เมื่อวิธีการชำระเงินไร้เงินสดได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก PayPay ซึ่งเป็นแอปบนสมาร์ทโฟนในญี่ปุ่นจึงได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก แอปการชำระเงินนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้ลูกค้าชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าธุรกิจต่างๆ จะผสานการทำงานของ PayPay เข้ากับขั้นตอนการชำระเงินของตนได้อย่างไร นอกจากนี้ เรายังจะพูดถึงข้อดี ข้อเสีย และปัญหาด้านความปลอดภัยสำหรับธุรกิจที่กำลังพิจารณาใช้ PayPay เป็นวิธีการชำระเงินด้วย
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- PayPay คืออะไร
- สิ่งที่ธุรกิจควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
- ข้อดีของ PayPay สำหรับลูกค้า
- สิ่งที่ลูกค้าควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
- การชำระเงินด้วย PayPay ทำงานอย่างไร
- การชำระเงินด้วย PayPay มีความปลอดภัยเพียงใด
- วิธีที่ธุรกิจสามารถผสานการทำงาน PayPay ได้
- วิธีการชำระเงินอื่นๆ มีอะไรบ้าง
- PayPay ปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินอย่างไร
PayPay คืออะไร
PayPay เป็นผู้ให้บริการการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เมื่อใช้งานแอป PayPay ลูกค้าจะสามารถชำระเงินได้แม้ใช้เพียงสมาร์ทโฟน นั่นทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าเงิน นอกจากนี้ เนื่องจากลูกค้าสามารถใช้งาน PayPay ได้โดยไม่ต้องมีบัตรเครดิต PayPay จึงเป็นวิธีการชำระเงินที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคือกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตนั่นเอง
ตัวเลือกการชำระเงินที่ลูกค้าสามารถใช้งานในแอป PayPay ได้มีด้วยกัน 3 ตัวเลือกดังนี้
- การชำระเงินด้วยยอดคงเหลือ: ต้องโอนเงินเข้าแอปไว้ล่วงหน้าและระบบจะใช้ยอดคงเหลือที่มีในการชำระเงิน
- การชำระเงินด้วยเครดิต: ยอดเงินทั้งหมดที่ใช้ไปจะต้องชำระในเดือนถัดไป
- การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต: ลูกค้าจะลงทะเบียนข้อมูลบัตรของตนในแอปและชำระเงินโดยใช้ PayPay ซึ่งจะต้องชำระยอดเงินรวมที่ใช้ไปกับแอป (หรือยอดรวมที่เรียกเก็บจากบัตรที่ลงทะเบียน) ในวันครบกำหนดชำระของบัตรเครดิต
เมื่อฐานผู้ใช้ของ PayPay เติบโตขึ้น แอปนี้ก็พร้อมให้บริการทั่วประเทศได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นทั้งในหน้าร้านและบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้ PayPay เพื่อส่งเงินให้เพื่อนๆ และครอบครัวได้ โดยแอป PayPay ยังมีฟีเจอร์มากมาย ทั้งการจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภค การสั่งอาหาร และการลงทุน
การชำระเงินภายในร้าน
หากต้องการผสานการทำงานการชำระเงินด้วย PayPay กับหน้าร้าน เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้ได้
- ใช้เทอร์มินัลการชำระเงินแบบหลายวิธี: วิธีการชำระเงินและสัญญาหลายรายการ เช่น บัตรเครดิต รหัส QR และเงินอิเล็กทรอนิกส์ สามารถประมวลผลได้ผ่านเทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) เดียว
- ให้บริการชำระเงินผ่านรหัส QR: ธุรกิจสามารถติดรหัส QR ของ PayPay ไว้ในร้านค้าของตนเพื่อให้ลูกค้าสแกนได้
การชำระเงินออนไลน์
คุณสามารถใช้การชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay สำหรับธุรกิจของคุณได้หากคุณมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- คุณเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์หรือแอป
- คุณกำลังสร้างหรือกำลังพิจารณาสร้างร้านค้าออนไลน์หรือแอป
- คุณใช้บริการร้านค้าออนไลน์ของพาร์ทเนอร์ (หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ)
สิ่งที่ธุรกิจควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
ประเด็นสำคัญที่ธุรกิจควรพิจารณาเกี่ยวกับการใช้ PayPay มีดังต่อไปนี้
ค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการ
ค่าธรรมเนียมของ PayPay นั้นคล้ายกับค่าธรรมเนียมการจัดการของบัตรเครดิต แต่จะแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามประเภทธุรกิจและปริมาณธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมเหล่านี้มักจะต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบริการชำระเงินหลังได้รับสินค้าและการชำระเงินปลายทาง (COD) บางประเภท ดังนั้นธุรกิจหลายแห่งจึงมองว่า PayPay คุ้มค่ากับเม็ดเงินลงทุนของตน
อย่างไรก็ตาม หากมีการให้บริการ PayPay ผ่านตัวแทนการชำระเงิน โครงสร้างค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละราย ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มนำ PayPay มาใช้งาน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินแล้ว และค่าธรรมเนียมดังกล่าวเหมาะสมกับการดำเนินงานของคุณ
การสนับสนุน PayPay
หากต้องการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาใดๆ โปรดตรวจสอบว่าคุณทราบวิธีการติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ PayPay หรือทีมสนับสนุนของตัวแทนการชำระเงินที่คุณใช้บริการเพื่อเริ่มใช้งาน PayPay
ความเข้ากันได้ของระบบ
ระบบแบบเดิมบางระบบอาจต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับ PayPay โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบนี้เข้ากันได้กับระบบการชำระเงินปัจจุบันของคุณและขั้นตอนการชำระเงินปัจจุบันของคุณก่อนที่จะนำไปใช้
การประมวลผลการคืนเงิน
คุณจะต้องจัดตั้งกฎภายในเกี่ยวกับวิธีตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ เช่น การยกเลิกและการคืนสินค้าหลังจากที่ชำระเงินเสร็จสมบูรณ์ โดยกฎเหล่านี้จะช่วยให้การสนับสนุนลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกัน
ข้อดีของ PayPay สำหรับลูกค้า
PayPay ให้ประโยชน์แก่คุณได้หากคุณผสานการทำงานเข้ากับธุรกิจเอาไว้ เพราะมีข้อดีหลายประการสำหรับลูกค้า
ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต
คุณสามารถเติมยอดเงิน PayPay ผ่านบัญชีธนาคารหรือตู้เอทีเอ็มที่ PayPay กำหนดไว้ได้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระเงินออนไลน์ให้ปลอดภัย
มีข้อกำหนดด้านเทคโนโลยีน้อย
เมื่อชำระเงิน ธุรกรรมจะทำได้โดยสมบูรณ์แม้ใช้เพียงสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการป้อนและยืนยันหมายเลขบัตรได้ ลูกค้าจึงมีความอุ่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัย
คะแนน PayPay
คะแนน PayPay จะมอบให้ตามยอดเงินที่ใช้จ่าย ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้ารับส่วนลดได้ในจำนวนมากจากยอดซื้อของตน
สิ่งที่ลูกค้าควรพิจารณาก่อนใช้ PayPay
แม้ว่า PayPay จะให้ประโยชน์มากมายแก่ลูกค้า แต่ก็ยังมีประเด็นที่ควรคำนึงถึงบางประการ
ยอดคงเหลือไม่พอ
ลูกค้าสามารถตั้งค่า PayPay เพื่อให้ระบบเพิ่มยอดเงินจากบัญชีธนาคารหรือบัญชีสถาบันการเงินของตนโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ยอดเงินใน PayPay ของตนเหลือน้อยได้ อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าไม่ได้ตั้งค่านี้ล่วงหน้าและยอดคงเหลือ PayPay ของตนไม่เพียงพอ การชำระเงินจะไม่เสร็จสมบูรณ์ หากลูกค้าไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์การเติมเงินอัตโนมัติ ลูกค้าจะต้องตรวจสอบยอดคงเหลือ PayPay ก่อนทำการซื้อ
ไม่สามารถใช้ได้ในบางที่
แม้ว่า PayPay จะมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจำนวนมากในญี่ปุ่น แต่บางธุรกิจก็ไม่ยอมรับชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใดๆ ในขั้นตอนการชำระเงิน ลูกค้าควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าสามารถชำระเงินด้วย PayPay ได้หรือไม่
การฉ้อโกง
ตามคำเตือนที่ออกโดยสำนักงานกิจการผู้บริโภค (CAA) ศูนย์กิจการผู้บริโภคในญี่ปุ่นได้รับรายงานถึงการฉ้อโกงด้วยวิธีการต่อไปนี้: ผู้ฉ้อโกงหลอกให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซปลอม จากนั้นผู้ฉ้อโกงจะติดต่อลูกค้าไปเพื่อแจ้งว่าคำสั่งซื้อจะถูกยกเลิกเนื่องจากไม่มีสินค้า ผู้ฉ้อโกงเสนอการคืนเงินผ่าน PayPay แล้วแสร้งทำเป็นว่าเริ่มกระบวนการคืนเงินให้แล้ว แต่กลับส่งลิงก์คำขอให้แก่ลูกค้าแทน หากลูกค้าเชื่อว่าลิงก์นั้นเป็นลิงก์คืนเงินจริงแล้วแตะที่ลิงก์โดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ ก็จะกลายเป็นว่าลูกค้าส่งเงินให้แก่ผู้ฉ้อโกงในท้ายที่สุด
ลูกค้าจึงต้องระมัดระวังอย่างมากก่อนแตะลิงก์ใดๆ ที่ตนเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อดำเนินการคืนเงินหรือชำระเงิน
การชำระเงินด้วย PayPay ทำงานอย่างไร
วิธีการต่างๆ ในการชำระเงินแบบไร้สัมผัสโดยใช้ PayPay มีดังนี้
การชำระเงินที่หน้าร้าน
หากร้านค้าจดทะเบียนกับ PayPay ลูกค้าจะสามารถชำระเงินได้ผ่านตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้
- ลูกค้าแสดงบาร์โค้ดต่อแคชเชียร์: ลูกค้าสามารถแจ้งแคชเชียร์ได้ว่าตนต้องการใช้ PayPay จากนั้น ลูกค้าจะเปิดแอป PayPay และแสดงบาร์โค้ดที่จุดให้บริการ
- ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดหรือรหัส QR ในขั้นตอนการชำระเงินด้วยตนเอง: ลูกค้าสามารถเลือก "การชำระเงินด้วยบาร์โค้ด" หรือ "การชำระเงินด้วยรหัส QR" ในจุดให้บริการชำระเงินด้วยตนเองได้ จากนั้นก็สแกนบาร์โค้ดหรือรหัส QR โดยใช้แอป PayPay
- ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดที่ได้รับจากแคชเชียร์: ลูกค้าสามารถแจ้งแคชเชียร์ได้ว่าตนต้องการชำระเงินด้วย PayPay เปิดแอป PayPay แล้วแตะ "ชำระเงิน" แล้วเลือก "สแกนเพื่อชำระเงิน" หลังจากนั้น ลูกค้าสามารถสแกนรหัส QR ที่กำหนด ใส่จำนวนเงินที่ต้องการชำระ แล้วดำเนินการชำระเงินต่อ
การชำระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
หากต้องการชำระเงินไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซโดยใช้แอป PayPay ลูกค้าสามารถดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ได้
- หากคุณใช้สมาร์ทโฟน: เลือก PayPay ในหน้าจอการชำระเงินของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ระบบจะเปิดแอป PayPay โดยอัตโนมัติ แตะ "ชำระเงิน" ในแอป แล้วรอให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางกลับไปที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซโดยอัตโนมัติ
- หากใช้คอมพิวเตอร์ในบ้าน: เลือก PayPay เป็นวิธีการชำระเงินเมื่อชำระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ระบบจะแสดงรหัส QR ขึ้น เปิดใช้งานแอปบนสมาร์ทโฟนแล้วสแกนรหัส QR จากนั้นคลิกปุ่ม "ชำระเงิน" บนหน้าจอการชำระเงิน แล้วรอให้ระบบพาคุณกลับมายังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ลูกค้าสามารถชำระเงินด้วย PayPay ได้แม้ว่าตนจะไม่มีแอป แต่วิธีนี้มีขั้นตอนเพิ่มเติม เช่น ป้อนหมายเลขโทรศัพท์อุปกรณ์เคลื่อนที่และรหัสผ่านที่ลงทะเบียนไว้บน PayPay รวมถึงกรอกรหัสยืนยันตัวตนส่งไปถึงลูกค้าผ่านข้อความ SMS ดังนั้นเพื่อให้ลูกค้าชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay ได้ง่ายที่สุด ลูกค้าควรดาวน์โหลดแอป
การชำระเงินด้วย PayPay มีความปลอดภัยเพียงใด
PayPay ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยหลายประการเพื่อป้องกันปัญหาหลากหลายรูปแบบให้กับผู้ใช้
การป้องกันฟิชชิ่ง
PayPay ใช้ระบบตรวจจับที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองและระบบข้อมูลภัยคุกคามจากองค์กรภายนอกเพื่อให้สามารถระบุเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่แอบอ้างตัวตนได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น PayPay ก็จะส่งการแจ้งเตือนให้ทั้งทีมภายในและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกทราบ
การประเมินช่องโหว่
นอกเหนือจากการประเมินช่องโหว่และการทดสอบการเจาะระบบที่ดำเนินการโดยองค์กรภายนอกแล้ว ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือการโจมตีของ PayPay จะยังดำเนินการประเมินอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งระบบการทำงานแบบนี้จะระบุช่องโหว่ได้ทั้งภายในและภายนอก จึงช่วยรับรองถึงความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้า PayPay ได้
นโยบายการคุ้มครองข้อมูล
ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการชำระเงินของลูกค้า PayPay จะได้รับการเข้ารหัสเพื่อจัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสและการแฮชที่แนะนำโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) มาตรฐานเหล่านี้จะได้รับการปรับปรุงตามความเหมาะสมเมื่อเทคโนโลยีบางประการล้าสมัยไป
มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
PayPay ยังใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น
- การติดตามตรวจสอบการสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาต
- การจัดการฝึกอบรมภายใน
- การปฏิบัติหน้าที่ตามการรับรองมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS)
- การปฏิบัติหน้าที่ตามการรับรองระบบการจัดการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (ISMS)
- การรักษาความปลอดภัยในการส่งข้อมูล
วิธีที่ธุรกิจสามารถผสานการทำงาน PayPay ได้
การชำระเงินออนไลน์ด้วย PayPay สามารถผสานการทำงานเข้ากับระบบการชำระเงินของธุรกิจได้ทั้งผ่านสัญญาโดยตรงกับ PayPay หรือผ่านตัวแทนการชำระเงิน คุณควรเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจและโครงสร้างทางเทคนิคของธุรกิจ
สัญญาโดยตรงกับ PayPay
หากลงนามในสัญญาโดยตรงกับ PayPay คุณเพียงต้องทำตามขั้นตอนการสมัครในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ PayPay เท่านั้น
ตัวแทนการชำระเงิน
หากคุณใช้บริการตัวแทนการชำระเงิน ตัวแทนจะสามารถช่วยให้คุณผสานการทำงาน PayPay เข้ากับตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ค้นหาและปรึกษาตัวแทนการชำระเงินรายต่างๆ และเลือกใช้บริการที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
วิธีการชำระเงินอื่นๆ มีอะไรบ้าง
การผสานการทำงานกับ PayPay ร่วมกับวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่หลากหลายจะช่วยให้ลูกค้าเลือกวิธีการชำระเงินที่ตนต้องการได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจในการทิ้งรถเข็น และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
วิธีการชำระเงินอื่นๆ ส่วนหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในญี่ปุ่นมีดังนี้
- บัตรเครดิต (เช่น Visa, Mastercard, JCB, American Express)
- บัตรเดบิต
- บริการชำระเงินด้วย รหัส QR อื่นๆ (เช่น Rakuten Pay, LINE Pay)
- เงินอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น Suica, PASMO)
- บริการชำระเงินหลังได้รับสินค้าแบบซื้อตอนนี้จ่ายทีหลัง (BNPL)
- การชำระเงินด้วย Konbini (ร้านสะดวกซื้อ)
PayPay ปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินอย่างไร
PayPay มีความน่าสนใจตรงที่นำไปใช้งานได้ง่ายและพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าจำนวนมากทั่วญี่ปุ่น
ในเดือนเมษายน 2025 นั้น PayPay ได้กลายมาเป็นบริการชำระเงินแบบใช้โค้ดบริการแรกในญี่ปุ่นที่เปิดให้ใช้งานผ่าน Stripe Payments นั่นทำให้ธุรกิจที่ใช้ Stripe อยู่แล้วสามารถผสานการทำงาน PayPay เข้ากับระบบการชำระเงินของตนได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก
Stripe มอบฟังก์ชันการประมวลผลการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูงและยืดหยุ่นซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด PCI DSS โดยรองรับ PayPay รวมถึงบัตรเครดิตและวิธีการชำระเงินหลักอื่นๆ ในญี่ปุ่น ใช้ Stripe Payments เพื่อช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ