การทําบัญชีรายรับของธุรกิจอาจดูไม่ซับซ้อน คุณต้องบันทึกจำนวนเงินที่เข้ามา สิ่งที่คุณจะขายเพื่อแลกกับเงินนั้น และการแลกเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่การกระทบยอดรายรับนั้นไม่ค่อยง่ายเช่นนั้น ที่จริงแล้ว งานวิจัยล่าสุดของเรา ที่ทำการสำรวจผู้นำทางการเงินระดับโลก 1,700 คน พบว่า 40% ของทีมการเงินใช้เวลามากกว่า 10 ชั่วโมงต่อเดือนในการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนเพื่อปรับข้อมูลของตนให้ตรงกัน
เหตุผลหนึ่งที่ยุ่งยากในการทําบัญชีก็คือธุรกิจหลายรายไม่ได้รับการชําระเงินจากลูกค้าในเวลาเดียวกันที่การส่งมอบสินค้าและบริการ สําหรับธุรกิจแบบ B2B และ B2C ที่ดําเนินงานโดยใช้โมเดลการสมัครใช้บริการหรือมีตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะบริษัทที่ขยายตัวในระดับการดําเนินงานให้ใหญ่ขึ้น ภูมิทัศน์ของรายรับก็ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก การชำระเงินและการดำเนินการตามคำสั่งซื้อสามารถเกิดขึ้นห่างกันเป็นเดือนหรือเป็นปีก็ได้ คุณมีวิธีพิจารณารายรับนี้อย่างไร
ต่อไปนี้คือหลักการบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไปซึ่งควบคุมวิธีการคิดรายรับในสถานการณ์ต่างๆ และที่สําคัญสําหรับธุรกิจที่ต้องปฏิบัติตาม หลักการข้อหนึ่งเหล่านี้คือการรับรู้รายรับ ซึ่งจะกําหนดวิธีการและช่วงเวลาที่มีการบันทึกรายรับในงบการเงินของธุรกิจ หนึ่งในวิธีการรับรู้รายได้ที่ใช้กันทั่วไปได้แก่ รายรับค้างรับ
การทำความเข้าใจว่ารายรับที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางการเงินโดยรวมของบริษัทอย่างไรถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแนวทางเชิงกลยุทธ์สำหรับการบัญชี สิ่งที่ตามมาคือภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับรายรับค้างรับ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล วิธีการบันทึก ความสําคัญของการทําบัญชี ผลกระทบที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ และผลกระทบที่อาจมีต่องบการเงินของบริษัท การรับรู้รายรับไม่ง่าย แต่คุณสามารถจัดการได้เมื่อคุณเข้าใจวิธีการที่ถูกต้อง
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- รายรับค้างรับคืออะไร
- หลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างคืออะไร
- รายรับค้างรับและหนี้การค้าแตกต่างกันอย่างไร
- รายร้บค้างรับ เทียบกับรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี
- รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์หรือหนี้สิน
- ตัวอย่างรายรับค้างรับ
- วิธีการบันทึกรายรับค้างรับ
รายรับค้างรับคืออะไร
รายรับค้างรับคือรายรับที่บริษัทได้รับ แต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน รายรับประเภทนี้เกิดขึ้นเมื่อบริษัทให้บริการหรือส่งมอบผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ในแง่การบัญชี ถือว่าเป็นสินทรัพย์จนกว่าบริษัทจะออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าและรับการชําระเงิน
ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจจะให้บริการให้คําปรึกษาแก่ลูกค้าในเดือนธันวาคม แต่ไม่ได้ออกใบแจ้งหนี้จนถึงเดือนมกราคมของปีถัดมา ในกรณีนี้ บริษัทจะบันทึกรายรับเป็น "ค้างรับ" ในเดือนธันวาคมและรับรู้ว่าเป็น "ได้รับ" ในเดือนมกราคมเมื่อชําระใบแจ้งหนี้
อีกตัวอย่างหนึ่งคือบริษัท SaaS ที่ให้บริการแบบสมัครสมาชิกเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปี หากลูกค้าสมัครใช้บริการในเดือนธันวาคม แต่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมรายปีจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดมา ธุรกิจจะบันทึกรายรับดังกล่าวเป็น "ค้างรับ" ในเดือนธันวาคมและระบบจะไม่รับรู้ว่าเป็น "ได้รับ" จนถึงเดือนมกราคม เมื่อชําระเงินแล้ว
รายรับค้างรับคือแนวคิดหลักในการบัญชีและการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยจะวัดรายรับที่บริษัทคาดว่าจะได้รับในอนาคต พร้อมทั้งมีวิธีการติดตามผลการดําเนินงานของธุรกิจในช่วงเวลาต่างๆ เนื่องจากรายรับค้างรับอาจส่งผลกระทบที่สําคัญต่องบการเงินของธุรกิจ เราจึงจําเป็นต้องติดตามและบันทึกข้อมูลให้ถูกต้อง
หลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างคืออะไร
ธุรกิจจะต้องจัดการรายรับค้างรับตามหลักการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานในการทําบัญชี หลักการนี้ระบุว่าควรรับรู้รายรับและค่าใช้จ่ายในงบการเงินที่สอดคล้องกับเวลาที่ได้รับ ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างจะเน้นที่กําหนดเวลาของงานที่ธุรกิจสร้างรายได้ แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาของการชําระเงิน
ตามหลักการบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง จะบันทึกรายรับของธุรกิจเมื่อบริษัทได้มอบสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าแม้ว่าธุรกิจนั้นจะยังไม่ได้รับการชําระเงินก็ตาม ในทํานองเดียวกัน ธุรกิจจะบันทึกค่าใช้จ่ายเมื่อมีค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะยังไม่ได้ชําระเงินก็ตาม วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพทางการเงินของตนและมีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะทางการเงินโดยรวมที่แม่นยําและครบถ้วนกว่า
หลักการบางประการของการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ได้แก่
- การรับรู้รายรับ
ควรรับรู้รายรับเมื่อส่งมอบงาน ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด - หลักการจับคู่
ค่าใช้จ่ายควรตรงกับรายรับที่สอดคล้องกันในรอบระยะเวลาเดียวกัน - หลักการอนุรักษ์นิยม
ควรบันทึกรายรับและกําไรเฉพาะเมื่อแน่ใจอย่างแน่นอนเท่านั้น และควรบันทึกค่าใช้จ่ายและขาดทุนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ - หลักการการดำเนินงานต่อเนื่อง
เราอาจสันนิษฐานได้ว่าบริษัทจะยังคงดำเนินงานต่อไปในอนาคตอันใกล้ และจะไม่ล้มละลาย
หลักการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้างมีการใช้อย่างกว้างขวางในบริษัททุกขนาดในอุตสาหกรรมต่างๆ บริษัทนําเสนอข้อมูลสถานะทางการเงินที่ครอบคลุมของบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการให้ความช่วยเหลือนักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อทําการตัดสินใจเกี่ยวกับบริษัทอย่างมีข้อมูล
รายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าแตกต่างกันอย่างไร
รายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าเกี่ยวข้องกับรายรับที่บริษัทได้ส่งมอบงานแต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน แต่จะแสดงขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการรับรู้รายรับ
ความแตกต่างที่สําคัญๆ มีดังนี้
- รับรู้รายรับค้างรับเมื่อได้รับรายรับดังกล่าว แต่จะมีการรับรู้รายรับของบัญชีลูกหนี้การค้าเมื่อมีการส่งใบแจ้งหนี้
- ทั้งรายรับค้างรับและลูกหนี้การค้าจะถือว่าเป็นสินทรัพย์ในงบดุล แต่หนี้การค้าจะแสดงแยกต่างหากจากรายรับค้างรับ
- รายรับที่เกิดขึ้นจะรับรู้ในงบกำไรขาดทุนของธุรกิจในหัวข้อ “รายได้ที่ยังไม่ได้รับ” ในขณะที่ลูกหนี้การค้าจะรับรู้ในหัวข้อ “ลูกหนี้” หรือ “ลูกหนี้การค้า”
รายร้บค้างรับ เทียบกับรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี
รายรับค้างรับและรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีเป็นแนวคิดที่คล้ายกัน แต่มีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อย ส่วนต่างหลักๆ คือรายรับค้างรับจะรับรู้เมื่อส่งมอบงาน ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด ในขณะที่รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีจะรับรู้เมื่อได้รับการชําระเงิน ไม่ว่าจะส่งมอบงานเมื่อใดก็ตาม
โดยปกติ รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีอาจเกิดขึ้นเมื่อบริษัทได้รับการชําระเงินล่วงหน้าสําหรับบริการที่จะมีการส่งมอบในอนาคต ในกรณีนี้ บริษัทจะมีหนี้สินในงบดุลและจะไม่บันทึกรายรับจนกว่าจะมีการให้บริการดังกล่าว
รายรับที่เลื่อเวลาการตัดบัญชีถือเป็นหนี้สินเนื่องจากบริษัทมีภาระผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากรายรับค้างรับ บันทึกเป็น "รายได้รับล่วงหน้า" ในงบกําไรขาดทุน
ในโมเดลการสมัครใช้บริการ SaaS รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีอาจเกิดขึ้นได้หลายวิธี ดังนี้
การสมัครใช้บริการรายปี
หากบริษัท SaaS เสนอการสมัครสมาชิกรายปีในราคาส่วนลด และลูกค้าชำระเงินเต็มจำนวนล่วงหน้า บริษัทจะรับรู้รายรับในระหว่างปีในขณะที่ให้บริการแก่ลูกค้าการสมัครใช้บริการแบบชำระเงินล่วงหน้า
หากบริษัท SaaS เดียวกันเสนอการสมัครใช้บริการแบบชําระเงินล่วงหน้าซึ่งลูกค้าชําระเงินล่วงหน้าหลายเดือน บริษัทจะรับรู้รายรับตลอดระยะเวลาที่ชําระเงินล่วงหน้าไปแล้ว เนื่องจากบริษัทมีภาระหน้าที่ในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อของลูกค้า
ในทั้งสองตัวอย่าง ลูกค้าได้ชําระเงินค่าบริการแล้ว แต่บริษัทยังไม่ได้ได้รับรายรับจากการส่งมอบบริการ ดังนั้นจึงมีการบันทึกยอดเงินดังกล่าวเป็น "รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี" รายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีจะรับรู้เป็นรายรับที่ได้รับในอนาคต เมื่อบริษัทให้บริการแก่ลูกค้า การดําเนินการนี้จะเป็นไปตามหลักการทําบัญชีแบบเกณฑ์คงค้าง ซึ่งระบุว่าควรรับรู้รายรับเมื่อส่งมอบงาน ไม่ว่าจะได้รับการชําระเงินเมื่อใด
รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์หรือหนี้สิน
ระบบรับรู้รายรับค้างรับเป็นสินทรัพย์ในงบดุล เนื่องจากแสดงถึงรายรับที่ส่งมอบงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน เนื่องจากบริษัทได้จัดหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรายได้ จึงถือว่าภาระผูกพันเป็นไปตามนั้น ซึ่งหมายความว่าบริษัทสามารถนับรายได้เป็นสินทรัพย์แทนที่จะเป็นหนี้สินได้ รายรับค้างรับถือเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนเพราะคาดว่าจะมีการเรียกเก็บเงินภายใน 1 ปีขึ้นไป
การบันทึกและติดตามรายรับค้างรับอย่างถูกต้องขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการเมื่อเวลาผ่านไปและเริ่มมีการชำระเงิน โดยปกติแล้ว รายรับค้างรับจะได้รับการบันทึกเป็นเดบิตในบัญชี "รายรับค้างรับ" และเครดิตในบัญชี "การขาย" หรือ "รายรับ" และจํานวนเงินของรายรับค้างรับจะถูกปรับเป็นระยะๆ เพื่อให้แสดงจํานวนรายรับปัจจุบันที่ได้ส่งมอบงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน เมื่อได้รับรายรับ บัญชีรายได้ค้างรับจะลดลง และบัญชี "เงินสด" ก็เพิ่มขึ้น ทําให้ยอดเงินสดคงเหลือของบริษัทเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าบริษัทให้บริการแบบสมัครสมาชิกแก่ลูกค้าในราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือน เมื่อต้นเดือนมกราคม บริษัทมีลูกค้า 100 คนที่ลงทะเบียนใช้บริการและชําระเงินเป็นรายเดือน เมื่อสิ้นเดือนมกราคม บริษัทได้ให้บริการในเดือนนั้นแต่ยังไม่ได้รับการชําระเงินจากลูกค้า
บริษัทจะรับรู้รายรับ 10,000 ดอลลาร์ (100 ดอลลาร์ x 100 ราย) เป็นรายรับค้างรับในงบดุลตอนสิ้นเดือนมกราคม เนื่องจากได้ส่งมอบงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน บริษัทจะบันทึกการหักบัญชีที่มีมูลค่า 10,000 ดอลลาร์ไปยังบัญชีรายรับค้างรับและเครดิตเงิน 10,000 ดอลลาร์ไปยังบัญชีรายรับ
เมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทจะปรับบัญชีรายรับค้างรับอีกครั้งเพื่อให้แสดงยอดรายรับปัจจุบันที่ได้ส่งงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน ลองนึกภาพว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ลูกค้ารายหนึ่งยกเลิกการสมัครใช้บริการ และลูกค้ารายอื่นยังไม่ได้ชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน บริษัทจะลดบัญชีรายรับค้างรับลง 200 ดอลลาร์ (100 ดอลลาร์สําหรับการสมัครใช้บริการที่ยกเลิก และ 100 ดอลลาร์สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้ชําระเงิน) เพื่อให้แสดงจํานวนรายรับปัจจุบันที่คาดว่าจะมีการเรียกเก็บเงิน จากนั้นบริษัทจะบันทึกการหักเงิน 200 ดอลลาร์ลงในบัญชี "ค่าใช้จ่ายหนี้เสีย" และเครดิต 200 ดอลลาร์เข้าในบัญชีรายรับค้างรับ
หากลูกค้าทั้งหมดชําระบิลได้ตรงเวลาในเดือนมีนาคม บริษัทจะลดยอดบัญชีรายรับค้างรับ 10,000 ดอลลาร์และบันทึกการเดบิตเงิน 10,000 ดอลลาร์ไปยังบัญชีเงินสด ขั้นตอนการปรับบัญชีรายรับค้างรับเพื่อให้แสดงจํานวนรายรับที่ได้ส่งมอบงานแล้วในปัจจุบัน แต่ยังไม่ได้รับชำระเงิน จะยังคงดําเนินต่อไปในแต่ละเดือน
ตัวอย่างรายรับค้างรับ
รายรับค้างรับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปในหลายๆ อุตสาหกรรม และอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่องบการเงินของบริษัทต่างๆ ในทุกขั้นตอนของการเติบโต รายรับค้างรับจะแสดงได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทบริษัท สิ่งที่เสนอลูกค้า และแนวทางการจัดโครงสร้างความสัมพันธ์และการชําระเงินของลูกค้า
ต่อไปนี้คือตัวอย่างรายรับค้างรับในอุตสาหกรรมต่างๆ
บริการให้คําปรึกษา
บริษัทให้คําปรึกษาให้บริการแก่ลูกค้าในเดือนมิถุนายน แต่ไม่มีการส่งใบแจ้งหนี้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดมา บริษัทที่ปรึกษาจะบันทึกรายรับเป็น "ค้างรับ" ในเดือนมิถุนายนและรับรู้ว่าเป็น "ได้รับ" ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อชําระใบแจ้งหนี้แล้วการสมัครใช้บริการซอฟต์แวร์
บริษัทซอฟต์แวร์ได้รับลูกค้าใหม่ที่ชําระเงินสําหรับการสมัครใช้บริการเป็นเวลานานหนึ่งปีล่วงหน้า บริษัทรับรู้รายรับเป็นประจําทุกเดือนขณะที่มีการให้บริการการก่อสร้าง
บริษัทก่อสร้างสรุปสัญญาเพื่อสร้างบ้านและรับเงินมัดจำ หากงานไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่าจะถึงงวดการเงินถัดไป รายได้จะถูกบันทึกเป็นรายรับค้างรับที่ส่งมอบงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการชำระเงินการโฆษณา
ตัวแทนโฆษณาได้รับจ้างให้ทําแคมเปญโฆษณาใหม่ในไตรมาสถัดไป หากลูกค้าชําระเงินค่าบริการล่วงหน้า ระบบจะเพิ่มรายรับเป็นค้างรับที่ส่งมอบงาน แต่ยังไม่ได้รับการชำระเงินประกันภัย
บริษัทประกันภัยจะได้รับเบี้ยประกันจากลูกค้าตามกรมธรรม์ที่ครอบคลุมตลอดทั้งปี บริษัทจะรับรู้รายรับเป็นประจําทุกเดือนเมื่อมีการให้บริการมาร์เก็ตเพลสออนไลน์
มาร์เก็ตเพลสออนไลน์อนุญาตให้ธุรกิจแต่ละรายลงประกาศขายผลิตภัณฑ์ของตนบนแพลตฟอร์ม และมาร์เก็ตเพลสจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการขายแต่ละรายการจากธุรกิจต่างๆ หากธุรกิจขายในเดือนมีนาคม แต่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมให้กับมาร์เก็ตเพลสดังกล่าวจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดมา มาร์เก็ตเพลสจะบันทึกค่าธรรมเนียมดังกล่าวว่า "ค้างรับ" ในเดือนมีนาคม และรับรู้ว่าเป็น "ได้รับแล้ว" ในเดือนมกราคม เมื่อชําระเงินแล้ว
วิธีการบันทึกรายรับค้างรับ
การทำความเข้าใจหลักการของรายรับค้างรับเป็นสิ่งหนึ่ง แต่การนำหลักปฏิบัติทางบัญชีที่สะท้อนถึงความเข้าใจนี้มาใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่อไปนี้คือขั้นตอนสําคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการบันทึกรายรับค้างรับ
1. ระบุรายรับ
ขั้นตอนแรกคือการระบุรายรับที่ธุรกิจได้รับ แต่ยังไม่ได้รับการชําระเงิน อาจรวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ออกใบแจ้งหนี้ หรือการสมัครใช้บริการที่เปิดใช้งานแล้ว แต่ไม่ได้เรียกเก็บเงิน
2. การสร้างรายการงบดุล
เมื่อคุณระบุรายรับแล้ว ให้บันทึกรายรับในรายการงบดุล โดยปกติ รายการจะเกี่ยวข้องกับการหักบัญชีไปยังบัญชีรายรับค้างรับและเครดิตเข้าบัญชีรายรับ
3. อัปเดตงบการเงิน
รายการงบดุลใหม่จะอัปเดตงบดุลเพื่อแสดงรายรับค้างรับ และจะอัปเดตงบกําไรขาดทุนเพื่อแสดงรายรับที่ได้รับด้วย
4. ออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า
หลังจากบันทึกรายรับคงค้างแล้ว ให้ออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าสําหรับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ระบุ
5. บันทึกการชําระเงิน
เมื่อคุณได้รับการชําระเงินจากลูกค้าแล้ว คุณก็จะรับรู้รายรับตามที่ได้รับ บันทึกการชําระเงินในรายการงบดุลใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเกี่ยวข้องกับการหักบัญชีเงินสดและเครดิตเงินเข้าบัญชีรายรับค้างรับ
เนื่องด้วยความซับซ้อนในการจัดการการรับรู้รายได้ ธุรกิจหลายๆ แห่งจึงมองหาโซลูชันอย่าง Stripe Billing เพื่อปรับแต่งการทําบัญชีและการรายงานทางการเงินอย่างละเอียด Stripe ลดความยุ่งยากในการรับรู้รายรับโดยไม่ต้องเสียเวลาทํางานด้านวิศวกรรมหรือการกําหนดค่าที่ใช้เวลานานเพิ่มเติม นําเสนอเครื่องมือต่างๆ เช่น การรับรู้และสรุปรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชีได้อย่างรวดเร็ว รายงานทางบัญชีที่ดาวน์โหลดได้ ตัวเลขรายรับแบบโต้ตอบ และกฎการรับรู้รายได้ที่กําหนดค่าได้และการควบคุมรอบการทําบัญชี
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Billing รองรับรายรับค้างรับ เริ่มต้นที่นี่
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ