ตลาดอีคอมเมิร์ซ รวมถึงอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน กำลังคึกคักมากขึ้นเมื่อการใช้อินเทอร์เน็ตขยายตัวและธุรกิจเข้าสู่กระบวนการโลกาภิวัตน์มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจญี่ปุ่นจำนวนมากจึงต้องจัดการกับธุรกรรมแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) กับบริษัทนอกประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น รวมไปถึงธุรกรรมแบบธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) กับลูกค้าจากต่างประเทศ แทนที่จะทำธุรกิจร่วมกับบริษัทภายในประเทศอย่างเดียว
การออกใบแจ้งหนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทั้งธุรกรรมแบบ B2B และ B2C ในการทำธุรกรรมกับธุรกิจหรือลูกค้าในต่างประเทศ ใบแจ้งหนี้ต้องใช้ภาษาอังกฤษแทนภาษาญี่ปุ่น แต่ธุรกิจญี่ปุ่นจำนวนมากกลับมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดการเอกสารประกอบอย่างใบแจ้งหนี้เป็นภาษาอังกฤษ
สำหรับธุรกิจญี่ปุ่นที่ต้องการหาลูกค้ารายใหม่ๆ ในต่างประเทศและขยายกิจการออกไป หากสามารถสร้างเอกสารต่างๆ เช่น ใบแจ้งหนี้และใบเสร็จ เป็นภาษาอังกฤษได้จะมีประโยชน์มาก บทความนี้อธิบายข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างใบแจ้งหนี้เป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงข้อสำคัญที่ควรทราบในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ คำศัพท์และวลีภาษาอังกฤษสำหรับรายการในใบแจ้งหนี้ที่ต้องระบุ และตัวอย่างวิธีเขียนอีเมลที่ส่งร่วมกับใบแจ้งหนี้
เนื้อหาหลักในบทความ
- ความเหมือนที่แตกต่างของคำว่า "invoice" ในภาษาอังกฤษ
- ข้อสำคัญในการสร้างใบแจ้งหนี้เป็นภาษาอังกฤษ
- ศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับรายการที่ต้องระบุในใบแจ้งหนี้
- วิธีเขียนอีเมลที่ส่งร่วมกับใบแจ้งหนี้
- Stripe Invoicing ช่วยอะไรได้บ้าง
ความเหมือนที่แตกต่างของคำว่า "invoice" ในภาษาอังกฤษ
เอกสารสำหรับเรียกเก็บเงินที่เราเห็นกันทั่วไปทั้งในธุรกิจและชีวิตประจำวันเรียกว่า "invoice" ในภาษาอังกฤษ หรือ "ใบแจ้งหนี้" ในภาษาไทย
อย่างไรก็ตามเมื่อเขียนคำภาษาอังกฤษอย่าง invoice ด้วยอักษรคาตาคานะ ความหมายของคำนั้นอาจเฉพาะเจาะจงกว่าคำภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิม เช่น ใบแจ้งหนี้ที่ผ่านการรับรองซึ่งออกภายใต้ระบบใบแจ้งหนี้ปัจจุบัน สามารถเรียกได้ว่าเป็นใบแจ้งหนี้เวอร์ชันคาตาคานะ ใบแจ้งหนี้ประเภทนี้เป็นเอกสารสําคัญที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเครดิตภาษีขาเข้า (เรียกอีกอย่างว่าเครดิตภาษีซื้อ) สำหรับภาษีการบริโภคที่เกิดขึ้นระหว่างการทำธุรกรรมแบบ B2B ดังนั้นจึงมีรายการที่ต้องระบุ ละเอียดกว่าใบแจ้งหนี้ทั่วไป
คำว่า invoice ในภาษาอังกฤษหมายถึงเอกสารที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงข้อมูลธุรกรรมโดยละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการแก่พาร์ทเนอร์ธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการขอชำระเงินเพียงอย่างเดียว ตามความหมายที่สื่อในคำภาษาญี่ปุ่น 請求書 (เซคิวโชะ) ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจนอกประเทศญี่ปุ่นจึงใช้คำว่า invoice เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น ใบส่งมอบหรือสลิปการจัดส่ง
อย่างไรก็ตาม บางครั้งคำภาษาญี่ปุ่น 請求書 (เซคิวโชะ) อาจแปลว่า "bill" (ใบเรียกเก็บเงิน) แทน "invoice" (ใบแจ้งหนี้) ได้ ใบเรียกเก็บเงินคือเอกสารที่แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าจำเป็นต้องชำระเงินและมักใช้ในธุรกรรมแบบ B2C ตัวอย่างเช่น ค่าอาหารในร้านอาหาร ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำหรือค่าไฟฟ้า ธุรกิจ (ผู้ขาย) จะออกใบเรียกเก็บเงินเพื่อขอให้ลูกค้าชำระเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านั้น
เมื่อแปลคำภาษาญี่ปุ่น 請求書 (เซคิวโชะ) เป็นภาษาอังกฤษหรือสร้างเอกสารภาษาอังกฤษ คุณต้องเข้าใจว่าคำภาษาญี่ปุ่นนี้สามารถจัดเป็นใบแจ้งหนี้หรือใบเรียกเก็บเงินก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ใช้ บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่การใช้ศัพท์คำนี้ในแง่ของใบแจ้งหนี้เท่านั้น
ข้อสำคัญในการสร้างใบแจ้งหนี้เป็นภาษาอังกฤษ
ไม่จำเป็นต้องเก็บภาษีการบริโภคสำหรับธุรกรรมนอกประเทศญี่ปุ่น
เพื่อให้ธุรกิจได้รับเครดิตภาษีซื้อภายใต้ระบบใบแจ้งหนี้ที่กล่าวถึงข้างต้น ทั้งธุรกิจและลูกค้าจะต้องออกและเก็บรักษาใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ดังนั้นแม้ว่าลูกค้าจะเป็นธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น แต่หากจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ธุรกิจอาจต้องเตรียมใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้องเป็นภาษาอังกฤษแม้ว่าจะใช้สำหรับธุรกรรมภายในประเทศก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ระบบใบแจ้งหนี้ไม่มีผลใดๆ ต่อธุรกรรมนอกประเทศญี่ปุ่นกับบริษัทที่ไม่ได้จัดตั้งใจญี่ปุ่น ทั้งนี้เนื่องจากระบบใบแจ้งหนี้ใช้กับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Japan’s Consumption Tax (JCT) หรือภาษีการบริโภคของญี่ปุ่นเท่านั้น และไม่มีการเรียกเก็บภาษีการบริโภครวมไปถึงภาษีใดๆ จากธุรกรรมในต่างประเทศ ซึ่งหมายความว่าโดยปกติแล้ว ใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะบังคับให้ระบุรายการบางอย่างโดยละเอียด เช่น หมายเลขจดทะเบียนระบบใบแจ้งหนี้และอัตราลดหย่อนของภาษีการบริโภค อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกรรมในต่างประเทศ คุณไม่จำเป็นต้องระบุรายการเหล่านี้ไว้ในใบแจ้งหนี้ แม้ว่าบริษัทของคุณจะเป็นผู้ออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ของญี่ปุ่นก็ตาม
ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับธุรกรรมต่างประเทศ
ตามที่ระบุโดย National Tax Agency (NTA) ของญี่ปุ่น เมื่อมีการชำระเงินรายได้สำหรับกิจกรรมในประเทศไปยังนอกประเทศ ธุรกิจไม่จำเป็นต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย
เมื่อออกใบแจ้งหนี้ให้กับบริษัท ในต่างประเทศหรือบุคคลที่ไม่ใช่ผู้พำนักอาศัยในญี่ปุ่นและเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ในกรณีส่วนใหญ่จะไม่จำเป็นต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เนื่องจากการชำระเงินให้กับธุรกิจและบุคคลทั่วไปที่ไม่มีที่อยู่ในญี่ปุ่นและไม่ได้พำนักอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปีขึ้นไปจะไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายภายในประเทศญี่ปุ่น
แต่ก็มีบางกรณีที่อาจต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เมื่อทำธุรกิจกับบริษัทในต่างประเทศเป็นครั้งแรก นอกเหนือจากเรียนรู้หลักการที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว เราขอแนะนำให้ขอความเห็นและคำแนะนำจากนักบัญชีภาษีหรือผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ ด้วย
ไม่จำเป็นต้องมีตราประทับและแสตมป์
แม้ว่าการประทับตราในใบแจ้งหนี้จะเป็นแนวทางปฏิบัติที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการทำธุรกรรมทางธุรกิจในญี่ปุ่น แต่ก็ได้บังคับให้ต้องทำ หากคุณทำงานด้านบัญชี คุณอาจเคยเห็นใบแจ้งหนี้จำนวนมากที่มีตราประทับอยู่
สำหรับการทำธุรกรรมกับธุรกิจในต่างประเทศ โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีตราประทับหรือลายเซ็นแทนตราประทับ ตราประทับไม่ได้นิยมใช้กันนอกประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นไปได้สูงว่าจะไม่มีใครขอ อย่างไรก็ตาม หากพาร์ทเนอร์ธุรกิจของคุณขอลายเซ็นเป็นการเฉพาะ คุณควรพยายามจัดเตรียมลายเซ็นให้
ศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับรายการที่ต้องระบุในใบแจ้งหนี้
สำหรับใบแจ้งหนี้ทั่วไป รายการที่ต้องระบุและรูปแบบในฉบับภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเกือบจะเหมือนกันทุกประการ แต่ดังที่เราได้เรียนรู้ไปในส่วนก่อนหน้านี้ เนื้อหาและรายละเอียดที่ต้องบันทึกนั้นแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับว่าธุรกรรมนั้นเป็นธุรกรรมในประเทศหรือระหว่างประเทศ แม้กระทั่งสำหรับธุรกรรมภายในประเทศล้วนๆ รายการที่ต้องระบุก็อาจแตกต่างกันไปได้ โดยขึ้นอยู่กับว่าต้องเป็นไปตามเกณฑ์คุณสมบัติของระบบใบแจ้งหนี้หรือไม่
เมื่อสร้างใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าจะใช้สำหรับธุรกรรมในประเทศหรือระหว่างประเทศ คุณจำเป็นต้องรู้จักศัพท์ภาษาอังกฤษต่อไปนี้
- 請求書発行日: Invoice issue date (วันที่ออกใบแจ้งหนี้)
- 請求書番号: Invoice number (หมายเลขใบแจ้งหนี้) สามารถเขียนเป็น Invoice No. หรือ Invoice # ได้เช่นกัน (เช่น Invoice No. 0000)
- 宛先: Billed to (เรียกเก็บเงินจาก) (เช่น Billed to ABC Inc.) ยืนยันชื่อบริษัทกับลูกค้าล่วงหน้า
- 請求明細: Billing details (รายละเอียดการเรียกเก็บเงิน)
- 商品名・サービス名: Product name or service name (ชื่อผลิตภัณฑ์หรือชื่อบริการ)
- 単価: Unit price (ราคาต่อหน่วย)
- 数量: Quantity (ปริมาณ) ย่อว่า Qty ก็ได้เช่นกัน
- 金額: Amount (ยอดเงิน) ได้มาจากการคูณราคาต่อหน่วยด้วยปริมาณ
- 小計: Subtotal (ยอดรวมย่อย)
- 合計金額: Total amount or grand total (ยอดทั้งหมดหรือยอดรวมทั้งหมด)
- 支払期限: Payment due date (วันครบกำหนดชำระเงิน)
- 振込先情報: Remittance information (ข้อมูลการนำส่ง)
- 口座番号: Bank account number (เลขที่บัญชีธนาคาร)
- 口座名義人: Bank account holder (เจ้าของบัญชีธนาคาร)
คุณต้องตรวจสอบใบแจ้งหนี้อย่างละเอียดก่อนส่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลขาดหายหรือผิดพลาดไป ในส่วนถัดไป เราจะมาดูรูปแบบของ "issued date" (วันที่ออก) และ "payment due date" (วันครบกำหนดชำระเงิน) ที่กล่าวถึงข้างต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าลำดับของวันที่ (ปี เดือน วัน) จะแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค
ข้อควรทราบอีกอย่างคือ แม้ว่าจะไม่จำเป็นสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ แต่สำหรับธุรกรรม B2B ในประเทศส่วนใหญ่ ธุรกิจจำเป็นต้องออกใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อขอรับเครดิตภาษีซื้อ เมื่อสร้างใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นภาษาอังกฤษ ให้ใช้วลีต่อไปนี้
- インボイス制度の登録番号: Invoice System registration number (หมายเลขจดทะเบียนระบบใบแจ้งหนี้)
- 消費税: Tax (ภาษี)
- 軽減税率: Reduced tax rate (อัตราภาษีลดหย่อน)
เมื่อสร้างใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมในประเทศหรือระหว่างประเทศ เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือออนไลน์ที่รองรับการเพิ่มประสิทธิภาพระบบหลังบ้าน เช่น ฟีเจอร์การคำนวณภาษีการบริโภคอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์ทำบัญชี และเครื่องมือสร้างใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้เครื่องมือเหล่านี้ คุณจำเป็นต้องตรวจสอบล่วงหน้าว่าเครื่องมือเข้ากันได้กับระบบใบแจ้งหนี้ของญี่ปุ่นหรือไม่
หากตรงตามเกณฑ์ของระบบใบแจ้งหนี้และให้การสนับสนุนการทำบัญชีอย่างครอบคลุม ธุรกิจของคุณจะสามารถออกและเก็บรักษาใบแจ้งหนี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้อย่างราบรื่น ในขณะเดียวกันก็ประหยัดแรงและเวลาในการทำงานต่างๆ เช่น การจัดการลูกหนี้การค้า การเรียกเก็บเงิน และการกระทบยอดธุรกรรม ซึ่งช่วยให้สามารถบริหารจัดการการดำเนินการเรียกเก็บเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีเขียนอีเมลที่ส่งร่วมกับใบแจ้งหนี้
อีเมลด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่าง แต่เมื่อส่งอีเมลร่วมกับใบแจ้งหนี้ พยายามเขียนให้กระชับและสุภาพ
บรรทัดหัวเรื่องอีเมล
ใช้บรรทัดหัวเรื่องอีเมลเพื่อแสดงให้ชัดเจนว่าอีเมลเกี่ยวข้องกับการออกใบแจ้งหนี้ โดยใส่หมายเลขใบแจ้งหนี้ ชื่อผลิตภัณฑ์หรือบริการ วันครบกำหนดชำระเงิน และชื่อบริษัทของผู้รับดังนี้
- ตัวอย่าง: สำหรับอีเมลที่คุณส่งไปยัง ABC Incorporated สำหรับผลิตภัณฑ์ A111 ภายใต้ใบแจ้งหนี้หมายเลข 1234 และครบกำหนดชำระเงินในวันที่ 10 พฤษภาคม 2025 บรรทัดหัวเรื่องที่คุณสร้างอาจเป็น "ABC Inc. Invoice #1234 for Product A111: Due May 10, 2025 "
สำหรับวันครบกำหนดชำระเงิน ให้เพิ่มคำว่า "due" ก่อนวันที่ดังแสดงด้านบน โปรดทราบว่าลำดับของปี เดือน และวันของญี่ปุ่นกับประเทศและภูมิภาคอื่นๆ จะแตกต่างกันไป จากตัวอย่างที่แสดงด้านบน 10 พฤษภาคม 2025 จะเขียนเป็น 2025/05/10 ในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกา ลำดับมาตรฐานคือเดือน-วัน-ปี ดังนั้นปีจึงถูกวางไว้ท้ายสุด กล่าวคือ 05/10/2025 ส่วนยุโรปจะใช้ลำดับวัน-เดือน-ปี ทำให้วันที่ข้างต้นจะถูกตีความว่าเป็นวันที่ 5 ตุลาคม
วิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยงความสับสนคือการเขียนเดือนเป็นคำแทนตัวเลข ในตัวอย่างด้านบน คุณควรใช้ May แทน "05" ทั้งเพื่อคำนึงถึงพาร์ทเนอร์ธุรกิจของคุณและเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย
ข้อความเนื้อหาอีเมล
ลองมาดูตัวอย่างอีเมลด้านล่าง วงเล็บระบุตำแหน่งที่จะป้อนข้อมูลเฉพาะสำหรับธุรกรรม เช่น ชื่อบริษัทหรือจำนวนเงิน ชื่อผู้ส่งจะขึ้นต้นด้วยชื่อต้น ตามด้วยนามสกุล คำลงท้าย "Regards" สามารถเปลี่ยนเป็น "Sincerely" ได้ เมื่อเขียนที่อยู่บริษัทเป็นภาษาอังกฤษ ลำดับคือ "ชื่ออาคารและหมายเลขชั้นหรือหมายเลขห้อง" "ที่อยู่ (บล็อกและหมายเลขล็อต)" "เขต" "เมือง" "จังหวัด" "รหัสไปรษณีย์" "ชื่อประเทศ"
เนื้อหาภาษาอังกฤษ:
Dear (ผู้รับผิดชอบ),
I hope this email finds you well. I have attached the invoice to this email. I would appreciate it if you could make the payment by the due date on the invoice. If you have any questions please don’t hesitate to contact us.
Thank you very much for your business. We’re looking forward to serving you again.
Regards,
Taro Yamada
(ชื่อบริษัท)
(ที่อยู่)
(ข้อมูลติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล เป็นต้น)
เรียน (ผู้รับผิดชอบ)
ผมหวังว่าคุณจะสบายดี ผมได้แนบใบแจ้งหนี้มากับอีเมลนี้ และจะขอบคุณเป็นอย่างสูงหากคุณสามารถชำระเงินภายในวันครบกำหนดตามที่ระบุในใบแจ้งหนี้ หากคุณมีคำถามใดๆ โปรดติดต่อเราได้ทันที
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ร่วมทำธุรกิจกับเรา เราหวังว่าจะได้ให้บริการคุณอีกครั้ง
ขอแสดงความนับถือ
ทาโร่ ยามาดะ
(ชื่อบริษัท)
(ที่อยู่)
(ข้อมูลติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล เป็นต้น)
คำแปลภาษาญี่ปุ่น:
เราจะมาแปลอีเมลด้านบนจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาญี่ปุ่นกัน
(担当者名) 様
お元気にお過ごしのことと思います。
こちらのメールに請求書を添付いたしました。
請求書に記載の期日までにお支払いいただけますと幸いです。
何かご不明な点がございましたら、お気軽にご連絡ください。
この度は弊社の商品をご利用いただき誠にありがとうございました。また次回のご利用を心よりお待ちしております。
山田太郎
(企業名)
(所在地)
(電話番号やメールアドレスなどの連絡先)
วลีอื่นๆ ที่ใช้บ่อย
ด้านล่างนี้คือตัวอย่างวลีอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้เมื่อสร้างใบแจ้งหนี้เป็นภาษาอังกฤษ
- Please find the attached invoice. (添付の請求書をお確かめいただけますようお願いいたします。) คุณจะพบใบแจ้งหนี้ได้ในไฟล์แนบ
- Please make payment by the due date on the invoice. (請求書に記載の期日までにお支払いをお願いいたします。) โปรดชำระเงินภายในวันครบกำหนดในใบแจ้งหนี้
- Please let us know if you have any questions regarding the invoice. (請求書に関するご質問がありましたら、ご連絡ください。) โปรดแจ้งให้เราทราบหากคุณมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับใบแจ้งหนี้
เมื่อจัดทำใบแจ้งหนี้โดยละเอียดเป็นภาษาอังกฤษสำหรับพาร์ทเนอร์ธุรกิจของคุณ หากเข้าใจสำนวนเหล่านี้และคำศัพท์เฉพาะทาง การสื่อสารระหว่างธุรกิจระหว่างประเทศจะราบรื่นขึ้นมาก ขอย้ำว่าธุรกิจใดๆ ที่ต้องการปรับปรุงกระบวนการสร้างใบแจ้งหนี้อาจควรพิจารณาใช้เครื่องมือสร้างใบแจ้งหนี้อัตโนมัติที่รองรับภาษาอังกฤษเช่นกัน
Stripe Invoicing ช่วยอะไรได้บ้าง
Stripe Invoicing ทำให้กระบวนการบัญชีลูกหนี้ (AR) ของคุณง่ายขึ้น ตั้งแต่การสร้างใบแจ้งหนี้ไปจนถึงการเรียกเก็บเงิน ไม่ว่าคุณจะจัดการการเรียกเก็บเงินแบบครั้งเดียวหรือการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า Stripe ช่วยให้ธุรกิจได้รับเงินเร็วขึ้นและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้
- ทำให้การจัดการลูกหนี้การค้าเป็นไปโดยอัตโนมัติ: สร้าง ปรับแต่ง และส่งใบแจ้งหนี้แบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด Stripe จะติดตามสถานะใบแจ้งหนี้ ส่งการแจ้งเตือนให้ชำระเงิน และดำเนินการคืนเงินโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้คุณดูแลกระแสเงินสดได้ดีอยู่เสมอ
- เร่งกระแสเงินสด: ลดระยะเวลาในการเก็บหนี้ถัวเฉลี่ย (Days Sales Outstanding หรือ DSO) และได้รับเงินเร็วขึ้นด้วยการชำระเงินทั่วโลกแบบครบวงจร การแจ้งเตือนอัตโนมัติ และเครื่องมือติดตามหนี้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยให้คุณกู้คืนรายรับได้มากขึ้น
- ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า: มอบประสบการณ์การชำระเงินที่ทันสมัยด้วยการรองรับภาษามากกว่า 25 ภาษา, สกุลเงินมากกว่า 135 สกุล และวิธีการชำระเงินมากกว่า 100 วิธี โดยสามารถเข้าถึงและชำระใบแจ้งหนี้ได้ง่ายผ่านพอร์ทัลลูกค้าแบบสำเร็จรูป
- ลดภาระงานในสำนักงาน: สร้างใบแจ้งหนี้ในไม่กี่นาทีและลดเวลาที่ใช้ในการเรียกเก็บเงินผ่านการแจ้งเตือนอัตโนมัติ และหน้าชำระใบแจ้งหนี้ในระบบ Stripe
- ผสานการทำงานกับระบบที่มีอยู่: Stripe Invoicing สามารถผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์บัญชีและการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ที่เป็นที่นิยมได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณรักษาระบบให้ซิงค์กันและลดการป้อนข้อมูลด้วยตนเอง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe สามารถทำให้ขั้นตอนการจัดการลูกหนี้การค้าของคุณง่ายขึ้นได้ หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ