ส่วนหนึ่งของการเปิดร้านอาหารคือการทำใจยอมรับความวุ่นวายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ของหมด ลูกค้าไม่มาตามที่จองไว้ มีลูกค้านั่งเต็มสองโต๊ะในโซนเดียวกัน หรือเครื่องทอดที่พังในช่วงเร่งรีบ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพังเมื่ออยู่ภายใต้ความกดดันคือระบบการชำระเงินของคุณ ประสบการณ์การชำระเงินในตอนท้ายของมื้ออาหารคือความประทับใจสุดท้ายที่คุณจะมอบให้แก่ลูกค้า ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นยอดเยี่ยมหรือทำให้เสียความรู้สึกในช่วงท้ายได้ ด้านล่างนี้ เราจะพูดคุยกันถึงสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการประมวลผลการชำระเงินในร้านอาหารเพื่อทำให้ช่วงเวลานั้นเรียบง่ายและปลอดภัย

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การประมวลผลการชำระเงินในร้านอาหารคืออะไร และทำงานอย่างไร
  
• วิธีการชำระเงินที่ดีที่สุดสำหรับร้านอาหารมีอะไรบ้าง
  
• เทอร์มินัลการชำระเงินในร้านอาหารทำงานอย่างไร
  
• Stripe Terminal จะช่วยคุณได้อย่างไร
  

การประมวลผลการชำระเงินในร้านอาหารคืออะไร และทำงานอย่างไร

ตลาดทั่วโลกสำหรับร้านอาหารแบบฟูลเซอร์วิสมีมูลค่าประมาณ 1.65 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 การประมวลผลการชำระเงินในร้านอาหารคือระบบที่จัดการการชำระเงินของลูกค้าในร้านอาหาร เมื่อลูกค้าชำระบิล การประมวลผลการชำระเงินจะโอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้รับประทานอาหารไปยังบัญชีธนาคารของร้านอาหาร

ต่อไปนี้คือวิธีการทำงานของการชำระเงินด้วยบัตร

• __ การหักยอดบัตร:__ ลูกค้าชำระเงินโดยการรูดบัตร เสียบบัตร หรือแตะบัตร หรือโดยการป้อนรายละเอียดของบัตรทางออนไลน์
  
• คำขอการอนุมัติ: เทอร์มินัลการชำระเงินหรือเกตเวย์การชำระเงินของร้านอาหารจะส่งข้อมูลการชำระเงินที่เข้ารหัสไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงิน
  
• __ การกำหนดเส้นทาง:__ ผู้ประมวลผลจะส่งต่อข้อมูลนั้นไปยังเครือข่ายบัตร (เช่น Visa, Mastercard) ซึ่งจะทำการตรวจสอบกับธนาคารของลูกค้า
  
• การอนุมัติหรือการปฏิเสธ: ธนาคารจะอนุมัติหรือปฏิเสธธุรกรรม
  
• __ การชำระเงิน:__ หากธุรกรรมได้รับการอนุมัติ เงินจะเข้าบัญชีผู้ค้าของร้านอาหาร โดยหักค่าธรรมเนียมการประมวลผล ซึ่งปกติแล้วจะใช้เวลาภายในไม่กี่วัน
  

ธุรกรรมผ่านบัตรแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

• แบบแสดงบัตร: ประเภทนี้คือการชำระเงินที่จุดขาย โดยจะมาพร้อมกับความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
  
• แบบไม่แสดงบัตร: ประเภทนี้คือการชำระเงินแบบออนไลน์หรือแบบป้อนข้อมูล โดยจะมาพร้อมกับความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงและค่าธรรมเนียมที่สูง รวมทั้งมีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การป้อนรหัสไปรษณีย์
  

ในทั้งสองกรณี ระบบจะตรวจสอบว่าบัตรนั้นถูกต้องหรือไม่และบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงมีเงินเพียงพอหรือไม่ จากนั้นจะยืนยันหรือปฏิเสธการชำระเงินและโอนเงินเข้าบัญชีของร้านอาหาร

วิธีการชำระเงินที่ดีที่สุดสำหรับร้านอาหารมีอะไรบ้าง

วิธีการชำระเงินที่ดีที่สุดคือวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าของคุณใช้อยู่แล้ว หากคุณไม่สามารถรับวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล หรือแม้แต่เงินสด คุณจะสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ยากยิ่งขึ้น

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินที่พบบ่อยที่สุด

• เงินสด: แม้ว่าการใช้งานเงินสดกำลังลดลงในระดับโลก แต่ธุรกิจต่างๆ ยังคงมีข้อกำหนดทางกฎหมายให้ต้องรับเงินสดในบางพื้นที่ เช่น นอร์เวย์และรัฐนิวยอร์ก ในหลายภูมิภาค เงินสดยังคงมีบทบาทสำคัญในการจ่ายทิปหรือชำระค่าคำสั่งซื้อขนาดเล็กๆ
  
• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต: บัตรเป็นวิธีที่ใช้กันโดยส่วนใหญ่ในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทั้งสำหรับการชำระเงินที่จุดขายและการชำระเงินออนไลน์ คุณควรรับการชำระเงินแบบเสียบบัตร แบบรูดบัตร และแบบแตะบัตรได้
  
• กระเป๋าเงินดิจิทัล: กระเป๋าเงินดิจิทัลอย่าง Apple Pay, Google Pay และ Alipay นั้นมีการใช้งานกันทั่วโลก และวิธีนี้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากเครื่องอ่านบัตรของคุณรองรับ Tap to Pay ได้ คุณก็พร้อมใช้งานวิธีนี้แล้ว
  
• การชำระเงินด้วยรหัส QR: การชำระเงินด้วยรหัส QR อาจเป็นประโยชน์ในร้านอาหารแบบฟาสต์แคชวลหรือแบบไฮบริด ซึ่งเป็นที่ซึ่งคุณต้องการให้ลูกค้าหมุนเวียนเร็วขึ้นหรือต้องการให้ลูกค้าควบคุมการชำระเงินได้มากขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าเว็บที่เชื่อมโยงกับรหัส QR นั้นใช้งานง่ายและโหลดได้รวดเร็ว ไม่เช่นนั้นคุณอาจสูญเสียลูกค้าได้ เมื่อทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การชำระเงินด้วยรหัส QR จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ทำให้การชำระเงินรวดเร็วขึ้น และทำให้พนักงานมีเวลาไปมุ่งเน้นงานอื่นๆ ได้
  
• บัตรของขวัญ: บัตรของขวัญช่วยให้มีเงินเข้ามาล่วงหน้าและส่งเสริมให้เกิดธุรกิจที่ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ หากร้านอาหารของคุณมีบริการนี้ พนักงานของคุณจำเป็นต้องรู้วิธีดำเนินการกับบัตรของขวัญ และคุณจะต้องมีระบบที่สามารถติดตามยอดคงเหลือและรองรับการชำระเงินแบบบางส่วนได้ โดยบัตรของขวัญมักได้รับความนิยมเป็นพิเศษในช่วงวันหยุด
  

ค้นหาว่าลูกค้าของคุณใช้วิธีการชำระเงินแบบใดอยู่แล้ว และสร้างระบบจากตรงจุดนั้น อัปเดตการตั้งค่าของคุณเมื่อเริ่มเห็นรูปแบบการใช้งานปรากฏขึ้น

เทอร์มินัลการชำระเงินในร้านอาหารทำงานอย่างไร

เทอร์มินัลการชำระเงินจะประมวลผลการชำระเงินด้วยบัตรและด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลให้กับร้านอาหารของคุณ โดยเทอร์มินัลของคุณอาจเป็นเครื่องอ่านบัตรแบบตั้งบนเคาน์เตอร์ที่อยู่ตรงเครื่องคิดเงินด่วน หรือเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่พนักงานเสิร์ฟถือไปที่โต๊ะลูกค้าได้ แต่หน้าที่พื้นฐานของเครื่องนี้จะเหมือนกัน

เมื่อลูกค้าเสียบบัตรแบบมีชิป Europay, Mastercard และ Visa (EMV) รูดแถบแม่เหล็ก หรือแตะโทรศัพท์หรือนาฬิกา เทอร์มินัลจะบันทึกข้อมูลบัตรที่จำเป็นและเข้ารหัสเพื่อทำการส่งต่อ ซึ่งเทอร์มินัลจะส่งข้อมูลบัตรไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงินของคุณผ่านอีเทอร์เน็ต, Wi-Fi หรือเซลลูลาร์ โดยจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ บางเทอร์มินัลจะใช้ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ซึ่งจากนั้นจะส่งข้อมูลดังกล่าวผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ

ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะสื่อสารกับเครือข่ายบัตรและแจ้งให้เทอร์มินัลรู้ว่าการชำระเงินได้รับการอนุมัติหรือถูกปฏิเสธ หากได้รับการอนุมัติ เทอร์มินัลจะทำการสรุปธุรกรรม โดยหน้าจอทิปหรือหน้าจอลายเซ็นอาจปรากฏขึ้นถัดไปด้วย ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ สุดท้าย เทอร์มินัลจะพิมพ์ใบเสร็จหรือส่งใบเสร็จให้ลูกค้าในรูปแบบดิจิทัล

ต่อไปนี้คือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ควรมองหาในเทอร์มินัลการชำระเงินในร้านอาหาร

• ความเร็ว: การใช้เวลานานกว่า 2-3 วินาทีในการประมวลผลการชำระเงินก็ถือว่าช้าเกินไปแล้ว เทอร์มินัลที่ทำงานล่าช้าจะทำให้เกิดปัญหาคอขวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน
  
• ความหลากหลายในการชำระเงิน: เทอร์มินัลของคุณควรรองรับการชำระเงินได้หลายประเภท ทั้งแบบเสียบบัตร แบบรูดบัตร แบบแตะบัตร และกระเป๋าเงินดิจิทัล
  
• ความเสถียร: คุณต้องการอุปกรณ์ที่ไม่รวน ค้าง หรือสัญญาณหลุด และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
  
• ขั้นตอนการให้ทิป: อุปกรณ์แบบพกพาที่ให้ลูกค้าเพิ่มทิปและชำระเงินให้เสร็จได้ที่โต๊ะเลยนั้นสะดวกและช่วยประหยัดเวลาได้
  
• การผสานการทำงานกับระบบบันทึกการขาย (POS): เทอร์มินัลที่ดีที่สุดจะซิงค์รายละเอียดการเรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องป้อนข้อมูลด้วยตัวเองและลดข้อผิดพลาดลงได้
  
• ความคล่องตัว: การนำเทอร์มินัลไปที่โต๊ะของลูกค้านั้นรวดเร็วกว่าและทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจมากกว่าการนำบัตรของพวกเขาไปที่เทอร์มินัลแบบตั้งบนเคาน์เตอร์
  

Stripe Terminal จะช่วยคุณได้อย่างไร

Stripe Terminal ช่วยให้ร้านอาหารเพิ่มรายรับได้ด้วยระบบการชำระเงินแบบรวมครบวงจรที่ครอบคลุมช่องทางชำระเงินที่จุดขายและการชำระเงินออนไลน์ โดยรองรับวิธีการชำระเงินใหม่ๆ ลอจิสติกส์ฮาร์ดแวร์ที่เรียบง่าย ความครอบคลุมทั่วโลก และการผสานการทำงานกับระบบ POS และแพลตฟอร์มการค้าหลายร้อยรายการเพื่อออกแบบสแต็กการชำระเงินที่เหมาะกับคุณ

Stripe Terminal สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• รวมแพลตฟอร์มการค้า: จัดการคำสั่งซื้อออนไลน์และการชำระเงินที่จุดขายบนแพลตฟอร์มทั่วโลกด้วยข้อมูลการชำระเงินที่รวมเป็นหนึ่งเดียว
  
• ขยายไปทั่วโลก: ขยายธุรกิจไปยัง 24 ประเทศด้วยชุดการผสานการทำงานเพียงชุดเดียวและวิธีการชำระเงินยอดนิยม โดยโครงสร้างพื้นฐานและระบบแบ็กเอนด์ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าคุณจะมีเครื่องคิดเงินหรือช่องทางการสั่งซื้อมากเท่าไรก็ตาม
  
• ผสานการทำงานในแบบของคุณ: พัฒนาแอป POS แบบกำหนดเองของคุณเอง หรือเชื่อมต่อกับสแต็กเทคโนโลยีที่มีอยู่โดยใช้การผสานการทำงานกับระบบ POS และแพลตฟอร์มการค้าของบริษัทอื่น
  
• ลดความซับซ้อนของลอจิสติกส์ฮาร์ดแวร์: สั่งซื้อ จัดการ และติดตามตรวจสอบเครื่องอ่านบัตรที่รองรับ Stripe ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าเครื่องเหล่านั้นจะอยู่ที่ใดก็ตาม หรือจะข้ามการใช้ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดไปเลยก็ได้ด้วย Tap to Pay
  
• ปฏิบัติตามข้อกำหนด: Stripe เป็นผู้ให้บริการ PCI ระดับ 1 ที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นระดับการรับรองที่เข้มงวดที่สุดที่มีในอุตสาหกรรมการชำระเงิน
  
• ป้องกันความสูญเสียจากการฉ้อโกง: Stripe Radar จะติดตามตรวจสอบพฤติกรรมที่น่าสงสัย คุณสามารถปรับแต่งฟีเจอร์นี้ให้รายงานคำสั่งซื้อที่มีความเสี่ยงสูง ตั้งค่าการแจ้งเตือน หรือเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันได้ตามต้องการ
  

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Stripe Terminal หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้