สำหรับคลินิกทันตกรรมหลายแห่ง การหาวิธีที่จะทำให้ประสบการณ์การชำระเงินน่าเชื่อถือเท่ากับการดูแลที่คลินิกมอบให้อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ตั้งแต่การตรวจสอบประกัน การประมาณความรับผิดชอบของผู้ป่วย การส่งใบแจ้งหนี้ และการจัดการด้านการเงินหรือยอดคงเหลือบางส่วน ทำให้การประมวลผลการชำระเงินอาจเกิดความซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ป่วยก็จะสังเกตเห็น

การประมวลผลการชำระเงินที่ถูกต้องกำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดบริการทันตกรรมทั่วโลกมีมูลค่า 475,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตเกิน 763,740 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034 คำแนะนำที่ใช้ได้จริงในการพัฒนาการประมวลผลการชำระเงินทางทันตกรรมให้ชาญฉลาดและเป็นมิตรกับผู้ป่วยมากขึ้นมีดังนี้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การประมวลผลการชำระเงินทางทันตกรรมคืออะไรและมีวิธีการทำงานอย่างไร
  
• เทอร์มินัลการชำระเงินที่ดีที่สุดสำหรับคลินิกทันตกรรมเป็นอย่างไร
  
• ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับการชำระเงินทางทันตกรรมมีอะไรบ้าง
  
• วิธีเลือกโซลูชันการชำระเงินที่ดีที่สุดสำหรับคลินิกทันตกรรม
  

การประมวลผลการชำระเงินทางทันตกรรมคืออะไรและมีการดำเนินการอย่างไร

การประมวลผลการชำระเงินทางทันตกรรมประกอบด้วยทุกอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญของคุณต้องทำเพื่อให้ได้รับเงิน ตั้งแต่วันที่คนไข้นัดหมายไปจนถึงยอดสุดท้ายที่เรียกเก็บหลังจากชำระเงินประกัน โดยเป็นระบบที่จัดการการชำระเงินแบบมีหน้าร้าน การคืนเงินประกันภัย ยอดคงเหลือของผู้ป่วย และการสื่อสารทางการเงิน

วิธีการทำงานมีดังนี้

ก่อนรับบริการ

มักจะมีการตรวจสอบประกันก่อนการรักษา มีการตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครอง ค่าใช้จ่ายร่วม และการอนุมัติล่วงหน้า เพื่อให้ทั้งผู้ป่วยและสถานพยาบาลทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยผู้ป่วยจะได้รับทราบแผนการรักษาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ โดยหลักการแล้ว ผู้ป่วยจะลงชื่อในแผนการรักษาและแผนทางการเงิน

ตอนนัดหมาย

ผู้ป่วยจะชำระเงินตามสัดส่วนที่ประเมินไว้ โดยทั่วไปจะชำระผ่านบัตร กระเป๋าเงินดิจิทัล หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะจัดการธุรกรรมและโอนเงินทุนไปยังบัญชีของคุณ การตั้งค่าที่ดีที่สุดจะผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินของคุณโดยตรง เพื่อให้ระบบบันทึกการชำระเงินในบัญชีแยกประเภทของผู้ป่วยโดยอัตโนมัติ

หลังรับบริการ

ทีมเรียกเก็บเงินของคุณจะยื่นเคลมกับบริษัทประกันภัยโดยใช้รหัสที่ถูกต้องและเอกสารประกอบที่จำเป็น ซึ่งอาจรวมถึงผลเอกซเรย์ บันทึกต่างๆ หรือเอกสารอนุมัติล่วงหน้า โดยบริษัทประกันภัยจะตรวจสอบการเคลมและอธิบายเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ โดยระบุรายละเอียดว่าความคุ้มครองครอบคลุมอะไรบ้าง ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมอะไรบ้าง และผู้ป่วยจะต้องจ่ายอะไรบ้าง

เมื่อประกันชำระเงินแล้ว

คุณจะส่งการชำระเงินไปยังบัญชีของผู้ป่วย หากมียอดค้างชำระ ผู้ป่วยจะได้รับใบเรียกเก็บเงินหรือลิงก์ชำระเงินทางอีเมลหรือข้อความ หากมีการบันทึกบัตรไว้และคุณได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย คุณสามารถเรียกเก็บเงินส่วนที่เหลือและส่งใบเสร็จได้โดยอัตโนมัติ

หากมียอดคงเหลือ

ผู้ป่วยสามารถชำระเงินได้ทางออนไลน์ ด้วยตนเอง หรือทางโทรศัพท์ คลินิกที่ใช้วิธีการชำระเงินแบบแปลงเป็นโทเค็นสามารถเรียกเก็บเงินได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องให้ผู้ป่วยกรอกข้อมูลบัตรซ้ำ เป้าหมายคือการปิดวงจรการชำระเงินอย่างรวดเร็ว เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องติดตามทวงถามยอดค้างชำระ

เทอร์มินัลการชำระเงินที่ดีที่สุดสำหรับคลินิกทันตกรรมคืออะไร

ในคลินิกทันตกรรม เทอร์มินัลเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ป่วย กระบวนการทำงานของแผนกต้อนรับ และระบบรายรับโดยรวมของคุณ เทอร์มินัลที่เหมาะสมจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว ผสานการทำงานรวมกับสแต็กเทคโนโลยีของคุณ และช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้

ฟังก์ชันหลัก

ทุกเทอร์มินัลควรรองรับบัตรชิป Tap to Pay และกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay หรือ Google Pay หากคุณไม่ทราบว่าผู้ป่วยต้องการชำระเงินแบบใด เทอร์มินัลของคุณจึงควรรองรับทุกช่องทาง ให้มองหาอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย หน้าจอที่อ่านง่าย หน้าจอสัมผัส และข้อความแจ้งที่เรียบง่ายก็สามารถช่วยได้

ความยืดหยุ่น

คุณอาจต้องรับการชำระเงินที่แผนกต้อนรับ ในห้องตรวจ หรือแม้กระทั่งบนเก้าอี้ทันตแพทย์

ควรพิจารณา

• เครื่องอ่านบัตรแบบไร้สายหรือแบบพกพาที่สามารถเคลื่อนย้ายไปพร้อมกับพนักงานของคุณได้ เนื่องจากเครื่องเหล่านี้สามารถลดปัญหาคอขวดในการชำระเงินและทำให้สามารถสนทนาเรื่องการเงินส่วนตัวได้มากขึ้นหลังการรักษา
  
• อุปกรณ์ Tap to Pay สำหรับ iPhone หรือ Android ที่เหมาะสำหรับพื้นที่ให้คำปรึกษาหรือพื้นที่การรักษาที่ยืดหยุ่น
  
• มีเทอร์มินัลหลายเครื่องต่อสถานที่ หากคุณมีผู้ป่วยจำนวนมากหรือมีพื้นที่ทางกายภาพขนาดใหญ่
  

การผสานการทำงานกับระบบของคุณ

เทอร์มินัลที่ดีที่สุดจะเชื่อมต่อโดยตรงกับซอฟต์แวร์การจัดการคลินิกทันตกรรมและผู้ประมวลผลการชำระเงินของคุณ เพื่อให้ทีมงานแผนกต้อนรับไม่ต้องสลับไปมาระหว่างระบบหรือป้อนข้อมูลซ้ำ การชำระเงินจะถูกบันทึกลงในบัญชีผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วยตนเองและช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการกระทบยอดด้วยตนเองได้

ตัวอย่างเช่น Stripe Terminal จะเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ครอบคลุมกว่าของ Stripe ดังนั้นไม่ว่าผู้ป่วยจะชำระเงินด้วยตนเอง ทางออนไลน์ หรือผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ข้อมูลทั้งหมดจะไหลเข้าสู่ระบบหลังบ้านเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าเป็นการรายงานแบบรวมศูนย์ เป็นแพลตฟอร์มที่มีการจัดการที่น้อยลง และสามารถการติดตามผลที่ง่ายขึ้นหากคุณจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินในภายหลัง

การรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด

เทอร์มินัลใดๆ ที่คุณใช้ควรช่วยให้คุณตอบสนองมาตรฐานความปลอดภัยและลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด

ซึ่งจำเป็นต้องมี

• การเข้ารหัสแบบจุดต่อจุด (P2PE) เพื่อให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไม่สัมผัสกับระบบของคุณในรูปแบบที่สามารถอ่านได้
  
• การแปลงเป็นโทเค็นสำหรับการชำระเงินด้วยบัตร หากคุณมีการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้าหรือต้องการเรียกเก็บเงินจากยอดคงเหลือหลังจากหักค่าประกันโดยได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย
  
• ไม่มีการจัดเก็บข้อมูลบัตรในระบบ ดังนั้นพนักงานจึงไม่สามารถดูหรือบันทึกหมายเลขบัตรทั้งหมดได้
  

ความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน

• ตัวเลือกการเชื่อมต่อ: เลือกตัวเลือกที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi เพื่อความยืดหยุ่น อีเทอร์เน็ตเพื่อความมั่นคง หรือบลูทูธสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
  
• __ ใบเสร็จ:__ ตัดสินใจว่าคุณต้องการเครื่องพิมพ์ในตัว ใบเสร็จแบบอีเมลหรือข้อความ หรือทั้งสองอย่าง หลายๆ ที่มักจะไม่ใช้กระดาษเลย
  
• การตั้งค่าและการบำรุงรักษา: พิจารณาถึงความสะดวกในการอัปเดต ความพร้อมในการให้บริการ และวิธีการจัดการกับช่วงระยะเวลาหยุดทำงานของระบบ การรีบูตเทอร์มินัลไม่ควรทำให้ตารางงานของคุณต้องสะดุด
  
• โครงสร้างค่าใช้จ่าย: ผู้ให้บริการบางรายขายเทอร์มินัลโดยตรง ในขณะที่ผู้ให้บริการบางรายปล่อยเช่าหรือรวมเทอร์มินัลเหล่านั้นเข้ากับข้อตกลงการให้บริการ โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายรวมของการเป็นเจ้าของ รวมถึงการสนับสนุน การรับประกัน และการอัปเกรด
  

เทอร์มินัลที่ดีที่สุดสำหรับคลินิกของคุณจะขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญของคุณ หากเป้าหมายของคุณคือการชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น ให้มองหา Tap to Pay การรองรับบัตรที่บันทึกไว้ และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ทันสมัย หากเป้าหมายของคุณคือการประสานงานที่ดีขึ้นกับการเรียกเก็บเงินประกันและยอดคงเหลือของผู้ป่วย ให้เลือกสิ่งที่สามารถผสานการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์คลินิกของคุณได้อย่างราบรื่น หากคุณต้องการขยายธุรกิจ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเทอร์มินัลของคุณสามารถรองรับได้หลายสถานที่และหลายทีมงาน หรือหลายสายบริการในอนาคต (เช่น ทันตกรรมจัดฟัน ทันตกรรมเพื่อความงาม)

เทอร์มินัลที่ยอดเยี่ยมจะช่วยลดภาระงานประจำวัน ทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจและได้รับการดูแลเอาใจใส่จนถึงวินาทีสุดท้ายของการเข้ารับการรักษา ค้นหาเทอร์มินัลที่สอดคล้องกับภาพรวมของระบบการชำระเงินของคุณ

ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับการชำระเงินทางทันตกรรมมีอะไรบ้าง

เมื่อคุณดำเนินการชำระเงินในคลินิกทันตกรรม คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับสองประเภท:

• กฎระเบียบที่กำกับดูแลข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย
  
• กฎระเบียบที่ควบคุมความปลอดภัยของบัตรชำระเงิน
  

การทำความเข้าใจว่ากฎระเบียบเหล่านี้ซ้อนทับกันอย่างไรและเมื่อใดจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการปกป้องข้อมูลผู้ป่วย การหลีกเลี่ยงความรับผิด และการดูแลการดำเนินงานให้เรียบร้อย ต่อไปนี้คือรายละเอียดของแต่ละข้อมูล

ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย

กฎหมายต่างๆ เช่น พระราชบัญญัติความสามารถในการโอนย้ายและความรับผิดชอบของประกันสุขภาพ (HIPAA) ในสหรัฐอเมริกามีการกำหนดกฎเกี่ยวกับวิธีจัดการข้อมูลสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง (PHI) หากผู้ประมวลผลการชำระเงินเคลื่อนย้ายเพียงแค่เงินเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลผู้ป่วยหรือรายละเอียดการรักษา ก็อาจไม่อยู่ในขอบเขตนี้ แต่หากระบบของคุณจัดการทั้งการชำระเงินและข้อมูลทางคลินิก (เช่น "250 ดอลลาร์สำหรับครอบฟันบนฟันซี่ที่ 14 สำหรับ Jane Doe") ก็อาจอยู่ในขอบเขตนี้

บางระบบจะเบลอบรรทัดรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากระบบเหล่านั้นผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์การจัดการคลินิกของคุณ หากข้อมูลการชำระเงินเชื่อมโยงกับบันทึกผู้ป่วย โปรดระมัดระวังและปฏิบัติต่อระบบราวกับว่าอยู่ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ PHI

เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนด:

• ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่สามารถจัดเก็บและส่ง PHI ได้อย่างปลอดภัย
  
• อย่าใส่รายละเอียดการรักษาในข้อความการชำระเงินที่ไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัย
  
• อย่าส่ง PHI ผ่านอีเมลหรือข้อความธรรมดา (SMS)
  

ความปลอดภัยสำหรับบัตรชำระเงิน

มาตรฐานระดับโลก เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลในอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) รวมถึงกฎหมายต่างๆ เช่น คำสั่งบริการชำระเงินฉบับปรับปรุง (PSD2) ในสหภาพยุโรป จะกำหนดข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยของบัตรชำระเงินสำหรับการชำระเงินทางทันตกรรม คลินิกทันตกรรมที่รับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตทั้งแบบพบหน้า ออนไลน์ หรือทางโทรศัพท์ ควรให้ความสำคัญกับสิ่งต่อไปนี้

• ใช้เครื่องมือที่เป็นไปตามข้อกำหนดของ PCI: เลือกผู้ให้บริการชำระเงินที่ตรงตามมาตรฐานสูงสุดสำหรับการชำระเงินด้วยบัตร เช่น Stripe ที่ได้รับการรับรอง PCI ระดับ 1
  
• อย่าเก็บข้อมูลบัตรด้วยตนเอง: หมายความว่าห้ามใช้ชีต Excel ที่มีหมายเลขบัตร ห้ามใช้แบบฟอร์มกระดาษที่เก็บอยู่ในลิ้นชัก และห้ามป้อนข้อมูลบัตรด้วยตนเอง เว้นแต่จะทำผ่านระบบที่ปลอดภัย ควรใช้เทอร์มินัลที่มีการแปลงเป็นโทเค็นและเข้ารหัสบัตรทันทีที่ป้อน เพื่อที่การดำเนินการของคุณจะไม่สัมผัสข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
  
• ใช้เครือข่ายที่ปลอดภัยและอุปกรณ์ที่อัปเดตแล้ว: เครื่องอ่านบัตรควรรองรับชิปและระบบไร้สัมผัสของ Europay, Mastercard และ Visa (EMV) ซึ่งโดยทั่วไปจะปลอดภัยกว่าการรูดบัตรด้วยแถบแม่เหล็ก ควรอัปเดตเทอร์มินัลและซอฟต์แวร์อยู่เสมอ และควรรักษาความปลอดภัยของ Wi-Fi ในสำนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเชื่อมต่อกับเครื่องมือชำระเงิน
  
• ฝึกอบรมพนักงานของคุณ ทุกคนที่ทำหน้าที่จัดการการชำระเงินควรเข้าใจว่าข้อมูลใดมีความสำคัญ รวมถึงวิธีป้อนข้อมูลอย่างถูกต้อง และสิ่งใดที่ควรหลีกเลี่ยง (เช่น การจดข้อมูลบัตรหรือการส่งอีเมล)
  

วิธีเลือกโซลูชันการชำระเงินที่ดีที่สุดสำหรับคลินิกทันตกรรม

การชำระเงินทางทันตกรรมมีความซับซ้อนและมักจะเกี่ยวข้องกับการชำระเงินที่จุดขาย ทางออนไลน์ การชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า การชำระเงินตามประกัน และการชำระเงินผ่านระบบการเงิน โซลูชันการชำระเงินที่เหมาะสมควรช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการเงินของคุณในแต่ละสถานการณ์เหล่านี้

ต่อไปนี้คือวิธีประเมินตัวเลือกของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการผสานการทำงานกับระบบของคุณ

เครื่องมือการชำระเงินของคุณควรจะเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์การจัดการคลินิกของคุณ อย่างน้อยก็ไม่ควรสร้างงานเพิ่มเติมให้คุณ

ให้มองหาสิ่งต่อไปนี้

• การลงรายการในบัญชีผู้ป่วยอัตโนมัติ
  
• การรายงานรวมทุกช่องทางการชำระเงิน
  
• ไม่มีการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนระหว่างแพลตฟอร์ม
  

Stripe สามารถผสานการทำงานกับผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ทางทันตกรรม เช่น Dentally เพื่อซิงค์การชำระเงินทุกประเภท

ให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ที่สร้างมาสำหรับขั้นตอนการทำงานทางทันตกรรม

โซลูชันการชำระเงินสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไปมักจะไม่เพียงพอในสภาพแวดล้อมทางคลินิก

ตรวจสอบว่าเครื่องมือรองรับ:

• การชำระเงินที่จุดขาย ทางออนไลน์ และบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  
• บัตรที่จัดเก็บไว้สำหรับการเรียกเก็บเงินหรือการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า
  
• การเรียกเก็บเงินแบบการชำระเงินตามรอบบิล (เหมาะสำหรับแผนทันตกรรมจัดฟันหรือการเป็นสมาชิก)
  
• การเรียกเก็บเงินด้วยลิงก์ชำระเงินแบบผสานรวมในตัว
  
• ตำแหน่งที่ตั้งหลายแห่งหรือผู้ให้บริการภายใต้บัญชีเดียว
  
• เครื่องมือจัดหาเงินทุนเสริม
  

ความต้องการด้านการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดตามค่าเริ่มต้น

โซลูชันที่คุณเลือกควรมีดังนี้

• ปฏิบัติตามข้อกำหนด PCI ระดับ 1
  
• การใช้การเข้ารหัสและการแปลงเป็นโทเค็นสำหรับข้อมูลบัตรที่จัดเก็บไว้
  

คุณไม่จำเป็นต้องสร้างโปรแกรมการปฏิบัติตามข้อกำหนดขึ้นมาใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น

ประเมินประสบการณ์ของผู้ป่วย

ผู้ป่วยชำระเงินได้ง่ายแค่ไหน สามารถใช้ Tap to Pay ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับได้หรือไม่ สามารถชำระเงินออนไลน์ผ่านลิงก์ที่ใช้งานได้บนมือถือได้หรือไม่ สามารถเรียกเก็บเงินจากบัตรที่บันทึกไว้ได้อย่างสะดวกหรือไม่ ใบเรียกเก็บเงินหรือใบเสร็จนั้นเข้าใจง่ายสำหรับผู้ป่วยหรือไม่

โซลูชันการชำระเงินของคุณจะสะท้อนถึงแบรนด์ของคุณ ขั้นตอนการชำระเงินที่เรียบง่ายและโปร่งใสสามารถสร้างความประทับใจเชิงบวกต่อผู้ป่วยได้

ตรวจสอบฟีเจอร์การรายงานและการกระทบยอด

คุณควรสามารถ

• ติดตามการชำระเงินตามวันที่ ผู้ให้บริการ หรือสถานที่
  
• ดูว่ามีธุรกรรมใดบ้างที่รวมอยู่ในเงินฝากธนาคารแต่ละแห่ง
  
• ระบุยอดคงเหลือค้างชำระได้อย่างรวดเร็ว
  
• กระทบยอดกับระบบบัญชีของคุณ โดยไม่ต้องไปค้นหาในสเปรดชีต
  

แดชบอร์ดที่เหมาะสมสามารถประหยัดเวลาผู้ดูแลระบบได้

ทำความเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม

ผู้ประมวลผลทุกรายจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรม แต่การกำหนดราคาไม่ได้โปร่งใสเสมอไป

ให้ถามสิ่งต่อไปนี้

• มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำหรือค่าธรรมเนียมรายการเดินบัญชีรายเดือนหรือไม่
  
• คุณต้องจ่ายเพิ่มสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI หรือการสนับสนุนหรือไม่
  
• แพลตฟอร์มเรียกเก็บเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้าเท่าใด
  
• ค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์จะต้องทำการชำระเงินล่วงหน้า แบบรวมชุด หรือเช่าหรือไม่
  

Stripe ใช้การกำหนดราคาที่โปร่งใสโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ วางแผนสำหรับอนาคตได้โดยหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิด

พิจารณาความสามารถในการขยายและความยืดหยุ่น

ระบบการชำระเงินของคุณจะยังคงทำงานได้หรือไม่หากคุณเปิดสถานที่แห่งที่สอง เริ่มเสนอให้บริการด้านความงาม หรือเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์จัดตารางเวลาหรือเรียกเก็บเงินใหม่ ให้มองหาอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) แบบเปิด ตัวเลือกการตั้งค่าที่ยืดหยุ่น และการรองรับหลายสถานที่ ระบบที่ดีควรเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณ ไม่ใช่เป็นอุปสรรค

อย่าล็อกตัวเองไว้กับอะไรที่เข้มงวดเกินไป

หลีกเลี่ยงผู้ให้บริการที่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือมีสัญญาแบบหลายปี เว้นแต่ข้อกำหนดจะเป็นที่น่าพึงพอใจจริงๆ ให้เลือกโซลูชันที่ช่วยให้คุณปรับตัวได้ แพลตฟอร์มอย่าง Stripe มีอิสระในการสร้างสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ว่าคุณจะต้องการการตั้งค่าแบบใช้งานทันทีที่เรียบง่ายหรือวิธีการที่กำหนดเองมากขึ้น

โซลูชันการชำระเงินที่ดีที่สุดคือโซลูชันที่ช่วยให้ทีมของคุณทำงานได้ง่ายขึ้น ประสบการณ์ของผู้ป่วยดีขึ้น และความโปร่งใสด้านการเงินของคุณมากขึ้น หากคุณยังคงต้องผสานรวมระบบต่างๆ เพื่อจัดการการชำระเงินภายในสำนักงาน ทางออนไลน์ และยอดคงเหลือ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องรวมระบบเข้าด้วยกัน