กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินเป็นบัญชีดิจิทัลที่ธุรกิจสามารถใช้จัดเก็บเงินทุนสําหรับการใช้จ่ายในอนาคต กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินจะแตกต่างจากกระเป๋าเงินแบบดั้งเดิมที่เชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตตรงที่กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินจะมาพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งที่เติมไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งช่วยให้ธุรกิจจัดการการใช้จ่ายได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น กระเป๋าเงินแบบเติมเงินเป็นโซลูชันการชําระเงินที่ยืดหยุ่นสําหรับธุรกิจ โดยเฉพาะสําหรับการจัดการค่าใช้จ่าย การเบิกจ่ายเงินให้แก่พนักงานหรือผู้รับเหมา และการอํานวยความสะดวกให้กับการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยทางออนไลน์โดยไม่เปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน
ตามรายงาน Capital One Shopping ในปี 2023 50% ของการซื้อออนไลน์ทั่วโลกดําเนินการด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล กระเป๋าเงินแบบเติมเงินสามารถหักยอดบางส่วนของปริมาณธุรกรรมนั้นได้ ด้านล่างนี้เราจะอธิบายสิ่งที่ธุรกิจต้องทราบเกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงิน รวมถึงข้อดีและความแตกต่างจากกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- กระเป๋าเงินดิจิทัลทําอะไรได้บ้าง
- กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินมีความแตกต่างจากกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ อย่างไร
- ข้อดีของกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงิน
กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถทําอะไรได้บ้าง
กระเป๋าเงินดิจิทัลจะจําลองฟังก์ชันต่างๆ ของกระเป๋าเงินจริง แต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ต่อไปนี้คือฟังก์ชันที่มักจะมี
จัดเก็บข้อมูลบัตร: กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถจัดเก็บรายละเอียดของบัตรเครดิตและเดบิตได้อย่างปลอดภัยโดยใช้การเข้ารหัส ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องป้อนรายละเอียดบัตรทุกครั้งที่ทําธุรกรรม แต่ว่าลูกค้าจะต้องตรวจสอบสิทธิ์ตัวเองกับกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งจะสื่อสารกับระบบการชําระเงินเพื่อทําธุรกรรมให้เสร็จสิ้น
ปกป้องข้อมูลทางการเงิน: กระเป๋าเงินดิจิทัลใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนระหว่างการทําธุรกรรม มาตรการเหล่านี้ได้แก่ การเข้ารหัส การแปลงเป็นโทเค็น และการยืนยันด้วยไบโอเมตริก (เช่น ลายนิ้วมือ การจดจําใบหน้า) การแปลงเป็นโทเค็นใช้แทนรายละเอียดของบัตรที่ละเอียดอ่อนโดยใช้โทเค็นที่ไม่ซ้ํากันระหว่างทำธุรกรรม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงได้มากขึ้น
ทําให้การชําระเงินง่ายขึ้น: กระเป๋าเงินดิจิทัลช่วยให้กระบวนการชําระเงินรวดเร็วและง่ายขึ้นในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและในร้านค้าจริง ผู้ใช้สามารถแตะโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อัจฉริยะที่เทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) เพื่อทําธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารในระยะใกล้ (NFC) หรือเลือกกระเป๋าเงินของตนในขั้นตอนการชําระเงินออนไลน์แทนการป้อนรายละเอียดการชําระเงินในแต่ละครั้งได้
ผสานการทํางานกับบริการทางการเงินอื่นๆ: กระเป๋าเงินดิจิทัลจํานวนมากได้ผสานการทํางานกับบริการทางการเงินที่หลากหลาย ทําให้สามารถทํางานร่วมกันได้บนแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการทําธุรกรรมในสภาพแวดล้อมออนไลน์และออฟไลน์
รองรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย: นอกจากการจัดการธุรกรรมผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิตแล้ว กระเป๋าเงินดิจิทัลจํานวนมากยังใช้จัดการบัตรสะสมคะแนน บัตรของขวัญ และคูปองได้ด้วย การรวมไว้ในที่เดียวนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์การซื้อทั้งหมดได้จากที่เดียว
ช่วยเหลือเกี่ยวกับการติดตามค่าใช้จ่ายและงบประมาณ: กระเป๋าเงินดิจิทัลบางเจ้ามีฟีเจอร์สําหรับติดตามการใช้จ่ายและการจัดการงบประมาณ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการเงินของตัวเอง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวอาจประกอบด้วยการจําแนกประเภทค่าใช้จ่าย วงเงินใช้จ่ายที่ออกแบบเอง หรือการแจ้งเตือนสําหรับกิจกรรมที่ผิดปกติ
เปิดใช้การชําระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P): กระเป๋าเงินดิจิทัลมักจะประกอบด้วยตัวเลือกในการส่งเงินให้เพื่อนหรือครอบครัวโดยตรง ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงบัญชีธนาคารหรือใช้ยอดคงเหลือของกระเป๋าเงินเพื่ออํานวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน
กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินมีความแตกต่างจากกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ อย่างไร
แม้จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินนั้นแตกต่างจากกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ อยู่ 2-3 ข้อหลักๆ
กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงิน
กลไกการให้เงินทุน: ผู้ใช้จะต้องฝากเงินจํานวนหนึ่งเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินก่อนที่จะใช้งาน จากนั้นพวกเขาจะสามารถใช้ยอดคงเหลือนั้นกับธุรกรรมจนกว่าจะหมด ผู้ใช้สามารถฝากเงินผ่านการโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต หรือเวาเชอร์แบบเติมเงิน
การควบคุมวงเงินใช้จ่าย: ยอดเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินจะควบคุมวงเงินใช้จ่าย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการจัดทํางบประมาณหรือผู้ใช้ที่ต้องการจํากัดการใช้จ่ายโดยไม่มีความเสี่ยงที่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเบิกจ่ายเงินเกินบัญชีหรือการสะสมหนี้
ข้อกําหนดเกี่ยวกับผู้ใช้: ผู้ใช้มักใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร ทําให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น รวมถึงผู้ใช้ที่มีอายุน้อยหรือผู้ใช้ในภูมิภาคที่มีธนาคารน้อย
การรักษาความปลอดภัยและความเสี่ยง: โดยทั่วไปแล้ว ความเสี่ยงของกระเป๋าเงินแบบเติมเงินจะถูกจํากัดตามจํานวนเงินที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเงินเหล่านั้น ในแง่ของการรักษาความปลอดภัย วิธีการนี้ช่วยจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่มีการฉ้อโกงหรือขโมย
วัตถุประสงค์และการใช้งาน: กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินเป็นที่นิยมอย่างยิ่งสําหรับวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การให้เป็นของขวัญ การเล่นเกมออนไลน์ และการเดินทาง ผู้ที่ไม่ต้องการแชร์รายละเอียดทางการเงินหลักทางออนไลน์ก็สามารถเลือกใช้เป็นวิธีการชําระเงินได้
กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบดั้งเดิม
กลไกการให้เงินทุน: กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบดั้งเดิมมักจะเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตของผู้ใช้โดยตรง และมักจะดึงเงินทุนที่จําเป็นสําหรับธุรกรรมแต่ละรายการ ไม่จําเป็นต้องใส่เงินล่วงหน้า โดยกระเป๋าเงินดังแบบนี้จะช่วยอํานวยความสะดวกในการเข้าถึงทรัพยากรทางการเงินที่กว้างขึ้นของผู้ใช้โดยตรง
การควบคุมวงเงินใช้จ่าย: โดยทั่วไปแล้ว วงเงินการใช้จ่ายของกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเดิมจะสอดคล้องกับวงเงินของบัญชีที่เชื่อมโยงหรือสิ่งอํานวยความสะดวกด้านเครดิต วงเงินเหล่านี้อาจสูงกว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินเป็นอย่างมากและควบคุมได้น้อยกว่า
ข้อกําหนดเกี่ยวกับผู้ใช้: ผู้ใช้มักจะต้องเชื่อมโยงกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเดิมเข้ากับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้ธนาคารไม่มีสิทธิ์ใช้กระเป๋าเงินประเภทนี้
การรักษาความปลอดภัยและความเสี่ยง: กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบดั้งเดิมมักจะเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตของผู้ใช้โดยตรง นั่นหมายความว่าอาจมีความเสี่ยงทางการเงินจํานวนมากในกรณีที่มีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
วัตถุประสงค์และการใช้งาน: กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบดั้งเดิมเหมาะสําหรับการใช้ในวงกว้างในการทําธุรกรรมทางการเงินในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์และในร้านค้า ไปจนถึงการจัดการการสมัครใช้บริการและการชําระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์
ข้อดีของกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงิน
กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินมีข้อดีมากมายสําหรับธุรกิจที่ใช้กระเป๋าเงินดังกล่าว
การจัดการงบประมาณ: เมื่อใส่เงินแค่เพียงจํานวนที่ต้องการ ผู้ใช้จะสามารถจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ใช้จ่ายมากเกินไป วิธีนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับธุรกิจหรือบุคคลที่ต้องการควบคุมการเงินของตนอย่างเข้มงวด
การเข้าถึงได้: กระเป๋าเงินแบบเติมเงินขยายโอกาสการเข้าถึงการเงินให้กับคนมากขึ้นด้วยการเปิดให้ผู้ใช้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งมีความสําคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคที่มีธนาคารน้อย หรือสำหรับผู้ที่อาจไม่มีสิทธิ์ใช้บัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต
การรักษาความปลอดภัย: เมื่อไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงไปยังบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต ความเสี่ยงทางการเงินจะจํากัดอยู่เพียงจํานวนที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเงินเท่านั้น การทําเช่นนี้จะจํากัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่มีการละเมิดด้านความปลอดภัยหรือธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง
ความเป็นส่วนตัว: ผู้ใช้ทําการซื้อได้โดยไม่ต้องแชร์ข้อมูลธนาคารหลัก ซึ่งจะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองและลดความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลระบุตัวตน
ธุรกรรมที่เรียบง่าย: กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินจะสร้างกระบวนการทําธุรกรรมที่รวดเร็วและง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถทําธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องป้อนรายละเอียดของธนาคารหรือบัตรซ้ําๆ
การยอมรับอย่างแพร่หลาย: ธุรกิจออนไลน์และร้านค้าจริงมากมายรับกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงินล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ใช้การชําระเงินแบบดิจิทัลเป็นมาตรฐาน
การใช้งานอเนกประสงค์: กระเป๋าเงินแบบเติมเงินสามารถจัดการเงินดิจิทัลได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงบัตรของขวัญ คะแนนสะสม และคริปโตเคอเรนซีในบางกรณี
ความสามารถระหว่างประเทศ: กระเป๋าเงินแบบเติมเงินเป็นตัวเลือกที่ใช้ได้จริงสําหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจัดการการใช้จ่ายในต่างประเทศโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมธุรกรรมหรือพบเจอปัญหาด้านการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
วินัยทางการเงิน: ผู้ใช้สามารถปลูกฝังพฤติกรรมและวินัยทางการเงินที่ดีขึ้นโดยใช้เครื่องมือการใช้จ่ายที่มีวงเงินจํากัดซึ่งจะต้องตั้งใจใส่เงินเพิ่ม แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลมากมายยังมีเครื่องมือสําหรับติดตามการใช้จ่าย จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย และตั้งค่าการแจ้งเตือนสําหรับยอดคงเหลือต่ําด้วย
ฟีเจอร์ที่กําหนดเอง: ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินแบบเติมเงินหลายรายมีตัวเลือกในการปรับแต่ง เช่น การใช้การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าและการเชื่อมโยงกับโปรแกรมเครดิตสะสมหลายประเภท
รางวัลและรางวัลจูงใจ: กระเป๋าเงินแบบเติมเงินบางเจ้าจะให้รางวัลสําหรับการใส่เงินทุนหรือทําธุรกรรมผ่านระบบของตน ซึ่งคล้ายกับรางวัลจากบัตรเครดิต
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ