ซอฟต์แวร์ระบบบันทึกการขาย (POS) สําหรับยานยนต์พัฒนามาไกลจากเทอร์มินัลที่เทอะทะและระบบที่ไม่เชื่อมโยงถึงกัน ปัจจุบัน ซอฟต์แวร์นี้ดําเนินงานหน้าบ้าน ลิงก์ประวัติการรับบริการกับการชําระเงิน ซิงโครไนซ์กับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ และช่วยให้อู่ซ่อมรถมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า

อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 4.36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 และซอฟต์แวร์ POS เป็นหัวใจหลักของธุรกิจค้าปลีก ต่อไปนี้เราจะอธิบายวิธีการทํางานของระบบสมัยใหม่เหล่านี้ สิ่งที่คุณควรมองหาเมื่อคุณเลือกระบบที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ และดูว่าแพลตฟอร์มอย่าง Stripe สามารถช่วยเหลือร้านยานยนต์ได้อย่างไร

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์คืออะไร
  
• ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์ทํางานอย่างไร
  
• ธุรกิจควรมองหาอะไรในซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์
  
• Stripe ผสานการทํางานกับระบบ POS ยานยนต์อย่างไร
  

ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์คืออะไร

ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ตัวแทนจําหน่ายรถยนต์ ร้านซ่อม และร้านอะไหล่ดำเนินงานได้ โดยจะช่วยจัดการกระบวนการชําระเงิน ได้แก่ การรับชําระเงินและการออกใบเสร็จ ติดตามอะไหล่ในสินค้าคงคลัง จัดการบันทึกยานยนต์และบริการ จัดระเบียบใบสั่งงาน และจัดเก็บข้อมูลลูกค้า

ระบบนี้ในเวอร์ชันสำหรับยานยนต์สร้างขึ้นจากความเป็นจริงของธุรกิจรถยนต์และการให้บริการ ซึ่งแตกต่างจากระบบ POS ทั่วไป นั่นหมายความว่าระบบเหล่านี้จะมีเครื่องมือสำหรับการออกใบเสนอราคาค่าซ่อม การลิงก์การซื้อกับรถยนต์เฉพาะเจาะจง และการดึงประวัติการบริการตามหมายเลขประจําตัวรถ โดยมักจะผูกเข้ากับระบบที่ใหญ่กว่า เช่น แคตตาล็อกชิ้นส่วน คู่มือการซ่อม และซอฟต์แวร์ตัวแทนจําหน่าย การรวมข้อมูลสินค้าคงคลัง ธุรกรรม และบริการไว้ในที่เดียวจะช่วยให้ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์ลดข้อผิดพลาด เร่งการทํางานวันต่อวัน และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้

ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์ทํางานอย่างไร

ซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์เชื่อมโยงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่เคาน์เตอร์ ในพื้นที่จอด และในช่องบริการ กับระบบที่ช่วยให้ธุรกิจดําเนินงานได้ เป็นเครื่องจักรขั้นตอนการทํางานสําหรับอู่ซ่อม เคาน์เตอร์จ่ายอะไหล่ และการดําเนินงานของตัวแทนจําหน่าย โดยทํางานบนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์หรือระบบคลาวด์และมักจะเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนบาร์โค้ด เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ และเทอร์มินัลการชําระเงิน

นี่คือการทํางานของซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์ในระหว่างการทําธุรกรรมของลูกค้าโดยทั่วไป

ตั๋ว ค่าประมาณ และใบสั่งงาน

ลูกค้าเดินเข้ามาและต้องการบริการหรือผลิตภัณฑ์ พนักงานจะดำเนินการต่อไปนี้ในระบบ POS

• สร้างตั๋วหรือใบสั่งงาน

• เลือกบริการ เช่น การสลับยาง งานเบรก หรือการตรวจวินิจฉัย

• เพิ่มชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ที่จําเป็นลงในงาน

• สแกนบาร์โค้ดหรือค้นหาตามหมายเลขชิ้นส่วน

• สร้างยอดประมาณที่สามารถอนุมัติและแปลงเป็นใบแจ้งหนี้ได้

รายละเอียดลูกค้าและยานพาหนะ

ธุรกรรมส่วนใหญ่ในธุรกิจยานยนต์จะผูกกับยานพาหนะแต่ละคัน ซึ่งแตกต่างจากร้านกาแฟหรือร้านฮาร์ดแวร์ ระบบ POS สําหรับยานยนต์จะแจ้งให้ผู้ใช้เชื่อมโยงตั๋วกับโปรไฟล์ลูกค้าเพื่อให้สามารถดึงข้อมูลยานพาหนะที่จัดเก็บไว้ ยี่ห้อหรือรุ่น ระยะทาง และประวัติการรับบริการได้ ระบบ POS ควรสามารถติดตามยานพาหนะหลายคันต่อลูกค้าหนึ่งรายหากจําเป็น และอ้างอิงการซ่อมแซมหรือการซื้อชิ้นส่วนที่ผ่านมาเพื่อเป็นข้อมูลให้กับการให้คำแนะนำปัจจุบัน ฟังก์ชันนี้สามารถให้บริบทที่สําคัญแก่พนักงาน แจ้งปัญหาการรับประกัน และอํานวยความสะดวกในการขายต่อยอดที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ระบบจะสร้างประวัติให้กับรถแต่ละคันเมื่อเวลาผ่านไป

การประมวลผลการชําระเงิน

เมื่อเพิ่มทุกอย่างแล้ว (เช่น บริการ ค่าแรง อะไหล่ ค่าธรรมเนียม) ระบบ POS จะคํานวณยอดรวม จากนั้นซอฟต์แวร์จะเปลี่ยนเป็นโหมดการชําระเงิน โดยจะรับวิธีการชําระเงินหลายๆ อย่าง รวมถึงบัตรเครดิต บัตรเดบิต กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Apple Pay, Google Pay) และเครดิตร้านค้า นอกจากนี้ยังคํานวณภาษีและส่วนลด และจัดการการชําระเงินแบบแยกรายการหรือตัวเลือกความช่วยเหลือทางการเงินอีกด้วย

เมื่อใช้ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่มีการผสานการทํางาน คุณจะไม่ต้องสลับไปมาระหว่างระบบต่างๆ หรือป้อนข้อมูลยอดรวมด้วยตนเอง เทอร์มินัลบัตรจะดึงจํานวนเงินจากระบบ POS โดยตรงเพื่อการชําระเงินที่รวดเร็วและแม่นยํายิ่งขึ้น หลังจากอนุมัติ ระบบจะบันทึกการชําระเงินและส่งหรือพิมพ์ใบเสร็จ

การผสานการทํางานระบบ

ระบบ POS สําหรับยานยนต์มักจะเชื่อมต่อการทํางานแบบเนทีฟหรือผ่าน Application Programming Interface (API) กับ:

• แพลตฟอร์มการทําบัญชี

• แคตตาล็อกซัพพลายเออร์สําหรับการสั่งซื้อชิ้นส่วนในระบบหรือการค้นหาสต็อก

• ฐานข้อมูลการซ่อมสําหรับคู่มือแรงงานและข้อกําหนดบริการ

• อีคอมเมิร์ซหรือแพลตฟอร์มจองนัดหมาย

• แดชบอร์ดหลายตําแหน่งหรือบริการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

เมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ซอฟต์แวร์สามารถอัปเดตระบบอื่นๆ ทั้งหมดในเบื้องหลัง โดยสามารถทำสิ่งต่อไปนี้

• ลบชิ้นส่วนที่ใช้แล้วหรือสินค้าที่ขายแล้วออกจากสินค้าคงคลัง

• บันทึกแรงงานและวัสดุลงในประวัติการบริการของรถ

• อัปเดตโปรไฟล์ของลูกค้าด้วยธุรกรรมใหม่

• แจ้งว่าสถานะสินค้าในสต็อกต่ําและทริกเกอร์ขั้นตอนการสั่งสินค้าใหม่โดยอัตโนมัติ

ข้อมูลทั้งหมดนี้พร้อมใช้สําหรับการรายงานในภายหลังเกี่ยวกับการขาย การใช้ชิ้นส่วน ประสิทธิภาพการทํางานของช่างเทคนิค และอื่นๆ

ธุรกิจควรมองหาอะไรในซอฟต์แวร์ POS สำหรับยานยนต์

ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ระบบ POS เป็นศูนย์กลางในการดําเนินงานของธุรกิจ ตั้งแต่การจัดการสินค้าคงคลังที่ซับซ้อน ไปจนถึงการติดตามงานซ่อมและการเรียกเก็บเงินจากหลายแผนก ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถที่คุณควรให้ความสําคัญเมื่อประเมินระบบ POS ยานยนต์

การจัดการสินค้าคงคลัง

สินค้าคงคลังชิ้นส่วนเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดในการจัดการในธุรกิจรถยนต์ หน่วยเก็บสต็อก (SKU) ทับซ้อนกัน ความเข้ากันได้มีความสําคัญ สินค้าบางอย่างขายได้เร็ว ในขณะที่บางรายการไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลาหลายเดือน แต่จะไม่สามารถใช้อย่างอื่นแทนได้เมื่อของหมด

ระบบ POS ยานยนต์ที่ดีควรทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• ติดตามระดับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์เมื่อมีการขาย ติดตั้ง หรือถ่ายโอนชิ้นส่วน

• จัดการกับรูปแบบต่างๆ (เช่น การประกอบตามยี่ห้อ รุ่น หรือปี) ชุดอุปกรณ์ และรายการสินค้าที่มีหมายเลขประจำเครื่อง

• ทริกเกอร์การแจ้งเตือนเมื่อสินค้าในสต็อกเหลือน้อยและสั่งซื้อใหม่โดยอัตโนมัติหากถึงเกณฑ์

• ผสานการทํางานกับแคตตาล็อกซัพพลายเออร์เพื่อตรวจสอบความพร้อมจําหน่ายหรือสั่งซื้อได้โดยตรงจากอินเทอร์เฟซ POS

ขั้นตอนการทํางานของบริการ

ในการตั้งค่าการซ่อมแซมหรือบริการ ธุรกรรมจะเดินหน้าไปเป็นขั้นๆ ระบบ POS ควรรองรับความก้าวหน้าดังกล่าวโดยการดําเนินการดังต่อไปนี้

• การสร้างและแก้ไขค่าประมาณการสําหรับบริการและชิ้นส่วน

• บันทึกการอนุมัติของลูกค้าและแปลงค่าประมาณเป็นใบสั่งงาน

• การติดตามสถานะงาน (เช่น กําหนดเวลาแล้ว อยู่ระหว่างดําเนินการ รออะไหล่ เสร็จสมบูรณ์)

• การสร้างใบแจ้งหนี้ขั้นสุดท้ายโดยไม่มีการป้อนข้อมูลซ้ําซ้อน

เมื่อทําถูกต้อง ขั้นตอนงานนี้จะสร้างการส่งมอบที่ชัดเจนตั้งแต่ที่ปรึกษาไปถึงช่างเทคนิคจนถึงแคชเชียร์

การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM)

อย่างน้อยที่สุด ระบบ POS จําเป็นต้องจัดเก็บชื่อและที่อยู่อีเมลสําหรับ CRM แต่คุณควรมองหาระบบที่มีสิ่งต่อไปนี้

• บันทึกยานพาหนะที่ผูกกับลูกค้าแต่ละราย

• ประวัติการซื้อและความถี่ในการเข้าชม

• ช่องสําหรับหมายเหตุ ค่ากําหนด การรับประกัน และรหัสกลุ่มยานพาหนะ

แพลตฟอร์ม POS สมัยใหม่จํานวนมากเริ่มหันมาใช้การปรับแต่งที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI เช่นกัน เช่น

• การติดแท็กลูกค้าอัตโนมัติตามพฤติกรรมการบริการ

• การแจ้งเตือนการบริการแบบคาดการณ์โดยพิจารณาตามระยะทาง ช่วงเวลา หรือประวัติการซ่อม

• ข้อเสนอทางการตลาดเฉพาะบุคคลที่ทริกเกอร์โดยรูปแบบเฉพาะของลูกค้า

ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ปรับแต่งตามตัวบุคคลได้อย่างมีความหมายและสร้างความสอดคล้องกันในการเข้าชมหลายครั้ง ไม่ว่าพนักงานคนใดจะจัดการตั๋วก็ตาม

การชําระเงิน

ธุรกรรมยานยนต์มีหลากหลาย ตั้งแต่น้ําหอมปรับอากาศราคา 5 ดอลลาร์ไปจนถึงการสร้างระบบส่งกําลังใหม่ราคา 3,000 ดอลลาร์ การตั้งค่าการชําระเงินต้องรองรับความหลากหลายนี้ ระบบ POS ของคุณควร

• รับเงินสด บัตร และกระเป๋าเงินดิจิทัล

• ยอมรับตัวเลือกรหัส QR หรือลิงก์ชําระเงินสําหรับการโต้ตอบจากระยะไกลหรือการแวะรับของ

• จัดการธุรกรรมทุกขนาดได้อย่างปลอดภัย

• ประมวลผลธุรกรรมภายในตัวเองโดยตรง ไม่ใช่ขั้นตอนแยกต่างหาก

• มีเทอร์มินัล POS มือถือเพื่อให้ที่ปรึกษาด้านบริการสามารถรับการชําระเงินได้ทุกที่

• รองรับตัวเลือก เช่น ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) และความช่วยเหลือทางการเงินภายใน

ฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงกระแสเงินสด ลดปัญหาคอขวด และช่วยให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้นในการชําระเงิน

ความสามารถในการใช้งาน

พนักงานในหลายแผนกต่างก็ใช้ระบบ POS รวมถึงช่างเทคนิค พนักงานที่เคาน์เตอร์ และผู้จัดการ นั่นหมายความว่าระบบจําเป็นต้องใช้งานได้สําหรับพวกเขาทั้งหมด ระบบที่ดีควรมี:

• อินเทอร์เฟซตรงไปตรงมาที่ไม่ต้องมีการฝึกอบรมเชิงลึก

• ความสามารถในการค้นหาชิ้นส่วนบริการและบันทึกลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

• เลย์เอาต์ที่เหมาะกับแท็บเล็ตสําหรับทีมเคลื่อนที่หรือใช้ในโชว์รูม

• การตั้งค่าที่ไม่ช้าลงภายใต้แรงกดดัน

หากพนักงานใหม่ต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการเรียนรู้ระบบ หรือพนักงานที่ช่ําชองหลีกเลี่ยงการใช้ฟีเจอร์หลักๆ เพราะฟีเจอร์เหล่านั้นฝังอยู่ในเมนู นั่นถือเป็นสัญญาณเตือน

การรายงาน

ธุรกิจรถยนต์สร้างข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อมูลจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อระบบ POS สามารถแสดงข้อมูลในรูปแบบที่ย่อยและดําเนินการได้ คุณต้องการฟีเจอร์ต่อไปนี้

• รายงานในตัวสําหรับการขาย รายรับ การใช้ชิ้นส่วน และประสิทธิภาพการบริการ

• เมตริกสินค้าคงคลัง เช่น อัตราการหมุนเวียนและการมองเห็นสต็อกสินค้าที่ขายไม่ได้

• มุมมองที่ปรับแต่งได้สําหรับผู้จัดการ เจ้าของ และทีมการเงิน

• ความสามารถในการส่งออกเพื่อเชื่อมต่อกับระบบการทําบัญชีหรือเครื่องมือข่าวกรองธุรกิจ

รายงานควรสามารถแสดงให้เห็นว่าสิ่งใดทํากําไรได้ สิ่งใดมีประสิทธิภาพต่ํากว่ามาตรฐาน และสิ่งใดที่ถูกมองข้ามไป โดยไม่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงในสเปรดชีต

การสนับสนุนหลายตําแหน่งที่ตั้ง

หากคุณเปิดร้านค้ามากกว่า 1 แห่งหรือมีแผนที่จะขยายในอนาคต ระบบ POS ของคุณจะต้องปรับขนาดโดยไม่กลายเป็นระบบที่ขาดการเชื่อมต่อกัน พิจารณาการสนับสนุนสําหรับ:

• สินค้าคงคลังที่ใช้ร่วมกันในหลายสาขา พร้อมการติดตามการโอน

• บันทึกลูกค้าและยานพาหนะแบบรวม

• การรายงานแบบรวมศูนย์ในร้านค้าหรือช่องบริการต่างๆ

• สิทธิ์ตามบทบาทและความสอดคล้องของค่าบริการในวงกว้าง

โดยทั่วไประบบบนคลาวด์จะพร้อมกว่าสําหรับส่วนนี้ เนื่องจากสามารถให้การอัปเดตแบบเรียลไทม์ทั่วทั้งเครือข่าย แต่แม้แต่ร้านที่มีสาขาเดียวก็ควรคิดล่วงหน้า เพราะการย้ายจากระบบที่เข้มงวดในภายหลังนั้นยากกว่าการเริ่มต้นด้วยระบบที่สามารถเติบโตได้

การผสานการทํางานระบบ

ค้นหาระบบ POS ที่ผสานการทํางานกับเครื่องมือที่คุณใช้อยู่แล้วได้ดี ซึ่งอาจรวมถึง:

• แพลตฟอร์มการทําบัญชี เช่น QuickBooks และ Xero

• ฐานข้อมูลซัพพลายเออร์สําหรับการค้นหาชิ้นส่วนและการสั่งซื้อโดยตรง

• เครื่องมือ CRM และการตลาดสําหรับขั้นตอนการรักษาลูกค้า

• ระบบการจองออนไลน์หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสําหรับการจําหน่ายอะไหล่

การผสานการทํางานสามารถป้องกันการป้อนข้อมูลซ้ํา ลดอัตราข้อผิดพลาด และทําให้ทุกอย่างซิงค์กันอยู่เสมอ ซึ่งสําคัญอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลเดียวกันไหลผ่านหลายแผนก

ความน่าเชื่อถือ

ซอฟต์แวร์ที่ทํางานได้อย่างสมบูรณ์แบบในการสาธิตอาจไม่เหมาะกับร้านที่มีการเข้าชมสูงในช่วงบ่ายที่วุ่นวาย หาคำตอบว่า:

• จะเกิดอะไรขึ้นหากอินเทอร์เน็ตขัดข้องและระบบสามารถทํางานแบบออฟไลน์ได้หรือไม่

• การสนับสนุนตอบสนองได้ดีเพียงใด โดยเฉพาะในช่วงเวลาทําการ

• ความถี่ในการอัปเดตซอฟต์แวร์และระบุว่าการอัปเดตเป็นไปโดยอัตโนมัติหรือไม่

• สิ่งที่ผู้ใช้ปัจจุบันพูดในคํารับรอง ฟอรัม และรีวิว

ระบบ POS ของคุณจะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลางของร้านค้า เลือกหนึ่งระบบที่ได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์ที่มั่นคง ตอบสนองรวดเร็ว และยังคงลงทุนในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลเชิงลึกที่ปรับปรุงด้วย AI

AI เริ่มปรากฏในการใช้งานจริงในทางธุรกิจ ในระบบ POS ยานยนต์ AI ยังรวมถึง:

• การคาดการณ์ความต้องการชิ้นส่วนตามแนวโน้มในอดีตและฤดูกาล

• การแจ้งรอบการบริการที่ไม่เป็นไปตามปกติหรือการพลาดโอกาสในการขายต่อยอด

• การขับเคลื่อนอินเทอร์เฟซแชทเพื่อแจ้งเตือนการนัดหมายหรืออัปเดตสถานะ

การซิงค์หลายช่องทาง

เส้นแบ่งระหว่าง "ออนไลน์" กับ "ที่ร้าน" กําลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว ระบบ POS กําลังปรับตัวด้วยความสามารถดังต่อไปนี้

• ซิงค์สินค้าคงคลังในอีคอมเมิร์ซและร้านค้าปลีกแบบเรียลไทม์

• ให้ลูกค้าจองอะไหล่หรือจองบริการทางออนไลน์แล้วดําเนินการให้เสร็จสิ้นที่ร้าน

• ทำให้มั่นใจได้ว่าค่าบริการ โปรโมชัน และข้อมูลลูกค้าสอดคล้องกันในทุกช่องทาง

แม้แต่ร้านค้าอิสระก็ยังได้รับประโยชน์เมื่อการจองการนัดหมาย ประวัติการให้บริการ และการเรียกเก็บเงินเชื่อมโยงกันทั้งหมด ไม่ว่าลูกค้าจะเริ่มต้นที่เว็บไซต์บนมือถือหรือที่เคาน์เตอร์หน้าร้านก็ตาม

Stripe ผสานการทํางานกับระบบ POS ยานยนต์อย่างไร

Stripe ไม่ใช่ระบบ POS สําหรับอู่ซ่อมรถ แต่ทํางานกับซอฟต์แวร์นี้โดยตรง ซอฟต์แวร์ POS เชื่อมต่อการทํางานกับ Stripe Payments ซึ่งจะช่วยสร้างตัวเลือกการชําระเงินออนไลน์และออฟไลน์ที่ดียิ่งขึ้นสําหรับลูกค้าอู่ซ่อมรถ

หากคุณกําลังสร้างหรือซื้อระบบ POS ยานยนต์ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ Stripe สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้

การชําระเงินที่จุดขาย

แพลตฟอร์ม POS ผสานการทํางานกับ Stripe Terminal สําหรับฮาร์ดแวร์เครื่องอ่านบัตรและการประมวลผลการชําระเงิน นั่นทําให้ระบบ POS มีความสามารถต่อไปนี้

• รับการชําระเงินจากภายในหน้าจอการชําระเงินหลักโดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์อื่นหรือป้อนข้อมูลยอดรวมด้วยตนเอง

• รับรูปแบบการชําระเงินสมัยใหม่ เช่น Tap to Pay และกระเป๋าเงินดิจิทัล

• เก็บข้อมูลลูกค้าและการชําระเงินไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งสําคัญสำหรับใบเสร็จ รายงาน และประวัติการให้บริการ

นอกจากนี้ Stripe ยังจัดการการเข้ารหัส การตรวจสอบการฉ้อโกง และการปฏิบัติตามข้อกําหนดเพื่อให้ธุรกิจไม่ต้องดําเนินการเอง

ตัวเลือกการชําระเงิน

นอกจากนี้ Stripe ยังรองรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลายขึ้นด้วย ซึ่งรวมถึง:

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิตรายใหญ่

• กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay

• ตัวเลือก BNPL เช่น Affirm, Klarna และ Afterpay หรือ Clearpay

BNPL มีประโยชน์อย่างยิ่งในการซ่อมรถยนต์ หากคุณมีงานเกียร์ที่มีราคาแพงและลูกค้าไม่ได้เตรียมตัวสำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว การเสนอวิธีแบ่งการผ่อนชําระออกเป็นงวดๆ ในขั้นตอนการชําระเงินอาจสร้างความแตกต่างในการขอรับการอนุมัติได้

ข้อมูลการชําระเงินที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

ธุรกิจยานยนต์จํานวนมากมีองค์ประกอบออนไลน์บางประเภท เช่น ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสําหรับชิ้นส่วน ระบบการจองสําหรับการนัดหมายบริการ หรือแม้แต่การชําระเงินด้วยลิงก์สําหรับธุรกรรมระยะไกล Stripe รวมการชําระเงินออฟไลน์และการชําระเงินออนไลน์ไว้ในระบบเดียว

เมื่อใช้ Stripe ระบบ POS จะสามารถประมวลผลการชําระเงินออนไลน์ จับคู่กับกิจกรรมในร้าน และรายงานทุกอย่างได้ในที่เดียว เคาน์เตอร์อะไหล่ เว็บไซต์ และหน้าจอการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งหมดจะเชื่อมโยงกันอยู่ในแบ็กเอนด์การชําระเงินเดียวกัน และระบบจะเชื่อมโยงโปรไฟล์การชําระเงินของลูกค้าเข้ากับการเข้ามาที่ร้านและแพลตฟอร์มต่างๆ Stripe ยังส่งข้อมูลการชําระเงินนี้ไปยังคลังข้อมูลหรือเครื่องมือวิเคราะห์ได้ด้วย หากธุรกิจต้องการเจาะลึกลงไปอีก วิธีนี้อาจมีประโยชน์สําหรับการดําเนินงานในหลายสาขาหรือร้านที่เติบโตเร็วที่ต้องการทําความเข้าใจปัจจัยที่ขับเคลื่อนรายได้

ความปลอดภัยและความเร็ว

ธุรกรรมเกี่ยวกับยานยนต์มักเกี่ยวข้องกับตั๋วที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะที่ตัวแทนจําหน่ายหรือระหว่างการซ่อมแซมครั้งใหญ่ คุณต้องการให้ระบบการชําระเงินของคุณทํางานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

โครงสร้างพื้นฐานของ Stripe สามารถจัดการการชําระเงินปริมาณมากและมีมูลค่าสูงได้โดยไม่หยุดชะงักหรือทําให้เกิดความล่าช้า นอกจากนี้ยังแบ่งเบาภาระในส่วนที่ยากที่สุดของการปฏิบัติตามข้อกําหนดและการป้องกันการฉ้อโกงโดยการทำให้ระบบ POS ไม่ต้องเก็บข้อมูลดิบของบัตรเลย

Stripe Radar ใช้การจดจํารูปแบบที่สร้างขึ้นจากจุดข้อมูลหลายแสนล้านจุด นั่นหมายความว่าคุณจะตรวจจับการฉ้อโกงได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น โดยจะตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัยได้อย่างรวดเร็วโดยไม่รายงานว่าการซื้อครั้งใหญ่ทุกครั้งอาจเป็นการฉ้อโกงอย่างไม่ถูกต้อง

การผสานการทํางานที่ง่ายดาย

Stripe นั้นค่อนข้างง่ายต่อการผสานการทํางานจากมุมมองของซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มที่เน้นระบบอัตโนมัติจํานวนมากใช้ Stripe เพราะไม่จําเป็นต้องโต้ตอบกลับไปกลับมากับผู้ประมวลผลรายเดิมเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อให้ระบบทำงานได้ Stripe มี API และ SDK ที่ช่วยให้นักพัฒนาผสานรวมการชําระเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นที่จุดขาย ทางออนไลน์ หรือทั้งสองอย่าง

บริการเสริม

Stripe ช่วยให้สามารถมอบบริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากธุรกรรม ได้แก่

• Stripe Capital ขับเคลื่อนตัวเลือกการจัดหาเงินทุนที่ผสานรวมผ่านแพลตฟอร์ม POS โดยตรง อู่ซ่อมรถสามารถเข้าถึงเงินทุน เช่น เงินกู้เงินทุนหมุนเวียนตามยอดการชําระเงิน การอนุมัติขึ้นอยู่กับยอดขาย ไม่ใช่แอปพลิเคชันแยกต่างหาก และการชําระคืนจะผูกกับยอดธุรกรรมรายวัน

• Stripe รองรับการประมวลผลการชําระเงินหลายสกุลเงินและหลายประเทศ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขยายไปต่างประเทศได้ ไม่ว่าธุรกิจจะขายชิ้นส่วนในต่างประเทศหรือเปิดสาขาที่สองในตลาดใหม่ก็ตาม