ลัตเวียเป็นประเทศในกลุ่มบอลติกที่มีประชากรไม่ถึง 2 ล้านคน เป็นสมาชิกทั้งของสหภาพยุโรปและยูโรโซน จึงได้รับอิทธิพลอย่างมากจากกฎระเบียบต่างๆ เช่น ข้อบังคับบริการการชำระเงินฉบับแก้ไข (PSD2) และกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ภายใต้กรอบกฎระเบียบเหล่านี้ ทั้งสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมและฟินเทคที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าต่างก็เข้ามามีบทบาทเป็นทางเลือกด้านการชำระเงินให้กับชาวลัตเวีย

ธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น กฎระเบียบ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในลัตเวีย เพื่อโจทย์ความต้องการของลูกค้าไปพร้อมกับการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงินและประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้ เราจะสำรวจสิ่งที่ธุรกิจที่ต้องการดำเนินงานในลัตเวียควรพิจารณา ได้แก่

• เปิดรับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น
  
• ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  
• การสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยืดหยุ่น
  

สถานะของตลาด

ภาคการธนาคารของลัตเวียมีศูนย์กลางอยู่ที่สถาบันหลักหลายแห่ง รวมถึง SEB และ Swedbank ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคบอลติก ธนาคารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านของลัตเวียไปสู่สังคมดิจิทัลและไร้เงินสดในวงกว้างยิ่งขึ้น โดยให้บริการธนาคารออนไลน์ แอปการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และตัวเลือกการชำระเงินแบบไร้สัมผัส

ภาคการเงินของลัตเวียอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง ซึ่งมีหน้าที่รับรองความมั่นคงและการปฏิบัติตามข้อกำหนดในอุตสาหกรรม โดยคณะกรรมการตลาดการเงินและตลาดทุน (Financial and Capital Market Commission: FCMC) ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลหลัก ดูแลสถาบันการเงิน ตลาด และการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงินของลูกค้า ความมุ่งมั่นของลัตเวียในการปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดของสหภาพยุโรป อีกทั้งลัตเวียยังมีส่วนร่วมในการพัฒนามาตรฐานการชำระเงินของยุโรปผ่านการมีส่วนร่วมกับ European Payments Council อีกด้วย

รัฐบาลลัตเวียได้ส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการชำระเป็นเงินสด โดยหน่วยงานด้านภาษีได้ออกมาตรการจูงใจเพื่อกระตุ้นการชำระเงินด้วยบัตร เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการธุรกรรมและต่อสู้กับการฉ้อโกง ลัตเวียยังได้กำหนดข้อจำกัดการใช้เงินสดสำหรับธุรกรรมบางประเภทเพื่อลดความเสี่ยงของการฟอกเงินอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ห้ามชำระเงินที่เกิน 7,200 ยูโรเป็นเงินสด และจะมีโทษปรับคิดเป็น 15% ของยอดรวม

ลัตเวียมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับธุรกิจและกำลังมองหาการส่งเสริมภาคธุรกิจสตาร์ทอัพ สมาคมฟินเทคของลัตเวียถึงกับบอกว่า "อาจเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่เป็นมิตรที่สุดในโลก"

วิธีการชำระเงิน

เมื่อเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาขึ้น ลัตเวียก็ได้เริ่มนำตัวเลือกการชำระเงินที่ทันสมัยมากขึ้นมาใช้ แม้จะช้ากว่าบางประเทศก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น ลัตเวียก็ยังคงยึดติดกับวิถีดั้งเดิม ทำให้เงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

การใช้งานปัจจุบัน

ตามข้อมูลของธนาคารแห่งลัตเวีย ชาวลัตเวียโดยเฉลี่ยใช้เงินสดสำหรับ 22% ของธุรกรรมรายสัปดาห์ ขณะที่บัตรเครดิตและบัตรเดบิตรวมกันคิดเป็น 61% ของธุรกรรมแบบไร้เงินสดในปี 2024 เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในยุโรป มีการใช้งานบัตรเดบิตแพร่หลายกว่าบัตรเครดิต อย่างไรก็ตาม บัตรทั้งสองประเภทในลัตเวียล้วนมีเทคโนโลยีการชำระเงินที่ทันสมัย โดยธุรกรรมแบบไร้สัมผัสคิดเป็นเกือบ 73% ของการชำระเงินด้วยบัตรทั้งหมดในประเทศในไตรมาสที่สองของปี 2021

วิธีการชำระเงิน B2C ที่นิยมใช้ในลัตเวีย

• เงินสด
  
• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
  
• การโอนเงินผ่านธนาคาร
  

วิธีการชำระเงิน B2B ที่นิยมใช้ในลัตเวีย

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
  
• เงินสด
  
• การโอนเงินผ่านธนาคาร
  

แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

การใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ตามข้อมูลจาก ธนาคารกลางยุโรป การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลและแอปเฉพาะทางคิดเป็น 6% ของธุรกรรมผ่านระบบบันทึกการขาย (POS) ในปี 2022 และกว่าหนึ่งในสี่ของประชากรลัตเวียใช้สมาร์ตโฟนในการชำระเงินทุกวัน

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

การกำกับดูแลและมาตรฐานโดยรวมของสหภาพยุโรปเป็นกรอบที่มั่นคงสำหรับทุกบริษัทที่ต้องการทำธุรกิจในลัตเวีย อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้ก็มีลักษณะเฉพาะตัวและความท้าทายในแบบของตนเองเช่นกัน ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรคำนึงถึง

ภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นภาระหน้าที่ทางการเงินที่พบได้ทั่วไปทั้งสำหรับลูกค้าและธุรกิจในลัตเวีย โดยทั่วไปแล้ว VAT จะจัดเก็บในอัตรามาตรฐาน 21% สำหรับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ แม้ว่าลูกค้าจะเป็นผู้จ่าย VAT โดยตรงผ่านการซื้อสินค้าและบริการ แต่ธุรกิจจะต้องเก็บรวบรวมและนำส่งภาษีดังกล่าวให้แก่รัฐบาล การนำส่ง VAT อย่างถูกต้องและตรงเวลาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอาจนำไปสู่โทษปรับจำนวนมากหรือบทลงโทษทางกฎหมาย ประเด็นนี้มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าเช่นกัน เพราะหากมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด อาจส่งผลให้ถูกตรวจสอบหรือการดำเนินการทางกฎหมายตามมาได้

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

ลัตเวียปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรป ซึ่งมักเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้าในกรณีการโต้แย้งเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน ซึ่งรวมถึงบทบัญญัติเฉพาะของเขตพื้นที่เพื่อการชำระเงินในยุโรป (Single Euro Payments Area: SEPA) ที่ให้สิทธิ์ลูกค้าสามารถขอเงินคืนสำหรับธุรกรรมการหักบัญชีอัตโนมัติภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์

ธุรกิจในลัตเวียยังอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคของประเทศ ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจมีหน้าที่พิสูจน์ความถูกต้องของธุรกรรมเมื่อเกิดการโต้แย้งการชำระเงินโดยเฉพาะในกรณีธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ท่าทีที่เป็นมิตรต่อลูกค้านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดเก็บบันทึกอย่างครบถ้วนและการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมสำหรับธุรกิจที่ดำเนินงานในลัตเวีย

การชำระเงินระหว่างประเทศ

เนื่องจากลัตเวียเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป การชำระเงินระหว่างประเทศจึงเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจตามปกติ ต่อไปนี้คือภาพรวมการทำงานจริงของการชำระเงินระหว่างประเทศ

• การแปลงสกุลเงิน
  มีผู้ให้บริการการชำระเงินของบุคคลที่สามหลายรายที่นิยมใช้กันในลัตเวียสำหรับการแปลงสกุลเงิน เช่น Boursorama (บริษัทในเครือของ Société Générale), Currencies Direct, S Money และ Wise (ชื่อเดิม Transferwise) แพลตฟอร์มเหล่านี้ให้บริการแปลงสกุลเงินโดยอัตโนมัติในขั้นตอนทำธุรกรรม และโอนเงินยูโรเข้าบัญชีของธุรกิจโดยตรง

• การโอนเงินแบบ SEPA
  ในฐานะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและยูโรโซน ลัตเวียจึงเป็นส่วนหนึ่งของ SEPA ซึ่งช่วยให้การโอนเงินยูโรผ่านธนาคารง่ายขึ้น ทำให้ธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในยูโรโซนไม่ซับซ้อนมากนัก

• ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ
  ลัตเวียมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ ความสัมพันธ์เหล่านี้ช่วยให้การชำระเงินข้ามพรมแดนง่ายขึ้นและส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น โดยลัตเวียมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เหนียวแน่นกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคบอลติก ได้แก่ เอสโตเนียและลิทัวเนีย รวมถึงสวีเดนและเยอรมนี รัสเซียเคยเป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักของลัตเวีย อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรรัสเซียในระดับนานาชาติที่บังคับใช้หลังการรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 ได้ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าวอ่อนแอลงอย่างมาก

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของลัตเวียหมายความว่าลัตเวียต้องปฏิบัติตามกฎด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป แม้ว่ากฎเหล่านี้อาจตั้งความคาดหวังที่สูงขึ้นที่ธุรกิจจะต้องปฏิบัติตาม แต่ก็เป็นประโยชน์อย่างมากต่อลูกค้า โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อควรพิจารณาเหล่านี้ที่ด้านล่าง

• กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
  ลัตเวียให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลเป็นลำดับแรกในการชำระเงิน โดยมีการบังคับใช้ GDPR อย่างเข้มงวด ซึ่งกำหนดมาตรฐานขั้นสูงในการคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า องค์กรที่ดำเนินงานในลัตเวียต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งสำหรับการเก็บข้อมูลและต้องเคารพสิทธิ์ที่จะถูกลืมของลูกค้าด้วย

• PSD2
  PSD2 มีบทบาทสำคัญในกฎระเบียบด้านการชำระเงินของลัตเวีย โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการชำระเงินต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (Strong Customer Authentication: SCA) ซึ่งมักอยู่ในรูปแบบของการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA)

• FCMC
  FCMC ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลกลางของลัตเวีย โดยดูแลในหลายมิติที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการชำระเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรปและกฎระเบียบในประเทศ

• กฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (AML)
  นอกจากนี้ ลัตเวียยังปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรปว่าด้วยการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CFT) โดยสถาบันการเงินที่ดำเนินงานในลัตเวียต้องดำเนินมาตรการ AML และ CFT ที่ครอบคลุมรอบด้าน เพื่อใช้ในการตรวจสอบและรายงานกิจกรรมที่อาจน่าสงสัย หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด อาจถูกลงโทษอย่างเข้มงวด

• การกำกับดูแลหน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIU)
  FIU ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในความพยายามของลัตเวียในการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ โดยมีหน้าที่สอบสวนและตรวจสอบกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย จึงช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

ภาคการชำระเงินของลัตเวียมีความท้าทายเฉพาะตัว ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อคุณพัฒนากลยุทธ์ด้านการชำระเงินในประเทศนี้

• ตระหนักถึงการนำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่มาใช้อย่างช้าๆ
  แม้ว่าลัตเวียจะมีความก้าวหน้าในการเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล แต่ยังตามหลังบางประเทศในยุโรปในการนำเทคโนโลยีการชำระเงินที่เกิดใหม่มาใช้ เช่น การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ที่ล่าช้ากว่าหมายความว่าธุรกิจจำเป็นต้องรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การชำระเงินและทำให้ต้นทุนของธุรกิจเพิ่มขึ้น

• จัดการข้อมูลตามกฎของสหภาพยุโรป
  ในฐานะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ลัตเวียอยู่ภายใต้บังคับของ GDPR กฎระเบียบนี้ได้เพิ่มภาระในการปฏิบัติตามข้อกำหนดให้กับบริษัทในลัตเวีย รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการชำระเงินด้วย การไม่ปฏิบัติตาม GDPR อาจส่งผลให้ถูกปรับเป็นจำนวนมากถึง 20 ล้านยูโร หรือ 4% ของรายได้รวมต่อปีทั่วโลกของบริษัท สำหรับระบบการชำระเงินที่ต้องจัดการกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในปริมาณสูง การปฏิบัติตามข้อกำหนดของ GDPR ทำให้จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมากในระบบการกำกับดูแลข้อมูล การปฏิบัติข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเหล่านี้โดยไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานอย่างรุนแรงยังคงเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง

• เตรียมพร้อมสำหรับความซับซ้อนในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
  ลัตเวียได้ลดความซับซ้อนของบางแง่มุมในการชำระเงินภายในยุโรปโดยใช้ SEPA อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมที่อยู่นอกเหนือ SEPA อาจมีความซับซ้อน เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และกฎระเบียบที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

• ตระหนักถึงความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์
  ในอดีต ลัตเวียมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับรัสเซียและเครือรัฐเอกราช ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือระหว่างรัฐบาลโดยมีอดีตสหภาพโซเวียตเป็นแกนหลัก ความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์นี้ทำให้การขนส่งและการค้าทางบกซับซ้อนมากขึ้น และทำให้เป็นไปได้ที่จะเกิดช่องโหว่ในการคว่ำบาตร แม้ว่าบริษัทส่วนใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในลัตเวียอาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ควรคำนึงถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศนี้ด้วย

ประเด็นสำคัญ

ธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดลัตเวียควรปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น รวมถึงให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และมุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของลูกค้า ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อคุณจัดทำและดำเนินแผนธุรกิจ

เปิดรับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น

• ใช้การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA
  SEPA ได้ทำให้การโอนเงินผ่านธนาคารในสกุลเงิน EUR ภายในยุโรปง่ายขึ้น โดยในปี 2022 มีการส่งการชำระเงินผ่าน SEPA เกือบ 277 ล้านรายการจากลัตเวีย ตามข้อมูลของธนาคารกลางยุโรป ธุรกิจที่มีรูปแบบการชำระเงินตามรอบบิลหรือการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าจะได้รับประโยชน์จากเกตเวย์การชำระเงินที่สอดคล้องกับ SEPA ทั้งนี้ การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในลัตเวียสำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำ ทำให้ฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจควรสนับสนุน

• รวมวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
  แม้ว่าเครือข่ายบัตรระหว่างประเทศอย่าง Visa และ Mastercard จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย แต่การรองรับบัตรธนาคารของลัตเวียและการโอนเงินผ่านระบบธนาคารออนไลน์จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคุ้นเคยกับการชำระเงินวิธีนี้มากขึ้น

• ปรับเปลี่ยนตามความต้องการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  แม้ว่าการเติบโตของธุรกรรมผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในลัตเวียจะช้ากว่าประเทศอื่นๆ แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจควรอัปเดตระบบการชำระเงินให้รองรับวิธีการชำระเงินรูปแบบนี้ ควบคู่ไปกับการรับชำระเงินผ่านช่องทางดั้งเดิม เช่น เงินสด

ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

• ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
  ในฐานะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ลัตเวียจึงปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เข้มงวด รวมถึง GDPR ธุรกิจควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ากระบวนการชำระเงินของตนสอดคล้องกับกฎระเบียบดังกล่าว การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการชำระเงินอย่างรอบคอบและโปร่งใสจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าชาวลัตเวียที่มีความตระหนักรู้มากขึ้นถึงความจำเป็นในการปกป้องข้อมูล

• ข้อมูลการช้อปปิ้งทางออนไลน์ที่ปลอดภัย
  ตลาดอีคอมเมิร์ซของลัตเวียสร้างรายได้ประมาณ 773 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 แสดงให้เห็นว่าลูกค้าในประเทศนี้เปิดรับการช้อปปิ้งทางออนไลน์ ดังนั้น การสร้างระบบการชำระเงินออนไลน์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเทรนด์นี้ได้

• ลงทุนในการรักษาความปลอดภัย
  ในฐานะส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป รัฐบาลลัตเวียและลูกค้าชาวลัตเวียจึงให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ธุรกิจสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ด้วยการลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น 2FA และการเข้ารหัส

สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยืดหยุ่น

• นำเสนอตัวเลือกหลายภาษา
  ลูกค้าจะชื่นชมธุรกิจที่ใส่ใจพิเศษด้วยการจัดทำอินเทอร์เฟซการชำระเงินเป็นภาษาลัตเวีย ซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศ รวมทั้งภาษารัสเซียที่มีผู้ใช้เป็นจำนวนมากในประเทศลัตเวีย

• รับหลายสกุลเงิน
  ด้วยขนาดของลัตเวียและการเชื่อมโยงทางการค้ากับประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง การนำเสนอตัวเลือกหลายสกุลเงินจึงเป็นข้อได้เปรียบ การเปิดโอกาสให้ลูกค้าชำระเงินในสกุลเงินที่ตนต้องการจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจของลูกค้า

• ให้การสนับสนุนลูกค้าแบบเรียลไทม์
  เมื่อชาวลัตเวียหันมาใช้การช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น การมีบริการช่วยเหลือลูกค้าออนไลน์ที่เข้าถึงได้ง่ายจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้ประสบการณ์การชำระเงินราบรื่นยิ่งขึ้น