ธุรกิจจำนวนมากขึ้นต่างก็มอบทางเลือกให้ลูกค้าชําระเงินผ่านธนาคาร เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ํากว่าเมื่อเทียบกับการชําระเงินผ่านบัตร ตัวเลือกการชําระเงินผ่านธนาคาร ได้แก่ การหักบัญชี การโอนเงิน การเปลี่ยนเส้นทาง และการชําระเงินแบบเรียลไทม์ โดยทั่วไปแล้ว ระบบจะประมวลผลธุรกรรมอย่างรวดเร็ว และในบางครั้งก็ดำเนินการทันที โดยจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคาร และวิธีการตรวจสอบสิทธิ์ เช่น การเข้าสู่ระบบธนาคารหรือการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (MFA) เพื่อช่วยให้ธุรกรรมปลอดภัย ด้านล่างนี้เราจะกล่าวถึงวิธีต่างๆ ที่ลูกค้าสามารถชําระเงินผ่านธนาคาร ข้อดี และความท้าทายต่างๆ รวมถึงผลกระทบของวิธีการชําระเงินนี้ที่มีต่ออุตสาหกรรมการเงิน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การชําระเงินผ่านธนาคารมีหลักการทํางานอย่างไร
  
• ข้อดีของการชําระเงินผ่านธนาคารเมื่อเทียบกับบัตรเครดิต
  
• ความท้าทายในการชําระเงินผ่านธนาคาร
  
• การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการชําระเงินผ่านธนาคาร
  
• วิธีที่การชําระเงินผ่านธนาคารส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริการทางการเงิน
  

การชําระเงินผ่านธนาคารมีหลักการทํางานอย่างไร

คุณสามารถดําเนินการชําระเงินผ่านธนาคารโดยใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งรวมถึง Open banking, ส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (API) ของธนาคาร หรือเกตเวย์การชําระเงินแบบเฉพาะที่รองรับการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง วิธีนี้เป็นที่นิยมในธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ การจ่ายบิล และธุรกรรมออนไลน์อื่นๆ ในการชำระเงินผ่านธนาคาร ลูกค้าจะต้องตรวจสอบสิทธิ์กับธนาคารและรับการยืนยันการชําระเงินก่อนส่งเงินทุน วิธีการทำงานมีดังนี้

• การเริ่มต้นการชําระเงิน: ลูกค้าเลือกบัญชีธนาคารเป็นวิธีการชําระเงินเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ ปกติแล้วตัวเลือกนี้จะใช้ได้บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ พอร์ทัลการชําระเงินสําหรับการจ่ายบิล หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่รับชําระเงินออนไลน์

• การเลือกธนาคาร: ลูกค้าเลือกธนาคารของตนจากรายชื่อธนาคารที่รองรับ ซึ่งมักจะแสดงในเมนูแบบเลื่อนลงหรือฟังก์ชันการค้นหา

• การตรวจสอบสิทธิ์บัญชีธนาคาร: ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางลูกค้าไปยังพอร์ทัลออนไลน์ที่ปลอดภัยของธนาคาร หรือแจ้งให้เข้าสู่ระบบผ่านอินเทอร์เฟซของบริษัทอื่น ลูกค้าอาจต้องทำการอนุมัติเพิ่มเติมสําหรับธุรกรรมด้วย เช่น การส่งรหัสไปยังอุปกรณ์เคลื่อนที่ โทเค็นความปลอดภัย หรือการตรวจสอบสิทธิ์ด้วยไบโอเมตริก (เช่น ลายนิ้วมือหรือการจดจําใบหน้า) ขั้นตอนนี้จะยืนยันตัวตนของลูกค้าและอนุมัติธุรกรรม

• การชําระเงินและการยืนยัน: ระบบจะเปลี่ยนสถานะการชําระเงินว่าสําเร็จแบบไม่เรียลไทม์ จากนั้นบัญชีของธุรกิจก็จะได้รับเงินทุน

ข้อดีของการชําระเงินผ่านธนาคารเมื่อเทียบกับบัตรเครดิต

การชําระเงินผ่านธนาคารมีข้อดีบางอย่างเหนือกว่าการชําระเงินด้วยบัตรเครดิต ซึ่งจะได้รับการอธิบายไว้ด้านล่างนี้

ลดค่าใช้จ่ายในการทําธุรกรรม

• ค่าธรรมเนียมที่ต่ําลง: เครือข่ายบัตรจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าธนาคาร ดังนั้นผู้ประมวลผลการชําระเงินมักจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจต่างๆ ต่ำกว่าสําหรับการชําระเงินผ่านธนาคาร
  

การรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า

• การตรวจสอบสิทธิ์โดยตรง: เมื่อชําระเงินผ่านธนาคาร ลูกค้าจะตรวจสอบสิทธิ์กับธนาคารโดยตรง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการฟิชชิ่งและการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต ปกติแล้วขั้นตอนนี้มักจะใช้ MFA

• โอกาสในการฉ้อโกงน้อยลง: การโอนเงินผ่านธนาคารและการเปลี่ยนเส้นทางมักจะดําเนินการผ่านพอร์ทัลออนไลน์ที่ปลอดภัยของธนาคารหรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งลดโอกาสที่มิจฉาชีพจะขโมยข้อมูลการชําระเงินของลูกค้า

ธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้น

• การชําระเงินแบบเรียลไทม์: วิธีการชําระเงินผ่านธนาคารบางวิธีอาจทําธุรกรรมได้แบบทันที แม้ว่าการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตจะได้รับอนุมัติแบบเรียลไทม์ แต่ธุรกิจต่างๆ จะไม่ได้รับเงินในทันที

• การได้รับเงินที่รวดเร็วขึ้น: วิธีการผ่านธนาคารบางวิธีมีตัวเลือกในการได้รับเงินที่รวดเร็วกว่าบัตรเครดิต ซึ่งมักใช้เวลา 2 วันทําการ เนื่องจากมีการประมวลผลและกระทบยอดเป็นกลุ่ม

การควบคุมที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้า

• การชําระเงินโดยใช้บัญชี: ลูกค้าสามารถชําระเงินจากบัญชีธนาคารของตัวเองได้โดยตรง จึงไม่ต้องใช้วงเงินเครดิตหรือกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของยอดคงเหลือที่ค้างชําระ

• ไม่ต้องตรวจสอบเครดิต: การชําระเงินผ่านธนาคารไม่ต้องตรวจสอบเครดิต ทําให้ลูกค้าที่ไม่มีเครดิตหรือมีประวัติเครดิตไม่ดีสามารถใช้งานได้

ความเสี่ยงต่อการดึงเงินคืนลดลง

• การดึงเงินคืนลดลง: การชําระเงินด้วยบัตรเครดิตมีแนวโน้มที่จะเกิดการดึงเงินคืนเนื่องจากการโต้แย้งการชําระเงินหรือธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง ขณะที่การโอนเงินผ่านธนาคารมีความเสี่ยงที่จะเกิดการดึงเงินคืนต่ำกว่า เนื่องจากลูกค้าต้องเริ่มการชําระเงินจากบัญชีธนาคารเองโดยตรง

• การยุติการโต้แย้งการชําระเงินที่ง่ายดาย: เนื่องจากธุรกรรมเกิดขึ้นระหว่างลูกค้ากับธนาคาร จึงสามารถยุติการโต้แย้งการชําระเงินได้ง่ายดายขึ้น ซึ่งช่วยลดภาระด้านการบริหารให้ธุรกิจได้

ความสามารถในการเข้าถึง

• การทำงานร่วมกันได้ข้ามพรมแดน: ระบบการชําระเงินที่ดําเนินการผ่านธนาคารหลายระบบออกแบบมาเพื่อทํางานข้ามพรมแดน จึงมอบประสบการณ์การชําระเงินระหว่างประเทศที่ง่ายขึ้น บัตรเครดิตอาจมีข้อจํากัดเนื่องจากอัตราการยอมรับที่แตกต่างกันออกไปและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสําหรับธุรกรรมต่างประเทศ

• ช่วยให้ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่สามารถเข้าถึงธนาคารใช้งานได้: ระบบแบบอิงตามธนาคารบางแห่งอาจเปิดให้บุคคลทั่วไปที่อาจไม่มีบัตรเครดิต แต่มีบัญชีธนาคารสามารถใช้งานได้ เพื่อการส่งเสริมการรวมทางการเงิน

ความท้าทายในการชําระเงินผ่านธนาคาร

การชําระเงินผ่านธนาคารนั้นมีความท้าทายสําหรับธุรกิจเช่นเดียวกับวิธีการชําระเงินทุกประเภท ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้

ประสบการณ์ของผู้ใช้

ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบบัญชีธนาคาร การตรวจสอบสิทธิ์ และการดําเนินธุรกรรมจนเสร็จสมบูรณ์อาจมีความซับซ้อนและใช้เวลานานกว่าการชําระเงินผ่านบัตร ความยุ่งยากที่เพิ่มขึ้นนี้อาจทําให้ลูกค้าเลือกไม่ใช้การชําระเงินผ่านธนาคาร

• วิธีแก้ปัญหา: ใช้เทคโนโลยีอย่าง Open banking และการผสานการทํางาน API เพื่อทําให้อินเทอร์เฟซผู้ใช้เรียบง่ายขึ้น รวมทั้งลดขั้นตอนที่จําเป็นในการทําธุรกรรม การเข้าสู่ระบบครั้งเดียว (SSO) และขั้นตอนของผู้ใช้ที่สอดคล้องกันในแพลตฟอร์มต่างๆ ยังช่วยปรับปรุงประสบการณ์ได้ด้วย
  

การปรับคืนธุรกรรมและการดึงเงินคืน

การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นการดำเนินการที่เปลี่ยนกลับไม่ได้ แม้วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการโต้แย้งการชําระเงินสําหรับธุรกิจ แต่ลูกค้าจะไม่สามารถยกเลิกการดำเนินการได้เมื่อส่งเงิน

• วิธีแก้ปัญหา: ธนาคารที่ใช้การหักบัญชีเสนอกลไกการโต้แย้งการชําระเงิน ใช้กระบวนการยุติการโต้แย้งการชําระเงินที่ชัดเจนและกลไกการสนับสนุนลูกค้า มอบการคืนเงินหรือการปรับยอดในกรณีที่ลูกค้าไม่พึงพอใจ
  

ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

แม้การชําระเงินผ่านธนาคารจะปลอดภัย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยต่างๆ เช่น การฟิชชิ่งหรือการขโมยข้อมูลระบุตัวตน นอกจากนี้ ลูกค้ายังอาจถูกหลอกให้ส่งข้อมูลประจําตัวธนาคารของตนแก่ผู้ไม่ประสงค์ดีด้วย

• วิธีแก้ปัญหา: ให้ความรู้แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยและความเสี่ยงต่อฟิชชิ่ง ใช้ MFA, การยืนยันด้วยไบโอเมตริก และโปรโตคอลการสื่อสารที่ปลอดภัยเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัย ทําการตรวจสอบความปลอดภัยให้แพลตฟอร์มการชําระเงินเป็นประจํา เพื่อระบุและแก้ไขช่องโหว่
  

การทำงานร่วมกันได้ข้ามพรมแดน:

วิธีการชําระเงินผ่านธนาคารอาจประสบปัญหาความเข้ากันได้เมื่อจัดการกับธุรกรรมระหว่างประเทศ ระบบและระเบียบข้อบังคับด้านการธนาคารที่แตกต่างกันในประเทศต่างๆ อาจทําให้เกิดความล่าช้าหรือมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

• วิธีแก้ปัญหา: ทํางานร่วมกับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อปรับกระบวนการการชําระเงินข้ามพรมแดนให้เป็นมาตรฐาน ใช้เกตเวย์การชําระเงินระหว่างประเทศที่มีประสบการณ์ในการจัดการธุรกรรมข้ามพรมแดน
  

การพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของธนาคาร

การชําระเงินจะต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของธนาคาร ซึ่งอาจประสบปัญหาขัดข้องหรือการหยุดทํางานและนําไปสู่ความล่าช้าหรือความล้มเหลวในการชําระเงิน

• วิธีแก้ปัญหา: ใช้ระบบสำรองเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจถึงการทำงานต่อเนื่องในช่วงที่เกิดข้อขัดข้อง ทํางานร่วมกับธนาคารที่มีระบบพื้นฐานและการสํารองข้อมูลที่เชื่อถือได้ สื่อสารกับลูกค้าอย่างชัดเจนในช่วงที่เกิดความขัดข้องเพื่อให้ลูกค้าทราบสิ่งที่เกิดขึ้น
  

การปฏิบัติตามข้อกําหนดและระเบียบข้อบังคับ

การชําระเงินผ่านธนาคารต้องเป็นไปตามข้อบังคับต่างๆ เช่น กฎการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และกฎการรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC) การปฏิบัติตามข้อกําหนดอาจเพิ่มความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในกระบวนการชําระเงิน

• วิธีแก้ปัญหา: ติดตามข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับข้อกําหนดทางกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ ทํางานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายและเจ้าหน้าที่ด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ
  

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการชําระเงินผ่านธนาคาร

ระบบต่างๆ ปรับตัวตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภคและกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงกรณีการใช้งานที่เกิดขึ้นใหม่

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

• Open banking: โครงการริเริ่มเกี่ยวกับ Open banking อนุญาตให้นักพัฒนาบุคคลที่สามสร้างแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับข้อมูลธนาคารผ่าน API ที่ปลอดภัย จึงช่วยเพิ่มการเข้าถึงและการทำงานร่วมกันในหมู่สถาบันการเงินต่างๆ

• การชําระเงินแบบเรียลไทม์: การพัฒนาระบบการชําระเงินแบบเรียลไทม์ช่วยให้การโอนเงินผ่านธนาคารเกิดขึ้นได้ทันที จึงพลิกโฉมความเร็วในการชําระเงินและประสบการณ์ของลูกค้า

• ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (ML): มีการใช้ AI และ ML เพื่อปรับปรุงการตรวจจับการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัย และการปรับบริการชําระเงินผ่านธนาคารให้เหมาะกับผู้ใช้รายต่างๆ

การเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับ

• PSD2 และระเบียบข้อบังคับอื่นๆ: คําสั่งว่าด้วยบริการชําระเงิน 2 (PSD2) ในยุโรปกําหนดให้ธนาคารเปิดเผยข้อมูลของตนกับบุคคลที่สาม (เมื่อได้รับความยินยอมจากลูกค้า) เพื่ออํานวยความสะดวกสำหรับ Open banking และนําไปสู่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการชําระเงิน

• การปฏิบัติตามข้อกําหนดและการรักษาความปลอดภัย: กรอบการทำงานทางกฎหมายได้ปรับตัวเพื่อมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองและการรักษาความปลอดภัยข้อมูล โดยมีกฎที่เข้มงวดขึ้นสําหรับธุรกรรมทางการเงิน

แนวโน้มและความคาดหวังของลูกค้า

• ความสะดวกและความเร็ว: ลูกค้าต่างก็คาดหวังให้ประสบการณ์การชําระเงินง่ายดายและรวดเร็วมากขึ้น

• ข้อกังวลด้านความปลอดภัย: เมื่อภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น ลูกค้าจึงหันมาให้ความสําคัญกับวิธีการชําระเงินที่ปลอดภัย

• การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และการชําระเงินแบบดิจิทัล: ผู้บริโภคกําลังเปลี่ยนไปใช้การชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และการชําระเงินแบบดิจิทัล

ความร่วมมือและการทํางานร่วมกันในอุตสาหกรรม

• การทํางานร่วมกันระหว่างธนาคารกับฟินเทค: ธุรกิจฟินเทคและธนาคารแบบดั้งเดิมต่างทํางานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชันการชําระเงินผ่านธนาคารเพิ่มขึ้น

• การผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีการใช้ตัวเลือกการชำระเงินผ่านธนาคารมากขึ้น

• การทํางานร่วมกันและการสร้างมาตรฐาน: ธุรกิจฟินเทคและธนาคารกําลังดําเนินการเพื่อสร้างมาตรฐานโปรโตคอล และยกระดับการทํางานร่วมกันของการชําระเงินผ่านธนาคารในหมู่ธนาคารและระบบการชําระเงินต่างๆ

กรณีการใช้งานที่ได้รับความนิยม

• ธุรกรรมจากธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B) การชําระเงินผ่านธนาคารได้รับความนิยมในหมู่ธุรกรรม B2B ที่มีมูลค่าสูงเนื่องจากมีค่าธรรมเนียมต่ํา

• บริการแบบชำระเงินตามรอบบิล: ธุรกิจแบบชำระเงินตามรอบบิลเปิดโอกาสให้ลูกค้าใช้การชําระเงินผ่านธนาคารเพื่อการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าได้มากขึ้น โดยปกติแล้ว ลูกค้าจะต้องป้อนรายละเอียดการชําระเงินครั้งเดียว และธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าการชําระเงินจะไม่สําเร็จเนื่องจากบัตรหมดอายุ

• การชําระเงินข้ามพรมแดน: โซลูชันการชําระเงินข้ามพรมแดนผ่านธนาคารกําลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นตัวเลือกการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและลดต้นทุนสำหรับธุรกิจทั่วโลก

วิธีที่การชําระเงินผ่านธนาคารส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริการทางการเงิน

ฟีเจอร์การชําระเงินผ่านธนาคารสร้างความเปลี่ยนแปลงในบริการทางการเงิน โดยส่งผลต่อความคาดหวังของลูกค้า มาตรฐานอุตสาหกรรม และกระบวนการทางธุรกิจ

• วิธีการที่เน้นลูกค้าเป็นหลัก: การให้ลูกค้าได้มีทางเลือกในการชําระเงินผ่านธนาคารช่วยเปลี่ยนจุดมุ่งเน้นไปยังธนาคารที่เน้นลูกค้าเป็นหลัก ธนาคารจึงมีแรงจูงใจในการเสนอบริการที่ปรับเฉพาะบุคคล โดยให้ลูกค้าเลือกวิธีและจุดที่ต้องการแชร์ข้อมูล เพื่อความโปร่งใสและการควบคุมที่มากยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า

• การชําระเงินแบบเรียลไทม์: การขยายตัวของระบบการชําระเงินแบบเรียลไทม์ช่วยให้การโอนเงินผ่านธนาคารเกิดขึ้นได้ทันที จึงช่วยพลิกโฉมไทม์ไลน์ของธนาคารแบบเดิมๆ ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลต่อการจัดการกระแสเงินสดและนําไปสู่การเพิ่มขึ้นของการชําระเงินแบบทันทีในอุตสาหกรรมต่างๆ

• การตรวจสอบสิทธิ์ที่ปลอดภัย: การชําระเงินผ่านธนาคารมักจะใช้วิธีการตรวจสอบสิทธิ์ที่ปลอดภัย เช่น MFA ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงและการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต การเปลี่ยนแปลงนี้ได้เพิ่มความคาดหวังด้านความปลอดภัยทั่วภาคการเงิน

• นวัตกรรมฟินเทค: การนําการชําระเงินผ่านธนาคารมาใช้ช่วยให้ธุรกิจฟินเทคสร้างนวัตกรรมสำหรับโมเดลการธนาคารแบบดั้งเดิมและพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น แอปจัดทํางบประมาณ เกตเวย์การชําระเงิน รวมทั้งเครื่องมือจัดการการเงินส่วนบุคคลได้ การแข่งขันระหว่างธนาคารแบบดั้งเดิมกับธุรกิจฟินเทคได้ช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและบีบให้ธนาคารต้องปรับปรุงบริการของตน

• การอัปเกรดระบบแบบเดิมๆ: การนําการชําระเงินผ่านธนาคารมาใช้กําหนดให้ธนาคารต้องอัปเกรดระบบเดิมเพื่อรองรับ API ที่ทันสมัยและธุรกรรมแบบเรียลไทม์ การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องอาศัยการลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานจํานวนมาก

• ความทนทานของระบบ: เนื่องจากลูกค้าเลือกชําระเงินผ่านธนาคารมากขึ้น ธนาคารจะต้องพัฒนาระบบที่เสถียรและทนทานซึ่งสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องและลดระยะเวลาหยุดทํางาน การให้ความสำคัญกับความเสถียรจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการธนาคารโดยรวม

• ธุรกรรมข้ามพรมแดน: การเพิ่มขึ้นของการชําระเงินผ่านธนาคารช่วยอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมข้ามพรมแดนได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้ลูกค้าชําระเงินข้ามประเทศได้ง่ายกว่าเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้กําลังเปิดตลาดใหม่สําหรับธุรกิจและช่วยให้สามารถมอบบริการทางการเงินระหว่างประเทศได้มากขึ้น

• เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน: การชําระเงินผ่านธนาคารช่วยเพิ่มอัตราการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยการให้บริการตัวเลือกการชําระเงินแก่ผู้ที่อาจจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึง หรือไม่มีคุณสมบัติสําหรับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแบบเดิมๆ