ในสหราชอาณาจักร (UK) ผลประกอบการของธุรกิจหมายถึงรายรับรวมของธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งปกติแล้วจะคิดเป็นรายปี โดยเป็นรายรับขั้นต้นก่อนหักค่าใช้จ่าย (เช่น เงินเดือน ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน ภาษี) ผลประกอบการประกอบการรวมถึงการขายสินค้าหรือบริการ และกิจกรรมทางธุรกิจอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดรายรับ
ธุรกิจในสหราชอาณาจักรจะรายงานผลประกอบการในงบการเงินและใช้รายงานดังกล่าวเพื่อคํานวณภาษีต่างๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ผลประกอบการยังเป็นเมตริกที่มีประโยชน์ในการเปรียบเทียบการเติบโตและการติดตามประสิทธิภาพในระยะยาว ด้านล่างเราจะพูดถึงสิ่งที่ควรรวมอยู่ในการคํานวณผลประกอบการ วิธีการติดตามผลประกอบการที่ถูกต้อง และข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
เนื้อหาในบทความนี้
- ผลประกอบการแตกต่างจากผลกําไรอย่างไร
- การคํานวณผลประกอบการคิดจากอะไรบ้าง
- ทําไมผลประกอบการในสหราชอาณาจักรจึงสําคัญ
- วิธีติดตามผลประกอบการของธุรกิจอย่างแม่นยำ
- อะไรคือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการคํานวณผลประกอบการ
ผลประกอบการแตกต่างจากผลกําไรอย่างไร
ผลประกอบการและผลกําไรเป็นเมตริกทางการเงินที่สําคัญสําหรับการทําความเข้าใจผลประกอบการของธุรกิจ แต่จะวัดผลการดําเนินงานในด้านที่แตกต่างกัน ผลประกอบการเกี่ยวข้องกับรายรับรวม (เงินทั้งหมดที่เข้ามา) ส่วนกําไรคือจำนวนหลังหักจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด (เงินที่ธุรกิจได้รับ)
ผลประกอบการ
ผลประกอบการหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารายรับขั้นต้น คือรายรับรวมที่ธุรกิจได้รับจากดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท เช่น การจําหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการ ในช่วงเวลาที่กําหนด โดยแสดงยอดรวมของเงินที่เข้ามาก่อนหักต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย
- ตัวอย่าง: หากร้านค้าขายสินค้า 1,000 ชิ้นในราคา 10 ปอนด์ต่อชิ้น มูลค่าผลประกอบการคือ 10,000 ปอนด์ โดยไม่คํานึงถึงต้นทุนในการผลิตหรือขายสินค้าเหล่านั้น
กําไร
กําไรคือยอดที่ได้รับหลังจากหักค่าใช้จ่ายของธุรกิจทั้งหมดออกจากผลประกอบการ โดยจะรายได้ที่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นจะได้รับ ผลกําไรสามารถแบ่งออกเป็นหลายๆ ประเภท ดังนี้
กําไรขั้นต้น: ผลประกอบการหักค่าใช้จ่ายโดยตรงในการผลิตสินค้าหรือบริการ (เช่น วัสดุและแรงงาน)
ผลกําไรจากการดําเนินงาน: กําไรขั้นต้นลบค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน (เช่น ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค การตลาด)
กําไรสุทธิ: ตัวเลขสุดท้ายหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงภาษีและดอกเบี้ย
หากค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ธุรกิจอาจมีผลประกอบการสูงแต่มีกําไรต่ำ ในทางกลับกัน ผลประกอบการที่น้อยแต่จัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างดีจะทำให้เกิดผลกำไรที่ดีตามมา
การคํานวณผลประกอบการคิดจากอะไรบ้าง
การคํานวณผลประกอบการควรรวมรายได้ทั้งหมดที่มาจากผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยไม่รวมรายได้พิเศษ เช่น ดอกเบี้ยที่ได้รับ และเงินที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์ ตัวเลขที่ควรใช้มีดังนี้
รายรับจากการขายสินค้าหรือบริการ
การขายผลิตภัณฑ์ (รายรับจากการขายสินค้าที่จับต้องได้)
รายรับจากบริการ (ค่าธรรมเนียมที่ได้รับจากการมอบบริการ)
รายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล (รายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจากบริการแบบสมัครสมาชิก)
ค่าคอมมิชชันหรือค่าธรรมเนียม
รายรับจากค่าคอมมิชชัน (เช่น ค่าธรรมเนียมตัวแทน ค่าธรรมเนียมนายหน้า)
รายรับจากค่าธรรมเนียมธุรกรรมหรือการเรียกเก็บเงินสําหรับการประมวลผล
รายรับจากการเช่า (หากเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจหลัก)
ค่าเช่า หากธุรกิจดําเนินกิจการในฐานะเจ้าของที่ดิน
รายรับจากสินทรัพย์เช่า
รายรับจากการดําเนินการอื่นๆ
ค่าสิทธิ
ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต
รายรับจากแฟรนไชส์
สิ่งที่ยกเว้นจากผลประกอบการ
ผลประกอบการไม่รวมตัวเลขเหล่านี้
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากยอดขาย
รายรับจากดอกเบี้ยหรือการลงทุน
รายรับจากการขายสินทรัพย์
สินค้าที่ยกเว้นแบบครั้งเดียว เช่น การเบิกจ่ายประกันภัยและการชําระเงินทางกฎหมาย
ทําไมผลประกอบการในสหราชอาณาจักรจึงสําคัญ
ผลประกอบการสําคัญต่อธุรกิจในสหราชอาณาจักรเพราะแสดงให้เห็นถึงจำนวนรายรับจากการดำเนินธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการวัดประสิทธิภาพของธุรกิจ การวางแผนขั้นตอนต่อไป และการยืนยันถึงการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ ผลประกอบการสามารถบ่งบอกถึงข้อมูลต่อไปนี้ได้
การเติบโตหรือชะลอตัวของธุรกิจคุณ หากผลประกอบการเพิ่มขึ้น ก็หมายความว่าคุณขายได้มากขึ้น ทําให้ลูกค้าพึงพอใจ หรือมีการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ แต่หากผลประกอบการลดลง อาจหมายถึงความต้องการที่น้อยลง การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น หรือมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาแก้ไข การดูตัวเลขนี้จะช่วยคุณระบุแนวโน้มและปรับเปลี่ยนก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย
จำนวนเงินที่เข้ามายังธุรกิจของคุณ แม้ผลประกอบการจะไม่ใช่ตัวบ่งบอกผลกำไร แต่ก็เป็นตัวชี้วัดที่ดีว่าลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการหรือไม่ และมีรายรับเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายและดําเนินงานต่อไปหรือไม่ หากผลประกอบการเริ่มลดลง คุณควรแก้ไขปัญหา เช่น เพิ่มยอดขายหรือลดทอนค่าใช้จ่ายต่างๆ
วิธีการกำหนดขนาดธุรกิจของรัฐบาล ผลประกอบการจะบ่งบอกว่าคุณจําเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนหรือโครงการช่วยเหลือในบางโครงการของรัฐบาลหรือไม่ หากผลประกอบการที่ต้องเสียภาษีรายปีของคุณมากกว่า 90,000 ปอนด์ คุณจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเริ่มเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนี้จากการขาย ในขณะเดียวกันธุรกิจที่มีขนาดต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดจะสามารถเข้าร่วมโครงการให้เงินสนับสนุนและช่วยเหลือบางโครงการได้ การรายงานผลประกอบการอย่างถูกต้องสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงค่าปรับและปฏิบัติตามข้อกําหนดของหน่วยงานด้านภาษี
สิ่งที่คุณควรทําการตัดสินใจต่อไป หากรายรับของคุณเพิ่มขึ้น อาจถึงเวลาขยายธุรกิจ จ้างพนักงานเพิ่ม หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หากผลประกอบการอยู่ในระดับคงที่หรือลดลง คุณอาจต้องลดค่าใช้จ่ายหรือปรับแก้กลยุทธ์การขาย ผลประกอบการมีความสําคัญต่อการจัดทํางบประมาณเช่นกัน เนื่องจากคุณไม่สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายหรือการขยายธุรกิจได้หากไม่ทราบจำนวนเงินที่เข้ามายังธุรกิจ
ภาพลักษณ์ในสายตานักลงทุน หากคุณต้องการรับเงินกู้หรือดึงดูดเงินลงทุน ผลประกอบการเป็นหนึ่งในเมตริกแรกๆ ที่นักลงทุนจะพิจารณา ผลประกอบการที่คงที่หรือเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณสามารถระดมทุนและมีศักยภาพที่จะเติบโต ในทางกลับกัน ถ้าผลประกอบการไม่สามารถคาดการณ์ได้หรือลดลง อาจเป็นสัญญาณเตือนและทําให้ธุรกิจระดมทุนได้ยากยิ่งขึ้น
การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ผลประกอบการเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการเปรียบเทียบธุรกิจของคุณกับธุรกิจอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณทำธุรกิจคาเฟ่ คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ารายรับของคุณเป็นอย่างไรเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ที่คล้ายกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นได้ว่าธุรกิจคุณทําธุรกิจได้ดีที่ไหนและควรปรับปรุงธุรกิจอย่างไรให้มีความสามารถในการแข่งขัน
วิธีติดตามผลประกอบการของธุรกิจอย่างแม่นยำ
การติดตามผลประกอบการของธุรกิจอย่างแม่นยําคือการติดตามเงินทั้งหมดที่เข้ามาในธุรกิจของคุณจากการดำเนินธุรกิจหลัก วิธีที่คุณสามารถติดตามผลประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
ใช้ระบบอัตโนมัติกับการติดตามยอดขาย การคํานวณผลประกอบการด้วยตนเองอาจทําให้มีรายละเอียดตกหล่นและเสียเวลา โปรดใช้เครื่องมือที่จะบันทึกการขายทุกรายการแบบเรียลไทม์แทน หากคุณกําลังใช้ Stripe แดชบอร์ดจะแสดงมุมมองจํานวนยอดขั้นต้นในทันทีและแบ่งตามผลิตภัณฑ์ ลูกค้า หรือภูมิภาค วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่ต้องคาดเดาและทําให้ตัวเลขเป็นปัจจุบัน
เน้นที่รายรับที่แสดงถึงธุรกิจ ผลประกอบการควรรวมเฉพาะรายได้จากการดําเนินงานหลักของคุณเท่านั้น โดยไม่นับรวมการชําระเงินและการคืนเงินแบบครั้งเดียว เมื่อใช้ Stripe คุณจะแยกรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าออกจากการชําระเงินแบบครั้งเดียว แล้วกรองตามแพ็กเกจการชําระเงินตามรอบบิลได้ เพื่อที่คุณจะได้นับเฉพาะรายรับที่แสดงถึงการดำเนินธุรกิจหลักเท่านั้น
อย่าคิดภาษีปนกับการคำนวณผลประกอบการ โปรดจําไว้ว่าภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผลประกอบการ เนื่องจากเป็นเงินที่คุณเรียกเก็บเพื่อจ่ายให้กับศุลกากรของสหราชอาณาจักร (HMRC) ฟีเจอร์ภาษีอัตโนมัติของ Stripe จะคํานวณและแยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกมา เพื่อให้คุณทราบอย่างแน่นอนว่ามีรายรับและภาษีเท่าใด
ดูแนวโน้มผลประกอบการ ไม่ใช่แค่ยอดรวม มองหารูปแบบ ไม่ใช่เพียงตัวเลขขั้นสุดท้าย มียอดที่เพิ่มสูงกว่าปกติในบางเดือนหรือไม่ มีผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งสร้างรายรับได้สูงสุดหรือไม่ Stripe ช่วยให้คุณวิเคราะห์แนวโน้มเหล่านี้ได้เพื่อให้เข้าใจว่าอะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นการเติบโตหรืออุปสรรคของธุรกิจ
สร้างขั้นตอนการกระทบยอดอัตโนมัติเพื่อตรวจจับข้อผิดพลาด คุณไม่สามารถข้ามการกระทบยอดตามปกติได้ แต่คุณดําเนินการแบบอัตโนมัติได้ Stripe ผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มการทําบัญชีอย่าง Xero หรือ QuickBooks เพื่อให้จับคู่การชําระเงินกับใบแจ้งหนี้ได้โดยอัตโนมัติ และช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการดำเนินการกับยอดขายและธนาคาร
ติดตามตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ การตรวจสอบผลประกอบการของธุรกิจเป็นประจําจะช่วยให้คุณรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้ เช่น ความสําเร็จของแคมเปญหรือยอดขายที่ลดลง การรายงานของ Stripe ช่วยให้คุณตรวจสอบรายรับได้ทันทีที่เข้ามา
แยกตามช่องทางรายรับ หากคุณขายผลิตภัณฑ์หลายรายการหรือดําเนินงานในตลาดต่างๆ คุณควรแจกแจงยอดขายตามหมวดหมู่ รายงานแบบปรับแต่งได้ของ Stripe ช่วยให้คุณทําสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย คุณจึงดูว่าธุรกิจด้านใดบ้างที่เติบโตและด้านใดบ้างต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม
วางแผนเพื่อการเติบโต ในขณะที่ธุรกิจขยายกิจการ การติดตามผลประกอบการอาจมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ใช้สกุลเงิน ประเภทการชําระเงิน หรือมีกระแสรายรับที่หลากหลาย Stripe สร้างขึ้นมาเพื่อเติบโตไปพร้อมกับคุณ ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การรองรับหลายสกุลเงินและการรายงานแบบรวม
วิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบการ: การติดตามผลประกอบการที่แม่นยําต้องใช้การวิเคราะห์ความหมายของผลประกอบการด้วย คุณพร้อมที่จะขยายธุรกิจแล้วหรือยัง ค่าใช้จ่ายของคุณสูงเกินไปหรือไม่ ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือบริการเพิ่มหรือไม่ การรวมข้อมูลผลประกอบการเข้ากับเทคโนโลยี เช่น ข้อมูลการวิเคราะห์ของ Stripe จะช่วยให้ระบุได้ดีขึ้นว่าปัจจัยใดขับเคลื่อนประสิทธิภาพของคุณ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการคํานวณผลประกอบการ
เมื่อคํานวณผลประกอบการ คุณอาจดำเนินการผิดพลาดได้ง่าย และอาจเกิดความสับสนหรือเกิดปัญหาด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดได้ นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดและวิธีการหลีกเลี่ยง
การรวมรายรับที่ไม่ใช่ผลประกอบการ ผลประกอบการควรรวมเฉพาะรายรับจากการดำเนินธุรกิจหลัก เช่น การจําหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการ อย่านับรวมดอกเบี้ยหรือเงินทุนแบบครั้งเดียว เช่น การขายสินทรัพย์ จัดโครงสร้างบัญชีไว้ให้เป็นระเบียบเพื่อติดป้ายกำกับให้กับรายรับอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น เครื่องมือการรายงานของ Stripe ช่วยให้คุณกรองแหล่งรายรับได้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะนับเฉพาะรายรับจากการดําเนินงานเท่านั้น
การลืมแยกภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีมูลค่าเพิ่มคือเงินที่เรียกเก็บในนามของรัฐบาล และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรายรับ อย่ารวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีการขายอื่นๆ ในตัวเลขผลประกอบการของคุณ ใช้ระบบต่างๆ เช่น Stripe Tax ซึ่งจะคํานวณและแยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากรายรับของคุณโดยอัตโนมัติ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ระบุผลประกอบการเกินโดยไม่ได้ตั้งใจ
การไม่รวมทําธุรกรรมขนาดเล็ก การข้ามธุรกรรมเล็กๆ น้อยๆ อาจทำให้ตัวเลขของผลประกอบการไม่ถูกต้อง อย่ามองข้ามการชําระเงิน การคืนเงิน หรือการขายในบางช่วงที่มียอดน้อยๆ โปรดใช้เครื่องมือที่ติดตามธุรกรรมทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมขนาดเล็กแค่ไหนก็ตาม แพลตฟอร์มการชําระเงินอย่าง Stripe จะบันทึกกิจกรรมทั้งหมดและช่วยให้มั่นใจว่าจะไม่มียอดขายใดที่ตกหล่น
การรวมผลประกอบการเข้ากับกําไร ผลประกอบการไม่ได้บ่งบอกถึงเงินที่คุณจะได้หลังหักค่าใช้จ่าย อย่าสับสนว่าผลประกอบการ (รายรับ) คือกําไร (จำนวนหลังค่าใช้จ่าย) โปรดตรวจสอบว่ารายงานทางการเงินของคุณแยกผลประกอบการจากเมตริกอื่นๆ เช่น กําไรขั้นต้นหรือกําไรสุทธิอย่างชัดเจน
การไม่คิดรวมการคืนเงินหรือส่วนลด การคืนเงินจะลดรายรับรวม และส่วนลดจะทำให้เงินที่คุณจะได้รับนั้นน้อยลง อย่านับยอดขายที่คืนเงินหรือหักส่วนลดแล้วเป็นจำนวนเต็ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบการทําบัญชีของคุณหักการคืนเงินและคิดส่วนลดเมื่อคํานวณผลประกอบการ
นับยอดขายซ้ำกัน การบันทึกรายรับรายการเดียวกันซ้ำ (เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลด้วยตัวเองหรือมีใบแจ้งหนี้)ซ้ำกันจะเพิ่มผลประกอบการและแสดงผลการดำเนินงานของธุรกิจคุณอย่างไม่ถูกต้อง โปรดใช้ระบบอัตโนมัติอย่าง Stripe ซึ่งจะซิงค์กับซอฟต์แวร์การทําบัญชีของคุณเพื่อลดข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลด้วยตัวเอง
การใช้รอบเวลาที่ไม่ถูกต้อง การเปรียบเทียบกรอบเวลาที่ไม่สอดคล้องกันนั้นทําให้เกิดแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่ถูกต้อง และทําให้ให้ผู้ถือผลประโยชน์ร่วมเข้าใจผิด อย่าคิดช่วงเวลาการรายงานหรือรวมตัวเลขจากเดือนหรือปีที่อื่นๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ โปรดใช้ช่วงเวลาที่สอดคล้องกันเมื่อดึงข้อมูลผลประกอบการ แดชบอร์ดการรายงานของ Stripe ช่วยให้คุณกําหนดช่วงวันที่ที่ออกแบบเองให้ตรงกับความต้องการด้านการรายงานของคุณได้
การไม่ได้ทําบัญชีสําหรับรายรับหลายสกุลเงิน หากคุณดําเนินงานทั่วโลก ความผันผวนของสกุลเงินอาจส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลประกอบการของคุณ อย่ามองข้ามอัตราแลกเปลี่ยน หรือคํานวณรายได้จากยอดขายระหว่างประเทศผิด ใช้ระบบอย่าง Stripe ซึ่งจัดการการชําระเงินหลายสกุลเงิน และแสดงรายงานแบบรวมในสกุลเงินที่คุณเลือก
การมองข้ามรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า ธุรกิจที่มีการสมัครสมาชิกมักต้องพึ่งพารายรับตามแบบแผนล่วงหน้าเป็นหลัก อย่าลืมรวมการชําระเงินตามรอบบิลหรือช่องทางรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า เพราะจะทำให้ผลประกอบการของคุณไม่ถูกต้อง ติดตามรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลแยกกัน และตรวจสอบว่ารายรับนั้นรวมอยู่ในผลประกอบการของคุณแล้ว ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้าของ Stripe จะจัดการปัญหานี้โดยอัตโนมัติ
การคํานวณด้วยตนเอง ข้อผิดพลาดในการคํานวณด้วยตนเองอาจเพิ่มผลประกอบการและทำให้ได้ตัวเลขที่ไม่ถูกต้อง ใช้ระบบอัตโนมัติกับกระบวนการของคุณผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Stripe ซึ่งจะบันทึกและคํานวณผลประกอบการแบบเรียลไทม์
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ