หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจต่างชาติที่คิดจะขยายธุรกิจไปยังอิตาลี การตั้งบริษัทของคุณในสาขาอิตาลีอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะจะทำให้คุณสามารถทำธุรกิจในประเทศได้อย่างถาวรไปพร้อมกับการรักษาความสัมพันธ์ทางกฎหมายกับบริษัทแม่ในต่างประเทศไว้ แต่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายอิตาลีทุกประการ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจขั้นตอนทางราชการและการเงินทุกขั้นตอน

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกว่าการมีสาขาในอิตาลีของบริษัทต่างชาติหมายความว่าอย่างไร จะตั้งสาขาในอิตาลีได้อย่างไร จะต้องเสียภาษีอะไรบ้าง และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอะไรบ้าง

เนื้อหาหลักในบทความ

• สาขาคืออะไร
  
• บริษัทต่างประเทศสาขาอิตาลีคืออะไร
  
• วิธีตั้งสาขาของบริษัทต่างประเทศในอิตาลี
  
• วิธีการเก็บภาษีสำหรับบริษัทต่างประเทศในสาขาอิตาลีมีลักษณะอย่างไร
  
• โซลูชัน Stripe สำหรับการบริหารจัดการสาขาในอิตาลี
  
• ข้อกำหนดตามแบบแผนล่วงหน้า
  
• ความแตกต่างระหว่างสาขาและสำนักงานตัวแทน
  

สาขาคืออะไร

สาขาเป็นเพียงบริษัทสาขา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจถาวรที่บริษัทสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่อื่นได้ โดยสาขาไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก (กล่าวคือ มีอำนาจปกครองตนเอง) แต่อยู่ภายใต้ภาระผูกพันทางภาษีและบัญชีสำหรับกิจกรรมที่ดำเนินการในท้องถิ่น

บริษัทต่างประเทศสาขาอิตาลีคืออะไร

สาขาในอิตาลีของบริษัทต่างประเทศถือเป็นบริษัทย่อยของบริษัทนั้น โดยไม่มีสถานะนิติบุคคลที่เป็นอิสระ และขึ้นตรงกับสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศ โดยสาขานี้ไม่ใช่นิติบุคคลแยกต่างหาก แต่เป็นตัวแทนของบริษัทแม่ในอิตาลี โดยทำกิจกรรมด้านการดำเนินงาน การค้า หรือการผลิต

การจัดตั้งสาขาของบริษัทต่างชาติในอิตาลีช่วยให้บริษัทแม่สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นได้โดยไม่ต้องจัดตั้งบริษัทใหม่ ในมุมมองทางการคลัง สาขาของบริษัทต่างชาติในอิตาลีถือเป็นสถานประกอบการถาวรตามมาตรา 162 แห่งกฎหมายภาษีเงินได้รวม (TUIR) ซึ่งหมายความว่า แม้จะไม่มีอิสระทางกฎหมาย แต่สาขาดังกล่าวก็ยังต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันทางภาษีของอิตาลีเกี่ยวกับรายได้ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจต่างชาติจึงต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และปฏิบัติตามภาระผูกพันทางบัญชี ภาษี และการจ้างงาน เช่นเดียวกับบุคคลอื่นที่เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในอิตาลีที่ต้องเสียภาษี

วิธีตั้งสาขาของบริษัทต่างประเทศในอิตาลี

หากต้องการตั้งสาขาของบริษัทต่างประเทศในอิตาลี คุณต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางราชการ ซึ่งเราจะอธิบายรายละเอียดด้านล่างนี้

ร่างมติจัดตั้งสาขา

สำนักงานใหญ่ในต่างประเทศของบริษัทต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการให้จัดตั้งสาขาในอิตาลีตามมติของคณะกรรมการบริหารหรือหน่วยงานที่มีอำนาจอื่น เอกสารนี้ต้องระบุที่อยู่ของสาขาและชื่อตัวแทนทางกฎหมายที่มีอำนาจในการจัดการสาขา โดยตัวแทนทางกฎหมายไม่จำเป็นต้องมีถิ่นที่อยู่ในอิตาลี แต่ควรมีภูมิลำเนาเพื่อเสียภาษีในอิตาลี เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดและความสัมพันธ์กับหน่วยงานท้องถิ่น

แปลเอกสารทั้งหมดและรับรองเอกสาร

หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ข้อบังคับ และรายงานการประชุมคณะกรรมการต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอิตาลี โดยผู้แปลคนเดียวกันนี้จะต้องนำเอกสารไปรับรองโดยศาลหรือรับรองโดยเจ้าหน้าที่รัฐ (โดยปกติคือเจ้าหน้าที่ศาลหรือโนตารี) โดยการแปลสาบานตนนี้ ผู้แปลจะต้องให้คำสาบานว่าคำแปลนั้นถูกต้องตามต้นฉบับ ซึ่งทำให้เอกสารดังกล่าวมีความถูกต้องตามกฎหมายในอิตาลี

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้หน่วยงานของอิตาลี โดยเฉพาะสำนักทะเบียนธุรกิจสามารถตรวจสอบเนื้อหาและกรอบกฎหมายของบริษัทต่างประเทศของคุณได้อย่างเป็นทางการ ขอแนะนำให้คุณติดต่อบริษัทมืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านการแปลเอกสารรับรอง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าหรือข้อผิดพลาดในขั้นตอนการดำเนินการ จากนั้นคุณจะต้องแนบเอกสารรับรองกับใบขอจดทะเบียนสาขากับหอการค้าที่เกี่ยวข้อง

ขอรับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของอิตาลี

สำหรับการจัดตั้งสาขาในอิตาลีของบริษัทต่างประเทศ คุณต้องขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของอิตาลี โดยขั้นตอนนี้ต้องดำเนินการกับสำนักงานสรรพากรอิตาลีโดยกรอกแบบฟอร์ม AA7/10 ซึ่งใช้สำหรับนิติบุคคลที่ไม่ใช่บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะ คุณสามารถยื่นใบสมัครออนไลน์หรือยื่นที่สำนักงานเขตที่เกี่ยวข้องได้โดยตรง

ในแบบฟอร์มนี้ คุณจะต้องกรอกรายละเอียดบริษัทแม่ ที่อยู่สาขาในอิตาลี รหัสการจำแนกประเภทกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (ATECO) ที่ตรงกับประเภทธุรกิจ และชื่อตัวแทนทางกฎหมายในอิตาลี การเลือกรหัส ATECO ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะกำหนดข้อกำหนดด้านภาษีและประกันสังคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

เมื่อคุณได้รับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว คุณสามารถเริ่มออกใบแจ้งหนี้ บันทึกธุรกรรม และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินทั้งหมดภายใต้กฎหมายอิตาลี เช่น การชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นงวดและการยื่นแบบภาษีประจำปี

จดทะเบียนสาขากับสำนักทะเบียนธุรกิจ

นี่เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการรับรองว่าสาขาของบริษัทต่างประเทศของคุณดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบในอิตาลี โดยคุณต้องกรอกแบบฟอร์ม S1 โดยเข้าไปที่พอร์ทัลของสำนักทะเบียนธุรกิจ และปฏิบัติตามคำแนะนำสำหรับขั้นตอนของ ComUnica โดยจะต้องแนบเอกสารต่อไปนี้ไปด้วย

• สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทและข้อบังคับที่ได้รับการรับรองและแปลแล้ว
  
• สำเนาเอกสารแสดงตนของผู้แทนโดยชอบธรรม
  
• รหัสจดทะเบียน (เช่น การจดทะเบียนกับสำนักทะเบียนธุรกิจต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง)
  
• ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสาขา
  
• หนังสือแต่งตั้งตัวแทนในประเทศอิตาลี
  
• รหัส EUID คือรหัสประจำตัวของยุโรปที่กำหนดโดย Directive 2012/17/EU ซึ่งใช้เพื่อระบุตัวบริษัทต่างประเทศในทะเบียนยุโรปและอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงกัน
  
• การชำระค่าธรรมเนียมหอการค้าและอากรแสตมป์
  

จดทะเบียนกับ INPS และ INAIL

หากสาขาของบริษัทของคุณตั้งใจจะจ้างพนักงานในอิตาลี คุณจะต้องลงทะเบียนกับสถาบันเพื่อการประกันสังคมแห่งชาติ (INPS) และสถาบันเพื่อการประกันอุบัติเหตุจากการทำงานแห่งชาติ (INAIL)

การจดทะเบียนกับ INPS เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมให้กับพนักงานของคุณ ในระหว่างที่จดทะเบียน คุณจะถูกขอให้ระบุขอบเขตธุรกิจของคุณ (เช่น ประเภทธุรกิจ อุตสาหกรรม หรือประเภทของบริการ) จำนวนพนักงานที่คุณคาดว่าจะจ้าง และข้อตกลงแรงงานร่วมระดับชาติที่คุณต้องการสมัคร

สำหรับ INAIL คุณจะต้องทำประกันให้กับพนักงานของคุณในกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานและโรคจากการทำงาน เมื่อลงทะเบียนแล้ว คุณจะได้รับมอบหมายงานประกันภัยท้องถิ่น โดยเบี้ยประกันภัยซึ่งคุณจะต้องชำระเป็นงวดๆ จะคำนวณตามลักษณะธุรกิจและระดับความเสี่ยง

คุณสามารถลงทะเบียนกับทั้ง INPS และ INAIL ได้ทางออนไลน์ผ่านพอร์ทัลของสถาบันที่เกี่ยวข้อง โปรดทราบว่าจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเริ่มงานใดก็ตาม เพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบของอิตาลีอย่างครบถ้วน และเพื่อปกป้องทั้งสาขาและพนักงานของคุณ

รับหนังสือแจ้งการเริ่มทำธุรกิจ (SCIA) ที่ผ่านการรับรอง

SCIA เป็นข้อกำหนดสำหรับการจัดตั้งธุรกิจเกือบทั้งหมดในอิตาลี โดยต้องยื่นต่อ One Stop Shop for Production Activities หรือ SUAP ของเทศบาลที่สาขาตั้งอยู่ ซึ่งสามารถทำทางออนไลน์ได้ด้วย โดยอาจจำเป็นต้องมีเอกสารหรือใบอนุญาตเพิ่มเติม (เช่น คุณวุฒิวิชาชีพ การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการแบ่งเขต ใบอนุญาตด้านสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจของคุณ

การปรึกษาที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ซึ่งสามารถช่วยทำให้กระบวนการในการจัดตั้งสาขาต่างประเทศในอิตาลีง่ายขึ้น และมั่นใจได้ว่าคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและการบริหารทั้งหมดอาจเป็นประโยชน์

วิธีการเก็บภาษีสำหรับบริษัทต่างประเทศในสาขาอิตาลีมีลักษณะอย่างไร

ถึงแม้สาขาของบริษัทต่างชาติจะไม่มีอำนาจทางกฎหมายแบบแยกต่างหาก แต่สาขาท้องถิ่นของบริษัทต่างชาติจะต้องเสียภาษีในอิตาลีสำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ซึ่งหมายความว่าสาขาดังกล่าวจะถือเป็นสถานประกอบการถาวรเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเงิน

นี่คือภาษีหลักๆ ที่สาขาในอิตาลีของคุณจะต้องจ่าย

ภาษีเงินได้นิติบุคคล (IRES)

IRES เป็นภาษีหลักที่ใช้กับกำไรของบริษัท ในกรณีนี้ อัตราภาษี 24% จะถูกใช้กับกำไรสุทธิที่เกิดจากสาขาในอิตาลี

ภาษีการผลิตระดับภูมิภาค (IRAP)

IRAP เป็นภาษีท้องถิ่นที่เรียกเก็บจากมูลค่าสุทธิของผลผลิตที่เกิดจากสาขาต่างประเทศ อัตราภาษีมาตรฐานอยู่ที่ 3.9% แต่อาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค สำหรับวิสาหกิจเชิงพาณิชย์ ฐานภาษีคือส่วนต่างระหว่างรายได้และต้นทุนการผลิต โดยไม่รวมรายการบางรายการ เช่น ดอกเบี้ยจ่ายหรือค่าตอบแทนแก่ผู้ประกอบอาชีพอิสระเป็นครั้งคราว

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

สาขาของคุณต้องบริหารจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มของตนเองในอิตาลี โดยออกใบแจ้งหนี้พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม และปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นระยะๆ (เช่น การชำระเงินรายเดือนหรือรายไตรมาส การยื่นภาษีรายปี) โดยกลไกของภาษีมูลค่ามีดังนี้

• ภาษีมูลค่าเพิ่มขาออก: ภาษีมูลค่าเพิ่มขาออก คือ ภาษีที่สาขาเรียกเก็บจากลูกค้าจากการขายสินค้าและบริการ
  
• ภาษีมูลค่าเพิ่มขาเข้า: ในทางกลับกัน ภาษีมูลค่าเพิ่มขาเข้า คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่สาขาจ่ายให้กับซัพพลายเออร์ในการจัดซื้อ
  

สาขาต้องชำระส่วนต่างระหว่างภาษีมูลค่าเพิ่มขาออกและภาษีมูลค่าเพิ่มขาเข้าให้แก่กรมสรรพากร หากภาษีมูลค่าเพิ่มขาเข้าสูงกว่า สามารถยกยอดไปยังงวดถัดไปหรือขอคืนภาษีได้

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

นี่เป็นข้อกำหนดทางการเงินที่สาขา (เมื่อทำการชำระเงินให้แก่พนักงาน ผู้ร่วมงาน หรือฟรีแลนซ์) จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายบางส่วนและนำส่งให้รัฐบาลอิตาลีโดยตรง ในบทบาทนี้ สาขาจะไม่จ่ายภาษีให้กับตนเอง แต่จะหักภาษี ณ ที่จ่ายส่วนหนึ่งของรายได้ที่พนักงาน (หรือผู้รับผลประโยชน์อื่นๆ) ของพนักงาน (หรือผู้รับผลประโยชน์อื่นๆ) ของพนักงาน (หรือผู้รับผลประโยชน์อื่นๆ) ของพนักงาน และนำส่งให้กับกรมสรรพากรในนามของพนักงานเหล่านั้น ดังนั้น สาขาจึงทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้รับรายได้และรัฐบาล

การจัดเก็บภาษีของสาขาเป็นไปตามหลักการของกฎหมายภาษีของอิตาลี และกำหนดให้ต้องมีการบัญชีแยกต่างหากจากบัญชีของบริษัทแม่ต่างชาติ หากคุณต้องการตั้งสาขาของบริษัทต่างชาติในอิตาลี คุณต้องจัดทำระบบบัญชีที่สอดคล้องและปรึกษานักบัญชีที่ได้รับการรับรองซึ่งปฏิบัติงานในอิตาลี

นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้ต้องเสียภาษีซ้ำซ้อน คุณต้องตรวจสอบว่ามีอนุสัญญาเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีซ้ำซ้อนระหว่างอิตาลีและประเทศที่บริษัทแม่ของคุณตั้งอยู่หรือไม่

โซลูชันของ Stripe สำหรับการบริหารจัดการสาขาต่างประเทศในอิตาลี

หากคุณกำลังจะตั้งสาขาธุรกิจต่างประเทศในอิตาลี การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการจัดการการชำระเงิน การออกใบแจ้งหนี้ และการปฏิบัติตามภาษี ถือเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชันของ Stripe นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับทุกขั้นตอนการดำเนินงานของธุรกิจของคุณในอิตาลี

Stripe Payments ช่วยให้คุณรับชำระเงินออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและปรับขนาดได้ หากคุณมีจุดขายหน้าร้าน Stripe Terminal จะช่วยให้คุณรับชำระเงินด้วยบัตรได้ด้วยตนเองในหลายประเทศ นอกจากนี้ Stripe Terminal ยังช่วยให้คุณจัดการการชำระเงินทั้งแบบออนไลน์และแบบพบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแสดงผลในแดชบอร์ดเดียว จึงช่วยลดความยุ่งยากในการทำรายงาน การตรวจสอบบัญชี และการวิเคราะห์ข้อมูล

สำหรับการจัดการการเรียกเก็บเงิน คุณสามารถใช้ Stripe Invoicing ซึ่งช่วยให้คุณสร้างและส่งใบแจ้งหนี้ได้ทั้งแบบครั้งเดียวและแบบประจำ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลย เครื่องมือนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาและรับเงินได้เร็วขึ้น (87% ของใบแจ้งหนี้ Stripe ได้รับการชำระเงินภายใน 24 ชั่วโมง) และด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก เช่น A-Cube คุณยังสามารถใช้ Invoicing สำหรับการออกใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นได้อีกด้วย

สาขาในอิตาลีของบริษัทต่างประเทศของคุณก็จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นกัน Stripe Tax สามารถช่วยคุณคำนวณ ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดในอิตาลีและอีกกว่า 100 ประเทศ นอกจากนี้ หากคุณบริหารจัดการการสมัครสมาชิกหรือรายได้ประจำ Stripe Revenue Recognition จะช่วยให้คุณบันทึกรายได้ตามมาตรฐานการบัญชีสากล

ข้อกำหนดตามแบบแผนล่วงหน้า

หลังจากก่อตั้งแล้ว สาขาอิตาลีของบริษัทต่างชาติจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อเนื่องชุดหนึ่ง ซึ่งคล้ายกับข้อกำหนดที่ใช้กับบริษัทอิตาลี

การทำบัญชี

คุณต้องใช้ระบบบัญชีสำหรับสาขาที่สอดคล้องกับกฎระเบียบของอิตาลี และอนุญาตให้บันทึกรายการธุรกรรมตามลำดับเวลาและเป็นระบบ นอกจากนี้ คุณต้องจัดทำสมุดบัญชีที่จำเป็น (เช่น สมุดรายวัน บัญชีสินค้าคงคลัง ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) และเก็บรักษาไว้อย่างน้อย 10 ปี

การยื่นแบบแสดงรายการภาษี

ทุกปีคุณ0tต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (IRS), IRAP และภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงแบบฟอร์ม Intrastat สำหรับธุรกรรมกับประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป นอกจากนี้ สาขายังต้องรายงานการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นงวดและชำระภาษีภายในกำหนดเวลาที่เกี่ยวข้อง

การชำระภาษีและเงินสมทบ

นอกจากภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว สาขายังต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากค่าตอบแทนที่จ่ายให้แก่พนักงานและผู้ร่วมงาน หากมีพนักงาน คุณต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคม (INPS) และประกันสังคม (INAIL) ตามวันครบกำหนดชำระรายเดือนด้วย

การยื่นงบการเงินของบริษัทแม่

ถึงแม้สาขาจะไม่ได้จัดทำงบการเงินแยกต่างหาก แต่สาขาจะต้องยื่นสำเนางบการเงินของบริษัทแม่ (ที่แปลเป็นภาษาอิตาลี) ต่อสำนักทะเบียนธุรกิจ ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 30 วันนับจากวันที่อนุมัติงบการเงิน

ปฏิบัติตามกฎระเบียบการจ้างงาน

เมื่อมีการจ้างพนักงาน สาขาจะต้องทำสัญญา, ส่งการสื่อสารที่จำเป็น (UniLav), จัดทำใบจ่ายเงิน, ใช้ข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมกันสำหรับภาคส่วน และปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย

อัปเดตข้อมูลทะเบียนธุรกิจ

การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานจดทะเบียน ธุรกิจ ตัวแทนทางกฎหมาย หรือรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะต้องแจ้งให้หอการค้าที่เกี่ยวข้องทราบโดยเร็ว

ความแตกต่างระหว่างสาขาและสำนักงานตัวแทน

หากคุณต้องการทำธุรกิจในอิตาลี คุณมีสองทางเลือกคือจัดตั้งสาขาของบริษัท หรือจัดตั้งสำนักงานตัวแทน สำนักงานตัวแทนเป็นนิติบุคคลที่แตกต่างกันมาก เหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน

สำนักงานตัวแทนทำงานอย่างไร

สำนักงานตัวแทนคือสถานที่ขนาดเล็กที่ใช้สำหรับกิจกรรมเตรียมการหรือกิจกรรมเสริม เช่น การวิจัยตลาด การติดต่อส่งเสริมการขาย การสนับสนุนทางการค้า หรือความช่วยเหลือทางเทคนิค สำนักงานตัวแทนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมการผลิต ออกใบแจ้งหนี้ หรือทำสัญญาในนามของบริษัทแม่ได้ ไม่สามารถสร้างรายได้ในอิตาลี ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียภาษี IRES หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนในทะเบียนธุรกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็น แม้ว่าจะเป็นสำนักงานรองที่ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ท่านยังต้องขอรหัสภาษีเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำในการบริหาร

สาขาทำงานอย่างไร

สาขาคือสถานประกอบการถาวรของบริษัทต่างชาติ มีตัวแทนและดำเนินงานในอิตาลี ทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ที่ต้องเสียภาษี ออกใบแจ้งหนี้ และสามารถทำสัญญาได้ ดังนั้น สาขาจึงต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันด้านภาษีและประกันสังคม เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ ในอิตาลี เช่น IRES, IRAP, VAT, INPS, INAIL และอื่นๆ นอกจากนี้ สาขายังต้องมีบัญชีแยกต่างหากและมีกรอบการบริหารที่เพียงพอสำหรับการดำเนินงานในตลาดท้องถิ่น

สำนักงานตัวแทนสามารถทำอะไรได้บ้าง

สำนักงานตัวแทนในอิตาลีสามารถดำเนินการสนับสนุนบริษัทแม่ในต่างประเทศได้โดยที่ไม่มีการสร้างรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถจัดการกับเรื่องต่อไปนี้ได้

• กิจกรรมการวิจัยตลาด
  
• การโปรโมทแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์
  
• การสนับสนุนเชิงพาณิชย์ที่ไม่ดำเนินการ
  
• ความช่วยเหลือด้านเทคนิคสำหรับลูกค้าชาวอิตาลี
  
• การเป็นตัวแทนของสถาบัน
  

ในทางกลับกัน สำนักงานตัวแทนไม่สามารถขายสินค้าหรือบริการ ออกใบแจ้งหนี้ หรือทำสัญญาในนามของบริษัทต่างชาติได้ ถือเป็นวิธีที่มีประโยชน์หากคุณต้องการทดลองตลาดอิตาลีโดยไม่ต้องเปิดบริษัทต่างชาติในสาขาอิตาลี