การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ คือ การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ ในการจัดการใบแจ้งหนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการป้อนและประมวลผลข้อมูลด้วยตนเอง ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดได้ ในปี 2024 ตลาดซอฟต์แวร์ระบบใบแจ้งหนี้อัตโนมัติมีมูลค่าเกือบ 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 8,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2031 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้กำลังเป็นที่ต้องการ
หลังจากนี้ เราจะพาไปดูวิธีการทำงานของการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ ฟีเจอร์ของระบบที่มีประสิทธิภาพ ข้อดีและปัญหาที่พบบ่อย รวมถึงวิธีผสานการทำงานการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติเข้ากับระบบอื่นๆ ของคุณ
เนื้อหาหลักในบทความ
- การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติทำงานอย่างไร
- ฟีเจอร์ของระบบประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ
- ข้อดีจากการใช้การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ
- วิธีผสานการทำงานการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติเข้ากับระบบธุรกิจอื่นๆ
- ปัญหาที่พบบ่อยในการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติและแนวทางแก้ไข
การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติทำงานอย่างไร
การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติจะใช้ซอฟต์แวร์และขั้นตอนการทำงานแบบดิจิทัล เพื่อจัดการใบแจ้งหนี้โดยแทบไม่ต้องมีคนคอยดูแล ซึ่งโดยปกติมีขั้นตอนการทำงานดังนี้
การรับใบแจ้งหนี้: ใบแจ้งหนี้ที่ได้รับจะมีรูปแบบแตกต่างกันไป รวมถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น PDF) และแบบกระดาษ โดยระบบจะรวบรวมใบแจ้งหนี้ทั้งหมดที่เข้ามาเอาไว้ในระบบประมวลผลส่วนกลาง
การเก็บบันทึกข้อมูล: ข้อมูลจากใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์จะผสานเข้ากับระบบประมวลผลโดยตรงโดยใช้รูปแบบต่างๆ เช่น ภาษามาร์กอัปที่ขยายได้ (Extensible Markup Language หรือ XML) หรือการแลกเปลี่ยนเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Documents Interchange หรือ EDI) ในกรณีของใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีต่างๆ เช่น การรับรู้อักขระด้วยแสง (Optical Character Recognition หรือ OCR) หรือการรับรู้เอกสารอัจฉริยะ (Intelligent Document Recognition หรือ IDR) จะสแกนและแปลงข้อความเป็นข้อมูลดิจิทัล ระบบขั้นสูงจะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อจำแนกเลย์เอาต์ใบแจ้งหนี้แบบต่างๆ และช่วยให้การเก็บรวบรวมข้อมูลแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ
การตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันข้อมูล: ข้อมูลที่ได้มา (เช่น รายละเอียดของผู้ให้บริการ หมายเลขใบแจ้งหนี้ บรรทัดรายการ) จะได้รับการตรวจสอบเทียบกับแหล่งข้อมูลภายใน เช่น ใบสั่งซื้อและใบรับสินค้าโดยอัตโนมัติ ระบบจะตรวจดูข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญา
__ การกำหนดเส้นทางการอนุมัติ:__ เมื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว ระบบจะส่งใบแจ้งหนี้ไปขออนุมัติจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ระบบการส่งต่อนี้จะทำงานตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจตั้งค่าตามจำนวนใบแจ้งหนี้ ผู้ให้บริการ หรือแผนกก็ได้
การจัดการข้อผิดพลาด: หากใบแจ้งหนี้ไม่ตรงกับใบสั่งซื้อหรือมีข้อมูลคลาดเคลื่อน ระบบจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบใบแจ้งหนี้ดังกล่าว กลไกจัดการข้อผิดพลาดจะเปิดให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล แก้ไขข้อมูล หรือขอคำชี้แจงเพิ่มเติมก่อนดำเนินการต่อได้
การดำเนินการชำระเงิน: หลังจากอนุมัติแล้ว ระบบจะประมวลผลรายละเอียดใบแจ้งหนี้เพื่อดำเนินการชำระเงิน ระบบอัตโนมัติจะตั้งเวลาชำระเงินได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการชำระเงินของผู้ให้บริการหรือรับส่วนลดจากการชำระเงินก่อนกำหนดได้ การผสานการทำงานกับระบบธนาคารหรือเกตเวย์การชำระเงินจะช่วยให้ประมวลผลการชำระเงินอัตโนมัติได้สะดวกยิ่งขึ้น
__ การผสานการทำงานและการกระทบยอด:__ ข้อมูลที่ประมวลผลจะผสานเข้ากับระบบบัญชีหรือซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) เพื่อดำเนินการรายงานและกระทบยอดทางการเงินแบบเรียลไทม์
การวิเคราะห์และการรายงาน: เครื่องมือวิเคราะห์จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้จ่าย ผลการดำเนินงานของซัพพลายเออร์ และประสิทธิภาพ คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อหาโอกาสประหยัดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงสิ่งต่างๆ รวมถึงใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้
ฟีเจอร์ของระบบประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ
ระบบประมวลผลใบแจ้งหนี้อาจมีฟีเจอร์มากมาย แต่ฟีเจอร์สำคัญๆ บางส่วนที่คุณควรมองหามีดังนี้
การเก็บบันทึกข้อมูล
OCR: การดึงข้อมูลจากใบแจ้งหนี้ในรูปแบบต่างๆ ได้ (เช่น PDF, รูปภาพที่ผ่านการสแกน, อีเมล)
แมชชีนเลิร์นนิง: ซอฟต์แวร์สามารถเรียนรู้และปรับให้เข้ากับเลย์เอาต์แบบต่างๆ ของใบแจ้งหนี้และช่องข้อมูลต่างๆ ได้
การจัดการเทมเพลต: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างและปรับแต่งเทมเพลตสำหรับใบแจ้งหนี้ของผู้ให้บริการเป็นการเฉพาะได้
การตรวจสอบความถูกต้องและการเชื่อมโยงข้อมูล
การจับคู่แบบสามทาง: การเปรียบเทียบข้อมูลใบแจ้งหนี้กับใบสั่งซื้อและใบเสร็จเพื่อหาข้อมูลที่ไม่ตรงกันได้
การตรวจจับใบแจ้งหนี้ที่ซ้ำซ้อน: ค้นหาและแจ้งใบแจ้งหนี้ที่ซ้ำซ้อนเพื่อป้องกันการชำระเงินเกินจำนวน
กลไกกฎธุรกิจ: ช่วยให้ผู้ใช้กำหนดกฎขึ้นมาเองได้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องและการอนุมัติใบแจ้งหนี้
ขั้นตอนการอนุมัติ
การกำหนดเส้นทางอัตโนมัติ: การส่งใบแจ้งหนี้ให้กับผู้อนุมัติอย่างถูกต้องตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
การอนุมัติผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่: ผู้อนุมัติสามารถตรวจสอบและอนุมัติใบแจ้งหนี้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้
เส้นทางการตรวจสอบ: ประวัติการอนุมัติและการเปลี่ยนแปลงใบแจ้งหนี้แบบครบถ้วน
การผสานการทำงาน
การผสานการทำงานกับระบบบัญชี/ERP: การถ่ายโอนข้อมูลใบแจ้งหนี้ที่อนุมัติแล้วไปยังระบบบัญชีหรือระบบ ERP โดยอัตโนมัติ
__ การผสานการทำงานกับระบบการชำระเงิน:__ การประมวลผลการชำระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับใบแจ้งหนี้ที่อนุมัติแล้ว
การผสานการทำงานกับอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API): การผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันทางธุรกิจอื่นๆ (เช่น การจัดซื้อ การจัดการสัญญา) ผ่าน API
ฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้ยังมีประโยชน์ในการประมวลผลใบแจ้งหนี้อีกด้วย
ส่วนลดจากการชำระเงินก่อนกำหนด: การค้นหาโอกาสรับส่วนลดจากการชำระเงินก่อนกำหนด และใช้โอกาสนั้นให้เกิดประโยชน์โดยอัตโนมัติ
การบริหารจัดการผู้ให้บริการ: ฐานข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลและการสื่อสารของผู้ให้บริการแบบรวมศูนย์ รวมถึงการติดตามประสิทธิภาพ
การวิเคราะห์และการรายงาน: แดชบอร์ดแบบเรียลไทม์และรายงานที่ปรับแต่งได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเมตริกการประมวลผลใบแจ้งหนี้
การจัดการกับข้อผิดพลาด: การรายงานข้อผิดพลาด (เช่น ข้อมูลขาดหายไป ราคาไม่ตรงกัน) เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขได้
การตรวจจับการฉ้อโกง: ใช้อัลกอริทึมแบบแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อตรวจจับใบแจ้งหนี้ที่อาจเป็นการฉ้อโกง
การติดตั้งใช้งานบนระบบคลาวด์: โซลูชันซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่นซึ่งช่วยให้เข้าถึงจากระยะไกลได้
ข้อดีจากการใช้การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ
การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติให้ประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณได้หลายประการ ตัวอย่างข้อดีที่คุณอาจได้รับมีดังนี้
ความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน: การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติสามารถปรับให้เข้ากับใบแจ้งหนี้และข้อบังคับในการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้หลายรูปแบบ และใช้อัลกอริทึมแบบแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อพัฒนาขั้นตอนการดึงและการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอยู่ตลอด
การผสานการทำงานกับซัพพลายเชนและการจัดซื้อ: ระบบเหล่านี้ผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์ซัพพลายเชนและการจัดซื้อได้ วิธีนี้จึงช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่เจ้าหนี้การค้าที่มีต่อการดำเนินงานของซัพพลายเชนได้แบบเรียลไทม์ เอื้อต่อแนวทางบริหารสินค้าคงคลังที่พร้อมใช้ทันเวลา และยกระดับการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน
การคาดการณ์ทางการเงินและการจัดการสภาพคล่อง: ฟังก์ชันการประมวลผลและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ของระบบอัตโนมัติช่วยให้ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) และผู้ควบคุมการเงินรู้สถานะกระแสเงินสดและภาระผูกพันทางการเงินได้ทันที ซึ่งช่วยให้คาดการณ์ความต้องการเงินสดและตัดสินใจลงทุนครั้งสำคัญๆ ได้ดีขึ้น
การตรวจจับการฉ้อโกงและการลดความเสี่ยง: ระบบประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติขั้นสูงจะมีฟังก์ชันตรวจจับความผิดปกติที่ซับซ้อน เพื่อตรวจหาการฉ้อโกงหรือความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น ธุรกิจต่างๆ สามารถตั้งค่าให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีกิจกรรมที่ผิดปกติได้ เช่น การชำระเงินซ้ำซ้อนหรือใบแจ้งหนี้ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา ซึ่งช่วยให้ธุรกิจจัดการความเสี่ยงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ขั้นตอนการทำงานที่ปรับแต่งได้: ธุรกิจจะกำหนดลำดับขั้นตอนการอนุมัติและกฎขั้นตอนการทำงานขึ้นมาเองสำหรับข้อกำหนดในการควบคุมแบบเฉพาะตัวได้ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบตามความเหมาะสมและมีการปฏิบัติตามข้อกำหนด
การบริหารจัดการผู้ให้บริการ: ระบบอัตโนมัติจะเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ให้บริการ ช่วยให้ทีมจัดซื้อระบุและเจรจาต่อรองกับผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือได้โดยใช้แนวโน้มด้านประสิทธิภาพ
การปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วโลก: บริษัทข้ามชาติต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการเงินและกฎหมายภาษีระหว่างประเทศจำนวนมาก ระบบอัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วโลกจะปรับเปลี่ยนไปตามกฎข้อบังคับแบบต่างๆ โดยอัตโนมัติ จึงช่วยลดภาระให้กับทีมงานในพื้นที่ได้
การบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG): ระบบอัตโนมัติจะช่วยลดการใช้กระดาษ ทำให้ขั้นตอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเก็บข้อมูลที่มีประโยชน์ในการรายงานเกี่ยวกับเกณฑ์ ESG โดยเฉพาะผลลัพธ์ในด้านธรรมาภิบาลและสิ่งแวดล้อม
วิธีผสานการทำงานการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติเข้ากับระบบธุรกิจอื่นๆ
ผสานการทำงานการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติเข้ากับระบบธุรกิจอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึงขีดสุด ต่อไปนี้คือวิธีเริ่มต้น
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน: ทำความเข้าใจว่าคุณต้องการอะไรกันแน่จากการผสานการประมวลผลใบแจ้งหนี้เข้ากับระบบอื่นๆ โดยอาจจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้น ความแม่นยำที่มากขึ้น หรือฟังก์ชันการรายงานที่ดีกว่าเดิม
เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม: เลือกเครื่องมือที่เชื่อมต่อระบบต่างๆ มิดเดิลแวร์จะคอยเชื่อมโยงระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ส่วน API จะช่วยให้ระบบสื่อสารกันได้โดยตรง ให้เลือกเครื่องมือตามความต้องการของคุณและความเข้ากันได้กับระบบ
จัดระเบียบข้อมูลและขั้นตอนการทำงาน: กำหนดว่าระบบต่างๆ มีข้อมูลใดบ้างที่ต้องใช้ร่วมกัน (เช่น รายละเอียดใบแจ้งหนี้และการชำระเงิน) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องตรงกัน ทำความเข้าใจว่าข้อมูลมีการเคลื่อนย้ายและใช้งานในระบบของคุณอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่าการผสานการทำงานจะช่วยสนับสนุนขั้นตอนต่างๆ ของคุณ
มุ่งเน้นการปฏิบัติตามข้อกำหนดและการรักษาความปลอดภัย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการผสานการทำงานเป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล ให้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการส่งข้อมูลที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
ทดสอบอย่างละเอียด: ทดสอบการผสานการทำงานใหม่ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้โดยไม่มีข้อผิดพลาด ให้ลูกค้าทดสอบระบบเพื่อยืนยันว่าตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละวันและใช้งานง่าย
ค่อยๆ นำไปใช้และคอยตรวจสอบ: เริ่มจากการเปิดตัวเล็กๆ น้อยๆ โดยอาจจะใช้กันในแผนกเดียวก่อนก็ได้ แล้วค่อยเพิ่มจำนวนผู้ใช้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจัดการปัญหาในกลุ่มเล็กๆ ได้ก่อน หลังจากใช้งานอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ให้คอยตรวจสอบระบบอยู่ตลอดว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และปรับเปลี่ยนตามที่จำเป็น
ปัญหาที่พบบ่อยในการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติและแนวทางแก้ไข
บางครั้ง การประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติก็ทำให้เกิดปัญหากับธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการใช้งานต่ำหรือการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ด้านล่างนี้คือภาพรวมเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่พบบ่อยและแนวทางแก้ไข
การดึงข้อมูลและความแม่นยำ
ใบแจ้งหนี้มีหลายรูปแบบ (เช่น PDF, รูปภาพที่ผ่านการสแกน, อีเมล) และเลย์เอาต์ ทำให้ดึงข้อมูลได้ยาก เทคโนโลยี OCR อาจมีปัญหาเมื่อใช้กับภาพสแกนที่มีคุณภาพต่ำหรือใบแจ้งหนี้ที่เขียนด้วยลายมือ ซึ่งการดึงข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้
แนวทางแก้ไข
OCR และแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูง: ใช้โซลูชัน OCR ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อเพิ่มความแม่นยำขึ้นเรื่อยๆ
การจัดการเทมเพลต: สร้างเทมเพลตแบบกำหนดเองสำหรับใบแจ้งหนี้ที่ได้รับบ่อยๆ เพื่อให้ดึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
การให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้อง: เพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้อง โดยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจทานและแก้ไขข้อมูลได้ในกรณีที่ซับซ้อนหรือคลุมเครือ
การผสานการทำงาน
ระบบแบบเดิมอาจไม่มี API ที่ทันสมัยหรือรูปแบบข้อมูลที่เข้ากันได้ จึงทำให้ผสานการทำงานได้ยาก ข้อมูลในระบบต่างๆ ที่ไม่ตรงกันก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดและความล่าช้าได้
แนวทางแก้ไข
มิดเดิลแวร์: ใช้แพลตฟอร์มมิดเดิลแวร์เพื่อขจัดข้อมูลที่ไม่ตรงกันในระบบต่างๆ และช่วยให้เชื่อมโยงและแปลงข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น
การผสานการทำงานแบบกำหนดเอง: พัฒนาการผสานการทำงานแบบกำหนดเองโดยใช้ API หรือการถ่ายโอนในรูปแบบไฟล์เพื่อให้แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายขึ้น
การจัดระเบียบข้อมูลและการทำให้ข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน: จัดระเบียบข้อมูลและทำให้ข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ระบบต่างๆ มีข้อมูลที่สอดคล้องกัน
การจัดการการเปลี่ยนแปลงและการนำไปใช้โดยผู้ใช้
พนักงานอาจต่อต้านการเปลี่ยนแปลงหรือไม่คุ้นกับระบบใหม่ จึงส่งผลให้มีการนำไปใช้น้อย การไม่จัดให้มีการฝึกอบรมและการสนับสนุนก็อาจทำให้การนำไปใช้ไม่ประสบผลสำเร็จได้
แนวทางแก้ไข
แผนจัดการการเปลี่ยนแปลง: จัดทำแผนจัดการการเปลี่ยนแปลงแบบรอบด้าน ซึ่งครอบคลุมถึงการสื่อสาร การฝึกอบรม และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
การเปิดตัวเป็นระยะๆ: ทยอยนำการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติไปใช้กับแผนกหรือทีมต่างๆ เพื่อให้มีเวลาปรับเปลี่ยนและรับข้อเสนอแนะ
จูงใจให้นำไปใช้: ชื่นชมและให้รางวัลกับพนักงานที่เปิดใจรับระบบใหม่และแสดงให้เห็นว่าใช้งานได้อย่างเชี่ยวชาญ
การจัดการข้อผิดพลาดและใบแจ้งหนี้ที่ซับซ้อน
ใบแจ้งหนี้บางรายการก็ดำเนินการโดยอัตโนมัติเต็มรูปแบบไม่ได้เนื่องจากมีข้อผิดพลาด เช่น ข้อมูลขาดหายไป ราคาไม่ตรงกัน หรือกฎการอนุมัติที่ซับซ้อน การให้คนเข้ามาดูแลก็อาจทำให้ขั้นตอนช้าลงและเกิดจุดติดขัดได้
แนวทางแก้ไข
ขั้นตอนการทำงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาด: วางขั้นตอนการจัดการข้อผิดพลาดให้ชัดเจน เพื่อยกระดับและแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที
ระบบอัตโนมัติตามกฎ: ใช้ระบบอัตโนมัติตามกฎเพื่อจัดการข้อผิดพลาดที่พบบ่อย เช่น การเชื่อมโยงใบแจ้งหนี้กับใบสั่งซื้อ หรือการใช้รหัสบัญชีแยกประเภททั่วไปตามค่าเริ่มต้น
การให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ: ให้เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยตรวจสอบในกรณีของใบแจ้งหนี้ที่มีมูลค่าสูงหรือซับซ้อน
การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
ข้อมูลใบแจ้งหนี้มักมีข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน ซึ่งต้องได้รับการปกป้องไม่ให้มีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล
แนวทางแก้ไข
มาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้การควบคุมการเข้าถึงที่รัดกุม การเข้ารหัส และการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ เพื่อดูแลข้อมูลใบแจ้งหนี้ให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: รับรองการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านการคุ้มครองข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยขอความยินยอมที่จำเป็น ทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่ไม่ระบุตัวตนทุกครั้งที่ทำได้ และจำกัดให้เข้าถึงได้โดยบุคลากรที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น
การตรวจสอบข้อมูลของผู้ให้บริการ: ตรวจสอบข้อมูลของผู้ให้บริการการประมวลผลใบแจ้งหนี้อัตโนมัติอย่างถี่ถ้วน เพื่อดูแนวทางการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมและการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ