การชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay: สิ่งที่ธุรกิจในญี่ปุ่นต้องรู้

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. PayPay คืออะไร
    1. การชำระเงินภายในร้าน
    2. การชำระเงินออนไลน์
  3. สิ่งที่ธุรกิจควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
    1. ค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการ
    2. การสนับสนุน PayPay
    3. ความเข้ากันได้ของระบบ
    4. การประมวลผลการคืนเงิน
  4. ข้อดีของ PayPay สำหรับลูกค้า
    1. ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต
    2. มีข้อกำหนดด้านเทคโนโลยีน้อย
    3. คะแนน PayPay
  5. สิ่งที่ลูกค้าควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
    1. ยอดคงเหลือไม่พอ
    2. ไม่สามารถใช้ได้ในบางที่
    3. การฉ้อโกง
  6. การชำระเงินด้วย PayPay ทำงานอย่างไร
    1. การชำระเงินที่หน้าร้าน
    2. การชำระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  7. การชำระเงินด้วย PayPay มีความปลอดภัยเพียงใด
    1. การป้องกันฟิชชิ่ง
    2. การประเมินช่องโหว่
    3. นโยบายการคุ้มครองข้อมูล
    4. มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
  8. วิธีที่ธุรกิจสามารถผสานการทำงาน PayPay ได้
    1. สัญญาโดยตรงกับ PayPay
    2. ตัวแทนการชำระเงิน
  9. วิธีการชำระเงินอื่นๆ มีอะไรบ้าง
  10. PayPay ปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินอย่างไร

เมื่อวิธีการชำระเงินไร้เงินสดได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก PayPay ซึ่งเป็นแอปบนสมาร์ทโฟนในญี่ปุ่นจึงได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก แอปการชำระเงินนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้ลูกค้าชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าธุรกิจต่างๆ จะผสานการทำงานของ PayPay เข้ากับขั้นตอนการชำระเงินของตนได้อย่างไร นอกจากนี้ เรายังจะพูดถึงข้อดี ข้อเสีย และปัญหาด้านความปลอดภัยสำหรับธุรกิจที่กำลังพิจารณาใช้ PayPay เป็นวิธีการชำระเงินด้วย

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • PayPay คืออะไร
  • สิ่งที่ธุรกิจควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
  • ข้อดีของ PayPay สำหรับลูกค้า
  • สิ่งที่ลูกค้าควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
  • การชำระเงินด้วย PayPay ทำงานอย่างไร
  • การชำระเงินด้วย PayPay มีความปลอดภัยเพียงใด
  • วิธีที่ธุรกิจสามารถผสานการทำงาน PayPay ได้
  • วิธีการชำระเงินอื่นๆ มีอะไรบ้าง
  • PayPay ปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินอย่างไร

PayPay คืออะไร

PayPay เป็นผู้ให้บริการการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เมื่อใช้งานแอป PayPay ลูกค้าจะสามารถชำระเงินได้แม้ใช้เพียงสมาร์ทโฟน นั่นทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าเงิน นอกจากนี้ เนื่องจากลูกค้าสามารถใช้งาน PayPay ได้โดยไม่ต้องมีบัตรเครดิต PayPay จึงเป็นวิธีการชำระเงินที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคือกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตนั่นเอง

ตัวเลือกการชำระเงินที่ลูกค้าสามารถใช้งานในแอป PayPay ได้มีด้วยกัน 3 ตัวเลือกดังนี้

  • การชำระเงินด้วยยอดคงเหลือ: ต้องโอนเงินเข้าแอปไว้ล่วงหน้าและระบบจะใช้ยอดคงเหลือที่มีในการชำระเงิน
  • การชำระเงินด้วยเครดิต: ยอดเงินทั้งหมดที่ใช้ไปจะต้องชำระในเดือนถัดไป
  • การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต: ลูกค้าจะลงทะเบียนข้อมูลบัตรของตนในแอปและชำระเงินโดยใช้ PayPay ซึ่งจะต้องชำระยอดเงินรวมที่ใช้ไปกับแอป (หรือยอดรวมที่เรียกเก็บจากบัตรที่ลงทะเบียน) ในวันครบกำหนดชำระของบัตรเครดิต

เมื่อฐานผู้ใช้ของ PayPay เติบโตขึ้น แอปนี้ก็พร้อมให้บริการทั่วประเทศได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นทั้งในหน้าร้านและบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้ PayPay เพื่อส่งเงินให้เพื่อนๆ และครอบครัวได้ โดยแอป PayPay ยังมีฟีเจอร์มากมาย ทั้งการจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภค การสั่งอาหาร และการลงทุน

การชำระเงินภายในร้าน

หากต้องการผสานการทำงานการชำระเงินด้วย PayPay กับหน้าร้าน เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้ได้

  • ใช้เทอร์มินัลการชำระเงินแบบหลายวิธี: วิธีการชำระเงินและสัญญาหลายรายการ เช่น บัตรเครดิต รหัส QR และเงินอิเล็กทรอนิกส์ สามารถประมวลผลได้ผ่านเทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) เดียว
  • ให้บริการชำระเงินผ่านรหัส QR: ธุรกิจสามารถติดรหัส QR ของ PayPay ไว้ในร้านค้าของตนเพื่อให้ลูกค้าสแกนได้

การชำระเงินออนไลน์

คุณสามารถใช้การชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay สำหรับธุรกิจของคุณได้หากคุณมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • คุณเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์หรือแอป
  • คุณกำลังสร้างหรือกำลังพิจารณาสร้างร้านค้าออนไลน์หรือแอป
  • คุณใช้บริการร้านค้าออนไลน์ของพาร์ทเนอร์ (หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ)

สิ่งที่ธุรกิจควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay

ประเด็นสำคัญที่ธุรกิจควรพิจารณาเกี่ยวกับการใช้ PayPay มีดังต่อไปนี้

ค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการ

ค่าธรรมเนียมของ PayPay นั้นคล้ายกับค่าธรรมเนียมการจัดการของบัตรเครดิต แต่จะแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามประเภทธุรกิจและปริมาณธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมเหล่านี้มักจะต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบริการชำระเงินหลังได้รับสินค้าและการชำระเงินปลายทาง (COD) บางประเภท ดังนั้นธุรกิจหลายแห่งจึงมองว่า PayPay คุ้มค่ากับเม็ดเงินลงทุนของตน

อย่างไรก็ตาม หากมีการให้บริการ PayPay ผ่านตัวแทนการชำระเงิน โครงสร้างค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละราย ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มนำ PayPay มาใช้งาน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินแล้ว และค่าธรรมเนียมดังกล่าวเหมาะสมกับการดำเนินงานของคุณ

การสนับสนุน PayPay

หากต้องการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาใดๆ โปรดตรวจสอบว่าคุณทราบวิธีการติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ PayPay หรือทีมสนับสนุนของตัวแทนการชำระเงินที่คุณใช้บริการเพื่อเริ่มใช้งาน PayPay

ความเข้ากันได้ของระบบ

ระบบแบบเดิมบางระบบอาจต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับ PayPay โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบนี้เข้ากันได้กับระบบการชำระเงินปัจจุบันของคุณและขั้นตอนการชำระเงินปัจจุบันของคุณก่อนที่จะนำไปใช้

การประมวลผลการคืนเงิน

คุณจะต้องจัดตั้งกฎภายในเกี่ยวกับวิธีตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ เช่น การยกเลิกและการคืนสินค้าหลังจากที่ชำระเงินเสร็จสมบูรณ์ โดยกฎเหล่านี้จะช่วยให้การสนับสนุนลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกัน

ข้อดีของ PayPay สำหรับลูกค้า

PayPay ให้ประโยชน์แก่คุณได้หากคุณผสานการทำงานเข้ากับธุรกิจเอาไว้ เพราะมีข้อดีหลายประการสำหรับลูกค้า

ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต

คุณสามารถเติมยอดเงิน PayPay ผ่านบัญชีธนาคารหรือตู้เอทีเอ็มที่ PayPay กำหนดไว้ได้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระเงินออนไลน์ให้ปลอดภัย

มีข้อกำหนดด้านเทคโนโลยีน้อย

เมื่อชำระเงิน ธุรกรรมจะทำได้โดยสมบูรณ์แม้ใช้เพียงสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการป้อนและยืนยันหมายเลขบัตรได้ ลูกค้าจึงมีความอุ่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัย

คะแนน PayPay

คะแนน PayPay จะมอบให้ตามยอดเงินที่ใช้จ่าย ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้ารับส่วนลดได้ในจำนวนมากจากยอดซื้อของตน

สิ่งที่ลูกค้าควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay

แม้ว่า PayPay จะให้ประโยชน์มากมายแก่ลูกค้า แต่ก็ยังมีประเด็นที่ควรคำนึงถึงบางประการ

ยอดคงเหลือไม่พอ

ลูกค้าสามารถตั้งค่า PayPay เพื่อให้ระบบเพิ่มยอดเงินจากบัญชีธนาคารหรือบัญชีสถาบันการเงินของตนโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ยอดเงินใน PayPay ของตนเหลือน้อยได้ อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าไม่ได้ตั้งค่านี้ล่วงหน้าและยอดคงเหลือ PayPay ของตนไม่เพียงพอ การชำระเงินจะไม่เสร็จสมบูรณ์ หากลูกค้าไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์การเติมเงินอัตโนมัติ ลูกค้าจะต้องตรวจสอบยอดคงเหลือ PayPay ก่อนทำการซื้อ

ไม่สามารถใช้ได้ในบางที่

แม้ว่า PayPay จะมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจำนวนมากในญี่ปุ่น แต่บางธุรกิจก็ไม่ยอมรับชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใดๆ ในขั้นตอนการชำระเงิน ลูกค้าควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าสามารถชำระเงินด้วย PayPay ได้หรือไม่

การฉ้อโกง

ตามคำเตือนที่ออกโดยสำนักงานกิจการผู้บริโภค (CAA) ศูนย์กิจการผู้บริโภคในญี่ปุ่นได้รับรายงานถึงการฉ้อโกงด้วยวิธีการต่อไปนี้: ผู้ฉ้อโกงหลอกให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซปลอม จากนั้นผู้ฉ้อโกงจะติดต่อลูกค้าไปเพื่อแจ้งว่าคำสั่งซื้อจะถูกยกเลิกเนื่องจากไม่มีสินค้า ผู้ฉ้อโกงเสนอการคืนเงินผ่าน PayPay แล้วแสร้งทำเป็นว่าเริ่มกระบวนการคืนเงินให้แล้ว แต่กลับส่งลิงก์คำขอให้แก่ลูกค้าแทน หากลูกค้าเชื่อว่าลิงก์นั้นเป็นลิงก์คืนเงินจริงแล้วแตะที่ลิงก์โดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ ก็จะกลายเป็นว่าลูกค้าส่งเงินให้แก่ผู้ฉ้อโกงในท้ายที่สุด

ลูกค้าจึงต้องระมัดระวังอย่างมากก่อนแตะลิงก์ใดๆ ที่ตนเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อดำเนินการคืนเงินหรือชำระเงิน

การชำระเงินด้วย PayPay ทำงานอย่างไร

วิธีการต่างๆ ในการชำระเงินแบบไร้สัมผัสโดยใช้ PayPay มีดังนี้

การชำระเงินที่หน้าร้าน

หากร้านค้าจดทะเบียนกับ PayPay ลูกค้าจะสามารถชำระเงินได้ผ่านตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้

  • ลูกค้าแสดงบาร์โค้ดต่อแคชเชียร์: ลูกค้าสามารถแจ้งแคชเชียร์ได้ว่าตนต้องการใช้ PayPay จากนั้น ลูกค้าจะเปิดแอป PayPay และแสดงบาร์โค้ดที่จุดให้บริการ
  • ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดหรือรหัส QR ในขั้นตอนการชำระเงินด้วยตนเอง: ลูกค้าสามารถเลือก "การชำระเงินด้วยบาร์โค้ด" หรือ "การชำระเงินด้วยรหัส QR" ในจุดให้บริการชำระเงินด้วยตนเองได้ จากนั้นก็สแกนบาร์โค้ดหรือรหัส QR โดยใช้แอป PayPay
  • ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดที่ได้รับจากแคชเชียร์: ลูกค้าสามารถแจ้งแคชเชียร์ได้ว่าตนต้องการชำระเงินด้วย PayPay เปิดแอป PayPay แล้วแตะ "ชำระเงิน" แล้วเลือก "สแกนเพื่อชำระเงิน" หลังจากนั้น ลูกค้าสามารถสแกนรหัส QR ที่กำหนด ใส่จำนวนเงินที่ต้องการชำระ แล้วดำเนินการชำระเงินต่อ

การชำระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

หากต้องการชำระเงินไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซโดยใช้แอป PayPay ลูกค้าสามารถดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ได้

  • หากคุณใช้สมาร์ทโฟน: เลือก PayPay ในหน้าจอการชำระเงินของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ระบบจะเปิดแอป PayPay โดยอัตโนมัติ แตะ "ชำระเงิน" ในแอป แล้วรอให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางกลับไปที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซโดยอัตโนมัติ
  • หากใช้คอมพิวเตอร์ในบ้าน: เลือก PayPay เป็นวิธีการชำระเงินเมื่อชำระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ระบบจะแสดงรหัส QR ขึ้น เปิดใช้งานแอปบนสมาร์ทโฟนแล้วสแกนรหัส QR จากนั้นคลิกปุ่ม "ชำระเงิน" บนหน้าจอการชำระเงิน แล้วรอให้ระบบพาคุณกลับมายังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

ลูกค้าสามารถชำระเงินด้วย PayPay ได้แม้ว่าตนจะไม่มีแอป แต่วิธีนี้มีขั้นตอนเพิ่มเติม เช่น ป้อนหมายเลขโทรศัพท์อุปกรณ์เคลื่อนที่และรหัสผ่านที่ลงทะเบียนไว้บน PayPay รวมถึงกรอกรหัสยืนยันตัวตนส่งไปถึงลูกค้าผ่านข้อความ SMS ดังนั้นเพื่อให้ลูกค้าชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay ได้ง่ายที่สุด ลูกค้าควรดาวน์โหลดแอป

การชำระเงินด้วย PayPay มีความปลอดภัยเพียงใด

PayPay ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยหลายประการเพื่อป้องกันปัญหาหลากหลายรูปแบบให้กับผู้ใช้

การป้องกันฟิชชิ่ง

PayPay ใช้ระบบตรวจจับที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองและระบบข้อมูลภัยคุกคามจากองค์กรภายนอกเพื่อให้สามารถระบุเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่แอบอ้างตัวตนได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น PayPay ก็จะส่งการแจ้งเตือนให้ทั้งทีมภายในและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกทราบ

การประเมินช่องโหว่

นอกเหนือจากการประเมินช่องโหว่และการทดสอบการเจาะระบบที่ดำเนินการโดยองค์กรภายนอกแล้ว ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือการโจมตีของ PayPay จะยังดำเนินการประเมินอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งระบบการทำงานแบบนี้จะระบุช่องโหว่ได้ทั้งภายในและภายนอก จึงช่วยรับรองถึงความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้า PayPay ได้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูล

ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการชำระเงินของลูกค้า PayPay จะได้รับการเข้ารหัสเพื่อจัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสและการแฮชที่แนะนำโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) มาตรฐานเหล่านี้จะได้รับการปรับปรุงตามความเหมาะสมเมื่อเทคโนโลยีบางประการล้าสมัยไป

มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม

PayPay ยังใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น

  • การติดตามตรวจสอบการสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • การจัดการฝึกอบรมภายใน
  • การปฏิบัติหน้าที่ตามการรับรองมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS)
  • การปฏิบัติหน้าที่ตามการรับรองระบบการจัดการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (ISMS)
  • การรักษาความปลอดภัยในการส่งข้อมูล

วิธีที่ธุรกิจสามารถผสานการทำงาน PayPay ได้

การชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay สามารถผสานการทำงานเข้ากับระบบการชำระเงินของธุรกิจได้ทั้งผ่านสัญญาโดยตรงกับ PayPay หรือผ่านตัวแทนการชำระเงิน คุณควรเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจและโครงสร้างทางเทคนิคของธุรกิจ

สัญญาโดยตรงกับ PayPay

หากลงนามในสัญญาโดยตรงกับ PayPay คุณเพียงต้องทำตามขั้นตอนการสมัครในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ PayPay เท่านั้น

ตัวแทนการชำระเงิน

หากคุณใช้บริการตัวแทนการชำระเงิน ตัวแทนจะสามารถช่วยให้คุณผสานการทำงาน PayPay เข้ากับตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ค้นหาและปรึกษาตัวแทนการชำระเงินรายต่างๆ และเลือกใช้บริการที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

วิธีการชำระเงินอื่นๆ มีอะไรบ้าง

การผสานการทำงานกับ PayPay ร่วมกับวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่หลากหลายจะช่วยให้ลูกค้าเลือกวิธีการชำระเงินที่ตนต้องการได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจในการทิ้งรถเข็น และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

วิธีการชำระเงินอื่นๆ ส่วนหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในญี่ปุ่นมีดังนี้

  • บัตรเครดิต (เช่น Visa, Mastercard, JCB, American Express)
  • บัตรเดบิต
  • บริการชำระเงินด้วย รหัส QR อื่นๆ (เช่น Rakuten Pay, LINE Pay)
  • เงินอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น Suica, PASMO)
  • บริการชำระเงินหลังได้รับสินค้าแบบซื้อตอนนี้จ่ายทีหลัง (BNPL)
  • การชำระเงินด้วย Konbini (ร้านสะดวกซื้อ)

PayPay ปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินอย่างไร

PayPay มีความน่าสนใจตรงที่นำไปใช้งานได้ง่ายและพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าจำนวนมากทั่วญี่ปุ่น

ในเดือนเมษายน 2025 นั้น PayPay ได้กลายมาเป็นบริการชำระเงินแบบใช้โค้ดบริการแรกในญี่ปุ่นที่เปิดให้ใช้งานผ่าน Stripe Payments นั่นทำให้ธุรกิจที่ใช้ Stripe อยู่แล้วสามารถผสานการทำงาน PayPay เข้ากับระบบการชำระเงินของตนได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก

Stripe มอบฟังก์ชันการประมวลผลการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูงและยืดหยุ่นซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด PCI DSS โดยรองรับ PayPay รวมถึงบัตรเครดิตและวิธีการชำระเงินหลักอื่นๆ ในญี่ปุ่น ใช้ Stripe Payments เพื่อช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe