การดำเนินการตามระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของเนเธอร์แลนด์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดราคา การออกใบแจ้งหนี้ และการได้รับเงิน มีเหตุผลหลายประการที่สมเหตุสมผลในการออกใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (factuur zonder ในภาษาดัตช์) แต่กฎที่ควบคุมนั้นมีความเฉพาะเจาะจง และหากทำผิดพลาดก็อาจนำไปสู่ผลที่ร้ายแรงได้

เราจะกล่าวถึงสถานการณ์ที่ภาษีมูลค่าเพิ่มลดลงเหลือศูนย์ และอธิบายวิธีการร่างใบแจ้งหนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายโดยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ด้านล่างนี้

เนื้อหาหลักในบทความ

• เมื่อใดที่คุณสามารถส่งใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศเนเธอร์แลนด์
  
• วิธีสร้างใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มให้เป็นไปตามข้อกำหนด
  
• ความเสี่ยงต่างๆ ของการออกใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• วิธีที่ Stripe Tax สามารถช่วยได้
  

เมื่อใดที่คุณสามารถส่งใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศเนเธอร์แลนด์

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วในใบแจ้งหนี้ของประเทศเนเธอร์แลนด์จะมีภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ แต่บางธุรกรรมก็ไม่จำเป็นต้องมีภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นภาษี การขายที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นศูนย์ และบริการที่มีการโอนความรับผิดทางภาษีมูลค่าเพิ่มไปยังลูกค้า นอกจากนี้ยังมีแผนธุรกิจบางประเภทที่คุณไม่เรียกเก็บเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของธุรกรรมที่ไม่จำเป็นต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

กิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น

บางภาคส่วนอยู่นอกเหนือขอบเขตของภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งได้แก่ บริการด้านการดูแลสุขภาพ การศึกษา สโมสรกีฬา กิจกรรมระดมทุน บริการทางการเงินหรือการประกันภัย การให้เช่าหรือการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีอายุเกิน 2 ปี และการดูแลเด็ก ในแต่ละกรณีเหล่านี้ คุณไม่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ให้ส่งใบแจ้งหนี้พร้อมข้อมูลมาตรฐานทั้งหมด โดยเก็บบรรทัดที่เป็นภาษีมูลค่าเพิ่มไว้เป็นศูนย์ แล้วระบุการยกเว้นเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่าทำไมจึงไม่ต้องเสียภาษี

แผนธุรกิจขนาดเล็ก (KOR)

ผู้ประกอบการที่มีผลประกอบการระดับปานกลางสามารถเลือกเข้าร่วมแผนธุรกิจขนาดเล็ก (kleineondernemersregeling หรือ KOR) ได้ โดยโครงการนี้เปิดรับผู้ประกอบการรายบุคคล ห้างหุ้นส่วน มูลนิธิ สมาคม และธุรกิจเอกชนจำกัด (BV) ในเนเธอร์แลนด์ เมื่ออยู่ภายใต้ KOR คุณจะไม่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือเรียกคืนภาษีจากค่าใช้จ่ายของตนเอง หากรายรับของคุณไม่เกิน 20,000 ยูโรต่อปี คุณสามารถออกใบแจ้งหนี้ปลอดภาษีมูลค่าเพิ่มและหยุดการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ตราบใดที่คุณระบุไว้ในใบแจ้งหนี้แต่ละใบว่าเป็นผลบังคับใช้จาก KOR หากยอดขายของคุณเกิน 20,000 ยูโร คุณจะต้องแจ้งให้กรมสรรพากรและกรมศุลกากร (Belastingdienst) ทราบทันที

แผน SMEE ของสหภาพยุโรป (EU-KOR)

มีทางเลือกที่คล้ายกันสำหรับผู้ประกอบการจากสหภาพยุโรปที่มีรายรับจำกัดในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเริ่มใช้งานเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2025 หากคุณจัดตั้งธุรกิจในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่น มียอดขายในเนเธอร์แลนด์ไม่เกิน 20,000 ยูโร และรักษาผลประกอบการรวมในสหภาพยุโรปไว้ให้ต่ำกว่า 100,000 ยูโร คุณก็สามารถจดทะเบียนกับหน่วยงานภาษีในประเทศของตนเองเพื่อยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของเนเธอร์แลนด์ได้ โดยคุณจะไม่เรียกเก็บหรือขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของเนเธอร์แลนด์ และจะต้องยื่นรายงานผลประกอบการรายไตรมาส ธุรกรรมบางประเภท เช่น การนำเข้าจากนอกสหภาพยุโรป จะได้รับการยกเว้น ใบแจ้งหนี้ของคุณควรระบุว่าอยู่ภายใต้ผลของแผน SME ของสหภาพยุโรปเพื่อให้ลูกค้าในเนเธอร์แลนด์ทราบถึงวิธีการจัดการภาษี

ยอดขายในอัตราเป็นศูนย์

ยอดขายอื่นๆ ยังคงอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่จะถูกเก็บภาษีที่ 0% ดังนั้นคุณจึงยังคงต้องเก็บบันทึกภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ และสามารถหักภาษีมูลค่าเพิ่มขาเข้าได้ ซึ่งรวมถึงการส่งออกสินค้านอกสหภาพยุโรปและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สำหรับการส่งออก ให้คำนึงถึงพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับอัตราภาษีเป็นศูนย์ และเก็บหลักฐานว่าส่งสินค้าออกจากเนเธอร์แลนด์ หากคุณไม่สามารถพิสูจน์จุดหมายปลายทางได้ คุณอาจยังคงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของเนเธอร์แลนด์อยู่

บริการเรียกเก็บเงินปรับคืน

ภาระผูกพันภาษีมูลค่าเพิ่มจะได้รับการโอนไปยังลูกค้าของคุณเมื่อใช้บริการ B2B ข้ามพรมแดนหลายๆ อย่าง คุณสามารถละเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มได้เฉพาะเมื่อลูกค้าเป็นธุรกิจที่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกต้องเท่านั้น ในใบแจ้งหนี้ ให้ระบุว่า “การเรียกเก็บเงินปรับคืนสำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม” แล้วระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของลูกค้า คุณยังต้องรายงานยอดขายในแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มและรายงานสรุปภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรียกว่ารายการขาย EC ทั้งนี้ การใช้กฎอย่างไม่ถูกต้อง เช่น ไม่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อถึงกำหนดชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในท้องถิ่น อาจส่งผลให้คุณต้องเสียภาษีของประเทศเนเธอร์แลนด์และเสียค่าปรับ

วิธีสร้างใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มให้เป็นไปตามข้อกำหนด

การไม่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับการยกเว้นจากกฎการออกใบแจ้งหนี้อื่นๆ กฎหมายด้านภาษีของเนเธอร์แลนด์กำหนดให้ต้องแจ้งรายละเอียดในระดับเดียวกัน ไม่ว่าอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจะเป็น 21%, 9%, 0% หรือไม่มีก็ตาม

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ต้องมีอยู่ในใบแจ้งหนี้เสมอ

• วันที่ในใบแจ้งหนี้

• หมายเลขใบแจ้งหนี้ที่ไม่ซ้ำกันและเรียงตามลำดับ

• ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ และหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ (ถ้ามี)

• ชื่อและที่อยู่ของลูกค้า

• หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของลูกค้า (ถ้ามี)

• ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณเรียกเก็บค่าบริการและจำนวนหน่วยที่ขายไป

• วันที่ส่งมอบหรือดำเนินการ

• ราคาสุทธิ ส่วนลดใดๆ และยอดรวมที่ต้องชำระ

• อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้ หรือหากไม่มีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้แจ้งเหตุผล (เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม 0% — การส่งออก, KOR, การเรียกเก็บเงินปรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม)

เก็บรักษาบันทึกข้อมูลอย่างรอบคอบ เนเธอร์แลนด์กำหนดให้ใช้ระบบออกใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกรรมระหว่างธุรกิจกับรัฐบาล และธุรกิจหลายแห่งได้นำระบบนี้มาใช้กับการขายแบบ B2B ไม่ว่าคุณจะส่งใบแจ้งหนี้แบบกระดาษหรือแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ตาม คุณต้องจัดเก็บเอกสารไว้อย่างน้อย 7 ปี (10 ปีสำหรับธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์) โดยกฎเหล่านี้มีผลบังคับใช้ไม่ว่าคุณจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ก็ตาม

ความเสี่ยงต่างๆ ของการออกใบแจ้งหนี้แบบไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม

การละเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในใบแจ้งหนี้ในกรณีที่ควรมีการเรียกเก็บภาษีอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อธุรกิจได้ หน่วยงานภาษีของเนเธอร์แลนด์สามารถปรับเงินจากข้อผิดพลาดได้สูงสุดถึง 5,278 ยูโร และปรับเงินจากภาษีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 50% ในกรณีที่เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หากเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าความผิดพลาดของคุณเป็นการฉ้อโกง โทษปรับอาจเพิ่มขึ้นเป็น 100% ของภาษีที่ค้างชำระ การยื่นภาษีล่าช้าก็อาจทำให้ถูกปรับได้เช่นกัน

คุณอาจมีความเสี่ยงต่อการลงโทษที่ไม่ใช่ทางการเงินด้วย การจัดประเภทการขายอย่างไม่ถูกต้องว่าเป็นการขายที่ได้รับการยกเว้นภาษีหรือภาษีเป็นศูนย์อาจทำให้คุณเสียสิทธิในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาจจัดประเภทกิจกรรมของคุณใหม่และเรียกเก็บภาษีคืน ลูกค้าต้องใช้ใบแจ้งหนี้เพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นหากใบแจ้งหนี้ของคุณไม่มีข้อมูลที่จำเป็นหรือมีถ้อยคำที่ไม่ถูกต้อง ลูกค้าอาจปฏิเสธที่จะชำระเงินจนกว่าคุณจะแก้ไข การใช้กฎการเรียกเก็บเงินปรับคืนหรือภาษีเป็นศูนย์อย่างไม่ถูกต้อง (เช่น ไม่ได้รับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของลูกค้า หรือไม่ได้พิสูจน์ว่าสินค้าส่งออกจากประเทศ) อาจทำให้เกิดหนี้สินในประเทศเนเธอร์แลนด์หรือต่างประเทศได้

หากคุณลืมระบุภาษีมูลค่าเพิ่มในใบแจ้งหนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ออกใบแจ้งหนี้ฉบับแก้ไขที่แสดงภาษีที่ถูกต้อง แก้ไขแบบแสดงรายการภาษี และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ค้างชำระ นอกจากนี้ยังต้องเก็บบันทึกให้ชัดเจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเข้าใจได้ง่ายว่าทำไมคุณถึงลืมระบุภาษีมูลค่าเพิ่มในใบแจ้งหนี้

วิธีที่ Stripe Tax สามารถช่วยได้

Stripe Tax ช่วยลดความซับซ้อนในปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี เพื่อให้คุณมุ่งความสนใจไปที่การขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่ Stripe Tax ช่วยให้คุณตรวจสอบภาระผูกพันและแจ้งเตือนเมื่อคุณมียอดเกินเกณฑ์การจดทะเบียนภาษีการขายที่กำหนดตามธุรกรรม Stripe ของคุณ นอกจากนี้ Stripe Tax ยังช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าควรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติสำหรับสินค้าและบริการทั้งแบบสินค้าจริงและแบบดิจิทัล

เริ่มเก็บภาษีทั่วโลกโดยเพิ่มโค้ดเพียงบรรทัดเดียวลงในระบบการผสานการทำงานที่มีอยู่ของคุณ คลิกปุ่มในแดชบอร์ด หรือใช้อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) อันทรงพลังของเรา

Stripe Tax ช่วยให้คุณดำเนินการดังต่อไปนี้ได้

• ทำความเข้าใจว่าจะจดทะเบียนและเรียกเก็บภาษีที่ไหน: ดูตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องเรียกเก็บภาษีโดยอิงตามธุรกรรมใน Stripe หลังจากจดทะเบียนแล้ว คุณสามารถเปิดใช้การเรียกเก็บภาษีในรัฐหรือประเทศใหม่ได้ภายในไม่กี่วินาที คุณสามารถเริ่มเรียกเก็บภาษีได้โดยเพิ่มโค้ดเพียงบรรทัดเดียวในการผสานการทำงาน Stripe ที่คุณมีอยู่ หรือเพิ่มการเรียกเก็บภาษีด้วยการคลิกเพียงปุ่มเดียวในแดชบอร์ด Stripe
  
• จดทะเบียนชำระ: ให้ Stripe จัดการการจดทะเบียนภาษีทั่วโลกแทนคุณ และรับประโยชน์จากขั้นตอนที่ง่ายขึ้นซึ่งจะกรอกรายละเอียดการสมัครล่วงหน้า ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น
  
• เรียกเก็บภาษีโดยอัตโนมัติ: Stripe Tax คำนวณและเรียกเก็บเงินภาษีที่ค้างชำระตามจำนวนที่ถูกต้องไม่ว่าคุณจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะไรหรือขายที่ไหนก็ตาม รองรับผลิตภัณฑ์และบริการหลายร้อยรายการ และมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎและอัตราภาษี
  
• ลดความยุ่งยากในการยื่น: Stripe Tax ผสานการทำงานกับพาร์ทเนอร์ด้านการยื่นภาษีได้อย่างราบรื่น เพื่อให้การยื่นเอกสารทั่วโลกของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและทันเวลา ให้พาร์ทเนอร์ของเราจัดการการยื่นเอกสารแทน เพื่อให้คุณมีเวลาโฟกัสที่การเติบโตของธุรกิจ
  

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Stripe Tax หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้