การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างคืออะไร สิ่งที่ธุรกิจต้องรู้

Revenue Recognition
Revenue Recognition

Stripe Revenue Recognition เพิ่มประสิทธิภาพในการทำบัญชีคงค้างเพื่อให้คุณปิดบัญชีได้รวดเร็วและถูกต้อง รวมทั้งยังกำหนดค่าและปรับขั้นตอนการจัดทำรายงานรายรับให้เป็นอัตโนมัติ คุณจึงปฏิบัติตามมาตรฐานการรับรู้รายรับ ASC 606 และ IFRS 15 ได้อย่างง่ายดาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. วิธีการทำบัญชีประเภทต่างๆ
  3. การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเทียบกับการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด
    1. การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
    2. การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด
  4. การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมีหลักการทํางานอย่างไร
    1. การรับรู้รายรับ
    2. การรับรู้รายจ่าย
    3. หลักการจับคู่
  5. ประเภทของเกณฑ์คงค้าง
  6. ข้อได้เปรียบของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
  7. ความท้าทายของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
  8. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
    1. การรับรู้รายรับ
    2. การรับรู้รายจ่าย
    3. กระบวนการภายใน

วิธีการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะบันทึกรายรับและรายจ่ายเมื่อได้รับหรือเกิดขึ้น ไม่ว่าธุรกรรมเงินสดเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม ในทางตรงกันข้าม การทำบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดจะบันทึกธุรกรรมเฉพาะเมื่อมีการแลกเปลี่ยนเงินสดเท่านั้น

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะรับรู้รายรับเมื่อเกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นเมื่อมีการจัดส่งสินค้าหรือบริการ แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการชําระเงินก็ตาม และรับรู้ค่าใช้จ่ายเมื่อมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นด้วย ไม่ว่าจะมีการชำระเงินเมื่อไรก็ตาม วิธีนี้จะจับคู่รายรับกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างรายการเหล่านี้ภายในการรายงานรอบเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจึงแสดงสถานภาพทางการเงินและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบริษัทได้แม่นยํากว่า

ธุรกิจในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปในช่วงเวลา 3 ปีจะต้องใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง แต่ธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่าบางแห่งก็ใช้วิธีนี้ด้วยเช่นกัน ด้านล่างนี้เราจะพูดถึงเกณฑ์คงค้างประเภทต่างๆ หลักการทำงานของทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ข้อดีและความท้าทาย รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • วิธีการทำบัญชีประเภทต่างๆ
  • การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเทียบกับการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด
  • การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมีหลักการทํางานอย่างไร
  • ประเภทของเกณฑ์คงค้าง
  • ข้อดีการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
  • ความท้าทายของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
  • แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

วิธีการทำบัญชีประเภทต่างๆ

ธุรกิจต่างๆ ใช้วิธีการทางบัญชีหลักๆ 3 วิธีในการบันทึกธุรกรรมทางการเงิน ได้แก่ แบบเกณฑ์คงค้าง แบบเกณฑ์เงินสด และแบบผสมผสาน ต่อไปนี้เป็นภาพรวมของแต่ละวิธีและกฎสําหรับการบันทึกรายรับและค่าใช้จ่าย

  • การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง: การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะบันทึกรายรับและรายจ่ายเมื่อได้รับหรือเกิดขึ้น ไม่ว่าธุรกรรมเงินสดเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม วิธีนี้แสดงสถานภาพทางการเงินและประสิทธิภาพการทํางานของบริษัทได้แม่นยํามากกว่า ทําให้เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่หรือบริษัทที่จัดการธุรกรรมเครดิต

  • การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด: การทำบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดจะบันทึกธุรกรรมเฉพาะเมื่อมีการแลกเปลี่ยนเงินสดเท่านั้น วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบรับรู้รายรับเมื่อได้รับเงิน และรับรู้รายจ่ายจะรับรู้เมื่อชําระเงิน ธุรกิจขนาดเล็กและบุคคลทั่วไปมักใช้วิธีนี้ เพราะช่วยให้เห็นว่าธุรกิจมีเงินสดมากที่สุดเท่าใด ณ เวลาหนึ่งๆ

  • การทําบัญชีแบบผสมผสาน: การทําบัญชีแบบผสมผสานจะรวมองค์ประกอบของทั้งการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างและการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดกับธุรกรรมส่วนใหญ่ แต่เปลี่ยนไปใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างสําหรับรายการสำคัญ ความยืดหยุ่นนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการลดความยุ่งยากของธุรกรรมแบบวันต่อวัน แต่ต้องใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเพื่อให้รายงานหนี้การค้า เจ้าหนี้ หรือสินค้าคงคลังจํานวนมากได้อย่างถูกต้อง ธุรกิจจะต้องจัดการการทําบัญชีแบบผสมผสานอย่างรอบคอบเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายภาษีและมาตรฐานการทำบัญชี

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเทียบกับการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด

พิจารณาประเภทธุรกิจที่คุณดําเนินงานขณะเลือกวิธีการทําบัญชี ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความต้องการด้านบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อนมักจะนิยมใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ในขณะที่ธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่าที่ใช้เงินสดและบุคคลทั่วไปอาจเลือกการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดเพื่อความง่าย บริษัทมหาชนหรือบริษัทที่มีรายได้จํานวนมากมักจะใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายและตามระเบียบข้อบังคับ

ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างและการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะบันทึกรายรับเมื่อได้รับ และบันทึกรายจ่ายเมื่อเกิดรายจ่ายขึ้น ไม่ว่าจะได้รับเงินหรือชําระเงินเมื่อใด

ข้อดี

  • สะท้อนสถานะทางการเงินของธุรกิจได้แม่นยํามากขึ้น โดยการจับคู่รายรับที่ได้รับกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างรายรับเหล่านั้น

  • ช่วยให้วางแผนและวิเคราะห์ทางการเงินได้ง่ายขึ้นโดยการจัดกิจกรรมทางธุรกิจให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ทางการเงิน

  • หลักการทำบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไป (GAAP) ในสหรัฐอเมริกาและมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS) ทั่วโลกมักจะกําหนดหรือสนับสนุนให้ธุรกิจขนาดใหญ่หรือบริษัทมหาชนใช้วิธีนี้เพื่อการรายงานทางการเงินที่สอดคล้องกันและเปรียบเทียบได้

ข้อเสีย

  • เนื่องจากวิธีนี้ติดตามหนี้การค้าและเจ้าหนี้ จึงนำไปใช้และดูแลรักษายากกว่า

  • ไม่ได้แสดงถึงกระแสเงินสดโดยตรง ซึ่งอาจทําให้เกิดการเข้าใจผิดสำหรับธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเงินสด

การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด

การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดจะบันทึกรายรับเมื่อได้รับเงินสดและบันทึกรายจ่ายเมื่อมีการชำระออก

ข้อดี

  • สามารถจัดการการติดตามธุรกรรมเงินสดที่ตรงไปตรงมาได้ง่ายกว่าการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

  • ธุรกิจที่ใช้เงินสดเป็นหลักหรือธุรกิจที่มีโครงสร้างทางการเงินที่ตรงไปตรงมาจะได้ประโยชน์จากการทราบยอดเงินสดที่ใช้ได้

  • อาจช่วยลดความซับซ้อนในการเสียภาษีของธุรกิจ เนื่องจากไม่มีการเรียกเก็บภาษีรายได้จนกว่าจะได้รับและจะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจนกว่าจะชําระเงิน

ข้อเสีย

  • อาจไม่ได้แสดงสถานะทางการเงินในระยะยาวอย่างถูกต้อง เนื่องจากไม่ได้พิจารณาภาระหน้าที่หรือหนี้การค้าในอนาคต

  • ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสามารถในการทํากําไรโดยรวมของธุรกิจเมื่อเวลาผ่านไปได้น้อยกว่า เนื่องจากอาจนำเสนอผลลัพธ์ของกิจกรรมทางการเงินโดยอิงตามช่วงเวลาของกระแสเงินสดได้ไม่ถูกต้อง

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมีหลักการทํางานอย่างไร

วิธีการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะบันทึกรายรับและรายจ่ายเมื่อได้รับหรือเกิดขึ้น ไม่ว่าจะได้รับหรือชำระเงินสดเมื่อใดก็ตาม ในทางตรงกันข้าม การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดจะบันทึกเฉพาะเมื่อเงินเปลี่ยนมือ

หลักการทํางานของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

การรับรู้รายรับ

บริษัทจะพิจารณารายรับที่ได้รับเมื่อบริษัทจัดส่งสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้สัญญาหรือข้อตกลง

รายรับนั้นจะมีการรับรู้เมื่อบริษัทสามารถคาดหวังว่าจะมีการชําระเงินสําหรับสินค้าหรือบริการนั้นๆ

เมื่อทั้งได้รับและรับรู้รายได้แล้ว บริษัทจะบันทึกไว้ในรายการเดินบัญชีรายรับ แม้ว่ารายรับจะยังไม่ได้รับการชําระเงินเป็นเงินสดก็ตาม ธุรกิจยังสร้างรายการบัญชีลูกหนี้เพื่อติดตามยอดเงินที่ลูกค้าค้างชําระด้วย

การรับรู้รายจ่าย

บริษัทจะถือว่าเกิดรายจ่ายหลังจากได้รับสินค้าหรือบริการจากซัพพลายเออร์หรือพนักงาน ซึ่งเป็นการบังคับให้บริษัทต้างจ่ายเงินสำหรับสินค้าหรือบริการนั้น

จากนั้นธุรกิจจะบันทึกรายจ่ายที่เกิดขึ้นในรายการเดินบัญชีรายรับ แม้ว่าจะยังไม่ได้ชําระรายจ่ายนั้นก็ตาม ธุรกิจจะสร้างรายการเจ้าหนี้การค้าเพื่อติดตามยอดเงินที่ต้องชําระให้แก่ซัพพลายเออร์หรือพนักงาน

หลักการจับคู่

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะทำตามหลักการจับคู่ ซึ่งรายจ่ายกับรายรับที่ตรงกันในรอบระยะเวลาการรายงานเดียวกัน เมื่อใช้หลักการนี้ บริษัทควรรับรู้รายจ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างรายรับในรอบระยะเวลาเดียวกันกับรายรับเอง

ตัวอย่างเช่น บริษัทขายสินค้าให้ลูกค้าในเดือนธันวาคม แต่จะไม่ได้รับการชําระเงินจนกว่าจะถึงเดือนมกราคมของปีต่อไป ภายใต้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง บริษัทจะรับรู้รายรับในเดือนธันวาคมเมื่อมีรายรับ แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการชําระเป็นเงินสดก็ตาม ระบบจะสร้างรายการหนี้การค้าเพื่อติดตามยอดเงินที่ค้างชําระ เมื่อบริษัทได้รับการชําระเงินด้วยเงินสดในเดือนมกราคม บริษัทจะลดหนี้การค้าและเพิ่มบัญชีเงินสด

ประเภทของเกณฑ์คงค้าง

เกณฑ์คงค้างในการทำบัญชีมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ รายได้ค้างรับและค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เกณฑ์คงค้างเหล่านี้เป็นส่วนสําคัญของกระบวนการปิดบัญชีสิ้นงวดในการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง โดยให้มั่นใจว่างบการเงินจะแสดงรายรับและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างรอบบัญชีที่เจาะจง ตามหลักการการจับคู่ของการทำบัญชี

  • รายได้ค้างรับ: รายได้ค้างรับ หรือที่เรียกว่าสินทรัพย์ค้างรับ คือรายรับที่ได้รับแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเป็นเงินสด กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจให้บริการแต่ยังไม่ได้ออกใบแจ้งหนี้หรือได้รับการชําระเงิน ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ให้บริการให้คําปรึกษาตอนสิ้นเดือน แต่จะไม่เรียกเก็บเงินลูกค้าจนกว่าจะถึงเดือนถัดไป จําเป็นต้องรับรู้รายรับที่ได้รับในรอบการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

  • ค่าใช้จ่ายคงค้าง: ค่าใช้จ่ายคงค้าง หรือที่เรียกว่าหนี้สินคงค้าง คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ชําระเงินหรือบันทึกในบัญชี ตัวอย่างเช่น บริษัทมักจะจ่ายเงินเดือนของพนักงานหลังจากได้รับบริการจากพนักงานแล้ว บริษัทต้องบันทึกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในเดือนที่ใช้บริการของพนักงาน

ข้อได้เปรียบของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างแสดงถึงสถานะทางการเงินของบริษัทได้อย่างถูกต้องมากกว่า โดยการบันทึกรายรับและค่าใช้จ่ายตอนที่เกิดขึ้น แทนที่จะเป็นตอนที่มีการแลกเปลี่ยนเงินสด ต่อไปนี้คือประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากความถูกต้องแม่นยําที่เพิ่มขึ้น

  • ข้อมูลเชิงลึกด้านการเงิน: การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะจับคู่ค่าใช้จ่ายกับรายรับที่สร้างขึ้น จึงให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับต้นทุนจริงและความสามารถในการทํากําไรได้ ข้อมูลนี้จะช่วยในการจัดงบประมาณ การคาดการณ์ และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ จากนั้นธุรกิจก็สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพโดยที่ไม่มีความไม่ถูกต้องซึ่งเกิดจากความแตกต่างของเวลาในกระแสเงินสด

  • การจัดการสัญญาระยะยาว: สําหรับธุรกิจที่จัดการสัญญาระยะยาว การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะช่วยให้รายรับและค่าใช้จ่ายสอดคล้องกับภาระหน้าที่ตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจติดตามความคืบหน้าทางการเงินของโครงการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยํายิ่งขึ้น

  • การติดตามธุรกรรมเครดิต: ธุรกิจที่ดําเนินงานโดยใช้เครดิต นั่นคือการมอบหรือรับสินค้าและบริการก่อนที่เงินสดจะเปลี่ยนมือ สามารถติดตามหนี้การค้าและเจ้าหนี้การค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดการการคาดการณ์กระแสเงินสดและประเมินสภาพคล่องที่จําเป็นต่อการสนับสนุนการดําเนินงานได้

  • การควบคุมงบประมาณ: ด้วยความสามารถในการจับคู่ค่าใช้จ่ายกับรายรับได้โดยตรง ธุรกิจจึงสามารถวิเคราะห์ได้ว่าส่วนใดได้งบประมาณสูงหรือต่ำเกินไป และปรับกลยุทธ์ของตัวเองให้สอดคล้องตามนั้นได้ ซึ่งจะนําไปสู่การจัดสรรทรัพยากรที่มีการควบคุมและมีกลยุทธ์มากขึ้น

  • การวิเคราะห์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: นักลงทุน ผู้ให้เครดิต และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ สามารถใช้งบการเงินที่ถูกต้องแม่นยำเพื่อทําการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะแสดงประสิทธิภาพในการดําเนินงานของบริษัทและความมั่นคงทางการเงินที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ความท้าทายของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

แม้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีอุปสรรคดังต่อไปนี้

  • การนำไปใช้งาน: ในการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ธุรกิจจะต้องติดตามหนี้การค้า เจ้าหนี้ และเหตุการณ์ทางการเงินอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินสดแบบทันที ทําให้กระบวนการทําบัญชีซับซ้อนขึ้น ต้องมีระบบและนโยบายที่แข็งแกร่งเพื่อบันทึกและจับคู่รายรับและค่าใช้จ่ายอย่างถูกต้อง

  • บุคลากร: บริษัทจะต้องมีนักบัญชีที่มีทักษะซึ่งเข้าใจหลักการทําบัญชี และสามารถบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินได้อย่างแม่นยํา ซึ่งอาจต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมและค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่สูงขึ้น

  • ต้นทุน: การนําระบบทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมาใช้และดูแลรักษาอาจมีต้นทุนสูงกว่าการใช้ระบบการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดอย่างง่าย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ประกอบด้วยซอฟต์แวร์การทําบัญชีที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับการตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกําหนด

  • การจัดการกระแสเงินสด: เนื่องจากการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเน้นไปที่รายรับที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแทนที่จะเป็นกระแสเงินสด ดังนั้นจึงอาจทําให้ไม่สามารถระบุความพร้อมใช้ของเงินสดได้ ธุรกิจจะต้องจัดการกระแสเงินสดแยกจากการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าการดําเนินงานแต่ละวันจะมีสภาพคล่องเพียงพอ

  • การประมาณและการตัดสินใจ: การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมักจะต้องมีการประมาณและการตัดสิน เช่น การเผื่อสำหรับบัญชีที่น่าสงสัย (บัญชีลูกหนี้ที่อาจไม่ชําระเงินและกลายเป็นขาดทุน) วิธีคิดค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายคงค้าง เช่น ภาษีและโบนัส ค่าประมาณนี้อาจทำให้งบการเงินมีข้อผิดพลาดและอคติ

  • การปฏิบัติตามข้อกําหนด: ความซับซ้อนของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดในงบการเงิน ซึ่งอาจนําไปสู่การตรวจพบในการตรวจสอบและปัญหาด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดได้

  • การกระทบยอด: ธุรกิจที่ใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะต้องกระทบยอดลูกหนี้การค้า เจ้าหนี้การค้า และค่าใช้จ่ายคงค้างเป็นประจํา การกระทบยอดเหล่านี้อาจใช้เวลานานและต้องใส่ใจในรายละเอียดเพื่อแก้ไขข้อมูลที่ไม่ตรงกัน

  • การบงการ: ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ไม่ซื่ออาจใช้ความยืดหยุ่นของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างในส่วนของเวลาและการประมาณเพื่อนำเสนอภาพรวมทางการเงินที่ดีกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจนำไปสู่จัดการรายได้ผิดพลาดหรือแม้กระทั่งการรายงานที่เป็นการฉ้อโกง

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง

ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสําหรับการใช้การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างในธุรกิจของคุณ

การรับรู้รายรับ

  • หากธุรกิจของคุณใช้โมเดลการชําระเงินตามรอบบิล โปรดประเมินกําหนดเวลาของการรับรู้รายรับอย่างรอบคอบ คุณอาจรับรู้รายรับในรอบการชําระเงินตามรอบบิลหรือตามเป้าหมายที่กําหนด โดยอิงตามการเปลี่ยนถ่ายการควบคุมสินค้าหรือบริการ

  • วิเคราะห์สัญญาอย่างละเอียดเพื่อระบุภาระหน้าที่ด้านประสิทธิภาพการทํางานที่ต่างกันและจัดสรรราคาธุรกรรมให้สอดคล้อง เพื่อให้คุณรับรู้รายรับของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่รวมชุดผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง

  • ประมาณการการพิจารณาที่แปรผันอย่างถูกต้อง (เช่น โบนัส รางวัลจูงใจ) และปรับการรับรู้รายได้ตามความน่าจะเป็นในการได้รับหรือไม่ได้รับ

การรับรู้รายจ่าย

  • สร้างมาตรฐานให้กระบวนการสําหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นซ้ําตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น ค่าเช่า สาธารณูปโภค และเงินเดือน เพื่อลดข้อผิดพลาดและทำให้มั่นใจว่าจะรับรู้รายจ่ายอย่างทันท่วงที

  • จัดทำกระบวนการเพื่อประเมินหนี้สินที่ไม่แน่นอน (เช่น คดีความที่อาจเกิดขึ้น การเคลมภายใต้การรับประกัน) เผื่อสำหรับหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นและเปิดเผยหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในเชิงอรรถของงบการเงิน

  • ปรับปรุงการประมาณสําหรับการเกณฑ์คงค้างเป็นประจํา เช่น หนี้เสีย (ยอดคงเหลือที่ต้องตัดออก) และค่าใช้จ่ายในการรับประกัน เชื่อมต่อข้อมูลในอดีตกับแนวโน้มปัจจุบันเข้าด้วยกันเพื่อความถูกต้องแม่นยํามากขึ้น

กระบวนการภายใน

  • แยกความรับผิดชอบในการอนุมัติธุรกรรม บันทึกธุรกรรม และกระทบยอดบัญชี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดและการฉ้อโกงได้

  • ตรวจสอบกระบวนการการทำบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเป็นประจํา รวมทั้งการประเมินและรายการบันทึก เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด

  • เก็บเอกสารประกอบแบบละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ขั้นตอน และการคํานวณทั้งหมด เพื่อความโปร่งใสและการตรวจสอบ

  • ใช้ซอฟต์แวร์การทําบัญชีที่มีฟังก์ชันการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างที่รัดกุมเพื่อคํานวณ ติดตามเกณฑ์คงค้าง และสร้างรายงานที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ

  • ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มรายรับและรายจ่าย ระบุความผิดปกติ และปรับปรุงความแม่นยําของการคาดการณ์

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Revenue Recognition

Revenue Recognition

กำหนดค่าและปรับขั้นตอนการจัดทำรายงานรายรับให้เป็นอัตโนมัติเพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรฐานการรับรู้รายรับ ASC 606 และ IFRS 15 ได้อย่างง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Revenue Recognition

สร้างกระบวนการทำบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างอัตโนมัติด้วย Stripe Revenue Recognition