Payment facilitation (payfac) as a service: Bringing payments in-house to drive growth

Connect
Connect

แพลตฟอร์มและมาร์เก็ตเพลสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก รวมทั้ง Shopify และ DoorDash ต่างก็ใช้ Stripe Connect ในการผสานรวมการชำระเงินเข้ากับผลิตภัณฑ์

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงิน (payfac) คืออะไร
  3. บริการ payfac คืออะไร
  4. Payfac ทํางานอย่างไร
  5. จะเป็น payfac ได้อย่างไร
  6. บริการ payfac และการเป็น payfac
  7. ประโยชน์ของบริการ payfac
    1. ความสามารถในการสร้างรายรับจากการชําระเงิน
    2. การรักษาความปลอดภัยและประสิทธิผล
  8. สิ่งที่ต้องมองหาในผู้ให้บริการ payfac
  9. โซลูชัน payfac ของ Stripe

ขณะที่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าเติบโตขึ้น การมีอำนาจควบคุมในด้านประสบการณ์ของลูกค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความภักดีต่อผลิตภัณฑ์และแบรนด์ แต่สําหรับธุรกิจหลายราย ผู้ให้บริการบุคคลที่สามมักจะให้การสนับสนุนการชําระเงิน

การมีสิทธิ์ควบคุมและปรับแต่งการชําระเงินและบริการทางการเงินที่ผสานรวมในระบบภายในผลิตภัณฑ์สามารถช่วยสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณและเป็นเครื่องมือสําหรับการเติบโต ช่วยให้คุณเพิ่มรายได้ เปลี่ยนการชําระเงินให้เป็นศูนย์ทำกําไร ตลอดจนเพิ่มคุณค่าและฟังก์ชันการทํางานที่คุณมอบให้แก่ลูกค้าได้

องค์กรจํานวนมากหันมาใช้เทคโนโลยีการชําระเงินแบบผสานรวมในตัว จากแบบสํารวจปี 2020 ธุรกิจ 59% รายงานว่าใช้การชําระเงินแบบผสานรวมในตัว ในแบบสํารวจ ปี 2022 ที่ Stripe ดําเนินการร่วมกับ Edgar, Dunn & Company พบว่า 67% ของ SMB บอกว่าตนสมัครใช้บริการโซลูชันซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์อย่างน้อย 1 โซลูชัน, 73% ของธุรกิจ SMB เหล่านั้นรายงานว่ามีการผสานการทํางานการชําระเงินกับเครื่องมือซอฟต์แวร์อย่างน้อย 1 รายการ และ 65% บอกว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะพิจารณาบริการทางการเงินที่ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์นําเสนอในอนาคต

เราจะอธิบายว่าการให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงิน (payfac) และบริการ payfac คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงิน (payfac) คืออะไร
  • บริการ payfac คืออะไร
  • Payfac ทํางานอย่างไร
  • จะเป็น payfac ได้อย่างไร
  • บริการ payfac และการเป็น payfac
  • ประโยชน์ของบริการ payfac
  • สิ่งที่ต้องมองหาในผู้ให้บริการ payfac
  • โซลูชัน payfac ของ Stripe

ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงิน (payfac) คืออะไร

ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงิน (payfac) คือผู้ให้บริการประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ยอมรับการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้หลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิตและเดบิต, ACH และ echeck การให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงินหมายถึงกระบวนการที่ช่วยให้การทําธุรกรรมหรือการชําระเงินง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้นสําหรับทุกฝ่าย ประกอบด้วยกิจกรรมหลายๆ อย่าง รวมถึง การตั้งค่าและจัดการวิธีการชำระเงิน การประมวลผลการชําระเงิน การกระทบยอดธุรกรรม และการป้องกันการฉ้อโกง เป้าหมายของการให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงินก็คือ ทําให้กระบวนการชําระเงินสําหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจเป็นเรื่องง่าย รวมทั้งทําให้มั่นใจว่าการชําระเงินมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเข้าถึงได้

บริการ payfac คืออะไร

บริการ payfac เป็นโมเดลการให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงินแบบครบวงจร โดยบริษัทภายนอกจะให้เครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานที่จําเป็นสําหรับรับชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตรเครดิตและเดบิต, ACH และ echeck การช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ใช้บริการจากภายนอกเพื่อประมวลผลการชําระเงินของตนแทนที่จะต้องสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองนั้น ใช้เพียงส่วนหนึ่งของทรัพยากรที่จําเป็นสําหรับการสร้างและจัดการ payfac แบบดั้งเดิม

Payfac ทํางานอย่างไร

payfac แบบดั้งเดิมช่วยให้ธุรกิจรับการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยการให้บริการเกตเวย์การชําระเงินและบัญชีผู้ค้าที่จำเป็นเพื่อรับและประมวลผลการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ มีการเสนอฟีเจอร์และบริการเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การประเมินและควบคุมความเสี่ยง การปฏิบัติตามข้อกําหนด การตรวจจับและการป้องกันการฉ้อโกง การจัดการการดึงเงินคืน และการรายงานและการวิเคราะห์

ต่อไปนี้คือบทสรุปของฟังก์ชันพื้นฐานและการสนับสนุนที่ payfac ส่วนใหญ่มีให้

  • เกตเวย์การชําระเงิน
    Payfac มอบเกตเวย์การชําระเงิน ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเว็บไซต์ของธุรกิจกับผู้ประมวลผลการชําระเงิน เกตเวย์การชําระเงินจะช่วยอํานวยความสะดวกในการส่งข้อมูลการชําระเงินของลูกค้าอย่างปลอดภัย เช่น หมายเลขบัตรเครดิต จากเว็บไซต์ของธุรกิจไปให้ผู้ประมวลผลการชําระเงินเพื่อการตรวจสอบและดําเนินการ

  • บัญชีผู้ค้า
    นอกจากนี้ payfac ยังมอบบัญชีผู้ค้า ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจรับและประมวลผลการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ บัญชีผู้ค้าจะเชื่อมโยงกับเกตเวย์การชําระเงินและใช้ในการฝากเงินจากธุรกรรมที่สําเร็จไปยังบัญชีธนาคารของธุรกิจ

  • การประเมินและควบคุมความเสี่ยง
    payfac จะทําการประเมินและควบคุมความเสี่ยง ซึ่งเป็นกระบวนการประเมินความสามารถของธุรกิจในการประมวลผลการชําระเงิน ซึ่งปกติแล้วจะดําเนินการตรวจสอบเครดิต การเงิน และกรรมสิทธิ์ของธุรกิจ กระบวนการนี้ช่วยให้มั่นใจว่าธุรกิจมีเสถียรภาพทางการเงินและสามารถจัดการเงินทุนที่ได้รับ

  • การปฏิบัติตามข้อกําหนด
    นอกจากนี้ payfac ยังจัดการการปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมาย เช่น PCI-DSS, AML และ KYC ด้วย มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของลูกค้า รับมือกับการฟอกเงิน และยืนยันตัวตนของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย

  • การจัดการความเสี่ยง
    นอกจากนี้ payfac ยังช่วยจัดการความเสี่ยง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ประกอบด้วยการระบุ ประเมิน และจัดลําดับความสําคัญของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจและลูกค้าของธุรกิจ อาจรวมถึงการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง และการป้องกันการดึงเงินคืน รวมไปถึงความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

  • การรายงาน
    Payfac นําเสนอฟีเจอร์การรายงานที่ช่วยให้ธุรกิจติดตามธุรกรรม ดูยอดคงเหลือในบัญชี และตรวจสอบการชําระเงินได้

จะเป็น payfac ได้อย่างไร

ธุรกิจบางแห่งเลือกที่จะนําการชําระเงินภายในบริษัทมาใช้เองด้วยการเป็น payfac แทนที่จะต้องใช้บริการรับชําระเงินจากบริษัทอื่น สําหรับแพลตฟอร์มและมาร์เก็ตเพลสที่ผู้ใช้เป็นผู้ค้าย่อย การเป็น payfac จะช่วยลดความซับซ้อนที่เกิดจากการที่ผู้ค้าย่อยต้องตั้งค่าการชําระเงินออนไลน์ของตนเองได้มาก การดําเนินการบนแพลตฟอร์มที่ทําหน้าที่เป็น payfac หมายความว่าไม่จําเป็นต้องทํางานกับธนาคารผู้รับบัตร เกตเวย์การชําระเงิน และผู้ให้บริการอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม การเป็น payfac ต้องมีการดําเนินการเบื้องต้นและการดำเนินการต่อเนื่องเป็นจํานวนมาก เช่น การเปิดบัญชีผู้ค้า, การขอ ID ผู้ค้า (MID) และการขอใบรับรอง PCI DSS ของคุณ แพลตฟอร์มจะต้องปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกําหนด ลงทะเบียนกับเครือข่ายบัตร รวมถึงสร้างและรักษาโครงสร้างพื้นฐานการดําเนินงานที่จําเป็นต่อการอํานวยความสะดวกให้กับฟังก์ชันทั้งหมดที่มอบให้กับผู้ค้าย่อย นอกจากนี้ยังมีโอกาสเปิดรับความเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมากเมื่อแพลตฟอร์มเลือกที่จะให้บริการสนับสนุนด้านการชําระเงินแบบดั้งเดิมต้วยตนเอง เนื่องจากแพลตฟอร์มจะมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการเขียนและปรับใช้นโยบายการปฏิบัติตามข้อกําหนดด้วย

หากต้องการข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับสิ่งที่แพลตฟอร์มต้องทำเพื่อที่จะเป็น payfac โปรดดูคู่มือเกี่ยวกับ payfac ซึ่งครอบคลุมทุกแง่มุมตั้งแต่การปรับใช้งาน การลงทุนเงินและเวลา ไปจนถึงการปฏิบัติตามข้อกําหนดและข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับการบํารุงรักษา

บริการ payfac และการเป็น payfac

payfac และบริการ payfac นั้นเกี่ยวข้องกันแต่เป็นคนละแนวคิดกัน ทั้งสองต่างก็มอบทางเลือกให้ธุรกิจในการนําการชําระเงินมาดำเนินการเองภายใน แต่ก็มีหลายๆ จุดที่แตกต่างกัน สําหรับธุรกิจ ความแตกต่างระหว่างการใช้บริการ payfac เทียบกับการเป็น payfac เองนั้นอยู่ที่เวลา ต้นทุน และความเสี่ยง กล่าวคือการใช้บริการ payfac ต้องใช้ทั้งสามสิ่งนี้น้อยกว่ามาก

payfac คือบริษัทที่ให้บริการประมวลผลการชําระเงินแก่ธุรกิจอื่นๆ โดยทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างธุรกิจกับธนาคารผู้รับบัตร และดําเนินการประมวลผลการชําระเงินในนามของธุรกิจ ในทางกลับกัน บริการ payfac หมายถึงโมเดลธุรกิจที่บริษัทให้บริการ payfac แก่ธุรกิจอื่นๆ โดยคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการ ซึ่งหมายความว่า ธุรกิจจะมอบหมายให้ผู้ให้บริการบุคคลที่สามประมวลผลการชําระเงินของตน โดยผู้ให้บริการจะรับผิดชอบในการจัดการการประมวลผลการชําระเงินในนามของบริษัท ผู้ให้บริการ payfac จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสําหรับบริการนั้น ซึ่งมักรวมเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมแต่ละรายการที่ประมวลผลหรือค่าธรรมเนียมคงที่ต่อธุรกรรม

ความแตกต่างที่สําคัญระหว่าง payfac กับบริการ payfac ก็คือสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของระบบประมวลผลการชําระเงินและระดับการควบคุมที่ธุรกิจมีต่อการประมวลผลการชําระเงิน ในโมเดล payfac ธุรกิจจะเป็นเจ้าของระบบประมวลผลการชําระเงินและมีอํานวจควบคุมโดยตรง ในขณะที่สำหรับโมเดลบริการ payfac ผู้ให้บริการบุคคลที่สามจะเป็นเจ้าของและจัดการระบบประมวลผลการชําระเงินในนามของธุรกิจ

ในอดีต การนำการชำระเงินแบบผสานรวมมาทำเองภายในบริษัทด้วยการเป็น payfac ถือเป็นวิธีการที่ยุ่งยากสําหรับแพลตฟอร์มที่ต้องการควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าและบริการทางการเงินที่ตนมอบให้ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มรายได้ให้สูงสุดจากบริการทางการเงินที่ผสานรวมในตัว อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บริการ payfac อย่างเช่นฟีเจอร์ที่ Stripe มอบให้นั้น จะนําเสนอโซลูชันสำเร็จรูปแบบไม่ติดสัญลักษณ์แบรนด์ ซึ่งช่วยลดข้อเสียของการใช้บริการสนับสนุนด้านการชำระเงินจากภายนอกให้กับแพลตฟอร์ม

ประโยชน์ของบริการ payfac

บริการ Payfac มอบโซลูชันการประมวลผลการชําระเงินที่สะดวกและคุ้มค่าสําหรับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง จึงช่วยให้บริษัทมีเวลาไปมุ่งเน้นที่การดําเนินธุรกิจหลักของตัวเองแทนที่จะต้องจัดการการชําระเงินภายในบริษัทเอง ประโยชน์ของวิธีการนี้ที่ระบุไว้ด้านล่างมีผลกระทบมากขึ้นไปอีกสำหรับแพลตฟอร์มที่ความเชี่ยวชาญหลักอยู่นอกขอบข่ายของบริการทางการเงิน

ความสามารถในการสร้างรายรับจากการชําระเงิน

การผสานบริการทางการเงินสามารถเพิ่มรายรับต่อลูกค้าได้มากกว่าโมเดลแบบดั้งเดิมถึง 2-5 เท่า นอกจากนี้ การใช้ payfac ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ขยายการเข้าถึงตลาด และปรับปรุงข้อมูลเชิงลึก ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยสร้างรายได้จากการชําระเงินและกระตุ้นการเติบโตให้กับแพลตฟอร์ม ในแง่ของการสร้างรายรับจากการชําระเงิน การนำการชำระเงินเข้ามาดำเนินการเองภายในบริษัทโดยใช้ผู้ให้บริการ payfac จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถสร้างกระแสรายรับใหม่จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้

รายรับที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายการเงินแบบผสานรวมขณะที่แพลตฟอร์มนำเสนอบริการที่หลากหลายขึ้นให้แก่ผู้ค้าย่อย ยกตัวอย่างเช่น โซลูชัน payfac ของ Stripe ช่วยให้แพลตฟอร์มเพิ่มรายรับจากบริการทางการเงินอื่นๆ เช่น เงินกู้ โปรแกรมบัตรการออกบัตร การชําระเงินที่จุดขาย และการเบิกจ่ายที่รวดเร็วขึ้น โซลูชันการให้บริการรับชําระเงินแบบดั้งเดิมนั้นจํากัดอยู่เพียงการชําระเงินผ่านบัตรทางออนไลน์เท่านั้น

การรักษาความปลอดภัยและประสิทธิผล

ธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นซึ่งป้องกันการฉ้อโกงและการละเมิดข้อมูลได้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ให้บริการจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การเข้ารหัส การแปลงเป็นโทเค็น และการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยให้กับข้อมูลของลูกค้า บริการ payfac ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิผลของการประมวลผลการชําระเงินสําหรับธุรกิจอีกด้วย โดยการทําให้งานหลายๆ อย่างที่ต้องทำด้วยตนเองที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลการชําระเงินดำเนินไปแบบอัตโนมัติ ส่งผลให้มีเวลาในการประมวลผลธุรกรรมที่เร็วขึ้น เกิดข้อผิดพลาดน้อยลง และได้รับการรายงานละเอียดและนำไปปฏิบัติได้จริง

ประโยชน์ที่สำคัญอื่นๆ ของการใช้ผู้ให้บริการ payfac

  • สร้างรายรับจากการชําระเงิน
  • ช่วยให้ผู้ใช้รับการชําระเงินได้ในไม่กี่นาที
  • โซลูชันที่ปรับแต่งได้
  • ลดความซับซ้อน
  • การลงทุนทั้งเวลาและทรัพยากรที่ลดลง
  • ความเสี่ยงน้อยลง
  • บํารุงรักษาน้อยมาก
  • สามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและการสนับสนุนเกี่ยวกับการชําระเงิน

แพลตฟอร์มที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจำนวนมากเลือกที่จะไม่นำการชําระเงินมาทำด้วยตัวเองเพราะไม่ใช่สิ่งที่ตนเชี่ยวชาญ บริการ payfac ช่วยให้แพลตฟอร์มได้รับประโยชน์ทั้งหมดของการเป็น payfac เอง เช่น การเข้าถึงเทคโนโลยีการชําระเงินจากภายนอกที่ดีที่สุดในระดับ ตลอดจนระบบป้องกันการฉ้อโกง อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนในระดับดีเยี่ยมจากผู้เชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินที่คอยทดสอบ ปรับปรุง และพัฒนาโซลูชัน payfac อย่างต่อเนื่อง โดยที่แพลตฟอร์มไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม

สิ่งที่ต้องมองหาในผู้ให้บริการ payfac

การค้นหาผู้ให้บริการ payfac ที่เหมาะกับความต้องการของธุรกิจคุณและผู้ค้าย่อยที่คุณให้การสนับสนุนมากที่สุดนั้นต้องมีการประเมินฟังก์ชันและการสนับสนุนมากมายหลายด้าน ดังนี้

  • การปฏิบัติตามข้อกําหนดและการรักษาความปลอดภัย
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่า payfac เป็นไปตามข้อกําหนดทางกฎหมาย เช่น PCI-DSS และสามารถมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสําหรับการประมวลผลการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึงควรมองหา payfac ที่มีประวัติด้านการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกําหนดที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีมาตรการต่างๆ เช่น การแปลงเป็นโทเค็น การเข้ารหัส และการตรวจจับการฉ้อโกง

  • ฟังก์ชันการประมวลผลการชําระเงิน
    มองหา payfac ที่มีตัวเลือกในการประมวลผลการชําระเงินหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตและบัตรเดบิต, ACH และ echeck พิจารณาประเภทการชําระเงินที่ธุรกิจของคุณยอมรับในปัจจุบัน รวมถึงการชําระเงินที่คุณวางแผนจะยอมรับในอนาคต

  • การผสานการทํางานที่ปรับแต่งได้
    payfac บางรายมีการผสานการทํางานแบบปรับแต่งได้ที่ช่วยให้ธุรกิจผสานบริการของ payfac เข้ากับระบบที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย วิธีนี้อาจช่วยประหยัดเวลาและลดความซับซ้อนของกระบวนการผสานการทํางาน

  • ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ
    เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและค่าบริการของ payfac หลายๆ ราย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเงินของคุณ มองหา payfac ที่คิดค่าบริการอย่างโปร่งใสและทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับบริการอย่างชัดเจน

  • การสนับสนุนลูกค้า
    ฟังก์ชันทางการเงินที่ payfac จัดการนั้นเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการดําเนินงานของธุรกิจ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสําคัญมากที่จะต้องหา payfac ที่ให้การสนับสนุนลูกค้าในระดับเยี่ยมยอด ซึ่งอาจรวมถึงการสนับสนุนทางโทรศัพท์และอีเมลตลอด 24 ชม. รวมทั้งแหล่งข้อมูลออนไลน์ เช่น คําถามที่พบบ่อยและคู่มือ

  • ความสามารถในการปรับขนาด
    ตรวจสอบให้มั่นใจว่า payfac สามารถปรับขนาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจรวมถึงการรองรับการเพิ่มจํานวนธุรกรรม วิธีการชําระเงินใหม่ๆ และการผสานการทํางานกับระบบใหม่ๆ

  • การรายงานและการวิเคราะห์
    payfac บางรายมีฟีเจอร์การรายงานและการวิเคราะห์ที่ช่วยให้ธุรกิจติดตามธุรกรรม ดูยอดคงเหลือในบัญชี และติดตามการชําระเงินได้ การมีการชําระเงินที่ผสานรวมไว้และบริการทางการเงินอื่นๆ จะมอบข้อมูลจํานวนมากเกี่ยวกับลูกค้าของคุณ ดังนั้นคุณจึงควรหา payfac ที่มีกลไกในตัวสําหรับการสังเคราะห์และการใช้ข้อมูล

โซลูชัน payfac ของ Stripe

โซลูชันบริการ payfac ของ Stripe ออกแบบมาเพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มเพิ่มรายรับโดยการผสานการชําระเงินและบริการทางการเงินอื่นๆ ลงในซอฟต์แวร์เพื่อให้แพลตฟอร์มเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไปพร้อมๆ กับการลดค่าใช้จ่ายในการเตรียมการและเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้ให้สูงสุด นอกจากนี้ โซลูชัน payfac ของ Stripe ยังสามารถมอบบริการทางการเงินสำเร็จรูปอื่นๆ โดยไม่ติดสัญลักษณ์แบรนด์ เช่น การออกบัตรและสินเชื่อ

บริการประมวลผลการชําระเงินที่ครอบคลุมของ Stripe ช่วยให้แพลตฟอร์มรับการชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลายรูปแบบด้วยการผสานการทํางานที่ง่ายดาย บริการนี้ปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อกําหนด และมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง การจัดการการดึงเงินคืน โครงสร้างค่าบริการที่โปร่งใสและยืดหยุ่น ตลอดจนการรายงานและการวิเคราะห์

โซลูชันที่เน้น API ของ Stripe ช่วยให้แพลตฟอร์มออกแบบประสบการณ์ของลูกค้าในอุดมคติได้ในทุกแง่มุม ซึ่งรวมถึงความสามารถดังต่อไปนี้

  • ปรับแต่งประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่หรือใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบ UI สําเร็จรูป
  • กําหนดเวลาการเบิกจ่าย
  • กําหนดค่าบริการและค่าธรรมเนียม
  • จัดการการรับส่งเงินที่ซับซ้อน
  • ผสานการทํางานและรวมการรายงานทางการเงินเข้าด้วยกัน
  • ขยายธุรกิจไปทั่วโลกโดยไม่ต้องเปิดบัญชีธนาคารท้องถิ่นหรือจัดตั้งบริษัทในแต่ละตลาด
  • ขยายบริการนอกเหนือจากการชําระเงินโดยการให้บริการใหม่ๆ แก่ลูกค้า เช่น การชําระเงินที่จุดขาย การออกใบแจ้งหนี้ การออกบัตรชําระเงิน การสมัครใช้บริการ และการให้กู้ยืม
  • มีอำนาจควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าอย่างเต็มที่
  • เพิ่มรายรับสูงสุด
  • สร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

โซลูชัน payfac ของ Stripe ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและข้อด้อยที่ทําให้แพลตฟอร์มลังเลที่จะใช้ payfac บุคคลที่สาม แพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกหลายแห่งใช้โซลูชัน payfac ของเราเพื่อกระตุ้นรายรับจาก SaaS, เปลี่ยนการชําระเงินให้เป็นแหล่งสร้างกําไร และให้บริการทางการเงินใหม่ๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน payfac ของ Stripe ได้ที่นี่ หากต้องการพูดคุยกันว่า Stripe จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจคุณได้อย่างไร โปรดติดต่อทีมของเรา

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Connect

Connect

ใช้งานจริงภายในไม่กี่สัปดาห์แทนที่จะต้องเสียเวลาหลายไตรมาส สร้างธุรกิจการชำระเงินที่สร้างผลกำไร และขยายธุรกิจได้อย่างง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Connect

ดูวิธีกำหนดเส้นทางการชำระเงินระหว่างหลายฝ่าย