ธุรกิจความงามจะช่วยให้คุณช่องทางแสดงความสร้างสรรค์และสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น ภาคธุรกิจนี้ยังมีศักยภาพศักยภาพที่จะเติบโตอีกด้วย โดยตลาดขนตาปลอมทั่วโลกมีมูลค่า 1.60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะมีมูลค่า 2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2031
สําหรับธุรกิจประเภทนี้ คุณต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม สภาพแวดล้อมการทํางานที่สะอาด และความเข้าใจในกฎระเบียบท้องถิ่น งานนี้เป็นงานสร้างสรรค์ที่ผสานศิลปะเข้ากับการดูแลลูกค้า และหากดําเนินการด้วยแผนการที่คิดไว้อย่างรอบคอบก็สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งรายได้ที่แข็งแกร่งได้
ด้านล่างนี้เราจะอธิบายวิธีสร้างธุรกิจทำขนตาตั้งแต่เริ่มต้น
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- ทําไมจึงต้องเริ่มต้นธุรกิจทำขนตา
- คุณต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้างเพื่อเริ่มต้นธุรกิจทำขนตา
- ข้อกําหนดทางกฎหมายสําหรับธุรกิจทำขนตามีอะไรบ้าง
- คุณจะหาลูกค้าให้กับธุรกิจทำขนตาของคุณอย่างไร
- วิธีการรับชำระเงินที่ดีที่สุดมีอะไรบ้าง
- คุณจะกําหนดราคาค่าบริการการทำขนตาอย่างไร
- ธุรกิจทำขนตามีความท้าทายอะไรบ้าง และคุณจะเอาชนะความท้าทายเหล่านั้นอย่างไร
ทําไมจึงต้องเริ่มต้นธุรกิจทำขนตา
อุตสาหกรรมความงามปฏิวัติตัวเองอย่างต่อเนื่องและขนตาปลอมก็เป็นที่นิยมทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น มีการทำขนตา 129,000 ครั้งโดยประมาณในแต่ละสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร ทำให้บริการนี้เป็นบริการซาลอนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศ ประโยชน์สําหรับธุรกิจและลูกค้ามีดังนี้
การสร้างความมั่นใจที่ยาวนาน:การต่อขนตาช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดูดีและมั่นใจมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลากับการแต่งหน้าเป็นเวลานานเป็นประจําทุกวัน และยังให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานหลายสัปดาห์
ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า: ธุรกิจทำขนตาช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์แบบเป็นส่วนตัวกับลูกค้า การทํางานกับขนตาของคนอื่นมักเป็นประสบการณ์ที่ใกล้ชิดแบบตัวต่อตัว คุณจะมีโอกาสได้เรียนรู้ความชอบและกิจวัตรประจําวันของบุคคลนั้น รวมถึงวิธีการที่บุคคลนั้นต้องการนำเสนอตนเอง การทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกพึงพอใจได้
ค่าใช้จ่ายเริ่มแรกต่ำ: ธุรกิจทำขนตามีต้นทุนเริ่มต้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับธุรกิจด้านความงามอื่นๆ ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานเฉลี่ยของธุรกิจทำขนตาอยู่ระหว่าง 3,100 ถึง 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าคุณจะต้องทําตามขั้นตอนการขอใบอนุญาตและจ่ายค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสําหรับวัสดุอุปกรณ์ แต่คุณไม่จําเป็นต้องเช่าหน้าร้านขนาดใหญ่ตั้งแต่วันแรก ช่างทำขนตาส่วนใหญ่เริ่มธุรกิจในสตูดิโอที่บ้าน หรือเช่าห้องในซาลอนหรือสปา
ความยืดหยุ่น: คุณมีความยืดหยุ่นในการกำหนดโครงสร้างบริการของคุณ ช่างทำขนตาบางคนมีความเชี่ยวชาญในการทำขนตาแบบธรรมชาติ ในขณะที่อีกหลายคนให้บริการทำขนตาแบบเน้นความโดดเด่น คุณสามารถเพิ่มบริการที่เกี่ยวข้อง (เช่น การทําคิ้ว การแว็กซ์) ในภายหลัง การเพิ่มฐานลูกค้าที่ภักดีจะเปิดโอกาสให้ได้ทดลองและการขยายธุรกิจ ถ้าคุณมีไฟ ใส่ใจรายละเอียด และอยากจะช่วยให้ผู้อื่นดูดีและรู้สึกดี ธุรกิจทำขนตาน่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะและทำให้คุณพึงพอใจ
คุณต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้างเพื่อเริ่มต้นธุรกิจทำขนตา
ชุดเครื่องมือของช่างทำขนตาไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อต่างหากที่เป็นสิ่งสําคัญ คุณต้องใช้สิ่งเหล่านี้หากต้องการทํางานนี้ให้ดี
ขนตาปลอม: สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจหลักของธุรกิจทำขนตา ขนตามีรูปแบบมากมายทั้งความยาว ความงอน และความหนา คุณควรมีตัวเลือกที่หลากหลาย เพื่อการปรับแต่งชุดขนตาให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ลูกค้าบางรายอาจอยากได้ขนตาแบบบางเบา ในขณะที่ลูกค้ารายอื่นอาจอยากได้แบบที่โดดเด่น ขนตาสังเคราะห์เป็นสิ่งที่ใช้ทั่วไปเนื่องจากความแน่นอนและราคาที่ต่ำกว่า แต่ก็ยังมีตัวเลือกที่เป็นขนมิงก์จริงหรือเส้นไหมด้วย
กาวและน้ำยาถอดขนตาปลอม: กาวเป็นวัสดุที่ยึดขนตาเข้าที่ ดังนั้นจึงควรเลือกตัวเลือกที่มีชื่อเสียงว่าทนทาน กลิ่นไม่แรง และระคายเคืองน้อยที่สุด กาวที่เหมาะสมสามารถใช้ใกล้ดวงตาได้อย่างปลอดภัยและติดทนทานหลายสัปดาห์ นอกจากนี้คุณยังต้องใช้น้ำยาถอดขนตาที่ละลายกาวเพื่อให้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดหรือถอดขนตาปลอมออกได้
แหนบและเครื่องมือติด: แหนบที่แม่นยําช่วยให้คุณแยกขนตาธรรมชาติ วางตำแหน่ง และติดขนตาปลอมได้ดี เตรียมแหนบรูปทรงต่างๆ อย่างน้อย 2 หรือ 3 คู่ รวมถึงแบบโค้งสําหรับคนที่ชอบขนตาตกหนา และแบบตรงสําหรับการติดแบบคลาสสิก
แผ่นรองใต้ตาและเทป: แผ่นเหล่านี้ใช้วางใต้ตาเพื่อเก็บขนตาล่างและปกป้องผิว เทปที่อ่อนโยนสามารถช่วยจัดการขนตาที่คุณอาจรบกวนการต่อขนตา
วัสดุอุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย: ความสะอาดเป็นสิ่งที่ต้องมีโดยไม่มีข้อต่อรอง การรักษาสุขอนามัยที่ดีจะช่วยให้คุณปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและปกป้องลูกค้าได้ สต็อกน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในอุตสาหกรรมไว้ คุณต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดเพื่อเช็ดแหนบและพื้นที่ทำงาน รวมถึงวัสดุแบบใช้แล้วทิ้ง เช่น สําลีก้านและแปรงปัดขนตา
แสงและแว่นขยาย: แสงที่เพียงพอช่วยป้องกันอาการสายตาล้าและช่วยให้คุณติดขนตาได้อย่างถูกต้อง ไฟวงและโคมไฟที่ปรับความสว่างได้เป็นที่นิยมในหมู่ช่างทำขนตา บางคนพบว่าแว่นขยายหรือแว่นตาเฉพาะทางช่วยได้ โดเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ทํางานที่ลงรายละเอียดมากขึ้น
ที่นั่งที่นั่งสบายและเตียงหรือเก้าอี้: ลูกค้าอาจต้องอยู่กับคุณนานถึง 2 ชั่วโมงในการต่อขนตาเพื่อที่จะทำให้เสร็จครบชุด โต๊ะนวดหรือเก้าอี้เอนช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสบาย และเก้าอี้หรือสตูลแบบปรับได้จะช่วยให้คุณมีท่าทางที่ถูกต้องขณะทำงาน
สื่อวัสดุสำหรับสร้างแบรนด์: อย่างน้อยๆ ควรพิจารณาจัดเตรียมนามบัตรหรือโปสการ์ดขนาดเล็กที่ให้คําแนะนําเกี่ยวกับการดูแลหลังทำขนตาเอาไว้ การจัดทำสื่อสร้างแบรนด์สองสามอย่างเอาไว้ (เช่น ชื่อบัญชี Instagram แบบเรียบง่ายวางไว้ใกล้พื้นที่ทำงาน) จะช่วยให้คุณเป็นที่จดจำได้
สักพักคุณจะทราบเองว่ากาว ขนตา และแสงไฟประเภทไหนที่คุณชอบมากที่สุด หากคุณวางแผนที่จะขยายธุรกิจ คุณอาจเพิ่มผลิตภัณฑ์ขั้นสูง เช่น ขนตาสีและขนตาดกหนาเป็นแพแบบเฉพาะทาง ฝึกฝนจากพื้นฐานจนกว่าคุณจะสามารถนำเสนอผลงานที่สม่ำเสมอแบบที่ลูกค้าชื่นชอบ
ข้อกําหนดทางกฎหมายสําหรับธุรกิจทำขนตามีอะไรบ้าง
คุณอาจแทบอบใจไม่ไหวที่จะรับลูกค้าทันทีที่คุณเรียนรู้เทคนิคเป็นอย่างดีแล้ว แต่อุตสาหกรรมความงามมีกฎที่คุณต้องปฏิบัติตาม รัฐบาลท้องถิ่นของคุณอาจมีข้อกําหนดเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต การรับรอง และระเบียบการรักษาความปลอดภัย ซึ่งแต่ละภูมิภาคอาจแตกต่างกันไป โปรดตรวจสอบข้อกําหนดในท้องถิ่นของคุณ โดยทั่วไปข้อกําหนดมีดังนี้
การจดทะเบียนธุรกิจ: เลือกโครงสร้างธุรกิจที่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นกิจการเจ้าของคนเดียวบริษัท หรือ บริษัทจํากัด (LLC) ซึ่งมีข้อกําหนดและภาระผูกพันทางภาษีที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเลือก ปรึกษานักบัญชีหรือทนายความหากต้องการคําแนะนําเพิ่มเติม
ใบอนุญาตด้านศาสตร์เครื่องสำอางหรือความงาม บางภูมิภาคกำหนดว่าต้องมีใบอนุญาตการทำงานต่อขนตา ตรวจสอบว่าหน่วยงานในท้องถิ่นของคุณกำหนดว่าต้องมีใบอนุญาตด้านความงามหรือศาสตร์ด้านเครื่องสำอาง หรือใบอนุญาตผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อขนตาหรือไม่ บางรัฐอาจกําหนดให้คุณให้บริการเฉพาะในสถานประกอบการที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
ใบอนุญาตเฉพาะเกี่ยวกับการทำขนตา: แม้ว่าภูมิภาคของคุณจะไม่กําหนดให้ต้องมีใบอนุญาตเฉพาะเกี่ยวกับการทำขนตา แต่การผ่านหลักสูตรการต่อขนตาก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพื่อที่คุณจะได้สร้างความน่าเชื่อถือ และเรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่มีระเบียบแบบแผน
แนวทางของหน่วยงานด้านสุขภาพ: รัฐบาลหลายแห่งมีข้อกําหนดด้านการสุขาภิบาลและความปลอดภัยสําหรับร้านซาลอน หากคุณทำธุรกิจต่อขนตาที่บ้าน เขตอํานาจศาลบางแห่งอาจกําหนดให้คุณต้องประกอบกิจการในพื้นที่ที่กำหนดไว้โดยมีทางเข้าออกแยกต่างหาก
ประกันภัย: การทํางานใกล้กับตามีความเสี่ยง ประกันภัยความรับผิดช่วยป้องกันคุณจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ กรมธรรม์ประกันภัยที่มั่นคงจะช่วยปกป้องคุณและธุรกิจของคุณ
การทําตามขั้นตอนการออกใบอนุญาตและขั้นตอนทางกฎหมายแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสําคัญกับการดําเนินงานอย่างรับผิดชอบและมั่นใจในการรับลูกค้า โดยลูกค้าจะชื่นชมความมุ่งมั่นในการปฏิบัติอย่างถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณคุณทํางานกับส่วนที่ละเอียดอ่อนของร่างกาย
คุณจะหาลูกค้าให้กับธุรกิจทำขนตาของคุณอย่างไร
หากต้องการขยายธุรกิจทำขนตาของคุณ คุณจะต้องสร้างฐานลูกค้า โดยต้องมีการสร้างการมองเห็นทางออนไลน์ การสร้างเครือข่าย และสร้างความสนใจผ่านการบอกต่อ บริการทำขนตาเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ การอวดผลงานจึงทำได้ง่ายกว่างานในสาขาอื่น ตัวอย่างวิธีการค้นหาลูกค้ามีดังนี้
Instagram และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ: บริการด้านความงามต้องอาศัยรูปภาพเป็นอย่างมากเพื่อโปรโมตตนเองบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสําคัญกว่ากลยุทธ์โซเชียลมีเดียที่ซับซ้อน ดังนั้นคุณควรโพสต์สัปดาห์ละสองสามครั้งโดยใช้แท็กที่เกี่ยวข้องเพื่อดึงดูดผู้ใช้ในพื้นที่ คุณสามารถอวดเทคนิคของคุณเพื่อเรียกความสนใจโดยใช้ภาพก่อนและหลังทำ และวิดีโอสั้นๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถแชร์ภาพเบื้องหลังในสถานที่ทำงาน หรือพูดคุยเกี่ยวกับเคล็ดลับการดูแลหลังรับบริการได้ด้วย โปรดตรวจสอบว่าข้อมูลติดต่อของคุณ (เช่น ที่อยู่อีเมล เว็บไซต์จอง หมายเลขโทรศัพท์) มองเห็นได้ชัดเจน
พันธมิตรในพื้นที่: การสร้างสัมพันธ์กับซาลอนหรือสปาในบริเวณใกล้เคียงอาจช่วยให้มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น ถ้าร้านทําผมไม่มีช่างทําขนตา ร้านนั้นอาจแนะนำลูกค้าให้คุณ ช่างทำขนตาบางรายทำข้อตกลงกับช่างทำผมหรือช่างทำเล็บเพื่อฝากนามบัตรไว้หรือให้ส่วนลดกับลูกค้าที่ได้รับการแนะนำมา คุณอาจร่วมมือกับร้านเสื้อผ้าบูติกหรือช่างแต่งหน้าเพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน การแนะนำแบบพบหน้ากันบางครั้งก็ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยาวนานได้
การแนะนำแบบปากต่อปาก: ลูกค้าที่ตื่นเต้นกับขนตาที่ตัวเองทำมักเป็นสื่อโฆษณาที่ดีที่สุด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการสร้างประสบการณ์ที่สร้างความสบายใจและประทับใจตั้งแต่ต้นจนจดเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณดูแลร้านให้เป็นระเบียบ ทักทายลูกค้าอย่างอบอุ่น และใส่ใจกับรูปแบบความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ลูกค้าก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะบอกต่อเพื่อน ท่าทีที่เป็นมิตร เช่น การให้ส่วนลดกับลูกค้าที่ภักดีหรือของสมนาคุณเล็กๆ น้อยๆ (เช่น แปรงปัดขนตาหรือบัตรแนะนำการดูแลหลังรับบริการ) ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีคุณค่าได้
กิจกรรมในชุมชน: ช่างทำขนตาบางรายมีการตั้งโต๊ะดิสเพลย์ในตลาดท้องถิ่นหรืองานโชว์ด้านความงาม การให้คําปรึกษาสั้นๆ หรือการสาธิตการต่อขนตาเล็กน้อยจะช่วยให้ลูกค้าเป้าหมายมีโอกาสได้เห็นความเชี่ยวชาญของคุณด้วยตัวเอง หากคุณทราบว่ามีการจัดงานเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหรือการดูแลสุขภาพ ก็ควรพิจารณาเข้าร่วม เพิ่มภาพเล็กน้อย เช่น อัลบั้มภาพผลงานของคุณเพื่อดึงดูดความสนใจของคนที่เดินผ่าน
รีวิวออนไลน์: รีวิวห้าดาวเพียงครั้งเดียวก็สามารถโน้มน้าวให้คนมาลองใช้บริการของคุณได้ กระตุ้นให้ลูกค้าที่ชอบบริการของคุณเขียนความคิดเห็นใน Google หรือโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าคุณจะทํางานที่ซาลอนโดยเฉพาะหรือสตูดิโอในบ้าน ความคิดเห็นในเชิงบวกจะช่วยให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ในพื้นที่
วิธีการรับชำระเงินที่ดีที่สุดมีอะไรบ้าง
ไม่ว่าจะทําธุรกิจสปาหรูหรือสตูดิโอในบ้านที่อบอุ่น คุณควรมอบประสบการณ์การชําระเงินที่ทันสมัยและสะดวกสบายกับลูกค้า ลูกค้ามักชอบความสะดวกและรวดเร็วในขั้นตอนการชําระเงิน และการมอบทางเลือกในการชําระเงินที่ง่ายจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจองรับบริการซ้ำได้ การชําระเงินด้วยบัตรเป็นสิ่งที่จําเป็น การรับชำระด้วยเงินสดก็เป็นเรื่องที่ดีถ้าคุณสะดวกที่จะจัดการกับเงินสด ระบบบันทึกการขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้คุณรับชำระด้วยบัตรที่หน้าร้านผ่านเครื่องอ่านบัตรขนาดกะทัดรัดที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณได้ ซึ่งคุณสามารถพกพาเครื่องอ่านบัตรติดตัวไปได้หากจัดกิจกรรมในงานอีเวนต์ต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจทำขนตาจํานวนมากยังใช้ Stripe เพื่อประสบการณ์การชําระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัย ลูกค้าสามารถชําระเงินผ่านบัตรหรือกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยคุณสามารถสร้างและส่งลิงก์ชําระเงินให้ลูกค้าล่วงหน้าได้ หากมีเว็บไซต์ คุณอาจจะเชื่อมต่อการทํางานกับ Stripe เพื่อให้ลูกค้าชําระเงินล่วงหน้าหรือจ่ายค่ามัดจำในตอนที่จองก็ได้
คุณจะกําหนดราคาค่าบริการการทำขนตาอย่างไร
คุณควรคิดค่าบริการโดยคำนึงถึงค่าวัสดุอุปกรณ์ เวลาที่ใช้ในการติดขนตาครบชุด และราคามาตรฐานของบริการทำขนตาในภูมิภาคของคุณ หากคุณพบว่าตารางเวลาของคุณมีการจองเข้ามาเต็มและมีคิวรอ นั่นก็เป็นสัญญาณว่าคุณอาจปรับราคาขึ้นได้ ปรับราคาค่าบริการถ้าคุณมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สื่อสารการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กับลูกค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ลูกค้ามักเข้าใจการเปลี่ยนแปลงราคาหากคุณให้บริการด้วยคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ
วิธีตั้งราคาเมื่อเริ่มต้นธุรกิจมีดังนี้
พิจารณาค่าจ้างรายชั่วโมงของคุณ: วิธีง่ายๆ ในการตั้งราคาคือการพิจารณาว่าเวลาต่อชั่วโมงของคุณมีค่าเท่าใด จากนั้น ให้บวกค่าวัสดุอุปกรณ์ในการทำขนตาแต่ละชุด หากการติดชุดขนตาแบบคลาสสิกใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยมีค่าวัสดุอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ให้กําหนดราคาที่ครอบคลุมเวลาและค่าใช้จ่ายของคุณ
คิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ: ค่าบริการของคุณควรครอบคลุมค่าเช่า ค่าประกันภัย ค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดด้วย แม้แต่ค่าใช้จ่ายเล็กน้อยอย่างเช่นแปรงปัดขนตาและแผ่นรองใต้ตาก็มีผลในระยะยาว
ศึกษาคู่แข่งในพื้นที่: ตรวจสอบอัตราค่าบริการของช่างทำขนตาในพื้นที่ของคุณ กําหนดอัตราของคุณในแบบที่เหมาะสมกับคุณภาพและประสบการณ์ของคุณ หากคุณเป็นช่างหน้าใหม่ คุณอาจเริ่มจากราคาที่ต่ำกว่าเล็กน้อย แล้วปรับราคาขึ้นเมื่อคุณมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
นำเสนอบริการแบบแบ่งระดับ: ช่างทำขนตาหลายคนทำแพ็กเกจ เช่น "ชุดขนตาแบบคลาสสิก" "ชุดขนตาเพิ่มความหนา" และแบบ "หรูหราอลังการ" แต่ละระดับอาจมีราคาที่แตกต่างกันตามความซับซ้อน ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีตัวเลือก
คิดราคาการเติมขนตา: การเติมขนตาเป็นบริการส่วนที่ใหญ่ของคุณ เมื่อลูกค้ากลับมาเพื่อรับการบํารุงรักษา จะมีช่วงราคาเท่าไหร่ และราคาจะเปลี่ยนไปอย่างไรหากรอนานกว่าที่แนะนํา ทำนโยบายการเติมขนตาที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าทราบว่าบริการจะเป็นอย่างไร
ธุรกิจทำขนตามีความท้าทายอะไรบ้าง และคุณจะเอาชนะความท้าทายเหล่านั้นอย่างไร
การเริ่มต้นธุรกิจทำขนตาไม่ได้ทำได้ง่ายเหมือนการแจกนามบัตรแล้วรอให้ลูกค้าเข้ามา อุปสรรคบางประการอาจเกิดขึั้นได้โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น การตระหนักถึงความท้าทายเหล่านี้จะช่วยคุณเตรียมและรับมือกับปัญหาได้ในเชิงรุก
การบริหารจัดการเวลา: การติดชุดขนตาแบบคลาสสิกอาจใช้เวลา 90 นาทีถึง 2 ชั่วโมง และบางครั้งอาจนานกว่านั้น การติดขนตาแบบเพิ่มความหนาอาจใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง การหาเวลาในตารางของคุณอาจทำได้ยากถ้าคุณต้องดูแลสินค้าคงคลัง งานด้านธุรการ และการตลาดด้วย กันช่วงเวลาในสัปดาห์เอาไว้สำหรับการสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทําความสะอาดพื้นที่ของคุณ และจัดการโพสต์บนโซเชียลมีเดียเพื่อไม่ให้รู้สึกหนักเกินไป และใช้แอปจองเวลาแบบง่ายๆ ให้ลูกค้าจองออนไลน์ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องตอบข้อความ SMS ไม่รู้จักจบเกี่ยวกับเวลาที่ว่างให้บริการ
การจองที่ไม่สม่ำเสมอ: ความต้องการบริการต่อขนตาอาจผันผวน ในบางช่วงของปี (เช่น ฤดูร้อน วันหยุด) อาจยุ่งมาก ส่วนเดือนอื่นๆ อาจรู้สึกว่าง สภาพอากาศ วันหยุด และปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างส่งผลกระทบต่อการนัดหมายได้ทั้งหมด ในช่วงเวลาที่ลูกค้าน้อย ให้ลองเสนอแพ็กเกจพิเศษหรือรางวัลจูงใจเมื่อแนะนำลูกค้าใหม่ หรือกระตุ้นให้ลูกค้าปัจจุบันลองติดขนตาแบบใหม่ หากคุณมีเวลาเหลือ ให้ลงทุนไปกับการตลาดหรือการพัฒนาทักษะ เช่น เรียนรู้เทคนิคการติดขนตาแบบใหม่
ความบอบบางและอาการแพ้ที่ตา: กการทำงานกับบริเวณดวงตามีความเสี่ยง ลูกค้าบางรายอาจไวต่อกาวเป็นพิเศษหรือมีอาหารน้ำตาไหลหรือระคายเคืองระหว่างรับบริการ อาจมีคนจำนวนเล็กน้อยที่มีอาการแพ้ซึ่งต้องถอดขนตาปลอมออกทันที ให้ทำการทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังหากลูกค้ากังวัลเกี่ยวกับอาการแพ้ ใช้กาวที่มีคุณภาพสูงและผ่านการทดสอบ และเตรียมน้ำยาถอดขนตาที่อ่อนโยนไว้ใกล้มือ การรระมัดระวังเป็นพิเศษจะช่วยปกป้องลูกค้าและแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจสุขภาพของพวกเขา
ความกดดันด้านราคา: ช่างทำขนตาบางรายเริ่มต้นด้วยการคิดค่าบริการต่ำเกินไป โดยหวังว่าจะมีลูกค้าจองเต็มเวลาในทันที แต่กลยุทธ์นี้อาจกลายเป็นผลร้ายในภายหลัง หากค่าบริการของคุณไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหรือการทุ่มเทเวลา คุณอาจหมดไฟและสูญเสียแรงจูงใจ แต่หากค่าบริการของคุณแพงเกินไปในขณะที่ทักษะหรือชื่อเสียงของคุณยังไม่แข็งแรงในพื้นที่ ก็อาจทำให้เสียลูกค้าเป้าหมายได้ คํานวณค่าใช้จ่ายและเวลาที่ใช้อย่างระมัดระวังเพื่อค้นหาราคาที่เหมาะสมและจงมั่นใจในการทํางานของคุณ หากลูกค้าเป้าหมายลังเลกับราคาของคุณ นั่นอาจหมายความว่าอาจไม่ใช่ลูกค้าที่ถูกกลุ่มฃ แต่ยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ยินดีที่จะจ่ายเพื่อความเชี่ยวชาญและผลลัพธ์ที่ดี
การขยายธุรกิจจากเดิมที่เป็นเจ้าของคนเดียว: เมื่อธุรกิจทำขนตาของคุณเติบโตขึ้น คุณอาจไปถึงจุดที่ทำธุรกิจคนเดียวไม่ไหว ซึ่งคุณต้องพิจารณาว่าจะจ้างช่างทำขนตาคนอื่นหรืออาจจะต้องเช่าพื้นที่เพิ่ม การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวหมายถึงค่าใช้จ่ายด้านการทำสัญญา การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม ติดตามการจองและรายรับของคุณอย่างสม่ําเสมอและมองหารูปแบบ ซึ่งคุณอาจพบว่าต้องปฏิเสธนัดไปหลายนัดหรือต้องทำงาหลายชั่วโมงเกินไป นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณต้องมีคนมาช่วยเพิ่มหรือต้องมีซาลอนเล็กๆ แล้ว พิจารณาข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจและพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจรายอื่นที่เคยเลือกทำแบบเดียวกัน
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ