Accrual accounting 101: What accrued revenue is and how to handle it

Billing
Billing

Stripe Billing ช่วยให้คุณเรียกเก็บเงินและจัดการลูกค้าได้ในทุกแบบที่ต้องการ ตั้งแต่การเรียกเก็บเงินแบบตามรอบไปจนถึงการเรียกเก็บเงินตามการใช้งาน และสัญญาการเจรจาการขาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. รายรับค้างรับคืออะไร
  3. หลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างคืออะไร
  4. รายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าแตกต่างกันอย่างไร
  5. รายร้บค้างรับ เทียบกับรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี
  6. รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์หรือหนี้สิน
  7. ตัวอย่างรายรับค้างรับ
  8. วิธีการบันทึกรายรับค้างรับ
    1. 1. ระบุรายรับ
    2. 2. การสร้างรายการงบดุล
    3. 3. อัปเดตงบการเงิน
    4. 4. ออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า
    5. 5. บันทึกการชําระเงิน

การทําบัญชีรายรับของธุรกิจอาจดูไม่ซับซ้อน คุณต้องบันทึกจำนวนเงินที่เข้ามา สิ่งที่คุณจะขายเพื่อแลกกับเงินนั้น และการแลกเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่การกระทบยอดรายรับนั้นไม่ค่อยง่ายเช่นนั้น ที่จริงแล้ว งานวิจัยล่าสุดของเรา ที่ทำการสำรวจผู้นำทางการเงินระดับโลก 1,700 คน พบว่า 40% ของทีมการเงินใช้เวลามากกว่า 10 ชั่วโมงต่อเดือนในการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนเพื่อปรับข้อมูลของตนให้ตรงกัน

เหตุผลหนึ่งที่ยุ่งยากในการทําบัญชีก็คือธุรกิจหลายรายไม่ได้รับการชําระเงินจากลูกค้าในเวลาเดียวกันที่การส่งมอบสินค้าและบริการ สําหรับธุรกิจแบบ B2B และ B2C ที่ดําเนินงานโดยใช้โมเดลการสมัครใช้บริการหรือมีตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะบริษัทที่ขยายตัวในระดับการดําเนินงานให้ใหญ่ขึ้น ภูมิทัศน์ของรายรับก็ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก การชำระเงินและการดำเนินการตามคำสั่งซื้อสามารถเกิดขึ้นห่างกันเป็นเดือนหรือเป็นปีก็ได้ คุณมีวิธีพิจารณารายรับนี้อย่างไร

ต่อไปนี้คือหลักการบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไปซึ่งควบคุมวิธีการคิดรายรับในสถานการณ์ต่างๆ และที่สําคัญสําหรับธุรกิจที่ต้องปฏิบัติตาม หลักการข้อหนึ่งเหล่านี้คือการรับรู้รายรับ ซึ่งจะกําหนดวิธีการและช่วงเวลาที่มีการบันทึกรายรับในงบการเงินของธุรกิจ หนึ่งในวิธีการรับรู้รายได้ที่ใช้กันทั่วไปได้แก่ รายรับค้างรับ

การทำความเข้าใจว่ารายรับที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางการเงินโดยรวมของบริษัทอย่างไรถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแนวทางเชิงกลยุทธ์สำหรับการบัญชี สิ่งที่ตามมาคือภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับรายรับค้างรับ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล วิธีการบันทึก ความสําคัญของการทําบัญชี ผลกระทบที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ และผลกระทบที่อาจมีต่องบการเงินของบริษัท การรับรู้รายรับไม่ง่าย แต่คุณสามารถจัดการได้เมื่อคุณเข้าใจวิธีการที่ถูกต้อง

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • รายรับค้างรับคืออะไร
  • หลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างคืออะไร
  • รายรับค้างรับและหนี้การค้าแตกต่างกันอย่างไร
  • รายร้บค้างรับ เทียบกับรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี
  • รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์หรือหนี้สิน
  • ตัวอย่างรายรับค้างรับ
  • วิธีการบันทึกรายรับค้างรับ

รายรับค้างรับคืออะไร

รายรับค้างรับคือรายรับที่บริษัทได้รับ แต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน รายรับประเภทนี้เกิดขึ้นเมื่อบริษัทให้บริการหรือส่งมอบผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ในแง่การบัญชี ถือว่าเป็นสินทรัพย์จนกว่าบริษัทจะออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าและรับการชําระเงิน

ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจจะให้บริการให้คําปรึกษาแก่ลูกค้าในเดือนธันวาคม แต่ไม่ได้ออกใบแจ้งหนี้จนถึงเดือนมกราคมของปีถัดมา ในกรณีนี้ บริษัทจะบันทึกรายรับเป็น "ค้างรับ" ในเดือนธันวาคมและรับรู้ว่าเป็น "ได้รับ" ในเดือนมกราคมเมื่อชําระใบแจ้งหนี้

อีกตัวอย่างหนึ่งคือบริษัท SaaS ที่ให้บริการแบบสมัครสมาชิกเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปี หากลูกค้าสมัครใช้บริการในเดือนธันวาคม แต่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมรายปีจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดมา ธุรกิจจะบันทึกรายรับดังกล่าวเป็น "ค้างรับ" ในเดือนธันวาคมและระบบจะไม่รับรู้ว่าเป็น "ได้รับ" จนถึงเดือนมกราคม เมื่อชําระเงินแล้ว

รายรับค้างรับคือแนวคิดหลักในการบัญชีและการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยจะวัดรายรับที่บริษัทคาดว่าจะได้รับในอนาคต พร้อมทั้งมีวิธีการติดตามผลการดําเนินงานของธุรกิจในช่วงเวลาต่างๆ เนื่องจากรายรับค้างรับอาจส่งผลกระทบที่สําคัญต่องบการเงินของธุรกิจ เราจึงจําเป็นต้องติดตามและบันทึกข้อมูลให้ถูกต้อง

หลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างคืออะไร

ธุรกิจจะต้องจัดการรายรับค้างรับตามหลักการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานในการทําบัญชี หลักการนี้ระบุว่าควรรับรู้รายรับและค่าใช้จ่ายในงบการเงินที่สอดคล้องกับเวลาที่ได้รับ ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะเน้นที่กําหนดเวลาของงานที่ธุรกิจสร้างรายได้ แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาของการชําระเงิน

ตามหลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง จะบันทึกรายรับของธุรกิจเมื่อบริษัทได้มอบสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าแม้ว่าธุรกิจนั้นจะยังไม่ได้รับการชําระเงินก็ตาม ในทํานองเดียวกัน ธุรกิจจะบันทึกค่าใช้จ่ายเมื่อมีค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะยังไม่ได้ชําระเงินก็ตาม วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพทางการเงินของตนและมีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะทางการเงินโดยรวมที่แม่นยําและครบถ้วนกว่า

หลักการบางประการของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ได้แก่

  • การรับรู้รายรับ
    ควรรับรู้รายรับเมื่อส่งมอบงาน ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด
  • หลักการจับคู่
    ค่าใช้จ่ายควรตรงกับรายรับที่สอดคล้องกันในรอบระยะเวลาเดียวกัน
  • หลักการอนุรักษ์นิยม
    ควรบันทึกรายรับและกําไรเฉพาะเมื่อแน่ใจอย่างแน่นอนเท่านั้น และควรบันทึกค่าใช้จ่ายและขาดทุนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้
  • หลักการการดำเนินงานต่อเนื่อง
    เราอาจสันนิษฐานได้ว่าบริษัทจะยังคงดำเนินงานต่อไปในอนาคตอันใกล้ และจะไม่ล้มละลาย

หลักการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมีการใช้อย่างกว้างขวางในบริษัททุกขนาดในอุตสาหกรรมต่างๆ บริษัทนําเสนอข้อมูลสถานะทางการเงินที่ครอบคลุมของบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการให้ความช่วยเหลือนักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อทําการตัดสินใจเกี่ยวกับบริษัทอย่างมีข้อมูล

รายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าแตกต่างกันอย่างไร

รายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าเกี่ยวข้องกับรายรับที่บริษัทได้ส่งมอบงานแต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน แต่จะแสดงขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการรับรู้รายรับ

ความแตกต่างที่สําคัญๆ มีดังนี้

  • รับรู้รายรับค้างรับเมื่อได้รับรายรับดังกล่าว แต่จะมีการรับรู้รายรับของบัญชีลูกหนี้การค้าเมื่อมีการส่งใบแจ้งหนี้
  • ทั้งรายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าจะถือว่าเป็นสินทรัพย์ในงบดุล แต่หนี้การค้าจะแสดงแยกต่างหากจากรายรับค้างรับ
  • รายรับที่เกิดขึ้นจะรับรู้ในงบกำไรขาดทุนของธุรกิจในหัวข้อ “รายได้ที่ยังไม่ได้รับ” ในขณะที่ลูกหนี้การค้าจะรับรู้ในหัวข้อ “ลูกหนี้” หรือ “ลูกหนี้การค้า”

รายร้บค้างรับ เทียบกับรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี

รายรับค้างรับและรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีเป็นแนวคิดที่คล้ายกัน แต่มีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อย ส่วนต่างหลักๆ คือรายรับค้างรับจะรับรู้เมื่อส่งมอบงาน ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด ในขณะที่รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีจะรับรู้เมื่อได้รับการชําระเงิน ไม่ว่าจะส่งมอบงานเมื่อใดก็ตาม

โดยปกติ รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีอาจเกิดขึ้นเมื่อบริษัทได้รับการชําระเงินล่วงหน้าสําหรับบริการที่จะมีการส่งมอบในอนาคต ในกรณีนี้ บริษัทจะมีหนี้สินในงบดุลและจะไม่บันทึกรายรับจนกว่าจะมีการให้บริการดังกล่าว

รายรับที่เลื่อเวลาการตัดบัญชีถือเป็นหนี้สินเนื่องจากบริษัทมีภาระผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากรายรับค้างรับ บันทึกเป็น "รายได้รับล่วงหน้า" ในงบกําไรขาดทุน

ในโมเดลการสมัครใช้บริการ SaaS รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีอาจเกิดขึ้นได้หลายวิธี ดังนี้

  • การสมัครใช้บริการรายปี
    หากบริษัท SaaS เสนอการสมัครสมาชิกรายปีในราคาส่วนลด และลูกค้าชำระเงินเต็มจำนวนล่วงหน้า บริษัทจะรับรู้รายรับในระหว่างปีในขณะที่ให้บริการแก่ลูกค้า

  • การสมัครใช้บริการแบบชำระเงินล่วงหน้า
    หากบริษัท SaaS เดียวกันเสนอการสมัครใช้บริการแบบชําระเงินล่วงหน้าซึ่งลูกค้าชําระเงินล่วงหน้าหลายเดือน บริษัทจะรับรู้รายรับตลอดระยะเวลาที่ชําระเงินล่วงหน้าไปแล้ว เนื่องจากบริษัทมีภาระหน้าที่ในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อของลูกค้า

ในทั้งสองตัวอย่าง ลูกค้าได้ชําระเงินค่าบริการแล้ว แต่บริษัทยังไม่ได้ได้รับรายรับจากการส่งมอบบริการ ดังนั้นจึงมีการบันทึกยอดเงินดังกล่าวเป็น "รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี" รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีจะรับรู้เป็นรายรับที่ได้รับในอนาคต เมื่อบริษัทให้บริการแก่ลูกค้า การดําเนินการนี้จะเป็นไปตามหลักการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ซึ่งระบุว่าควรรับรู้รายรับเมื่อส่งมอบงาน ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด

รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์หรือหนี้สิน

ระบบรับรู้รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์ในงบดุล เนื่องจากแสดงถึงรายรับที่ส่งมอบงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน เนื่องจากบริษัทได้จัดหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรายได้ จึงถือว่าภาระผูกพันเป็นไปตามนั้น ซึ่งหมายความว่าบริษัทสามารถนับรายได้เป็นสินทรัพย์แทนที่จะเป็นหนี้สินได้ รายรับค้างรับถือเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนเพราะคาดว่าจะมีการเรียกเก็บเงินภายใน 1 ปีขึ้นไป

การบันทึกและติดตามรายรับค้างรับอย่างถูกต้องขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการเมื่อเวลาผ่านไปและเริ่มมีการชำระเงิน โดยปกติแล้ว รายรับค้างรับจะได้รับการบันทึกเป็นเดบิตในบัญชี "รายรับค้างรับ" และเครดิตในบัญชี "การขาย" หรือ "รายรับ" และจํานวนเงินของรายรับค้างรับจะถูกปรับเป็นระยะๆ เพื่อให้แสดงจํานวนรายรับปัจจุบันที่ได้ส่งมอบงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน เมื่อได้รับรายรับ บัญชีรายได้ค้างรับจะลดลง และบัญชี "เงินสด" ก็เพิ่มขึ้น ทําให้ยอดเงินสดคงเหลือของบริษัทเพิ่มขึ้น

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าบริษัทให้บริการแบบสมัครสมาชิกแก่ลูกค้าในราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือน เมื่อต้นเดือนมกราคม บริษัทมีลูกค้า 100 คนที่ลงทะเบียนใช้บริการและชําระเงินเป็นรายเดือน เมื่อสิ้นเดือนมกราคม บริษัทได้ให้บริการในเดือนนั้นแต่ยังไม่ได้รับการชําระเงินจากลูกค้า

บริษัทจะรับรู้รายรับ 10,000 ดอลลาร์ (100 ดอลลาร์ x 100 ราย) เป็นรายรับค้างรับในงบดุลตอนสิ้นเดือนมกราคม เนื่องจากได้ส่งมอบงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน บริษัทจะบันทึกการหักบัญชีที่มีมูลค่า 10,000 ดอลลาร์ไปยังบัญชีรายรับค้างรับและเครดิตเงิน 10,000 ดอลลาร์ไปยังบัญชีรายรับ

เมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทจะปรับบัญชีรายรับค้างรับอีกครั้งเพื่อให้แสดงยอดรายรับปัจจุบันที่ได้ส่งงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน ลองนึกภาพว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ลูกค้ารายหนึ่งยกเลิกการสมัครใช้บริการ และลูกค้ารายอื่นยังไม่ได้ชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน บริษัทจะลดบัญชีรายรับค้างรับลง 200 ดอลลาร์ (100 ดอลลาร์สําหรับการสมัครใช้บริการที่ยกเลิก และ 100 ดอลลาร์สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้ชําระเงิน) เพื่อให้แสดงจํานวนรายรับปัจจุบันที่คาดว่าจะมีการเรียกเก็บเงิน จากนั้นบริษัทจะบันทึกการหักเงิน 200 ดอลลาร์ลงในบัญชี "ค่าใช้จ่ายหนี้เสีย" และเครดิต 200 ดอลลาร์เข้าในบัญชีรายรับค้างรับ

หากลูกค้าทั้งหมดชําระบิลได้ตรงเวลาในเดือนมีนาคม บริษัทจะลดยอดบัญชีรายรับค้างรับ 10,000 ดอลลาร์และบันทึกการเดบิตเงิน 10,000 ดอลลาร์ไปยังบัญชีเงินสด ขั้นตอนการปรับบัญชีรายรับค้างรับเพื่อให้แสดงจํานวนรายรับที่ได้ส่งมอบงานแล้วในปัจจุบัน แต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน จะยังคงดําเนินต่อไปในแต่ละเดือน

ตัวอย่างรายรับค้างรับ

รายรับค้างรับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปในหลายๆ อุตสาหกรรม และอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่องบการเงินของบริษัทต่างๆ ในทุกขั้นตอนของการเติบโต รายรับค้างรับจะแสดงได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทบริษัท สิ่งที่เสนอลูกค้า และแนวทางการจัดโครงสร้างความสัมพันธ์และการชําระเงินของลูกค้า

ต่อไปนี้คือตัวอย่างรายรับค้างรับในอุตสาหกรรมต่างๆ

  • บริการให้คําปรึกษา
    บริษัทให้คําปรึกษาให้บริการแก่ลูกค้าในเดือนมิถุนายน แต่ไม่มีการส่งใบแจ้งหนี้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดมา บริษัทที่ปรึกษาจะบันทึกรายรับเป็น "ค้างรับ" ในเดือนมิถุนายนและรับรู้ว่าเป็น "ได้รับ" ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อชําระใบแจ้งหนี้แล้ว

  • การสมัครใช้บริการซอฟต์แวร์
    บริษัทซอฟต์แวร์ได้รับลูกค้าใหม่ที่ชําระเงินสําหรับการสมัครใช้บริการเป็นเวลานานหนึ่งปีล่วงหน้า บริษัทรับรู้รายรับเป็นประจําทุกเดือนขณะที่มีการให้บริการ

  • การก่อสร้าง
    บริษัทก่อสร้างสรุปสัญญาเพื่อสร้างบ้านและรับเงินมัดจำ หากงานไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่าจะถึงงวดการเงินถัดไป รายได้จะถูกบันทึกเป็นรายรับค้างรับที่ส่งมอบงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการชำระเงิน

  • การโฆษณา
    ตัวแทนโฆษณาได้รับจ้างให้ทําแคมเปญโฆษณาใหม่ในไตรมาสถัดไป หากลูกค้าชําระเงินค่าบริการล่วงหน้า ระบบจะเพิ่มรายรับเป็นค้างรับที่ส่งมอบงาน แต่ยังไม่ได้รับการชำระเงิน

  • ประกันภัย
    บริษัทประกันภัยจะได้รับเบี้ยประกันจากลูกค้าตามกรมธรรม์ที่ครอบคลุมตลอดทั้งปี บริษัทจะรับรู้รายรับเป็นประจําทุกเดือนเมื่อมีการให้บริการ

  • มาร์เก็ตเพลสออนไลน์
    มาร์เก็ตเพลสออนไลน์อนุญาตให้ธุรกิจแต่ละรายลงประกาศขายผลิตภัณฑ์ของตนบนแพลตฟอร์ม และมาร์เก็ตเพลสจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการขายแต่ละรายการจากธุรกิจต่างๆ หากธุรกิจขายในเดือนมีนาคม แต่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมให้กับมาร์เก็ตเพลสดังกล่าวจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดมา มาร์เก็ตเพลสจะบันทึกค่าธรรมเนียมดังกล่าวว่า "ค้างรับ" ในเดือนมีนาคม และรับรู้ว่าเป็น "ได้รับแล้ว" ในเดือนมกราคม เมื่อชําระเงินแล้ว

วิธีการบันทึกรายรับค้างรับ

การทำความเข้าใจหลักการของรายรับค้างรับเป็นสิ่งหนึ่ง แต่การนำหลักปฏิบัติทางบัญชีที่สะท้อนถึงความเข้าใจนี้มาใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่อไปนี้คือขั้นตอนสําคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการบันทึกรายรับค้างรับ

1. ระบุรายรับ

ขั้นตอนแรกคือการระบุรายรับที่ธุรกิจได้รับ แต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน อาจรวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ออกใบแจ้งหนี้ หรือการสมัครใช้บริการที่เปิดใช้งานแล้ว แต่ไม่ได้เรียกเก็บเงิน

2. การสร้างรายการงบดุล

เมื่อคุณระบุรายรับแล้ว ให้บันทึกรายรับในรายการงบดุล โดยปกติ รายการจะเกี่ยวข้องกับการหักบัญชีไปยังบัญชีรายรับค้างรับและเครดิตเข้าบัญชีรายรับ

3. อัปเดตงบการเงิน

รายการงบดุลใหม่จะอัปเดตงบดุลเพื่อแสดงรายรับค้างรับ และจะอัปเดตงบกําไรขาดทุนเพื่อแสดงรายรับที่ได้รับด้วย

4. ออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า

หลังจากบันทึกรายรับคงค้างแล้ว ให้ออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าสําหรับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ระบุ

5. บันทึกการชําระเงิน

เมื่อคุณได้รับการชําระเงินจากลูกค้าแล้ว คุณก็จะรับรู้รายรับตามที่ได้รับ บันทึกการชําระเงินในรายการงบดุลใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเกี่ยวข้องกับการหักบัญชีเงินสดและเครดิตเงินเข้าบัญชีรายรับค้างรับ

เนื่องด้วยความซับซ้อนในการจัดการการรับรู้รายได้ ธุรกิจหลายๆ แห่งจึงมองหาโซลูชันอย่าง Stripe Billing เพื่อปรับแต่งการทําบัญชีและการรายงานทางการเงินอย่างละเอียด Stripe ลดความยุ่งยากในการรับรู้รายรับโดยไม่ต้องเสียเวลาทํางานด้านวิศวกรรมหรือการกําหนดค่าที่ใช้เวลานานเพิ่มเติม นําเสนอเครื่องมือต่างๆ เช่น การรับรู้และสรุปรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีได้อย่างรวดเร็ว รายงานทางบัญชีที่ดาวน์โหลดได้ ตัวเลขรายรับแบบโต้ตอบ และกฎการรับรู้รายได้ที่กําหนดค่าได้และการควบคุมรอบการทําบัญชี

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Billing รองรับรายรับค้างรับ เริ่มต้นที่นี่

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Billing

Billing

เรียกเก็บและรักษารายรับได้มากขึ้น ใช้วิธีอัตโนมัติกับขั้นตอนการจัดการรายรับ ตลอดจนรับการชำระเงินได้ทั่วโลก

Stripe Docs เกี่ยวกับ Billing

สร้างและจัดการการชำระเงินตามรอบบิล ติดตามการใช้งาน และออกใบแจ้งหนี้