ธุรกิจแพลตฟอร์มคืออะไร ประเภทและเรื่องราวความสําเร็จจากญี่ปุ่น

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. อธิบายธุรกิจประเภทแพลตฟอร์ม
  3. ประเภทของธุรกิจแพลตฟอร์มและเรื่องราวความสําเร็จ
    1. แพลตฟอร์มตัวกลาง
    2. แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ
    3. แพลตฟอร์มเนื้อหา
    4. แพลตฟอร์มโซลูชัน
  4. โมเดลธุรกิจแพลตฟอร์ม
    1. แพลตฟอร์มที่เก็บค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม
    2. แพลตฟอร์มฟรีเมียม
    3. แพลตฟอร์มแบบสมัครใช้บริการรายเดือน
    4. แพลตฟอร์มแบบชําระเงินตามการใช้งาน
  5. ข้อดีของธุรกิจแพลตฟอร์ม
    1. แพลตฟอร์มช่วยให้คุณเริ่มธุรกิจออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากแพลตฟอร์มไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง จึงไม่จําเป็นต้องมีพื้นที่ทางกายภาพ เช่น ที่ดิน อาคาร หรือคลังสินค้า เหมือนอย่างธูรกิจที่มีหน้าร้าน และเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าแรงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของธุรกิจแพลตฟอร์มจึงค่อนข้างต่ำ
    2. คุณภาพและความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเมื่อจํานวนผู้ใช้เพิ่มขึ้น
    3. การเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่
  6. หมายเหตุเกี่ยวกับธุรกิจแพลตฟอร์ม
    1. การดึงดูดลูกค้าในตอนต้นต้องมีค่าใช้จ่าย
    2. ยิ่งเข้าสู่ตลาดช้าก็จะยิ่งทำธุรกิจได้ยากขึ้น
    3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจข้อกําหนดทางกฎหมาย
  7. กุญแจสําคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มประสบความสำเร็จ
    1. ตัดสินใจเลือกตลาดและเป้าหมายเพื่อสร้างความแตกต่างให้ตัวเอง
    2. ทําความเข้าใจแนวโน้มผู้บริโภคตามกลุ่มอายุ
    3. คุณควรต้องทราบว่าส่วนใดของธุรกิจที่ทำกำไรให้คุณ
    4. ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินที่สะดวก
  8. อนาคตของตลาดธุรกิจแพลตฟอร์ม

แพลตฟอร์มเป็นโมเดลธุรกิจประเภทหนึ่งที่ให้บริการสถานที่ออนไลน์กับผู้ขายสินค้า บริการ และข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงกับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ซื้อ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมกับการเปลี่ยนแปลงด้านไลฟ์สไตล์หลายๆ อย่างอันเนื่องมาจากการระบาดทั่วโลกได้นําไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของแพลตฟอร์มดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม โมเดลธุรกิจแพลตฟอร์มเริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น โดยบริษัทจำนวนมากคิดค้นนวัตกรรมบริการใหม่ๆ ขึ้น

ในบทความนี้ เราจะอธิบายข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจแพลตฟอร์ม รวมถึงประเภทข้อดีข้อเสีย ตัวอย่างจากญี่ปุ่น และแนวโน้มในอนาคตในตลาดธุรกิจแพลตฟอร์ม

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • อธิบายธุรกิจประเภทแพลตฟอร์ม
  • ประเภทของธุรกิจแพลตฟอร์มและเรื่องราวความสําเร็จ
  • โมเดลธุรกิจแพลตฟอร์ม
  • ข้อดีของธุรกิจแพลตฟอร์ม
  • หมายเหตุเกี่ยวกับธุรกิจแพลตฟอร์ม
  • กุญแจสําคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มประสบความสำเร็จ
  • อนาคตของตลาดธุรกิจแพลตฟอร์ม

อธิบายธุรกิจประเภทแพลตฟอร์ม

โดยทั่วไปคําว่า "แพลตฟอร์ม" หมายถึงรากฐานหรือจุดสัญจร เหมือนกับชานชาลารถไฟซึ่งเป็นที่ที่ผู้โดยสารขึ้นลงรถไฟ แพลตฟอร์มดิจิทัลก็เป็นสถานที่หนึ่งที่คนสามารถเข้าถึงบริการได้ เพียงแต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล

ดังที่กล่าวข้างต้น โมเดลธุรกิจแพลตฟอร์มให้บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อผู้ขาย (บริษัท กิจการเจ้าของคนเดียว ฯลฯ) กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ เจ้าของแพลตฟอร์มไม่ได้พัฒนาหรือขายผลิตภัณฑ์ แต่ให้บริการตัวแพลตฟอร์มเอง

ตัวอย่างเช่น โซเชียลมีเดียที่เปิดให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลและสตรีมวิดีโอ รวมถึงมาร์เก็ตเพลสที่ผู้ใช้สามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์ได้ ก็เป็นประเภทของธุรกิจแพลตฟอร์ม

เจ้าของแพลตฟอร์มเหล่านี้ขยายธุรกิจโดยการดึงดูดผู้ซื้อผู้ขายจํานวนมากเข้ามาใช้บริการ และเพิ่มการโต้ตอบ เช่น ในรูปแบบของธุรกรรมและการสื่อสารระหว่างสองฝ่าย ธุรกิจแพลตฟอร์มที่รู้จักกันดีได้แก่ Amazon, Uber และ Airbnb ซึ่งเชื่อมต่อธุรกิจกับผู้ใช้จํานวนมาก และส่งผลกระทบที่สําคัญต่อตลาด

ในโมเดลธุรกิจแพลตฟอร์ม เจ้าของแพลตฟอร์มจะสร้างรายรับด้วยการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขายที่เสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการ และจากผู้โฆษณา ในบางอุตสาหกรรม บริษัทอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้าด้วย

How platform business works - Platforms provide an online location for sellers—such as companies and sole proprietors—to connect with buyers (consumers) of products and services.

ประเภทของธุรกิจแพลตฟอร์มและเรื่องราวความสําเร็จ

ธุรกิจแพลตฟอร์มมี 4 ประเภทหลักๆ

แพลตฟอร์มตัวกลาง

ตามชื่อที่บอกไว้ แพลตฟอร์มตัวกลางจะทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ให้บริการและผู้ซื้อสินค้าและบริการ ผู้ขายและผู้ซื้อที่ลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มสามารถทําธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้ มีตัวอย่างที่ประสบความสําเร็จของแพลตฟอร์มประเภทนี้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการซื้อขายแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบบผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C) ด้วย

เรื่องราวความสําเร็จ: Mercari, Uber Eats, Airbnb และ Lancers

แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ

แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการจะให้บริการระบบและแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยบุคคลที่สามและบริษัทอื่นๆ และรวมถึงตัวระบบปฏิบัติการเองด้วยซึ่งเป็นรากฐานในการใช้งานระบบแลปแอปต่างๆ แพลตฟอร์มเหล่านี้เก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการแอปและระบบต่างๆ

เรื่องราวความสําเร็จ: "Google Play" และ "Android" และ "App Store" "iOS" และ "Android" ของ Apple

แพลตฟอร์มเนื้อหา

แพลตฟอร์มเนื้อหาให้บริการเนื้อหาดิจิทัลแก่ผู้ใช้ เช่น ภาพยนตร์และเพลง โซเชียลมีเดียซึ่งประกอบด้วยโพสต์ รูปภาพ วิดีโอ และสื่ออื่นๆ ก็อยู่ในหมวดหมู่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคระบาดทําให้บริการแพลตฟอร์มเนื้อหาเติบโตและมีผู้ใช้จํานวนมาก ธุรกิจแพลตฟอร์มประเภทนี้มีการแข่งขันสูง

เรื่องราวความสําเร็จ: U-Next และ LINE

แพลตฟอร์มโซลูชัน

แพลตฟอร์มโซลูชันให้บริการเครื่องมือดิจิทัล แอป ระบบ และซอฟต์แวร์ที่มีฟังก์ชันที่กําหนดเฉพาะ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้งานจากผู้ใช้โซลูชันดังกล่าว แพลตฟอร์มเหล่นี้โดดเด่นที่ความสามารถในการลดความซับซ้อนในการดําเนินธุรกิจและให้การรองรับกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ในระยะยาว เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ที่สนับสนุนการเกษตรอัจฉริยะ เป็นตัวอย่างของแพลตฟอร์มโซลูชัน

เรื่องราวความสําเร็จ: ระบบการชําระเงินอย่าง Rakuten Pay และ PayPay และ AgriTech by inaho Inc.

โมเดลธุรกิจแพลตฟอร์ม

ธุรกิจแพลตฟอร์มมีโมเดลธุรกิจ 4 แบบ

แพลตฟอร์มที่เก็บค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม

แพลตฟอร์มค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรมจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขายจากธุรกรรม ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามแพ็กเกจที่ผู้ขายเลือกใช้ จํานวนและความถี่ในการใช้ และยอดธุรกรรม โมเดลธุรกิจที่เก็บค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรมมักใช้กับแพลตฟอร์มตัวกลาง เช่น แอปตลาดนัด โดยปกติค่าธรรมเนียมจะเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่ของยอดธุรกรรม ดังนั้นหากยิ่งมียอดธุรกรรมมาก ก็จะมีค่าธรรมเนียมสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งเปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามยอดธุรกรรม

แพลตฟอร์มฟรีเมียม

คําว่า "ฟรีเมียม" เป็นคำจากการผสมคำว่า "ฟรี" และ "พรีเมียม" แพลตฟอร์มประเภทนี้มีทั้งตัวเลือกแบบใช้งานฟรีและตัวเลือกแบบเสียเงิน บริษัท ให้บริการและฟังก์ชันพื้นฐานฟรี แต่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจแบบชําระเงินได้หากต้องการเข้าใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงเพิ่มเติม

ตัวอย่างหนึ่งของโมเดลธุรกิจฟรีเมียมก็คือเว็บไซต์ข่าว บทความบนเว็บไซต์ข่าวมักจะสามารถดูได้ฟรี แต่หลายที่จะให้คุณอ่านบทความได้แค่บางส่วนเท่านั้น คุณจะเข้าถึงบทความเต็มได้เมื่อลงทะเบียนเป็นสมาชิกแบบชําระเงินเท่านั้น

แพลตฟอร์มแบบสมัครใช้บริการรายเดือน

แพลตฟอร์มแบบสมัครใช้บริการรายเดือนเป็นโมเดลธุรกิจที่เรียกเก็บเงินค่าบริการรายเดือนจากผู้ใช้เป็นจํานวนคงที่ ธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มประเภทนี้มักจะเป็นบริการเผยแพร่เนื้อหา (เช่น การสตรีมวิดีโอและเพลง หรือธุรกิจให้เช่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์) ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลายอย่างไม่จำกัดเมื่อลงทะเบียนรับบริการแล้ว เมื่อใช้สมัครใช้บริการแล้ว ผู้ใช้จะจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนในจํานวนคงที่ ทําให้ติดตามค่าใช้จ่ายของตนเองได้ง่าย เนื่องจากไม่ต้องกังวลว่าค่าบริการจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือน ด้วยเหตุนี้ ตลาดบริการแบบสมัครสมาชิกจึงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

แพลตฟอร์มแบบชําระเงินตามการใช้งาน

แพลตฟอร์มแบบชําระเงินตามการใช้งานหรือแพลตฟอร์มที่เรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า คือโมเดลธุรกิจที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในแต่ละครั้งที่ลูกค้าใช้บริการหรือฟังก์ชัน โมเดลนี้มีประโยชน์กับผู้ใช้เนื่องจากผู้ใช้ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยหากไม่ได้ใช้บริการ แต่ข้อเสียสำหรับธุรกิจคือรายได้จะผันผวนและไม่สามารถคาดการณ์ยอดขายได้ ตัวอย่างเช่น พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ ซึ่งค่าธรรมเนียมจะคํานวณตามจํานวนข้อมูลที่จัดเก็บ ในบางกรณี เฉพาะสมาชิกแบบชําระเงินเท่านั้นที่จะสามารถใช้ระบบการเรียกเก็บเงินตามการใช้งานได้

ข้อดีของธุรกิจแพลตฟอร์ม

ต่อไปเราจะอธิบายข้อดีของธุรกิจแพลตฟอร์ม

ใช้ต้นทุนและความพยายามในการเริ่มต้นค่อนข้างต่ํา

แพลตฟอร์มช่วยให้คุณเริ่มธุรกิจออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากแพลตฟอร์มไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง จึงไม่จําเป็นต้องมีพื้นที่ทางกายภาพ เช่น ที่ดิน อาคาร หรือคลังสินค้า เหมือนอย่างธูรกิจที่มีหน้าร้าน และเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าแรงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของธุรกิจแพลตฟอร์มจึงค่อนข้างต่ำ

คุณภาพและความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเมื่อจํานวนผู้ใช้เพิ่มขึ้น

เมื่อมีบริษัทและร้านค้าบนแพลตฟอร์มมากขึ้น ก็จะยิ่งดึงดูดลูกค้าได้ง่ายขึ้น เมื่อจํานวนลูกค้าเพิ่มขึ้น การแข่งขันระหว่างผู้ขายก็รุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจนําไปสู่การปรับปรุงคุณภาพและความสะดวกสบายของผลิตภัณฑ์และบริการที่นําเสนอ ความภักดีและความไว้วางใจของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นพร้อมๆ กับคุณภาพบริการที่ดีขึ้น ทำให้เกิดวงจรที่ดีซึ่งทำให้มีลูกค้ามากขึ้น

หากแพลตฟอร์มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นจากการโต้ตอบที่เพิ่มขึ้นระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ก็อาจทำให้รายรับของเจ้าของแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นได้อย่างมาก

การเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่

ตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ แพลตฟอร์มรวบรวมผู้ใช้จํานวนมากมาไว้ในที่เดียว รวมถึงผู้ให้บริการสินค้าและบริการ เช่น บริษัทและกิจการเจ้าของคนเดียว และผู้บริโภคที่ใช้สินค้าและบริการเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้แพลตฟอร์มเหล่านี้จึงรวบรวมข้อมูลผู้ใช้จํานวนมากในหลายลักษณะ เช่นอายุและเพศ รวมถึงรูปแบบพฤติกรรม

คุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูลนี้อย่างละเอียดเพื่อดูว่าบริการใดกําลังเป็นที่ต้องการ หรือมีพฤติกรรมผู้ใช้และรูปแบบอะไรที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ทําให้ทำกลยุทธ์การตลาดและนําข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้แพลตฟอร์ม (UX) ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ข้อมูลนี้พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่ได้ด้วย

หมายเหตุเกี่ยวกับธุรกิจแพลตฟอร์ม

แม้ว่าธุรกิจแพลตฟอร์มจะมีข้อดี แต่ก็มีสิ่งสําคัญหลายข้อที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกัน

การดึงดูดลูกค้าในตอนต้นต้องมีค่าใช้จ่าย

ก่อนหน้านี้เราได้อธิบายว่าคุณภาพและความสะดวกสบายของแพลตฟอร์มจะดีขึ้นอย่างไรเมื่อจํานวนผู้ใช้เติบโตขึ้น ซึ่งหมายความว่าหากไม่มีผู้ใช้แพลตฟอร์มก็จะไม่สร้างมูลค่า การดึงดูดลูกค้ารายแรกของคุณต้องใข้ทั้งเงินและเวลา ซึ่งคุณอาจไม่มีกำไรจนกว่าธุรกิจจะเริ่มสร้างแรงส่งได้

ลองคาดการณ์ว่าใช้เวลานานแค่ไหนในการดึงดูดผู้ใช้จํานวนหนึ่ง และให้แน่ใจว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงต้น

ยิ่งเข้าสู่ตลาดช้าก็จะยิ่งทำธุรกิจได้ยากขึ้น

การก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มในธุรกิจนี้อาจเป็นเรื่องยากหากมีบริษัทอื่นที่มั่นคงถือครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ไปแล้ว มีบริษัทขนาดใหญ่ในธุรกิจนี้อยู่แล้ว คุณจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่หากต้องการให้ธุรกิจเติบโต

เมื่อเข้าสู่ตลาดช้ากว่าธุรกิจรายอื่นๆ คุณควรวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มที่ไม่เหมือนใครได้

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจข้อกําหนดทางกฎหมาย

เมื่อเริ่มทําธุรกิจแพลตฟอร์ม คุณจะต้องทราบว่ากฎหมายและข้อบังคับใดบ้างที่มีผลบังคับใช้

ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ขายทำธุรกิจแอปตลาดนัดบนแพลตฟอร์ม บางครั้งเจ้าของแพลตฟอร์มอาจจะต้องให้ผู้ขายส่งใบอนุญาตและข้อมูลส่วนบุคคล ในญี่ปุ่น กฎหมายต่อต้านการผูกขาดและกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางการค้าบางประเภทคือตัวอย่างของกฎหมายและข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้กับธุรกิจแพลตฟอร์ม

ดังตัวอย่างข้างต้น ธุรกิจบางประเภทจําเป็นต้องมีใบอนุญาตบางอย่างหรือผ่านขั้นตอนพิธีการต่างๆ มากมาย โปรดตรวจสอบว่าระเบียบข้อบังคับใดมีผลบังคับใช้กับแพลตฟอร์มของคุณและต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับโดยไม่ได้ตั้งใจ

กุญแจสําคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มประสบความสำเร็จ

เราจะอธิบายประเด็นสําคัญ 4 ข้อที่จะช่วยให้แพลตฟอร์มของคุณประสบความสําเร็จ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสําคัญที่ควรพิจารณาเพื่อสร้างความแตกต่างและพัฒนาความยืดหยุ่นขององค์กรในฐานะธุรกิจแพลตฟอร์มในตลาดญี่ปุ่น

ตัดสินใจเลือกตลาดและเป้าหมายเพื่อสร้างความแตกต่างให้ตัวเอง

แม้ว่าอาจจะพูดได้เหมือนกันกับทุกธุรกิจ แต่กุญแจสําคัญในการทำธุรกิจแพลตฟอร์มให้เติบโตก็คือการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง หลังจากตัดสินใจเลือกตลาดที่คุณต้องการทำธุรกิจและเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว คุณควรกําหนดกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มของบริษัทคุณในแบบที่ไม่เหมือนใคร ตัวอย่างเช่น คุณอาจบรรลุผลลัพธ์โดยใช้คุณลักษณะของแพลตฟอร์มเพื่อปิดช่องว่างที่คู่แข่งของคุณไม่ได้ให้บริการ หรือนำเสนอการแก้ไขปัญหาที่ลูกค้ามีกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นๆ

ทําความเข้าใจแนวโน้มผู้บริโภคตามกลุ่มอายุ

ตลาดแพลตฟอร์มในญี่ปุ่นมีผู้ใช้ทุกวัยซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทธุรกิจ และกลุ่มอายุที่แตกต่างกันก็ต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น คนหนุ่มสาวมีแนวโน้มที่จะคุ้นชินกับเทคโนโลยีและแนวโน้มล่าสุด และยังดูวิดีโอบนเครือข่ายสังคม ซื้อสินค้าบนโซเชียลมีเดียโดยใช้มือถือเป็นประจำอีกด้วย ในทางกลับกัน ผู้สูงอายุมักจะให้ความสําคัญกับความปลอดภัยและความเรียบง่าย ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้ที่มีอายุมากมักจะชอบแพลตฟอร์มที่พวกเขารู้จักและไว้วางใจ

เพื่อให้แพลตฟอร์มของคุณน่าสนใจสําหรับผู้ใช้จํานวนมาก สิ่งสําคัญคือต้องใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นซึ่งรองรับลักษณะนิสัยและความชอบของคนหลากหลายวัย

คุณควรต้องทราบว่าส่วนใดของธุรกิจที่ทำกำไรให้คุณ

คุณควรเข้าใจว่าโมเดลธุรกิจใดเหมาะกับธุรกิจแพลตฟอร์มของคุณก่อนที่จะเริ่มต้นเพื่อให้สามารถทำกำไรได้ ซึ่งรวมถึงการเข้าใจว่าโมเดลธุรกิจมีการวางโครงสร้างอย่างไร และจะสามารถสร้างรายรับได้ที่ใด เมื่อไหร่ และอย่างไร

ปัจจัยขับเคลื่อนรายรับหลักสําหรับแพลตฟอร์มได้แก่ ค่าคอมมิชชันจากการขายและค่าธรรมเนียมรายเดือน ตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการเลือกรูปแบบรายรับที่ตรงกับขนาดและลักษณะของแพลตฟอร์มของคุณ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้โมเดลธุรกิจหลายแบบพร้อมกันเพื่อสร้างผลกําไรให้ธุรกิจได้ด้วย

ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินที่สะดวก

ทุกแพลตฟอร์มต้องมีระบบการชําระเงินที่น่าเชื่อถือ เมื่อเปิดตัวธุรกิจแพลตฟอร์ม อย่าลืมพิจารณาความต้องการของผู้ใช้และเลือกผู้ให้บริการชําระเงิน (PSP) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในธุรกิจออนไลน์

การสร้างระบบการชําระเงินเองภายในบริษัทอาจทําได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงในแง่ของเวลาและเงิน การเลือกระบบที่ตรงกับความต้องการของบริษัทคุณคือกุญแจสําคัญในการเริ่มต้นทําธุรกิจ นอกจากนี้ การใช้บริการระบบสนับสนุนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างดีในการเริ่มต้น ดำเนินงาน และจัดการแพลตฟอร์มเป็นสิ่งที่น่าอุ่นใจกว่า

Stripe มีเครื่องมือและฟังก์ชันหลากหลายที่รองรับประสิทธิภาพการดำเนินการชำระเงิน รวมถึงมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย การประมวลผลข้อมูล และการจัดการรายได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กําลังพิจารณาทำธุรกิจแพลตฟอร์ม การใช้ Stripe Payments ซึ่งสามารถจัดการการชำระเงินออนไลน์ได้อย่างยืดหยุ่นจะช่วยให้คุณสร้างสภาพแวดล้อมด้านการชำระเงินที่เหมาะกับสไตล์ธุรกิจของคุณได้โดยไม่ต้องพัฒนาระบบเอง

อนาคตของตลาดธุรกิจแพลตฟอร์ม

ในบทความนี้ เราจะสํารวจธุรกิจแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงประเภท โมเดลธุรกิจ และข้อดีข้อเสีย

แพลตฟอร์มออนไลน์ได้รับความสนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถสร้างชุมชนและเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้ ทั้งนี้คาดว่าธุรกิจออนไลน์ ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์ม มาร์เก็ตเพลส และบริการแบบสมัครสมาชิกจะเติบโตต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคในญี่ปุ่นที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการและมีความคาดหวังสูง สิ่งนี้จะทำให้เกิดการปรับปรุงบริการในตลาดแพลตฟอร์ม

การให้บริการแค่ "สถานที่" ไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจแพลตฟอร์มเติบโตและประสบความสำเร็จ ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มจะต้องให้บริการแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันและบริการครบครันที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ให้บริการและผู้บริโภค

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe