การรับรู้รายรับคือหลักการทางบัญชีที่กำกับดูแลปัจจัยเกี่ยวกับการบันทึกธุรกรรมรายรับของบริษัท การรับรู้รายรับในจังหวะเวลาที่แม่นยำมีผลต่อตัวชี้วัดทางการเงิน เช่น รายรับ ผลกําไรขั้นต้น และรายได้สุทธิ ตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น นักลงทุน เจ้าหนี้ และหน่วยงานกํากับดูแล ใช้ประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินและทิศทางของธุรกิจ การรับรู้รายรับไม่ถูกต้องหรือใช้หลักการที่ไม่เสมอต้นเสมอปลายอาจทําให้การแสดงสถานะทางการเงินของบริษัทผิดพลาด ทําให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าใจผิด และส่งผลให้เกิดผลกระทบทางกฎหมายและชื่อเสียงอย่างรุนแรงได้
ขั้นตอนแรกในการรับรู้รายรับที่ถูกต้องคือการทําความเข้าใจรายรับ 2 ประเภท ได้แก่ รายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้า ด้านล่างนี้เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้า รวมถึงวิธีการจัดการกับทั้งสองอย่างเพื่อให้เกิดแนวทางปฏิบัติเกียวกับการรับรู้รายรับที่รัดกุม
มีอะไรในบทความนี้บ้าง
- รายได้ค้างรับคืออะไร
- รายได้รับล่วงหน้าคืออะไร
- รายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าแตกต่างกันอย่างไร
- การทําบัญชีรายได้ค้างรับ
- การทําบัญชีรายได้รับล่วงหน้า
- รายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าส่งผลกระทบต่องบการเงินอย่างไร
- การรับรู้รายรับ: การทำบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเทียบเกณฑ์เงินสด
- วิธีจัดการรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าโดยใช้ Stripe
- แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรายงานรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้า
รายได้ค้างรับคืออะไร
รายได้ค้างรับ คือรายได้ที่บริษัทได้รับแล้วแต่ยังไม่ได้รับชําระเงิน โดยปกติรายได้ค้างรับจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่การส่งมอบสินค้าหรือบริการเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะได้รับการชําระเงิน
รายได้ค้างรับจะบันทึกเป็นสินทรัพย์ในงบดุลเป็นลูกหนี้การค้า ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทมีสิทธิ์ที่จะได้รับชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการที่จัดส่งแล้ว เมื่อบริษัทได้รับการชําระเงินแล้วรายรับคงค้างจะรับรู้เป็นเงินสด โดยบริษัทจะปรับรายการทางการเงินให้เป็นไปตามนั้น
รายได้รับล่วงหน้าคืออะไร
รายได้รับล่วงหน้า หรือที่เรียกว่ารายได้รอการตัดบัญชี คือเงินค่าสินค้าหรือบริการที่บริษัทได้รับแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งมอบหรือดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์
เมื่อบริษัทได้รับชําระเงินล่วงหน้า ยอดเงินนั้นจะบันทึกเป็นรายได้รับล่วงหน้าในงบดุลในหมวดหนี้สิน ซึ่งสะท้อนถึงภาระผูกพันของบริษัทในการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการในอนาคต เมื่อบริษัททำตามภาระผูกพันในการจัดส่งสินค้าหรือบริการแล้ว รายได้รับล่วงหน้าจะค่อยๆ ลดลงและรับรู้เป็นรายรับจริงในงบกำไรขาดทุน
รายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าแตกต่างกันอย่างไร
ทั้งรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าเป็นแนวคิดการทําบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้รายรับแต่เป็นกรณีตรงข้ามกัน นี่คือความแตกต่าง
รายได้ค้างรับ
รายได้ค้างรับคือรายรับที่บริษัทได้รับจากการส่งมอบสินค้าหรือบริการ แต่ยังไม่ได้เรียกเก็บเงินหรือได้รับชําระเงิน เป็นรายรับที่รับรู้ก่อนได้รับเงินสดและบันทึกเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนในงบดุล
- ตัวอย่าง: บริษัทที่ปรึกษาดําเนินโครงการเสร็จในเดือนธันวาคมแต่มาส่งใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าในเดือนมกราคม รายรับที่ได้รับในเดือนธันวาคมจึงนับเป็นรายได้ค้างรับ
รายได้รับล่วงหน้า
รายได้รับล่วงหน้าคือเงินสดที่บริษัทได้รับล่วงหน้าเป็นค่าสินค้าหรือบริการที่จะจัดส่งหรือดําเนินการในอนาคต รายรับนี้รับรู้หลังจากได้รับเงินสดและบันทึกเป็นหนี้สินหมุนเวียนในงบดุล
- ตัวอย่าง: บริษัทซอฟต์แวร์ได้รับการชําระเงินตามรอบบิลแบบรายปีล่วงหน้า รายรับนี้จะถือเป็นรายได้รับล่วงหน้าจนกว่าจะให้บริการซอฟต์แวร์ตลอดทั้งปี
ลักษณะ |
รายได้ค้างรับ |
รายได้รับล่วงหน้า |
---|---|---|
เวลาที่ได้รับเงินสด |
ได้รับหลังจากได้รายรับ |
ได้รับก่อนได้รายรับ |
เวลาในการรับรู้รายรับ |
รับรู้ก่อนได้รับเงินสด |
รับรู้หลังจากได้รับเงินสด |
การดําเนินการด้านบัญชี |
สินทรัพย์หมุนเวียนในงบดุล |
หนี้สินในงบดุล |
การทําบัญชีรายได้ค้างรับ
เมื่อสิ้นสุดรอบการทําบัญชี (เช่น ตอนสิ้นเดือน) หากบริษัทได้ให้บริการแต่ยังไม่ได้รับชําระเงิน บริษัทก็ต้องบันทึกงานดังกล่าวเป็นรายรับในบัญชี ซึ่งหมายถึงการทำรายการที่เพิ่มยอดลูกหนี้การค้าซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้าติดเงิน และบริษัทมีรายได้เพิ่ม การเพิ่มขึ้นของคู่บัญชีแสดงให้เห็นว่า บริษัทมีรายได้แม้ว่าเงินจะยังไม่อยู่ในบัญชีธนาคารของบริษัท
การรับรู้รายได้ค้างรับที่บริษัทมีช่วยให้เห็นภาพสถานะทางการเงินที่ถูกต้องของบรษัทในแต่ละช่วงเวลา ตัวอย่างเช่น หากบริษัทกฎหมายทำคดีใหญ่ในเดือนมิถุนายน แต่ไม่ได้รับชําระเงินจนกว่าจะถึงเดือนกรกฎาคม ก็จะยังคงต้องบันทึกรายรับในเดือนมิถุนายน วิธีการนี้จะทำให้งบการเงินประจำเดือนมิถุนายนของบริษัทแสดงถึงรายรับที่ทำได้ในรอบบัญชีดังกล่าว
ธุรกิจจะต้องจัดการใบแจ้งหนี้และการชําระเงินอย่างรอบคอบเพื่อติดตามรายได้ค้างรับ เพื่อให้รายรับที่บันทึกไว้ตรงกับงานที่เสร็จแล้วและเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการชําระเงินตามที่คาดการณ์ครบถ้วนทั้งหมด
การทำบัญชีรายได้รับล่วงหน้า
รายได้รับล่วงหน้าหรือรายได้รอการตัดบัญชีคือยอดชําระเงินค่าสินค้าหรือบริการที่บริษัทได้รับก่อนที่จะส่งมอบ รายรับประเภทนี้พบได้บ่อยในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การสมัครใช้บริการซอฟต์แวร์ การสมัครรับนิตยสาร หรือบริการที่ชําระล่วงหน้า
เมื่อได้รับชําระเงินล่วงหน้าแล้ว บริษัทไม่สามารถบันทึกยอดชำระเป็นรายรับเต็มจำนวนได้ทันทีแม้ว่าจะมีเงินสดอยู่ในธนาคารแล้วก็ตาม แต่ต้องบันทึกการชําระเงินล่วงหน้านี้เป็นรายได้รับล่วงหน้า ซึ่งอยู่ในหมวดหนี้สินในงบดุล เนื่องจากบริษัทมีภาระผูกพันในการส่งมอบสินค้าหรือบริการเหล่านั้นในอนาคต
การรับรู้รายได้รับล่วงหน้าช่วยให้ผลกําไรสอดคล้องกับกิจกรรมของบริษัท ตัวอย่างเช่น หากฟิตเนสเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสมาชิกรายปีในเดือนมกราคม ฟิตเนสจะไม่สามารถบันทึกทั้งยอดเป็นรายได้เดือนมกราคมได้ เนื่องจากฟิตเนสให้บริการ (เข้าสถานที่ออกกำลังกาย) ตลอดทั้งปี ดังนั้นการรับรู้รายรับต้องทำเป็นรายเดือนตามระยะเวลาที่ให้บริการ ไม่ใช่เวลาที่ได้รับเงิน ในแต่ละรอบบัญชี รายได้รับล่วงหน้าส่วนหนึ่งจะย้ายไปอยู่ในหมวดหมู่รายรับที่ได้ การรับรู้รายรับแบบค่อยเป็นค่อยไปจะดําเนินต่อไปจนกว่าภาระผูกพันจะสิ้นสุด
การจัดการรายได้รับล่วงหน้าต้องมีการติดตามยอดที่ชำระแล้วกับสิ่งที่ส่งมอบแล้วอย่างระมัดระวัง ขั้นตอนนี้เป็นส่วนสําคัญในการทำรายงานทางการเงินที่ถูกต้อง รวมถึงการรักษาความไว้วางใจจากลูกค้าและนักลงทุน เป็นการทำให้แน่ใจว่าบริษัทไม่ได้บันทึกผลกำไรเกินจริงด้วยการบันทึกรายรับทั้งหมดในคราวเดียว และเพื่อให้งบการเงินสะท้อนถึงการดําเนินงานที่เป็นอยู่อย่างเป็นจริง
รายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าส่งผลกระทบต่องบการเงินอย่างไร
ทั้งรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าจะบันทึกไว้ในงบดุลและงบกำไรขาดทุนของบริษัท รายได้ค้างรับเป็นการรับรู้รายได้เมื่อเกิดรายได้ ซึ่งช่วยให้เห็นประสิทธิภาพทางการเงินในปัจจุบันของบริษัทได้แม่นยํามากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสินทรัพย์หมุนเวียนและรายรับ และทําให้เห็นว่าบริษัทมีผลกําไรมากขึ้นในระยะสั้น รายได้รับล่วงหน้าแสดงถึงภาระผูกพันในอนาคตและเงินสดที่ได้รับล่วงหน้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มหนี้สินหมุนเวียน ซึ่งอาจทําให้บริษัทดูเหมือนจะทํากําไรได้น้อยในระยะสั้น แต่ก็มีช่องว่างสําหรับการรับรู้รายรับในอนาคต
ต่อไปนี้คือวิธีการบันทึกรายรับแต่ละประเภท
รายได้ค้างรับ
งบดุล
รายได้ค้างรับบันทึกเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนในงบดุลในส่วน "ลูกหนี้การค้า" หรือบันทึกเป็นบรรทัดรายการแยกต่างหากที่เรียกว่า "รายได้ค้างรับ" ซึ่งแสดงถึงจํานวนเงินค่าสินค้าหรือบริการที่จัดส่งแล้วที่ลูกค้าเป็นหนี้บริษัทอยู่
ในท้ายที่สุดรายได้ค้างรับจะเพิ่มในกำไรสะสม (ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของส่วนของผู้ถือหุั้น) เนื่องจากเป็นรายรับที่ทำได้
งบกำไรขาดทุน
รายได้ค้างรับจะรับรู้เป็นรายรับในรอบที่ได้ แม้จะยังไม่ได้รับเงินสดก็ตาม ซึ่งเป็นการจับคู่รายรับกับค่าใช้จ่ายที่ใช้สร้างผลกําไร ซึ่งช่วยให้เห็นความสามารถในการทํากําไรได้แม่นยํามากขึ้น
รายได้รับล่วงหน้า
งบดุล
รายได้รับล่วงหน้าบันทึกเป็นหนี้สินหมุนเวียนในงบดุลในส่วน "รายได้รับล่วงหน้า" หรือ "รายได้รอการตัดบัญชี" ซึ่งแสดงถึงภาระผูกพันในการส่งมอบสินค้าหรือบริการในอนาคตโดยได้รับการชำระเงินแล้ว
เนื่องจากรายได้รับล่วงหน้าจะนับเป็นรายได้ตามเวลา จึงเป็นรายรับที่จะย้ายไปที่กำไรสะสม ซึ่งจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
งบกำไรขาดทุน
รายได้รับล่วงหน้าจะไม่ส่งผลต่องบกำไรขาดทุนเมื่อได้รับในตอนแรก เนื่องจากจะรับรู้เป็นรายรับตามเวลาที่บริษัททำตามภาระผูกพัน จึงช่วยให้มั่นใจว่ารายรับจะไม่บวมเร็วเกินไป
การรับรู้รายรับ การทำบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างเทียบเกณฑ์เงินสด
การรับรู้รายรับในการบัญชีสำหรับธุรกิจทําได้ 2 วิธี ได้แก่ การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างหรือการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด แต่ละวิธีให้มุมมองเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเงินของบริษัทที่แตกต่างกัน และมีผลต่อวิธีการบันทึกธุรกรรมและเวลาการรับรู้รายรับและค่าใช้จ่าย
เราลองมาดูแต่ละวิธีกันอย่างละเอียด
การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง
การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างรับรู้รายรับเมื่อมีรายรับและรับรู้รายจ่ายเมื่อเกิดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าธุรกรรมการชำระเงินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามหลักการจับคู่ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อจับคู่รายรับกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในรอบบัญชีที่เกิดธุรกรรมขึ้น โดยทั่วไปการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมักใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ ในสหรัฐอเมริกา IRS กําหนดให้ธุรกิจที่มีรายรับ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปเกิน 3 ปีใช้เกณฑ์คงค้าง
การรับรู้รายรับ: การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะรับรู้รายรับตอนขายผลิตภัณฑ์หรือส่งมอบบริการ แม้ว่าจะมีการชำระเงินในภายหลังก็ตาม วิธีนี้ทำให้เห็นประสิทธิภาพทางการเงินในช่วงเวลาหนึ่งๆ ได้แม่นยำมากขึ้น
การรับรู้ค่าใช้จ่าย: การบันทึกค่าใข้จ่ายจะทำเมื่อเกิดค่าใข้จ่าย ไม่ใช่เมื่อมีการชำระเงิน ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญในการจับคู่ค่าใช้จ่ายกับรายรับ
การรายงานทางการเงิน: การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างให้มุมมองเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัทอย่างครอบคลุม เนื่องจากมีทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้การค้าด้วย
การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสด
การทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดง่ายกว่าและรับรู้รายรับและค่าใช้จ่ายเฉพาะเมื่อมีการแลกเปลี่ยนเงินสดเท่านั้น วิธีนี้ตรงไปตรงมา โดยเงินเข้าถือเป็นรายได้ และเงินออกถือเป็นค่าใข้จ่าย ธุรกิจขนาดเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ไม่ได้ขายแบบให้เครดิตอาจต้องการทําบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดเนื่องจากความเรียบง่าย
การรับรู้รายรับ: รับรู้รายรับเฉพาะเมื่อได้รับเงินสดเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าชำระค่าบริการเดือนกุมภาพันธ์ในเดือนมีนาคม การทำบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดจะรับรู้รายรับในเดือนมีนาคม
การรับรู้ค่าใช้จ่าย: การรับรู้ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเมื่อมีการชำระเงิน ไม่ใช่เมื่อเกิดค่าใข้จ่าย ซึ่งอาจทําให้มีรอบบัญชีที่ค่าใช้จ่ายอาจสูงหรือต่ำมาก ขึ้นอยู่กับกําหนดการชําระเงิน
การรายงานทางการเงิน: การทำบัญชีแบบเกณฑ์เงินสดอาจทำให้ภาพของสถานะทางการเงินของบริษัทในระยะยาวบิดเบือนได้ เนื่องจากไม่ได้พิจารณาถึงเงินที่ยังค้างชําระซึ่งยังไม่ได้รับ หรือหนี้ที่ยังไม่ได้ชําระ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ช่วยให้เห็นภาพชัดว่าธุรกิจมีเงินสดเท่าใดในเวลาหนึ่งๆ
วิธีจัดการรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้าโดยใช้ Stripe
Stripe มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยธุรกิจจัดการรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้า Stripe ทำขั้นตอนการรับรู้รายรับหลายด้านเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด นอกจากนี้ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังช่วยให้มั่นใจในการปฏิบัติตามมาตรฐานการทําบัญชีที่ซับซ้อน เช่น ASC 606 และ IFRS 15
สิ่งที่ Stripe จะช่วยคุณได้
การจัดการรายได้ค้างรับด้วย Stripe
Stripe ช่วยให้คุณสร้างและส่งใบแจ้งหนี้สําหรับบริการที่ให้หรือสินค้าที่จัดส่งได้ คุณสามารถติดตามสถานะของใบแจ้งหนี้เหล่านี้ได้ ซึ่งรวมถึงเวลาที่ส่งและชําระเงิน ข้อมูลนี้จะช่วยคุณติดตามเวลาการรับรู้รายรับของรายได้ค้างรับได้
Stripe มีรายงานใบแจ้งหนี้และการชําระเงินแบบละเอียด เพื่อให้คุณเห็นข้อมูลรายได้ค้างรับ คุณสามารถวิเคราะห์รายงานเหล่านี้เพื่อติดตามจํานวนรายรับที่ได้แต่ยังไม่ได้รับเงิน
Stripe ผสานการทํางานกับซอฟต์แวร์บัญชียอดนิยม เช่น QuickBooks และ Xero การผสานการทํางานนี้จะซิงก์ข้อมูล Stripe กับซอฟต์แวร์บัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ขั้นตอนการบันทึกรายได้ค้างรับง่ายดายและช่วยให้มั่นใจว่ารายงานทางการเงินถูกต้อง
การจัดการรายได้รับล่วงหน้าด้วย Stripe
Stripe Billing ช่วยให้คุณจัดการการชําระเงินตามรอบบิลที่เรียกเก็บตามแบบแผนล่วงหน้า คุณสามารถติดตามการชําระเงินค่าบริการหรือสินค้าที่ได้รับล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นรายได้รับล่วงหน้า
Stripe Revenue Recognition เปลี่ยนขั้นตอนการรับรู้รายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลและรายได้รับล่วงหน้าอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามเวลาโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี เช่น ASC 606 และ IFRS 15
Stripe สร้างกําหนดเวลารับรู้รายรับที่แสดงกําหนดเวลาและจํานวนรายรับที่จะรับรู้สําหรับแต่ละรอบบิล ตารางเวลาเหล่านี้ให้ภาพรายได้รับล่วงหน้าและผลกระทบต่องบการเงินของคุณที่ชัดเจน
Stripe ช่วยให้คุณกำหนดกฎการรับรู้รายรับให้สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านบัญชีของคุณได้เอง ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้การรับรู้รายรับถูกต้องและเป็นไปตามข้อกำหนด
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรายงานรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้า
ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรายงานรายได้ค้างรับและรายได้รับล่วงหน้า
รายได้ค้างรับ
การรับรู้รายรับในเวลาที่เหมาะสม: รับรู้รายได้ค้างรับในรอบบัญชีที่เกิดรายได้ แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้รับการชําระเงินก็ตาม ซึ่งเป็นการจับคู่รายรับกับค่าใช้จ่ายที่ใช้สร้างผลกำไร และช่วยให้เห็นประสิทธิภาพทางการเงินที่แม่นยํามากขึ้น
การประมาณการที่ถูกต้อง: ใช้วิธีที่เชื่อถือได้เพื่อประมาณการรายได้ค้างรับ โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ข้อกําหนดของสัญญา เปอร์เซ็นต์ของงานที่ทำเสร็จ หรือเวลาที่ดำเนินไป โดยต้องใช้เทคนิคการประมาณการที่สอดคล้องสม่ำเสมอและบันทึกข้อสมมติฐานต่างๆ ไว้เป็นเอกสาร
การเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจน: เปิดเผยนโยบายการทําบัญชีรายได้ค้างรับในเชิงอรรถของงบการเงิน ซึ่งรวมถึงการอธิบายวิธีการประมาณการ ข้อสมมติฐาน และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยอดค้างรับ
การตรวจสอบเป็นประจำ: ตรวจสอบและอัปเดตประมาณการรายได้ค้างรับเป็นประจําเมื่อมีข้อมูลใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าการประมาณการยังคงสมเหตุสมผลและเป็นข้อมูลล่าสุด
รายได้รับล่วงหน้า
การจําแนกประเภทที่เหมาะสม: จัดประเภทรายได้รับล่วงหน้าเป็นหนี้สินในงบดุล ซึ่งสะท้อนถึงภาระผูกพันในการส่งมอบสินค้าหรือบริการในอนาคตอย่างแม่นยำ
การรับรู้รายรับเมื่อเวลาผ่านไป: รับรู้รายได้รับล่วงหน้าเมื่อเกิดรายได้ ซึ่งปกติจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการส่งมอบสินค้าหรือบริการ โดยคุณสามารถคำนวณรายได้ด้วยวิธีเส้นตรงวิธีคิดตามเปอร์เซ็นต์ของงานที่เสร็จ หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม
ตารางเวลาโดยละเอียด: จัดทำตารางเวลาโดยละเอียดสำหรับรายได้รับล่วงหน้า การติดตามยอดตั้งต้น รายรับที่รับรู้ และยอดคงเหลือ ส่วนนี้จะช่วยให้การรายงานและการกระทบยอดทำได้อย่างถูกต้อง
การรายงานที่โปร่งใส: เปิดเผยยอดรายได้รับล่วงหน้า วิธีการรับรู้รายรับที่ใช้ และสมมติฐานสําคัญใดๆ ในเชิงอรรถของงบการเงิน
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ