ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณอาจจะรู้เป็นอย่างดีว่าการมีภาวะการเงินที่ตึงตัวเป็นอย่างไร: ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์เลยเวลาชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์ ต้องตรวจสอบลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และต้องคอยหวังว่าเงินสดจะเข้ามาก่อนถึงกำหนดการชำระเงิน แต่ความท้าทายอีกอย่างคือการสร้างบัฟเฟอร์ให้เพียงพอสำหรับธุรกิจของคุณ เพื่อรักษาความมั่นคงและเพื่อเติบโต และนั่นก็คือบทบาทของเงินทุนหมุนเวียนระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้คุณมีตัวเลือกมากกว่าการต้องพยายามอยู่รอด และช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้เงินได้อย่างฉลาดและรอบคอบ
ด้านล่างนี้ คุณจะได้เห็นรูปแบบการทำงานจริงของเงินทุนหมุนเวียนระยะยาว ทำไมถึงมีความสำคัญ และวิธีบริหารจัดการให้ดี
เนื้อหาหลักในบทความ
- เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคืออะไร
- เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวแตกต่างจากเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นอย่างไร
- เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวช่วยสนับสนุนด้านกลยุทธ์ธุรกิจอย่างไร
- เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคำนวณอย่างไร
- แหล่งที่มาทั่วไปของเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคืออะไรบ้าง
- ความท้าทายในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคืออะไรบ้าง
- Stripe Capital ช่วยอะไรได้บ้าง
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคืออะไร
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคือเงินจำนวนพื้นฐานที่ธุรกิจต้องมีเพื่อที่จะดำเนินงานต่อไปในระยะยาวได้ เป็นเงินสดจำนวนขั้นต่ำที่คุณมีในธนาคารตลอด สินค้าคงคลังที่คุณมีอยู่บนชั้นวางตลอด และลูกหนี้ที่คุณรอเก็บเงินอยู่ตลอด
มักเรียกว่าเงินทุนหมุนเวียน "ถาวร" ด้วยเหตุผลเหล่านี้ และเป็นสิ่งที่คุณต้องพึ่งพาเพื่อให้ธุรกิจดำเนินอยู่ตลอดเวลาและรองรับการเติบโตในระยะยาว เงินทุนประเภทนี้ช่วยให้การดำเนินงานมีเสถียรภาพ เป็นเงินทุนสำรองในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด และทำให้คุณมีพื้นที่ว่างทางการเงินในการคิดระยะยาว
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวแตกต่างจากเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นอย่างไร
เงินทุนหมุนเวียนระยะ ยาวและเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นเป็นเงินทุนสำหรับการดำเนินงานทั้งคู่ แต่ทั้งสองทำงานบนลำดับเวลาที่แตกต่างกัน แก้ปัญหาไม่เหมือนกัน และมาจากแหล่งเงินทุนที่ไม่เหมือนกัน
เงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น:
- ครอบคลุมถึงความต้องการเฉพาะหน้า เช่น การจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ การจัดการบัญชีเงินเดือน และการจัดการกระแสเงินสดในแต่ละวัน
- ผันผวนตามฤดูกาล อุปสงค์พุ่งสูง หรือเหตุการณ์ผิดพลาดในการดำเนินงาน
- ได้รับเงินทุนจากเครื่องมือระยะสั้น เช่น วงเงินสินเชื่อหรือสินเชื่อระยะสั้น
- สามารถจัดการได้โดยการเร่งการเรียกเก็บเงิน เพิ่มระยะเวลาการชำระหนี้ และปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาว:
- รองรับการเคลื่อนไหวในภาพรวม เช่น การขยายธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวงจรการขายระยะยาว
- ทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ทางการเงินที่ช่วยให้คุณมีเสถียรภาพในช่วงภาวะถดถอยหรือความล่าช้า
- ได้รับเงินทุนจากแหล่งระยะยาว เช่น ผลกำไรที่ได้รับ กรรมสิทธิ์หุ้น หรือเงินกู้ยืมระยะหลายปี
การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น คุณต้องใช้เงินทุนทั้งสองประเภท โดยประเภทหนึ่งไว้ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น อีกประเภทไว้ช่วยให้คุณสร้างธุรกิจที่เติบโตและยั่งยืน
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวช่วยสนับสนุนด้านกลยุทธ์ธุรกิจอย่างไร
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินเพื่อให้ดำเนินการตามแผนระยะยาวได้ เมื่อคุณมีเงินทุนเพียงพอ คุณจะสามารถเน้นไปที่การสร้างแทนที่จะพยายามอยู่รอดได้ เรามาดูกันว่าเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อย่างไร
เป็นโครงการริเริ่มเพื่อขยายการเติบโตของเงินทุน
ไม่ว่าคุณจะกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ เข้าตลาดใหม่ หรือขยายขอบเขตการดำเนินงาน คุณก็ต้องมีเงินทุนล่วงหน้า เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวจะช่วยให้คุณมีโอกาสที่จะลงทุนในวันนี้ได้โดยไม่สร้างความเสี่ยงให้การดำเนินงานในวันข้างหน้า
การสร้างให้มีความยืดหยุ่น
ตลาดผันผวน ลูกค้าชำระเงินล่าช้า และอุปกรณ์ชำรุด การมีสถานะเงินทุนหมุนเวียนที่แข็งแกร่งจะช่วยให้คุณไม่จะเป็นต้องทำลายกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อรับมือกับปัญหาระยะสั้นได้ และยังช่วยให้ไม่ต้องวุ่นวายเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
เมื่อไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่องตลอดเวลา คุณก็จะสามารถกำหนดจังหวะการใช้แผนการลงทุนครั้งใหญ่เป็นประโยชน์แก่คุณได้ คุณสามารถเปิดตัวเมื่อสภาพตลาดเอื้ออำนวย สามารถต่อรองจากตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า หรือลงทุนเพื่อสร้างความภักดีจากลูกค้ามูลค่าสูง เมื่อคุณมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่อง คุณมักถูกบังคับให้ตัดสินเชิงตอบสนองและทำข้อแลกเปลี่ยนในระยะสั้น
รองรับการเดิมพันในระยะยาว
กลยุทธ์บางอย่างต้องใช้เวลาในการพัฒนา ซึ่งรวมถึงการวิจัยและพัฒนา (R&D) โครงสร้างพื้นฐาน หรือการลงทุนในแบรนด์ คุณจะไม่ลงมือทำโครงการที่ต้องใช้เวลานานเหล่านี้ได้หากยังไม่มีเงินทุนมั่นคง เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวช่วยให้คุณสามารถต่อยอดไอเดียที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลตอบแทนได้
หลีกเลี่ยงการติดอยู่ในวงจรการรีไฟแนนซ์
หากคุณนำหนี้ระยะสั้นมาใช้เพื่อครอบคลุมความต้องการถาวร คุณอาจต้องรีไฟแนนซ์ซ้ำไปซ้ำมา กลยุทธ์แบบนี้อย่างดีสุดก็แค่ทำให้เสียสมาธิ และอย่างแย่สุดคือทำให้มีความเสี่ยง เมื่อคุณนำเงินทุนระยะยาวมาใช้กับความต้องการระยะยาว จะทำให้คุณมีความมั่นคงและยั่งยืน
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคำนวณอย่างไร
สูตรเงินทุนหมุนเวียนพื้นฐานคือ:
เงินทุนหมุนเวียน = สินทรัพย์หมุนเวียน – หนี้สินหมุนเวียน
สูตรจะช่วยบอกว่าคุณต้องมีสภาพคล่องมากน้อยเท่าใดที่จะครอบคลุมภาระผูกพันระยะสั้นได้ แต่ถ้าคุณอยากรู้ว่าเงินทุนหมุนเวียนของคุณซึ่งเป็นแบบที่จะไม่หายไปในไตรมาสหน้านั้นมาจากแหล่งเงินระยะยาวมากน้อยเท่าใด คุณก็ต้องมองด้วยมุมมองที่ต่างออกไป
ใช้สูตรนี้เพื่อคำนวณเงินทุนหมุนเวียนระยะยาว:
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาว = สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน – หนี้สินไม่หมุนเวียน
สูตรนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพโครงสร้างเงินทุนของธุรกิจคุณได้ หากสินทรัพย์ระยะยาวของคุณ (เช่น อสังหาริมทรัพย์หรืออุปกรณ์) ได้รับการครอบคลุมด้วยหนี้สินระยะยาว (เช่น เงินกู้ระยะหลายปี) เงินทุนเพิ่มเติมก็จะไหลเข้าเป็นส่วนเงินทุนหมุนเวียน กล่าวคือ สูตรนี้ช่วยบอกได้ว่าเงินทุนหมุนเวียนของคุณจำนวนเท่าไรที่หนุนด้วยเงินมั่นคงระยะยาว ไม่ใช่หนี้สินระยะสั้นหรือจังหวะที่เกิดปัญหาพอดี การคำนวณนี้ช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะระดมเงินทุนแบบถาวรได้ เช่น สินค้าคงคลังหรือลูกหนี้การค้า โดยใช้เงินที่ไม่ต้องชำระในเร็วๆ นี้
ไม่ใช่ทุกบริษัทที่จะทำการคำนวณนี้อย่างชัดเจน แต่ผู้ประกอบการที่ชาญฉลาดจะรู้ว่าความต้องการเงินทุนหมุนเวียนพื้นฐานของพวกเขาคืออะไร เพื่อให้แน่ใจว่าความต้องการเหล่านั้นได้รับการครอบคลุม
แหล่งที่มาทั่วไปของเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคืออะไรบ้าง
เงินทุนหมุนเวียนระยะยาวต้องใช้เงินทุนระยะยาว นั่นหมายถึงเงินที่ไม่จำเป็นต้องรีบชำระคืนในไตรมาสหน้า ไม่หายไปแม้รายได้จะลดลง และยังสามารถช่วยหนุนธุรกิจให้ขยายตัวต่อได้อย่างมั่นคง แหล่งเงินทุนหลักได้แก่
ผลกำไรที่ได้รับ
แหล่งเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวที่ยั่งยืนที่สุดคือเงินของคุณเอง นั่นก็คือ กำไร การนำผลกำไรกลับมาลงทุนต่อในธุรกิจ จะช่วยสร้างรากฐานกรรมสิทธิ์หุ้นของคุณ พร้อมทั้งเสริมความแข็งแกร่งให้กับเงินทุนหมุนเวียนได้โดยไม่ต้องสร้างภาระผูกพันใหม่ เมื่อเวลาผ่านไป องค์ประกอบเหล่านี้จะสะสมกลายเป็นรากฐานที่มั่นคงและเชื่อถือได้สำหรับการเติบโตและความมั่นคงของธุรกิจ
ทุนจดทะเบียน
การระดมทุนจากภายนอกผ่านนักลงทุนอิสระหรือผ่านตลาดสาธารณะ จะช่วยเพิ่มเงินสดได้โดยไม่เพิ่มหนี้สิน กรรมสิทธิ์หุ้นเป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งพบได้บ่อยในสตาร์ทอัพหรือธุรกิจที่ต้องมีระยะเวลาคืนทุนยาว ข้อเสียที่ต้องแลกมาก็คือการมีสัดส่วนหุ้นน้อยลง แต่คุณจะได้ประโยชน์จากความยืดหยุ่น
หนี้ระยะยาว
เงินกู้ระยะยาวหรือพันธบัตรที่มีกำหนดการการชำระคืนหลายปี ถือเป็นเครื่องมือหลักในการจัดหาเงินทุนที่จะสนองความต้องการเงินทุนหมุนเวียนถาวรได้ เพราะจะช่วยเพิ่มสินทรัพย์หมุนเวียนได้โดยไม่สร้างหนี้สินหมุนเวียน ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจมากขึ้นทั้งในเอกสารและในทางปฏิบัติจริง
เครดิตการค้าและเงินคงค้าง
เงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดไม่จำเป็นต้องมาจากเงินกู้หรือกรรมสิทธิ์หุ้น ตัวอย่างเช่น หากผู้ขายของคุณเสนอข้อกำหนด 60 วันให้คุณ นั่นก็เปรียบเสมือนการจัดหาเงินทุนระยะสั้นที่คุณสามารถพึ่งพาได้อย่างสม่ำเสมอ เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณก็สามารถเข้าถึงเงินทุนที่ไม่เป็นทางการประเภทนี้ได้มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นเงินทุนที่ผสานเข้ากับจังหวะการดำเนินงานของคุณนั่นเอง
ความท้าทายในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวคืออะไรบ้าง
การวางแผนสำหรับเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวฟังดูเหมือนจะตรงไปตรงมา คือคุณเพียงแค่หาว่าต้องมีเงินทุนหมุนเวียนถาวรเท่าไร แล้วระดมเงินทุนที่จะไม่หายไปภายในไตรมาสหน้า แต่ความจริงแล้ว คุณต้องทำการตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ท่ามกลางสภาวะที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และยังต้องประสานงานกับหลายฝ่ายในธุรกิจพร้อมกันไปด้วย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เองที่ทำให้ยุ่งยาก
การเข้าถึงเงินทุน
ธนาคารอาจไม่ค่อยเต็มใจปล่อยเงินกู้หลายปีให้กับธุรกิจขนาดเล็ก หรือองค์กรที่ไม่มีประวัติเครดิตยาวนาน นักลงทุนมักต้องการเห็นผลลัพธ์ก่อนที่จะลงทุน และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนใหญ่ก็มักมีกระบวนการเอกสารที่ใช้เวลาลากนานหลายเดือน
การวางแผนเพื่อรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
ถึงคุณจะสร้างแบบจำลองทางการเงินที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกได้ แต่ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าตอนไหนซัพพลายเออร์จะล้มกิจการ ค่าขนส่งจะพุ่งขึ้นเป็นสองเท่า หรือว่าลูกค้ารายใหญ่จะเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีกหกเดือน การวางแผนเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวจึงต้องอาศัยการคาดการณ์ในระยะยาว ซึ่งไม่มีทางที่จะรับรองได้ ความท้าทายคือการวางแผนด้วยมุมมองที่มีพื้นฐานความเป็นจริงมากพอ และคิดวิธีเผื่อไว้มากพอที่จะรับมือกับปัญหาได้ โดยไม่ไปทำลายแผนงบประมาณของคุณ
หาว่าต้องถือเงินทุนหมุนเวียนไว้มากเท่าใด
หากคุณมีเงินทุนหมุนเวียนไม่มากพอ คุณจะอยู่ในภาวะตึงเครียดตลอดเวลา คือต้องคอยหมุนจ่ายเงิน เลื่อนคำสั่งซื้อ และรับสายการตามทวงเครดิต แต่ถ้าถือไว้เป็นจำนวนมากเกินไป จะกลายเป็นว่าคุณกักเงินสดไว้ทั้งที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กว่านี้ได้ การหาจุดสมดุลจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะเปลี่ยนไปตามการเติบโตของธุรกิจ และขึ้นอยู่กับส่วนต่างกำไร รอบการชำระเงิน และมาตรฐานของอุตสาหกรรมของคุณด้วย
การจับคู่แหล่งเงินทุนกับการใช้งานไม่ตรงกัน
ข้อผิดพลาดที่พบเห็นได้บ่อยก็คือการใช้เงินระยะสั้น เช่น วงเงินสินเชื่อหรือเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับความต้องการในระยะยาว บางทีคุณอาจใช้วงเงินสินเชื่อเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสินค้าคงคลังจำนวนมาก จึงทำให้ตอนนี้คุณต้องคอยต่ออายุเครดิตนั้นทุกๆ สองสามเดือน ในขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะเกิดขึ้นจริง ความไม่ตรงกันนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงให้มีการรีไฟแนนซ์ หากเครดิตตึงตัวหรือการเงินของคุณลดลง คุณอาจไม่สามารถต่ออายุได้
การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงภายนอก
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ตลาดสินเชื่อตึงตัว ซัพพลายเชนติดขัด และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถเพิ่มความต้องการด้านเงินทุนหมุนเวียนของคุณในชั่วข้ามคืนได้หมด เมื่อเป็นเช่นนั้น เงินทุนสำรองที่คุณคิดว่าคุณมีอยู่อาจไม่เพียงพอ แม้ว่าคุณจะทำทุกอย่าง "ถูกต้อง" แล้ว แต่ตลาดก็สามารถเปลี่ยนได้กลางคัน ทางที่ดีที่สุดที่คุณทำได้คือสร้างความยืดหยุ่น ระดมเงินทุนให้เพียงพอตั้งแต่เนิ่นๆ และหลีกเลี่ยงการพึ่งพาแหล่งเดียวมากเกินไป
ทำให้ทีมต่างๆ ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน
เงินทุนหมุนเวียนจะอยู่กับทุกทีมในองค์กร ฝ่ายขายจะกำหนดข้อกำหนดการชำระเงิน ฝ่ายปฏิบัติการจะดูแลสินค้าคงคลัง และฝ่ายการเงินจัดจะจัดการเงินสด ถ้าภาคส่วนต่างๆ เหล่านี้ไม่ทำงานร่วมกัน การบริหารเงินทุนหมุนเวียนก็อาจกระจัดกระจายได้อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งมักจะเกิดจากปัญหาด้านการสื่อสาร และถ้าจะแก้ไขได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายจากทั่วทั้งธุรกิจ
Stripe Capital ช่วยอะไรได้บ้าง
Stripe Capital มอบโซลูชันด้านการจัดหาเงินทุนตามรายรับเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นต่อการเติบโต
Capital สามารถช่วยคุณในเรื่องต่างๆ ได้ดังนี้
- เข้าถึงเงินทุนเพื่อการเติบโตได้เร็วขึ้น: รับการอนุมัติเงินกู้หรือการจ่ายเงินสดล่วงหน้าให้กับผู้ค้า (MCA) ในไม่กี่นาที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการสมัครที่ยาวนานและข้อกำหนดหลักประกันของเงินกู้ธนาคารแบบดั้งเดิม
- ปรับการจัดหาเงินทุนให้สอดคล้องกับรายรับของคุณ: โครงสร้างตามรายรับของ Capital จะให้คุณจ่ายเงินเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่จากยอดขายประจำวันของคุณ ดังนั้นการชำระเงินจึงปรับตามผลการดำเนินงานของธุรกิจของคุณ หากยอดเงินที่คุณจ่ายผ่านการขายไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำที่ต้องชำระในแต่ละรอบ Capital จะหักเงินส่วนที่เหลือจากบัญชีธนาคารของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดรอบบิล
- ขยายธุรกิจด้วยความมั่นใจ: มอบเงินทุนสำหรับโครงการริเริ่มเพื่อการเติบโต เช่น แคมเปญการตลาด การจ้างงานใหม่ การขยายสินค้าคงคลัง และอื่นๆ โดยไม่ทำให้มูลค่าหุ้นหรือสินทรัพย์ส่วนตัวของคุณลดลง
- ใช้ความเชี่ยวชาญของ Stripe: Capital ให้บริการโซลูชันทางการเงินที่คุณปรับแต่งได้ โดยใช้ความเชี่ยวชาญอันลึกซึ้งและข้อมูลการชำระเงินของ Stripe
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Capital จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ