ในปัจจุบัน เพียงแค่แตะนิ้วก็สามารถซื้อสินค้าและบริการทางเว็บได้แล้ว ปรากฏการณ์นี้ทำให้การชำระเงินออนไลน์กลายเป็นส่วนสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดเล็กหรือองค์กรระดับโลก การเสนอทางเลือกการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งพื้นฐานในการตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า ลดการพึ่งพาเงินสดและการทำธุรกรรมในร้านค้า เพิ่มโอกาสในการขาย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ของคุณ
บทความนี้ให้ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการชำระเงินออนไลน์ในประเทศไทย เราจะสำรวจประวัติของระบบการชำระเงินดิจิทัล เน้นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด พูดคุยเกี่ยวกับประโยชน์สำหรับธุรกิจ และแนะนำขั้นตอนสำคัญในการเริ่มรับการทำธุรกรรมทางเว็บ เราจะครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการขยายวิธีการชำระเงินออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจใหม่หรือผู้ค้าปลีกที่มีอยู่แล้ว
เนื้อหาหลักในบทความ
- ประวัติศาสตร์การชำระเงินออนไลน์ในประเทศไทย
- วิธีการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมีอะไรบ้าง
- ประโยชน์ของการรับชำระเงินออนไลน์ในประเทศไทยคืออะไร
- ธุรกิจในประเทศไทยรับการชำระเงินออนไลน์อย่างไรได้บ้าง
- ธุรกิจสามารถเพิ่มรายได้ด้วยการชำระเงินออนไลน์ได้หรือไม่
ประวัติศาสตร์การชำระเงินออนไลน์ในประเทศไทย
การชำระเงินออนไลน์เริ่มขึ้นในประเทศไทยในช่วงต้นปี 2000 ซึ่งตรงกับการเติบโตของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ในตอนแรก ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้บัตรเครดิตในการทำธุรกรรม แต่หลายคนยังคงลังเล โดยมองว่าการชำระเงินผ่านเว็บเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยและสงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย
เมื่อเวลาผ่านไป สถาบันการเงินเชิงพาณิชย์ของประเทศเริ่มเปิดให้บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตและมือถือเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อในยุคสมัยใหม่ การสนับสนุนจากรัฐบาล ภาคเอกชน และธนาคารแห่งประเทศไทยรวมถึงความร่วมมือ (และการแข่งขัน) ระหว่างธนาคารและสตาร์ทอัพฟินเทค ได้กระตุ้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่การชำระเงินดิจิทัล
ในปัจจุบัน เครื่องมือรวมถึง PromptPay, รหัส QR และโซลูชันที่รวมเข้าด้วยกัน เช่น Stripe ทำให้การทำรายการในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยรวดเร็วและง่ายกว่าที่เคย การชำระเงินออนไลน์จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน ทำให้การทำธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายง่ายขึ้น และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังขยายตัวของประเทศไทย
วิธีการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมีอะไรบ้าง
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ามีวิธีการชำระเงินใดบ้างก่อนที่จะกำหนดว่าจะนำวิธีใดไปใช้กับธุรกิจของคุณ ที่นี่เราจะมาดูข้อดีและข้อเสียของวิธีการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย
ธนาคารมือถือ
การใช้แอปธนาคารมือถือในการทำธุรกรรมออนไลน์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เงินสด วิธีนี้รวดเร็วและปลอดภัย โดยมีวิธีการตรวจสอบเช่น รหัส PIN หรือการสแกนชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือหรือการจดจำใบหน้า)
PromptPay
PromptPay เป็นเครื่องมือการชำระเงินแบบเรียลไทม์ที่ใช้ในประเทศไทย โดยเชื่อมโยงบัญชีธนาคารของลูกค้ากับหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อการโอนเงินที่ง่ายขึ้น PromptPay เป็นวิธีรับส่งเงินที่สะดวกและฟรีภายในขีดจำกัดที่กำหนด เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการอื่นๆ PromptPay ใช้ขั้นตอนที่น้อยกว่าและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า
กระเป๋าเงินดิจิทัล
กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นบัญชีออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มเงินผ่านการโอนเงินจากธนาคาร ตู้ ATM เคาน์เตอร์บริการ หรือโดยการเชื่อมโยงบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต จากนั้นก็สามารถนำยอดเงินมาใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ LINE Pay, ShopeePay และ TrueMoney
รหัส QR
ในการชำระเงินด้วยรหัส QR โดยใช้แอปธนาคารหรือกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่บนโทรศัพท์ ผู้ใช้เพียงแค่เข้าสู่ระบบ เลือก "สแกนรหัส QR" และทำการชำระเงิน ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรหรือเงินสด วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการกรอกรายละเอียดของบัตรเครดิตในแบบฟอร์มและให้ตัวเลือกที่รวดเร็วและใช้งานง่ายสำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน
ลิงก์ชำระเงิน
ลิงก์ชำระเงินคือ URL ที่ปลอดภัยซึ่งส่งไปยังผู้ซื้อผ่านโซเชียลมีเดีย อีเมล หรือข้อความ SMS เมื่อคลิก ลิงก์จะพาลูกค้าไปยังหน้าชำระเงินออนไลน์ที่สามารถเลือกวิธีการชำระเงินต่างๆ รวมถึงบัตรเครดิต PromptPay และกระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งทำให้การชำระเงินเร็วขึ้น บริการเช่น Stripe Payment Links ทำให้การสร้างและแชร์ URL และเริ่มรับการชำระเงินได้ง่ายและรวดเร็ว
บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
คำสั่งซื้อที่ทำทางออนไลน์หรือผ่านเครื่องอ่านจะใช้รายละเอียดรวมถึงหมายเลขบัตร วันหมดอายุ และรหัส CVV บัตรเครดิตให้วงเงินเครดิตจากสถาบันการเงิน ทำให้เจ้าของบัตรสามารถทำการซื้อและชำระเงินในภายหลังได้ ในทางตรงกันข้าม บัตรเดบิตจะหักเงินทุนโดยตรงจากบัญชีในขณะทำการขาย เสนอวิธีการชำระเงินที่รวดเร็ว เข้าถึงได้ และปลอดภัย การเลือกแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ปฏิบัติตามโปรโตคอลความปลอดภัยที่จัดตั้งขึ้น เช่น PCI DSS, 3D Secure, หรือการตรวจสอบรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) เป็นสิ่งสำคัญ
ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
แพลตฟอร์มซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) ช่วยให้ลูกค้าสามารถแบ่งการชำระเงินออกเป็นการผ่อนชำระได้ โดยทั่วไปแล้วแพลตฟอร์มเหล่านี้จะชำระคืนภายใน 3 ถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการ การชำระเงินตรงเวลาช่วยให้ดอกเบี้ยต่ำหรือยกเลิกได้ ตัวเลือกนี้ช่วยบรรเทาความกดดันทางการเงินในทันทีและปรับปรุงกระแสเงินสดสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ผู้ให้บริการ BNPL ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Atome, Lazada PayLater, PayLater โดย Grab, Pay Next โดย TrueMoney Wallet, และ SPayLater โดย Shopee
บัตรเติมเงิน
บัตรเติมเงินเป็นวิธีการชำระเงินล่วงหน้าที่ให้ลูกค้าสามารถชำระเงินโดยใช้มูลค่าที่จัดเก็บไว้ในบัตร เมื่อซื้อผ่านเว็บ จำนวนเงินจะถูกหักออกจากมูลค่านี้โดยตรง เนื่องจากบริษัทผู้ออกบัตรไม่เชื่อมต่อบัตรกับบัญชีธนาคารหรือบัญชีเรียกเก็บเงิน จึงเพิ่มชั้นการป้องกันอีกชั้น ดังนั้นหากบัตรสูญหายหรือถูกขโมย ก็จะมีความเสี่ยงเพียงยอดเงินที่เหลืออยู่เท่านั้น ตัวอย่างเช่น บัตรค่าโดยสารรถไฟและบัตรเติมเงินเกมออนไลน์
Payment Gateway
เกตเวย์การชำระเงินเป็นระบบกลางที่ตรวจสอบและส่งข้อมูลการชำระเงินระหว่างผู้ขายและธนาคารหรือระหว่างผู้ขายและผู้ถือบัตรอย่างปลอดภัย มักใช้ในเว็บไซต์และแอปอีคอมเมิร์ซ เกตเวย์เหล่านี้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น PCI DSS และมีฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกง เมื่อผู้ซื้อสั่งซื้อ เกตเวย์จะเข้ารหัสและตรวจสอบรายละเอียดก่อนที่จะส่งไปยังสถาบันการเงินเพื่อขออนุมัติ กระบวนการนี้ช่วยให้ผู้ขายออนไลน์สามารถรับการชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยโดยไม่ต้องจัดการกับข้อมูลบัตรโดยตรง
ประโยชน์ของการรับชำระเงินออนไลน์ในประเทศไทยคืออะไร
การรับชำระเงินออนไลน์ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในยุคดิจิทัล ต่อไปนี้คือประโยชน์บางส่วน
ความสะดวกในการใช้งาน
การยอมรับการใช้ธุรกรรมทางเว็บช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านกระบวนการที่รวดเร็วและปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องไปที่หน้าร้านจริงหรือพกเงินสด ผู้ซื้อสามารถเลือกวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการโอนผ่านแอป บัตรเครดิต และกระเป๋าเงินดิจิทัล ความสะดวกนี้สร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีขึ้น กระตุ้นให้ผู้ใช้และผู้ซื้อกลับมาอีกครั้ง
ความเร็วในการทำธุรกรรม
วิธีการแบบเดิมๆ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารหรือเช็ค อาจใช้เวลาหลายวันทำการ โดยเฉพาะสำหรับธุรกรรมข้ามพรมแดน แต่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้เสร็จสิ้นทันทีหรือภายในไม่กี่นาที เช่น PromptPay และการโอนเงินผ่านธนาคารมือถือ
เพิ่มยอดขายและรายรับ
ร้านค้าแบบเดิมๆ มักเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงและให้บริการผู้ซื้อ ในทางกลับกัน การชำระเงินออนไลน์ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายกลุ่มลูกค้าได้ กระบวนการชำระเงินที่ตรงไปตรงมาและรวดเร็วช่วยลดการเลิกซื้อกลางคัน ทำให้ผู้ขายสามารถปิดการขายได้มากขึ้นและเพิ่มรายรับโดยรวม
โอกาสในการขยายตลาด
การชำระเงินออนไลน์ช่วยให้ลูกค้าสามารถช้อปจากที่ใดก็ได้และซื้อได้ทันที สิ่งนี้ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กเติบโตโดยการให้การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของตนได้ไม่จำกัด รวมถึงขยายไปยังตลาดต่างประเทศ บริการเช่น Stripe Payments สนับสนุนการขยายตัวในระดับโลกโดยอนุญาตให้ธุรกิจรับเงินในสกุลเงินท้องถิ่นหรือผ่านการแปลงอัตโนมัติ สร้างประสบการณ์การซื้อและขายที่ง่ายดาย
ความปลอดภัยสูง_
เงินสดมีความเสี่ยงต่อการสูญหายหรือการโจรกรรม และเช็คสามารถถูกปลอมแปลงได้ อย่างไรก็ตาม การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มีการป้องกันที่รัดกุมกว่า รวมถึงการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยและการเข้ารหัส ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ Stripe Radar แสดงให้เห็นว่าบริษัทการเงินและผู้ให้บริการเกตเวย์พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย
สร้างความไว้วางใจในหมู่ธุรกิจ
ธุรกิจที่รับการชำระเงินดิจิทัลมักถูกมองว่ามีความเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือมากกว่าธุรกิจที่พึ่งพาเงินสดเพียงอย่างเดียว กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงมักจะคิดเช่นนั้นเป็นหลัก เพราะคาดหวังความสะดวกสบายและความปลอดภัย การเสนอทางเลือกการชำระเงินออนไลน์สะท้อนถึงความซับซ้อนของธุรกิจและความมุ่งมั่นต่อมาตรฐานสมัยใหม่
ข้อมูลการตลาด
ระบบการชำระเงินออนไลน์ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ซื้อ ข้อมูลเชิงลึก เช่น การใช้จ่ายเฉลี่ย ผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันที่ได้รับความนิยม และเวลาที่มีการซื้อสูงสุด ช่วยสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเป้า เพิ่มยอดขาย และพัฒนาข้อเสนอที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ธุรกิจในประเทศไทยรับการชำระเงินออนไลน์อย่างไรได้บ้าง
ในประเทศไทยมีวิธีเรียกเก็บเงินมากมาย ต่อไปนี้เป็นคู่มืออย่างละเอียด
สำรวจและเลือกวิธีการชำระเงิน
เลือกตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการทางธุรกิจของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการธนาคารผ่านมือถือ, PromptPay, กระเป๋าเงินดิจิทัล, เกตเวย์, ลิงก์ชำระเงิน หรืออื่นๆ
เลือกผู้ให้บริการชำระเงิน
ศึกษาผู้ให้บริการชำระเงินและค้นหาผู้ที่ตรงกับความต้องการของคุณในด้านราคา ฟีเจอร์ ความปลอดภัย และการสนับสนุนลูกค้า
สมัครใช้บริการชำระเงิน
เมื่อเลือกวิธีการชำระเงินและเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมแล้ว คุณสามารถติดต่อสถาบันการเงินเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยหรือผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น Stripe เพื่อขอเปิดใช้งาน เตรียมเอกสารทางการเงินสำหรับการสมัครใช้งาน ซึ่งรวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวของเจ้าของ ใบรับรองธุรกิจหรือการจดทะเบียนเชิงพาณิชย์ และรายละเอียดบัญชีธนาคาร
จัดโครงสร้างและทดสอบระบบ
ธุรกิจจะต้องจัดโครงสร้างและติดตั้ง API (อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน) หรือปลั๊กอินบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของตนเพื่อเริ่มรับชำระเงินผ่านผู้ให้บริการที่เลือก ทดสอบระบบอย่างละเอียดก่อนเปิดตัวเพื่อตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจัดการธุรกรรมได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย
เปิดใช้งานและติดตามผล
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้เปิดใช้งานกรอบการชำระเงินออนไลน์ที่เลือกใช้ ผลลัพธ์ของธุรกรรมต้องถูกติดตามและวิเคราะห์เพื่อยืนยันว่าลำดับการทำงานนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ข้อมูลสามารถนำไปใช้เพื่อการตลาดและการจัดการ รวมถึงการระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ธุรกิจสามารถเพิ่มรายได้ด้วยการชำระเงินออนไลน์ได้หรือไม่
ในโลกดิจิทัลในปัจจุบัน ลูกค้าคาดหวังความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานทุกรูปแบบและทุกอุตสาหกรรม โดยสามารถเพิ่มรายรับ เปิดโอกาสทางการตลาดใหม่ และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยเลือกวิธีที่เหมาะกับความต้องการและทำตามขั้นตอนการลงทะเบียน
การเข้าใจวิธีการชำระเงินและระบบที่มีอยู่ในประเทศไทยเป็นขั้นตอนสำคัญในการยอมรับสังคมไร้เงินสด ที่เพิ่มมากขึ้นของเรา สิ่งนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นประโยชน์ไม่เพียงแต่กับคุณและลูกค้าของคุณ แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ