การชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือภาระหน้าที่ทางภาษีสำหรับผู้ถือภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อคำนวณเครดิตหรือเดบิตภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับงวดภาษีที่กำหนด ต้องคํานวณและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเป็นตัวกำหนดจำนวนเงินสำหรับใบแจ้งหนี้ที่ออกให้กับลูกค้าและใบแจ้งหนี้ที่ได้รับจากซัพพลายเออร์ บทความนี้จะอธิบายโดยละเอียดว่าการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร ชำระเมื่อใด และอย่างไร รวมถึงค่าปรับสำหรับการไม่ชำระเงิน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การชําระภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร
  
• กําหนดเวลาสําหรับการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• วิธีคํานวณการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• วิธีชําระเงินสําหรับการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• ค่าปรับหากไม่ชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม
  

การชําระภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร

การชําระภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาระหน้าที่ทางภาษีภาคบังคับสําหรับกิจกรรมทั้งหมดที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยเกี่ยวข้องการคํานวณเครดิตหรือเดบิตภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับระยะเวลาที่กําหนดเพื่อกําหนดจํานวนเงิน (หากมี) ที่จะต้องชําระให้แก่ Treasury ผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มทุกคนจะต้องคำนวณการชำระภาษี ยกเว้นผู้ที่ลงทะเบียนในระบบภาษีที่มีประโยชน์ เช่น ระบบอัตราคงที่

จำนวนเงินชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกต้องจะคำนวณโดยการลบภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดบนใบแจ้งหนี้ที่ได้รับจากซัพพลายเออร์ออกจากภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดบนใบแจ้งหนี้ที่ออกให้กับลูกค้า หากผลลัพธ์เป็นจํานวนบวก หมายความว่าภาษีมูลค่าเพิ่มครบกําหนดชําระ ซึ่งหมายความว่าผู้เสียภาษีจะต้องชําระเงินให้กับหน่วยงานสรรพากรอิตาลี (Agenzia delle Entrate) หากผลลัพธ์เป็นจํานวนลบ หมายถึงเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะยกไปจนรอบภาษีถัดไป

วันครบกําหนดในการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม

การชําระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเดือนและรายไตรมาส

คุณจะชําระเงินได้เป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแนวทางการทําบัญชีที่เลือก (เช่น ปกติหรือแบบง่าย) โปรดทราบว่าควรคํานึงถึงเฉพาะจํานวนเงินจากธุรกรรมที่หักได้เท่านั้น

สำหรับผู้เสียภาษีที่ปฏิบัติตามระบบปกติ กำหนดการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานคือรายเดือน การชําระภาษีมูลค่าเพิ่มรายไตรมาสอยู่ภายใต้วงเงินและสงวนไว้สําหรับเจ้าของภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีรายรับต่อปีต่ำกว่า 400,000 ยูโรสําหรับกิจกรรมบริการ และ 800,000 ยูโรสําหรับกิจกรรมประเภทอื่นๆ ในกรณีของการชําระเงินรายไตรมาส ความรับผิดทางภาษีใดๆ จะมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% ผู้เสียภาษีรายไตรมาสยังคงเลือกรับการชําระเงินรายเดือนได้

หากยอดการชําระเงินรายเดือนคือ 100 ยูโรหรือน้อยกว่านั้น การชําระเงินดังกล่าวจะเลื่อนเวลาการตัดบัญชีไปเป็นรอบถัดไป แต่จะต้องดําเนินการไม่เกิน 16 ธันวาคมของปีเดียวกัน (ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 9 ของกฤษฎีกาฉบับที่ 1 หมายเลข 08/01/2024)

จะชําระภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อใด

ธุรกิจและผู้ทํางานอิสระที่จําเป็นต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือนจะต้องดําเนินการภายในวันที่ 16 ของทุกเดือน หมวดหมู่ที่เลือกใช้การชําระเงินรายไตรมาสต้องชําระภาษีมูลค่าเพิ่มภายในวันที่ 16 ของเดือนที่ 2 หลังจากสิ้นสุดไตรมาส วันที่มีดังนี้

• ไตรมาสที่ 1: 16 พฤษภาคม

• ไตรมาสที่ 2: 16 สิงหาคม

• ไตรมาสที่ 3: 16 พฤศจิกายน

• การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มรายไตรมาสที่ 4: 16 มีนาคมของปีถัดไป

ผู้เสียภาษีที่มีการชําระเงินรายไตรมาส

ธุรกิจบางประเภทมีสิทธิ์ได้รับข้อยกเว้นที่อนุญาตให้เลือกชำระเงินเป็นรายไตรมาส โดยไม่คำนึงถึงขีดจำกัดรายได้ข้างต้น และไม่ต้องเสียดอกเบี้ย 1% ตัวอย่างธุรกิจมีดังนี้

• จ้างบริษัทรถบรรทุก

• เจ้าของโครงการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิง

• ธุรกิจที่ให้บริการแก่ประชาชน

• ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและศิลปะ

วิธีคํานวณการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างสำหรับการคำนวณการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระ คือ สำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือน และอีกตัวอย่างหนึ่งสำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรายไตรมาส

วิธีคํานวณการชําระภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือน

ในเดือนมิถุนายน 2023 บริษัทได้ซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์รวมทั้งหมด 11,800 ยูโร รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 22% ในเดือนเดียวกัน บริษัทได้จําหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าในราคา 15,300 ยูโรบวก VAT 22%

ภาษีมูลค่าเพิ่มบนใบแจ้งหนี้ที่ได้รับจะถูกหักออกจากภาษีมูลค่าเพิ่มบนใบแจ้งหนี้ที่ออก เพื่อกำหนดจำนวนเงินชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ผลลัพธ์มีดังนี้:

วิธีคํานวณการชําระภาษีมูลค่าเพิ่มรายไตรมาส

ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2023 บริษัทที่ออกใบแจ้งหนี้การขายที่มีมูลค่ารวม 20,000 ยูโรบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 22% และการชําระเงินที่ได้รับรวมทั้งหมด 4,000 ยูโรบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าและบันทึกใบแจ้งหนี้การซื้อรวมมูลค่า 6,000 ยูโรบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 22%

ต่อไปนี้คือวิธีคํานวณยอดการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม:

เพิ่มดอกเบี้ยรายไตรมาส 1% ในจํานวนนี้

*3,480 × 1% = 34.8 *

ยอดทั้งหมดที่ต้องชําระในวันที่ 16 สิงหาคม:

3,480 + 34.8 = €3,514.80

วิธีชําระเงินสําหรับการชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม

ต้องชําระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ครบกําหนดชําระทางอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้แบบฟอร์ม F24 เมื่อกรอกแบบฟอร์ม จะต้องระบุรหัสภาษีที่ถูกต้อง เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของการชําระเงินและเดือนที่มีการชําระเงิน

• การชําระเงินรายเดือน: รหัสมีตั้งแต่ 6001-6012 โดยตัวเลข 2 หลักสุดท้ายจะแตกต่างกันตามเดือนที่มีการชําระเงิน

• การชําระเงินรายไตรมาส: โดยรหัสคือ 6031, 6032, 6033 และ 6034 โดยตัวเลขสุดท้ายจะแตกต่างกันตามไตรมาสที่ชําระเงิน

สุดท้าย ระบบจะใช้รหัส 6035 เพื่อระบุภาษีมูลค่าเพิ่มในบัญชี ซึ่งเป็นการชําระเงินล่วงหน้าสําหรับการชําระภาษีเมื่อสิ้นสุดปี นอกจากนี้คุณยังดูรหัสภาษีทั้งหมดได้ในเว็บไซต์ของสรรพากรอิตาลี

การติดตามตรวจสอบข้อกําหนดด้านภาษีที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมออาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสําหรับธุรกิจคุณ เครื่องมืออัตโนมัติเช่น Stripe Tax นั้นพร้อมใช้งานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้ สร้างรายงานแบบละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อการยื่นแบบแสดงรายการภาษี และสามารถทํางานได้อย่างราบรื่นด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งหรือใช้โค้ดเพียงบรรทัดเดียว

ค่าปรับหากไม่ชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม

กรณีไม่ชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องเสียค่าปรับ 25% ของภาษีที่ค้างชำระหรือชำระล่าช้า ตามมาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 471/97 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 87 ลงวันที่ 14/06/2024 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน 2024) ผู้เสียภาษีสามารถใช้ขั้นตอนการแก้ไขโดยสมัครใจ เพื่อรับประโยชน์จากการลดค่าปรับโดยทำให้การชำระเงินที่ละเว้นไว้เป็นปกติ

หากละเว้นการชําระเงินหรือดําเนินการนานกว่า 90 วันหลังวันครบกําหนดกําหนด จะคิดค่าปรับ 25% ตามมาตรฐาน หากชำระเงินภายใน 90 วันหลังจากฝ่าฝืนหรือกำหนดเวลาการยื่นภาษี ค่าปรับสำหรับการไม่ชำระเงินภาษีมูลค่าเพิ่มจะลดลงเหลือ 50% (12.5% ของภาษี) หากชำระเงินภายใน 14 วัน ค่าปรับ 12.5% จะลดลงอีก 0.83% สำหรับแต่ละวันที่ล่าช้า

ผู้เสียภาษีต้องจ่ายดอกเบี้ยตามอัตรารายปีตามกฎหมาย นับจากวันที่ครบกําหนดชําระเงินจนถึงวันที่ชําระเงินจริง สําหรับปี 2024 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.5% และอยู่ที่ 2% สําหรับปี 2025 นี่คืออัตราดอกเบี้ยสําหรับปีที่ผ่านๆ มา:

• 1 มกราคม 2019– 12 ธันวาคม 2019 0.8%

• 1 มกราคม 2020 –12 ธันวาคม 2020: 0.05%

• 1 มกราคม 2021–12 ธันวาคม 2021: 0.01%

• 1 มกราคม 2022–12 ธันวาคม 2022: 1.25%

• 1 มกราคม 2023 –12 ธันวาคม 2023 5%

• ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024: 2.5%

ค่าปรับหากไม่ชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม