หมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้คืออะไร

Invoicing
Invoicing

Stripe Invoicing คือแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ออกใบแจ้งหนี้สำหรับทั่วโลกที่สร้างมาเพื่อช่วยให้คุณประหยัดเวลาและรับเงินได้เร็วขึ้น สร้างใบแจ้งหนี้แล้วส่งให้ลูกค้าของคุณได้ในไม่กี่นาทีโดยไม่ต้องใช้โค้ด

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. หมายเลข PO คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญต่อใบแจ้งหนี้
  3. หมายเลข PO ช่วยในการจับคู่ใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร
  4. หมายเลข PO ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
  5. คุณควรระบุหมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้เมื่อใด
  6. หมายเลข PO จะช่วยป้องกันการโต้แย้งการชําระเงินได้อย่างไร
  7. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้หมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้มีอะไรบ้าง

คำสั่งซื้อ (PO) เป็นเอกสารทางธุรกิจที่ลูกค้าออกให้กับซัพพลายเออร์ ซึ่งบันทึกปริมาณ ราคา และเงื่อนไขการชำระเงินสําหรับสินค้าหรือบริการที่ซื้อ หมายเลข PO จะระบุบนใบแจ้งหนี้เพื่อเชื่อมโยงกับ PO และช่วยติดตามว่าลูกค้าสั่งซื้ออะไร จากใคร และวันที่สั่งซื้อ

ในปี 2022 ธุรกิจขนาดกลางในสหรัฐฯ พบว่าลูกค้าที่ชำระเงินล่าช้า มีหนี้ที่ต้องชำระโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 304,066 ดอลลาร์ หมายเลข PO ช่วยให้ลูกค้าและผู้ขายเข้าใจตรงกัน เร่งการชำระเงิน และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ด้านล่างเราจะอธิบายว่าหมายเลข PO คืออะไรและเพราะเหตุใดจึงสําคัญต่อธุรกิจ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • หมายเลข PO คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญต่อใบแจ้งหนี้
  • หมายเลข PO ช่วยในการจับคู่ใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร
  • หมายเลข PO ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
  • คุณควรระบุหมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้เมื่อใด
  • หมายเลข PO จะช่วยป้องกันการโต้แย้งการชําระเงินได้อย่างไร
  • ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้หมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้มีอะไรบ้าง

หมายเลข PO คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญต่อใบแจ้งหนี้

หมายเลข PO คือรหัสระบุเฉพาะที่กําหนดให้กับคําสั่งซื้อทุกรายการในกระบวนการซื้อ นี่คือเหตุผลที่ควรระบุหมายเลข PO ไว้ในใบแจ้งหนี้:

  • ติดตามคำสั่งซื้อ: หมายเลข PO จะเชื่อมโยงใบแจ้งหนี้กับ PO ต้นฉบับโดยตรง ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบว่าสินค้าหรือบริการที่เรียกเก็บเงินตรงกับข้อตกลงเริ่มต้นหรือไม่

  • การป้องกันข้อผิดพลาด: ธุรกิจสามารถตรวจจับความคลาดเคลื่อนในเรื่องราคา ปริมาณ หรือค่าธรรมเนียมที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยการจับคู่ใบแจ้งหนี้กับใบสั่งซื้อก่อนที่จะดำเนินการชำระเงิน

  • การชําระเงินที่มีประสิทธิภาพ: ธุรกิจหลายแห่งใช้หมายเลข PO มาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการทําบัญชี วิธีนี้จะช่วยให้การอนุมัติการชําระเงินเป็นอัตโนมัติและช่วยให้มั่นใจว่าระบบจะส่งใบแจ้งหนี้ไปยังแผนกที่ถูกต้องเพื่อการตรวจสอบ

  • การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อลูกค้า: หมายเลข PO จะสร้างเส้นทางที่ตรวจสอบได้สำหรับการแก้ไขข้อโต้แย้ง ติดตามการจัดส่ง หรือจัดการการส่งคืน

หมายเลข PO ช่วยในการจับคู่ใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร

หมายเลข PO ช่วยให้การจับคู่ใบแจ้งหนี้เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยการรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสั่งซื้อ สิ่งที่คุณถูกเรียกเก็บเงิน และสิ่งที่คุณได้รับเข้าด้วยกัน วิธีการใช้งาน

  • ช่วยให้คุณเป็นระเบียบ: หมายเลขนี้เชื่อมโยงจุดต่างๆ ระหว่าง PO และใบแจ้งหนี้ เหมือนกับหมายเลขติดตามคำสั่งซื้อของคุณ เพื่อให้คุณสามารถยืนยันได้อย่างรวดเร็วว่ารายละเอียดทั้งหมดถูกต้อง

  • ช่วยตรวจจับความผิดพลาด: เมื่อเปรียบเทียบคำสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงินจากการจัดส่ง คุณสามารถตรวจพบปัญหาต่างๆ ได้ เช่น มีการเรียกเก็บเงินสำหรับสินค้าที่คุณไม่ได้สั่งซื้อ หรือราคาที่ไม่ตรงกับข้อตกลงเดิม วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูงและกระบวนการคืนเงินที่ใช้เวลานาน

  • เร่งความเร็วให้รอบการชําระเงิน: หากคุณใช้ซอฟต์แวร์การทําบัญชี หมายเลข PO สามารถทริกเกอร์การตรวจสอบอัตโนมัติได้ ระบบจะสามารถจับคู่ใบแจ้งหนี้กับรายละเอียด PO ได้ทันที ซึ่งจะช่วยลดงานที่ต้องดําเนินการด้วยตัวเองและรับการชําระเงินได้เร็วขึ้น

  • ทําให้การตรวจสอบเป็นเรื่องง่าย: เมื่อคําสั่งซื้อทั้งหมดผูกกับหมายเลข PO คุณจะยืนยันธุรกรรมได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดทำบันทึกที่ชัดเจนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหากคุณถูกตรวจสอบ

หมายเลข PO ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

หมายเลข PO ประกอบด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อจัดระเบียบธุรกรรมของคุณ หมายเลข PO มักจะบอกข้อมูลต่อไปนี้

  • ข้อมูลประจําตัวของคําสั่งซื้อ: หมายเลข PO ทุกรายการจะไม่ซ้ำกัน ดังนั้นจึงทําหน้าที่เป็น ID สําหรับการซื้อเฉพาะรายการ ทําให้ง่ายต่อการติดตามและอ้างอิงคําสั่งซื้อในทุกขั้นตอน

  • ผู้ที่ส่งคําสั่งซื้อ: ตัวเลขมักจะเชื่อมโยงคําสั่งซื้อกับลูกค้า ซึ่งช่วยให้ผู้ขายและทีมของลูกค้าหาคําตอบว่าใครเป็นผู้ทําการซื้อ

  • สิ่งที่สั่ง: การเชื่อมต่อหมายเลข PO กับ PO จะช่วยให้คุณดูรายละเอียดได้ เช่น รายการหรือบริการที่ร้องขอ จํานวน และค่าบริการที่คุณตกลงไว้

  • ส่งคำสั่งซื้อเมื่อใด: รูปแบบหมายเลข PO มักจะมีวันที่หรือช่วงเวลาของคำสั่งซื้อเพื่อเรียงลำดับและจัดระเบียบธุรกรรม

  • สั่งซื้อสินค้าที่ใด: โดยทั่วไปแล้ว ใบสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องจะมีที่อยู่จัดส่ง ดังนั้นหมายเลขดังกล่าวจึงสามารถช่วยติดตามว่าสินค้าถูกจัดส่งไปที่ใดได้ด้วย

  • ข้อกําหนดของข้อตกลง: รายละเอียด เช่น ข้อกําหนดการชําระเงิน วันครบกําหนด หรือคําสั่งเฉพาะของ PO นั้นๆ ซึ่งช่วยให้ทั้งสองฝ่ายดูได้ว่าข้อกําหนดใดที่ตั้งค่าไว้ หากมีหมายเลข PO

คุณควรระบุหมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้เมื่อใด

เมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าให้หมายเลข PO สำหรับการซื้อสินค้า คุณควรระบุหมายเลขดังกล่าวลงในใบแจ้งหนี้ ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลาที่ควรระบุหมายเลขนี้

  • กรณีที่เป็นข้อกําหนดจากลูกค้า: ธุรกิจหลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่มีขนาดใหญ่ต่างก็ใช้หมายเลข PO ในกระบวนการจัดซื้อ หากลูกค้าออกหมายเลข PO พวกเขาคาดหวังว่าหมายเลขดังกล่าวจะรวมอยู่ในใบแจ้งหนี้

  • เพื่อการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น: การระบุหมายเลข PO ไว้ด้วยจะทําให้ลูกค้าจับคู่ใบแจ้งหนี้กับ PO ต้นฉบับได้อย่างง่ายดาย หากไม่มีหมายเลข PO การชําระเงินอาจล่าช้าหรือใบแจ้งหนี้ของคุณอาจถูกรายงานว่าต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม

  • เพื่อป้องกันการสื่อสารที่ผิดพลาด: หมายเลข PO จะแสดงข้อมูลชัดเจนว่าการซื้อใดบ้างที่แสดงอยู่ในใบแจ้งหนี้ การผูกใบแจ้งหนี้กับข้อกําหนดเดิมจะช่วยลดโอกาสในการโต้แย้งการชําระเงินหรือเข้าใจผิดได้

  • สำหรับการบันทึกของคุณ: การใช้หมายเลข PO ช่วยให้ทีมของคุณติดตามธุรกรรมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจัดการลูกค้าหลายรายหรือคําสั่งซื้อหลายรายการ

หมายเลข PO จะช่วยป้องกันการโต้แย้งการชําระเงินได้อย่างไร

เมื่อมีหมายเลข PO อยู่แล้ว จะมีเชนเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ ซึ่งแสดงว่ามีการสั่ง จัดส่ง และเรียกเก็บเงินอะไร วิธีนี้ช่วยแก้ไขการโต้แย้งการชําระเงินได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดปัญหาขึ้น วิธีการมีดังนี้

  • การสร้างการเชื่อมต่อ: หมายเลข PO จะเชื่อมโยงใบแจ้งหนี้กับ PO ต้นฉบับ ซึ่งระบุรายละเอียดของคำสั่งซื้อ วิธีนี้สามารถขจัดความสับสนระหว่างฝ่ายต่างๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้

  • การสอบทานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น: ลูกค้าสามารถตรวจสอบใบแจ้งหนี้เทียบกับ PO ได้อย่างง่ายดายเพื่อยืนยันว่ารายละเอียดตรงกันโดยใช้หมายเลข PO ซึ่งช่วยให้คุณพบข้อผิดพลาดและแก้ไขข้อผิดพลาดก่อนทําการชําระเงิน

  • การยืนยันคําสั่งซื้อ: หากเป็นสินค้าที่จับต้องได้ หมายเลข PO จะช่วยตรวจสอบว่าจํานวนผลิตภัณฑ์ที่คุณได้รับสอดคล้องกับสิ่งที่คุณสั่ง หากมีบางอย่างขาดหายไปหรือไม่ถูกต้อง ก็สามารถอ้างอิงใบสั่งซื้อและแก้ไขปัญหาได้อย่างง่ายดาย

  • ลดการโต้ตอบไปมา: หมายเลข PO เป็นส่วนย่อของธุรกรรมทั้งหมด ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงรู้ว่าตนกำลังอ้างถึงคำสั่งซื้อที่ถูกต้อง วิธีนี้ช่วยลดการสื่อสารไปมาและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสอบถามว่ากำลังพูดถึงใบแจ้งหนี้ใบใด

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้หมายเลข PO ในใบแจ้งหนี้มีอะไรบ้าง

โดยปกติแล้วการใช้หมายเลข PO บนใบแจ้งหนี้เป็นกระบวนการที่เรียบง่าย แต่อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ต่อไปนี้เป็นข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยซึ่งควรหลีกเลี่ยง

  • ไม่ระบหมายเลข PO: หากลูกค้าของคุณใช้หมายเลข PO เพื่อประมวลผลใบแจ้งหนี้ การลืมระบุหมายเลข PO อาจทำให้การชำระเงินล่าช้าหรือส่งผลให้ใบแจ้งหนี้ของคุณถูกปฏิเสธได้

  • การใช้หมายเลข PO ที่ไม่ถูกต้อง: การอ้างอิงหมายเลข PO ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งซื้ออื่นหรือของลูกค้าคนอื่น อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด การโต้แย้งการชําระเงิน หรือความล่าช้าเนื่องจากลูกค้าต้องแก้ไขปัญหา

  • หาหมายเลขได้ยาก: หากหาหมายเลข PO บนใบแจ้งหนี้ของคุณได้ยาก หรือวางไว้ในฟิลด์ที่ไม่คาดคิด ก็อาจทำให้ลูกค้ามองข้ามไป ลูกค้าคาดหวังว่าหมายเลข PO จะปรากฏในส่วนหัวใบแจ้งหนี้หรือช่อง “หมายเลข PO” ที่กำหนดไว้

  • จับคู่รายละเอียดไม่สําเร็จ: หมายเลข PO จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อใบแจ้งหนี้ตรงกับรายละเอียดของ PO ต้นฉบับเท่านั้น การใช้จํานวน คําอธิบาย หรือราคาที่ไม่ถูกต้องอาจทําให้เกิดความสับสนแม้ว่าหมายเลข PO จะถูกต้องก็ตาม

  • ไม่ได้อัปเดตระบบ: หากคุณใช้ซอฟต์แวร์สร้างใบแจ้งหนี้ แต่ไม่ได้เชื่อมโยงหมายเลข PO ที่ถูกต้องในระบบของคุณ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจปรากฏบนใบแจ้งหนี้และทำให้เกิดการโต้ตอบกลับไปกลับมาโดยไม่จำเป็น

  • ใช้หมายเลข PO ซ้ำ: หมายเลข PO แต่ละรายการต้องไม่ซ้ำกัน การใช้หมายเลข PO ซ้ําโดยตั้งใจหรือโดยไม่ตั้งใจอาจทําให้เกิดข้อผิดพลาดในการทําบัญชีและบันทึกข้อมูลไม่ถูกต้องได้

  • พึ่งพาเพียงหมายเลข PO: แม้ว่าหมายเลข PO จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่หมายเลข PO จะไม่สามารถแทนที่รายละเอียดสำคัญอื่นๆ ของใบแจ้งหนี้ได้ เช่น คำอธิบายสินค้าหรือบริการ วันที่ และราคา การเว้นรายละเอียดเหล่านี้ไว้หรือการใช้หมายเลข PO เพียงอย่างเดียวจะทําให้เอกสารประกอบของคุณไม่ครบถ้วน

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Invoicing

Invoicing

สร้างและส่งใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าได้ในไม่กี่นาที โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Invoicing

สร้างและจัดการใบแจ้งหนี้สำหรับการชำระเงินครั้งเดียวด้วย Stripe Invoicing