เนื่องจากแนวโน้มการทําธุรกรรมแบบไร้เงินสดเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจจํานวนมากขึ้นต่างก็เริ่มรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและร้านค้าแบบมีหน้าร้าน

ขั้นตอนแรกในการเพิ่มการประมวลผลบัตรเครดิตในธุรกิจของคุณคือการคัดกรองผู้ค้า ต้องมีการวางแผนจึงจะผ่านขั้นตอนนี้ได้

บทความนี้ให้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการคัดกรองผู้ค้าเพื่อการประมวลผลบัตรเครดิต รวมถึงข้อดีของการเป็นผู้ค้าและการเตรียมการที่จําเป็นก่อนสมัคร

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• กระบวนการคัดกรองผู้ค้าสําหรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตคืออะไร
  
• วิธีที่ธุรกิจจะเป็นผู้ค้า
  
• ต้องเตรียมพร้อมขั้นสูงสําหรับการคัดกรองผู้ค้า
  
• ผ่านการคัดกรองผู้ค้าอย่างราบรื่น
  

กระบวนการคัดกรองผู้ค้าสําหรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตคืออะไร

ร้านค้าจะได้รับการประเมินเมื่อเริ่มบริการประมวลผลบัตรเครดิต เช่นเดียวกันกับบุคคลทั่วไปที่จะต้องผ่านการตรวจสอบความเป็นสมาชิกไม่ว่าจะสมัครบัตรเครดิตจากบริษัทหนึ่งแห่งหรือหลายแห่ง

กระบวนการคัดกรองจะประเมินความมั่นคงทางการเงินและความเหมาะสมของธุรกิจที่มองหาวิธีที่จะนําข้อเสนอการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตไปปรับใช้ โดยทั่วไปแล้ว จะตรวจสอบประเภทผลิตภัณฑ์และบริการที่จัดการ ลักษณะธุรกิจ รูปแบบการขาย และความน่าเชื่อถือทางเครดิตของบริษัท

เหตุใดจึงจําเป็นต้องคัดกรองผู้ค้า

จําเป็นต้องคัดกรองผู้ค้าเนื่องจากขั้นตอนการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตนั้นเหมือนกันกับขั้นตอนของผู้ใช้บัตร (ลูกค้า) ผู้ค้า (ธุรกิจ) สถาบันที่ออกบัตรและธนาคารผู้ออกบัตร ซึ่งเป็นธุรกรรมเครดิตที่อิงตามความไว้วางใจระหว่างพวกเขาเหล่านั้น

สถาบันผู้รับบัตรจะชําระเงินให้แก่ผู้ค้าล่วงหน้าเป็นการชั่วคราวสําหรับสินค้าและบริการที่ลูกค้าชําระเข้ามา อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้เนื่องจากบางสถานการณ์ระหว่างผู้ค้ากับลูกค้า ก็จะเป็นการสูญเสียที่สําคัญของสถาบันผู้รับบัตร

ธุรกิจต่างๆ จะต้องทําการคัดกรองผู้ค้าเมื่อนําการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตมาใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว เฉพาะบุคคลเท่านั้นที่จะได้รับการคัดกรองสําหรับการเป็นสมาชิก

รายละเอียดของเกณฑ์การคัดกรองจะแตกต่างกันระหว่างสถาบันผู้รับบัตรและบริษัทเครดิต และไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่การประเมินขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงรายรับและขนาดธุรกิจ

โดยทั่วไป จะถือว่ากิจการที่มีเจ้าของคนเดียวและร้านค้าขนาดเล็กสามารถผ่านกระบวนการคัดกรองได้ตราบใดที่พวกเขาได้รับการอนุญาตและใบอนุญาตจากหน่วยงานราชการที่จําเป็นสําหรับธุรกิจ เช่น การขาย การปฏิบัติงาน และอื่นๆ และมีเอกสารที่จําเป็นทั้งหมด อย่างไรก็ตามเกณฑ์การคัดกรองมีความเข้มงวดมากขึ้นสําหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระแสเงินสดหรือประวัติสินเชื่อที่ไม่เสถียร

ข้อดีของการเป็นผู้ค้า

การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตถือเป็นวิธีการชำระเงินที่สะดวกอย่างมากและใช้กันอย่างแพร่หลายในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซด้วย เมื่อธุรกิจรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในฐานะผู้ค้า ธุรกิจจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้

• ดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ
  ตัวอย่างเช่น หากร้านอาหาร ร้านทำผม บูติก หรือธุรกิจที่มีหน้าร้านอื่นๆ รับบัตรเครดิต ก็สามารถคาดหวังได้ว่าจะดึงดูดลูกค้าที่ชอบวิธีการชำระเงินนี้ได้ ดังนั้น หากรับการชำระเงินด้วยบัตร ไม่ว่าลูกค้าจะมีเงินสดหรือไม่ก็ตาม ก็จะมีแนวโน้มที่จะมีผู้ใช้บริการมากขึ้น

• ปัญหาน้อยลงและการดำเนินการที่ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับเงินสด
  หากสามารถเลือกชำระเงินด้วยบัตรเครดิตนอกเหนือจากเงินสดได้ ความจำเป็นในการใช้เงินสดก็จะน้อยลง ดังเช่นกรณีการชำระเงินด้วยเงินสดในร้านค้าจริง หรือการชำระเงินสดเมื่อรับสินค้าในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ วิธีนี้ช่วยลดปัญหาต่างๆ เช่น การนับจำนวนเงินที่ได้รับหรือทอนผิดพลาด และเงินที่สูญหาย นอกจากนี้ยังช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องคำนวณเมื่อปิดบัญชีตอนสิ้นวัน จึงลดเวลาและความพยายามที่ใช้ไปกับการจัดการเงินสดด้วย

การตรวจสอบรายการหลักในขั้นตอนการคัดกรองผู้ค้า

• ประเภทธุรกิจและการขาย

• ผลิตภัณฑ์ที่จําหน่ายและการบริการที่นำเสนอ

• ไม่ว่าคุณจะมีเว็บไซต์หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและไม่ว่าจะมีวิธีดำเนินการอย่างไรก็ตาม

• ประสิทธิภาพการจัดการ

โปรดทราบว่า อาจผ่านการคัดกรองได้ยากขึ้นหากคุณอยู่ในอุตสาหกรรมเฉพาะหรือเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะที่อยู่ในข้อเสนอบริการต่อเนื่องที่ระบุ หากร้านค้า EC ของคุณยังอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อม คุณสามารถรับการตรวจสอบได้หากคุณส่งเอกสารที่แสดงรายละเอียดเว็บไซต์ที่วางแผนไว้อย่างชัดเจน

วิธีที่ธุรกิจจะเป็นผู้ค้า

ในการเป็นผู้ค้า จะมีข้อตกลงการชําระเงินด้วยบัตรเครดิต 2 ประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีขั้นตอนการคัดกรองที่แตกต่างกัน

สัญญาโดยตรงกับสถาบันผู้รับบัตร

ในกรณีที่เป็นสัญญาโดยตรง ผู้ค้าจะทําสัญญาเป็นรายบุคคลและโดยตรงกับสถาบันผู้รับบัตร ซึ่งถือใบอนุญาตจากแบรนด์ของบัตร และทําการคัดกรองและจัดการผู้ค้า ในกรณีนี้ จะใช้แบรนด์บัตรหลายแบรนด์พร้อมกันไม่ได้และผู้ค้าจะต้องดําเนินการทีละรายการ เช่น ผ่านขั้นตอนการคัดกรองสําหรับแบรนด์บัตรแต่ละแบรนด์ที่อยากเข้าร่วม ซึ่งอาจทําให้การทําบัญชีและการจัดการข้อมูลซับซ้อนขึ้น

สัญญาผ่านบริษัทประมวลผลการชําระเงิน

จะมีการใช้ผู้ค้าประเภทร่มของบริษัทประมวลผลการชําระเงินเมื่อจัดการขั้นตอนตามสัญญาสำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหลายใบในนามของธุรกิจ

การใช้บริษัทประมวลผลการชําระเงินจะช่วยลดภาระด้านการบริหารในฝั่งธุรกิจ เนื่องจากผู้ค้าได้รับการตรวจสอบเพียงครั้งเดียว

นอกจากนี้ ยังเสนอบริการที่รวมงานการดำเนินงานต่างๆ ไว้ด้วยกัน รวมถึงการชำระค่าสินค้า และการจัดการการเบิกจ่าย การขาย และข้อมูลลูกค้า บางรายยังเปิดตัวฟังก์ชันการชำระเงินอีกด้วย ซึ่งช่วยให้คุณชำระเงินด้วยบัตรเครดิตจากสมาร์ทโฟนของคุณได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องชำระเงินเฉพาะ

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการ บริษัทประมวลผลการชำระเงิน และบริษัทผู้รับบัตรในข้อตกลงกับผู้ค้า โปรดดู “ความสัมพันธ์ระหว่างนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงกับผู้ค้า (ข้อตกลงเบื้องต้น)” ของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม

การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตสามารถดำเนินการได้โดยผ่านกระบวนการคัดกรองผู้ค้าโดยการทำสัญญาโดยตรงหรือผ่านตัวแทนชำระเงินเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นและจัดเตรียมสภาพแวดล้อมการปฏิบัติการ

การคัดกรองผู้ค้าจำเป็นต้องมีการเตรียมการขั้นสูง

เพื่อให้ผ่านขั้นตอนการคัดกรองได้สำเร็จ คุณจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับการแนะนำการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หลังจากที่คุณเข้าใจรายการหลักที่ตรวจสอบระหว่างการคัดกรองผู้ค้าแล้ว ให้เตรียมสิ่งต่อไปนี้ให้พร้อมและอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณทํางานอย่างถูกต้อง

นอกเหนือไปจากการที่คุณมีเว็บไซต์หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแล้ว การตรวจสอบยังจะพิจารณาด้วยว่าเว็บไซต์ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงการแสดงแต่ละหน้าอย่างถูกต้องหรือไม่ และข้อมูลร้านค้าสามารถดูได้โดยไม่มีปัญหาหรือไม่ สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ นอกจากจะต้องแสดงรายการผลิตภัณฑ์ที่ขายอย่างชัดเจนและมีฟังก์ชันรถเข็นแล้ว ยังต้องระบุข้อมูลที่จะแสดงภายใต้กฎหมายว่าด้วยการทำธุรกรรมทางการค้าที่กำหนดอย่างชัดเจนด้วย

• ที่แสดงภายใต้กฎหมายว่าด้วยการทำธุรกรรมทางการค้าที่กำหนด ได้แก่ ชื่อบริษัท ที่ตั้ง ข้อมูลการติดต่อ ราคาขายสินค้า เวลาและวิธีการชำระเงิน ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าต้องชำระ เวลาในการส่งมอบสินค้า สามารถคืนสินค้าได้หรือไม่ และเงื่อนไขในการคืนสินค้า
  

เตรียมเอกสารหลากหลายรูปแบบที่จะส่ง

เอกสารหลักที่ต้องมี ได้แก่ ใบรับรองการประทับตราบริษัท เอกสารคุณสมบัติ ใบอนุญาต (หากจำเป็นต้องมีใบอนุญาต) สำเนาการจดทะเบียน และข้อมูลบัญชีธนาคารสำหรับการโอนเงิน อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องยืนยันเอกสารที่จำเป็นล่วงหน้า เนื่องจากเอกสารอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจหรืออุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น จําเป็นต้องใช้ภาพถ่ายของร้านหากเป็นร้านค้าจริง

การขออนุญาตและใบอนุญาต

ใบอนุญาตและการอนุญาตซึ่งมีการแนะนำโดยย่อในบทความ คือการอนุมัติที่ได้รับจากหน่วยงานของรัฐ เช่น รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อดำเนินธุรกิจบางประเภท ตัวอย่างเช่น ใบอนุญาตจําหน่ายสุรา (ร้านอาหาร) ใบอนุญาตจําหน่ายยา (ร้านขายยา) และใบอนุญาตโรงแรม (โรงแรมและเกสต์เฮาส์) หากคุณมีเว็บไซต์ จะต้องเปิดเผยข้อมูลใบอนุญาตในเว็บไซต์ด้วย

ผ่านขั้นตอนการคัดกรองผู้ค้าอย่างราบรื่น

บทความนี้กล่าวถึงขั้นตอนการคัดกรองผู้ค้า ซึ่งเป็นขั้นตอนสําคัญในการเริ่มทําธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต การทำความเข้าใจเอกสารที่จำเป็น การเตรียมการอื่นๆ ก่อนการคัดกรอง และการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและประวัติการดำเนินงานของธุรกิจของคุณ จะช่วยให้คุณผ่านการคัดกรองได้

นอกจากนี้ เมื่อใช้บริษัทประมวลผลการชำระเงินเพื่อใช้วิธีดำเนินธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต ขอแนะนำให้เลือกบริษัทที่ตรงกับขนาดของธุรกิจและฐานลูกค้าของคุณ โดยเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการประมวลผล เนื้อหาการบริการ และมาตรการรักษาความปลอดภัยของแต่ละบริษัทอย่างละเอียดถี่ถ้วน

Stripe ให้บริการวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการชําระเงินผ่าน Konbini การโอนเงินผ่านธนาคาร และตัวเลือกบัตรเครดิตต่างๆ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกรรม ตั้งแต่การรับเงิน ไปจนถึงการประมวลผลข้อมูลและการจัดการรายได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้ Stripe Payments คุณจะสร้างระบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกรรมทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งจะช่วยให้คุณรับชําระเงินจากลูกค้าได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย