเศรษฐกิจของประเทศ

การชำระเงินระหว่างประเทศ

เศรษฐกิจของออสเตรียมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป และสภาพแวดล้อมของออสเตรียที่เป็นมิตรกับธุรกิจและการท่องเที่ยวก็ทำให้ธุรกิจต่างๆ มักจะต้องรับหรือส่งการชำระเงินระหว่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ต่อไปนี้เป็นข้อควรพิจารณาบางประการที่ควรคำนึงถึง

  • SEPA
    ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป ออสเตรียเป็นสมาชิกของเขต SEPA ซึ่งประกอบด้วย 36 ประเทศ และช่วยให้โอนเครดิตได้อย่างรวดเร็วทั่วยุโรป ออสเตรียดำเนินการค้าระหว่างประเทศประมาณ 30% กับเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอย่างเยอรมนี ซึ่งการชำระเงินแบบ SEPA ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก

  • การแปลงสกุลเงิน
    ตัวเลือกในการชำระเงินของบุคคลที่สามหลายรายการช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการแปลงสกุลเงินในออสเตรีย ซึ่งรวมถึง Bluecode, Wise (เดิมชื่อ TransferWise) และ Revolut ชาวออสเตรียสามารถใช้โซลูชันเหล่านี้เพื่อให้ได้รับอัตราที่ดีขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าเดิมสำหรับธุรกรรมที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินยูโร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์

  • การค้าระหว่างประเทศ
    คู่ค้าที่สำคัญของออสเตรียและเพื่อนบ้านหลายประเทศไม่ได้ใช้เงินยูโร ซึ่งรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ (ฟรังก์สวิส) สาธารณรัฐเช็ก (โครูนาหรือคราวน์) และฮังการี (ฟอรินต์) ผู้อยู่อาศัยในประเทศเหล่านี้และประเทศอื่นๆ นอกยูโรโซน ทั้งในและนอกทวีปมักทำธุรกรรมในออสเตรีย ธุรกิจในออสเตรียจึงควรเตรียมพร้อมที่จะยอมรับสกุลเงินที่หลากหลาย ให้บริการแปลงสกุลเงิน หรือรองรับวิธีการชำระเงินอื่นๆ

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรปและยูโรโซน ออสเตรียให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงิน ภาพรวมโดยย่อมีดังนี้

  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
    หลักฐานความมุ่งมั่นของออสเตรียในการคุ้มครองข้อมูลพบเห็นได้ชัดจากการปฏิบัติตาม GDPR อย่างเข้มงวด ซึ่งออกแบบมาเพื่อคุ้มครองข้อมูลของพลเมืองสหภาพยุโรป โดยกำหนดให้ธุรกิจต้องขอรับความยินยอมที่ชัดเจนเมื่อมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบในกรณีที่มีการละเมิดข้อมูล และอนุญาตให้พลเมืองเข้าถึงข้อมูลของตนได้

  • PSD2 และผลกระทบ
    PSD2 มีอิทธิพลต่อวิถีการชำระเงินของออสเตรียอย่างมาก คำสั่งของสหภาพยุโรปนี้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการแข่งขันทั่วยุโรปและการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการชำระเงิน รวมถึงการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนที่ไม่ใช่ธนาคาร การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) เป็นรากฐานที่สำคัญของ PSD2 เพื่อรับรองว่าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

  • บทบาทของหน่วยงานคุ้มครองข้อมูล (Datenschutzbehörde)
    Datenschutzbehörde ของออสเตรียกำกับดูแลการปฏิบัติตามข้อกำหนด GDPR ภายในประเทศ หน่วยงานนี้จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจดำเนินงานตามกฎการคุ้มครองข้อมูลและมีอำนาจในการเรียกเก็บค่าปรับจำนวนมากหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด

  • การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและป้องกันการสนับสนุนเงินทุนให้แก่การก่อการร้าย
    ตามคำสั่งของสหภาพยุโรป ออสเตรียมีจุดยืนที่แน่วแน่ต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนเงินทุนให้แก่การก่อการร้าย หน่วยงานตลาดการเงินของออสเตรีย (FMA) กำกับดูแลการดำเนินงานเหล่านี้ สถาบันการเงินจะต้องเก็บรักษาบันทึกอย่างพิถีพิถันและดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งต้องรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยด้วย

  • ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์
    ธุรกรรมและข้อตกลงดิจิทัลมักต้องใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในออสเตรีย ซึ่งออสเตรีย ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ Electronic Identification, Authentication, and Trust Services (eIDAS) ที่กำหนดมาตรฐานว่าด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์สำหรับทุกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ออสเตรียยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์สามประเภท โดยแต่ละประเภทมีระดับการรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ได้แก่ ระดับง่าย ระดับขั้นสูง และระดับที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์

  • การตรวจสอบและการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง
    สถาบันหลายแห่งของออสเตรียตรวจสอบกิจกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดและรักษาความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIU) ที่สำนักงานตำรวจอาชญากรรมของรัฐบาลกลางตรวจสอบกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย โดยปฏิบัติหน้าที่เป็นป้อมปราการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

แวดวงการชำระเงินของออสเตรียมีรากฐานที่มั่นคง แต่ก็มีความท้าทายเฉพาะตัวเช่นเดียวกับระบบใดๆ ที่ซับซ้อน ต่อไปนี้คือสิ่งที่ธุรกิจควรคำนึงถึงเมื่อพัฒนากลยุทธ์ด้านการชำระเงินสำหรับออสเตรีย

  • การใช้การรับชำระเงินด้วยวิธีดั้งเดิม
    แม้กระแสดิจิทัลจะแพร่กระจายไปทั่วยุโรป แต่ชาวออสเตรียจำนวนมากยังคงนิยมใช้เงินสดอยู่ การใช้เงินสดอย่างแพร่หลายนี้อาจเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับเทคโนโลยีการชำระเงินใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และบังคับให้ธุรกิจต้องใช้ช่องทางการทำธุรกรรมหลายรูปแบบ

  • ความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
    การเปิดรับแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติมากขึ้นทำให้ลูกค้าชาวออสเตรียเริ่มคาดหวังการชำระเงินแบบเรียลไทม์ การคืนเงินทันที และการชำระเงินดิจิทัลที่ใช้งานง่าย การบรรลุผลตามความคาดหวังเหล่านี้ต้องอาศัยการลงทุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นรายเล็กสามารถทำได้เสมอไป

  • การปฏิบัติตามข้อกำหนด GDPR
    เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ออสเตรียปฏิบัติตามกฎหมาย GDPR อย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้า ซึ่งแม้ว่าจะช่วยคุ้มครองผู้ใช้งาน แต่ข้อกำหนดที่เข้มงวดนี้อาจส่งผลให้ต้องลงทุนจำนวนมากและต้องคอยติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคส่วนที่ต้องจัดการธุรกรรมเป็นจำนวนมาก

  • ความซับซ้อนของธุรกรรมข้ามพรมแดน
    สถานะของออสเตรียในฐานะผู้ส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 203 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ตามข้อมูลจาก World Integrated Trade Solution (WITS) ยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของธุรกรรมข้ามพรมแดน แม้ว่า SEPA จะช่วยให้ดำเนินธุรกรรมยูโรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่การทำธุรกรรมในสกุลเงินอื่นๆ (หรือนอกเขต SEPA) ก็นำมาซึ่งความท้าทาย เช่น อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและข้อบังคับเฉพาะประเทศ

ประเด็นสำคัญ

ออสเตรียมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีภาคส่วนทางการเงินที่แข็งขัน ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงขณะที่พัฒนากลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดแห่งนี้

ยอมรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย

  • ใช้ประโยชน์จากการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง
    ชาวออสเตรียมักใช้การโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการธนาคารออนไลน์ แพลตฟอร์มที่รองรับการโอนธนาคารระหว่างธนาคารกับธนาคารทันทีจะเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าได้อีกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงๆ

  • ตระหนักว่าชาวออสเตรียชอบใช้เงินสดมาอย่างต่อเนื่อง
    แม้ว่าธุรกรรมดิจิทัลจะกำลังได้รับความนิยม แต่เงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ชาวออสเตรียจำนวนมากเลือกใช้ เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีสถานประกอบการที่มีหน้าร้านจริง สามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้โดยการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วยเงินสดและรักษาระบบการจัดการเงินสดที่มีประสิทธิภาพ

  • ปรับใช้ตัวเลือกการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
    แม้ว่าเงินสดจะยังคงเป็นที่นิยม แต่ออสเตรียก็มีการเติบโตในด้านการชำระเงินด้วยบัตรแบบไร้สัมผัสและกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การผสานการทำงานกับระบบ POS ที่ยอมรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและส่งเสริมตัวเลือกต่างๆ เช่น Apple Pay หรือ Google Pay จึงจะรองรับประชากรชาวออสเตรียที่ชอบใช้เทคโนโลยีได้

เพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงาน

  • ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่โปร่งใส
    เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นของออสเตรียกับเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นคู่ค้าการส่งออกสามอันดับแรกในปี 2022 ตามข้อมูลของ WITS ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จึงควรเพิ่มความคล่องตัวในด้านการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ซึ่งรวมถึงการแจ้งเกี่ยวกับอากร ภาษี และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศที่อาจเรียกเก็บอย่างชัดเจน

  • ติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับ
    ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ออสเตรียปฏิบัติตามคำสั่งว่าด้วยการชำระเงินและการคุ้มครองข้อมูลบางรายการ เจ้าของธุรกิจจึงควรมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและข้อผูกพันด้านความเป็นส่วนตัวเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า

  • ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
    เมื่อธุรกรรมออนไลน์เติบโตขึ้น ความเสี่ยงของการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นได้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน การลงทุนกับเทคโนโลยีการเข้ารหัสที่ล้ำสมัยและการสื่อสารเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้เป็นประจำก็สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้

รับฟังความต้องการของผู้คนท้องถิ่น

  • ต้องใช้ร่วมกับบัตร Maestro ได้
    ชาวออสเตรียจำนวนมากใช้บัตรเดบิต Maestro ดังนั้น การตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบการชำระเงินนั้นใช้ร่วมกับ Maestro และเครือข่ายบัตรระหว่างประเทศรายใหญ่อื่นๆ จะเพิ่มอัตราการทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ได้

  • แปลภาษาในแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นภาษาท้องถิ่น
    ภาษาประจำชาติของออสเตรียคือภาษาเยอรมัน แม้ว่าภาษาเยอรมันที่ชาวออสเตรียใช้จะแตกต่างจากคนในประเทศเพื่อนบ้านในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์เล็กน้อยก็ตาม ดังนั้นจึงควรเขียนเนื้อหาในเกตเวย์และเว็บไซต์เป็นภาษาเยอรมันของออสเตรียและตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าอีคอมเมิร์ซสอดคล้องตามบรรทัดฐานในท้องถิ่น เพื่อดึงดูดลูกค้าชาวออสเตรียให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

  • แจ้งนโยบายการคืนเงินและการคืนสินค้าที่ชัดเจน
    นโยบายการคืนสินค้าและการคืนเงินที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาสามารถบรรเทาความวิตกกังวลของลูกค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อทางออนไลน์ การแสดงข้อมูลนี้อย่างเด่นชัดและแจ้งขั้นการคืนสินค้าที่ไม่ยุ่งยากจะส่งเสริมให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกภักดีได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe