ในทางทฤษฎีแล้ว ภาษีสินค้าและบริการ (GST) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กนั้นตรงไปตรงมา แต่ในทางปฏิบัติกลับมีผลต่อทุกส่วนของการดำเนินธุรกิจของคุณ ภาษีมีผลต่อวิธีการตั้งราคา วิธีการออกใบแจ้งหนี้ จำนวนคุณสามารถขอคืนได้ และวิธีการจัดการกระแสเงินสดในแต่ละเดือน หากคุณพลาดกฎหรือข้ามรายละเอียดใดไป คุณอาจต้องจ่ายภาษีโดยควักเงิรจากกระเป๋าของคุณเองหรือเผชิญกับบทลงโทษต่างๆ

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายวิธีการจัดการ GST สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในออสเตรเลีย สิ่งที่บังคับใช้กับธุรกิจของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำ และวิธีการทำให้ถูกต้อง

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• เมื่อใดที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องลงทะเบียนสำหรับ GST
  
• คุณจะจดทะเบียนสำหรับ GST ในออสเตรเลียได้อย่างไร
  
• สินค้าและบริการใดบ้างที่ต้องเสีย GST
  
• คุณจะเก็บ GST จากลูกค้าได้อย่างไร
  
• เครดิตภาษีขาเข้า (input tax credits) คืออะไร และช่วยลดความรับผิดชอบ GST ได้อย่างไร
  
• คุณจะยื่นแบบแสดงกิจกรรมทางธุรกิจเมื่อใดและอย่างไร
  
• บทลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามกฎ GST มีอะไรบ้าง
  

เมื่อใดที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องจดทะเบียนสำหรับ GST

ภาษีสินค้าและบริการในออสเตรเลียเป็นภาษี 10%ที่คิดกับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ คุณสามารถใช้เครื่องมือคำนวณ GSTของเราเพื่อตรวจสอบอัตราล่าสุดได้ หากธุรกิจของคุณจดทะเบียนสำหรับ GST คุณจะต้องเรียกเก็บ GST จากการขายส่วนใหญ่และส่งภาษีไปยังสำนักงานภาษีออสเตรเลีย (ATO) การจดทะเบียน GST ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ แต่เป็นข้อบังคับเมื่อธุรกิจของคุณเกินเกณฑ์ที่กำหนดหรือดำเนินการในบางภาคส่วน

เกณฑ์ผลประกอบการ

คุณต้องจดทะเบียนสำหรับ GST เมื่อยอดขายของคุณอยู่ที่ $75,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) หรือมากกว่าในตลอดระยะเวลา 12 เดือน หากคุณกำลังเริ่มต้นธุรกิจและคาดว่าจะเกินเกณฑ์ในปีแรก คุณควรจดทะเบียนตั้งแต่เริ่มต้น หากคุณไม่จดทะเบียน คุณควรติดตามรายรับของคุณเป็นรายเดือน

เมื่อคุณเกิน หรือรู้ว่าคุณจะเกินเกณฑ์ คุณต้องจดทะเบียนภายใน 21 วัน

ข้อกำหนดเฉพาะทางธุรกิจ

ธุรกิจบางประเภทจำเป็นต้องจดทะเบียนสำหรับ GST ตั้งแต่วันแรก ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด หากคุณขับแท็กซี่หรือให้บริการแชร์รถ คุณต้องจดทะเบียนสำหรับ GST ทันที แม้ว่าจะเป็นอาชีพเสริมที่มีรายได้ต่ำก็ตาม หากคุณต้องการเคลมเครดิตภาษีเชื้อเพลิงสำหรับธุรกิจของคุณ (เช่น สำหรับรถหนักหรืออุปกรณ์) การจดทะเบียน GST จะเป็นข้อกำหนดเบื้องต้น

การจดทะเบียนแบบไม่บังคับ

หากรายรับของคุณต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และคุณไม่ได้ให้บริการขับรถ การจดทะเบียน GST ถือเป็นทางเลือก

หากคุณไม่จดทะเบียน

• คุณจะไม่เรียกเก็บ GST จากการขายของคุณ

• คุณไม่สามารถเคลมเครดิต GST จากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจของคุณได้

• คุณอาจดูไม่เป็นทางการต่อธุรกิจอื่น โดยเฉพาะในการทำธุรกิจระหว่างกัน (B2B)

บางธุรกิจจดทะเบียนโดยสมัครใจเพื่อเข้าถึงเครดิตภาษีขาเข้า หรือเพื่อแสดงภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น

คุณจะจดทะเบียนสำหรับ GST ในออสเตรเลียได้อย่างไร

การจดทะเบียน GST เป็นกระบวนการที่ชัดเจน คุณสามารถทำได้ทางออนไลน์ ทางโทรศัพท์ หรือผ่านตัวแทน และมักจะทำในเวลาเดียวกับงานตั้งค่าธุรกิจอื่นๆ ขั้นตอนในการจดทะเบียนมีดังนี้:

ตรวจสอบว่าคุณมีหมายเลขธุรกิจออสเตรเลีย (ABN)

ก่อนที่คุณจะจดทะเบียน GST คุณจะต้องมี ABN หากคุณไม่มี คุณสามารถสมัครออนไลน์ผ่านทะเบียนธุรกิจออสเตรเลีย แบบฟอร์มการสมัคร ABN มีตัวเลือกในการจดทะเบียน GST พร้อมกัน

หากคุณมี ABN คุณสามารถจดทะเบียน GST แยกต่างหากได้ตลอดเวลา

เลือกวิธีการจดทะเบียน

การจดทะเบียนอย่างเป็นทางการสำหรับ GST มี 4 วิธีดังนี้

• ออนไลน์: คุณสามารถจดทะเบียนผ่านบริการออนไลน์สำหรับธุรกิจของ ATO ได้

• ทางโทรศัพท์: โทรหา ATO ที่หมายเลข 13 28 66 เจ้าหน้าที่ ATO จะช่วยคุณทำการจดทะเบียนทางโทรศัพท์

• ผ่านตัวแทนภาษีที่จดทะเบียนหรือผู้แทนใบแจ้งกิจกรรมทางธุรกิจ (BAS): หากคุณใช้บริการนักบัญชีหรือตัวแทน BAS พวกเขาสามารถจดทะเบียน GST แทนคุณได้

• โดยใช้แบบฟอร์มกระดาษ: คุณสามารถกรอกแบบฟอร์มการจดทะเบียน (NAT 2954) และส่งไปยัง ATO ได้ โดยคุณสามารถสั่งซื้อแบบฟอร์มได้ที่นี่

หลังจากการจดทะเบียนได้รับการอนุมัติ ATO จะออกการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมวันที่การจดทะเบียนของคุณมีผล นั่นคือวันที่ที่คุณคาดว่าจะเริ่มเรียกเก็บ GST จากการขายที่ต้องเสียภาษีของคุณ

สินค้าและบริการใดบ้างที่ต้องเสีย GST

GST ของออสเตรเลียใช้กับสินค้าส่วนใหญ่และบริการที่ขายในประเทศ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่ถูกเก็บภาษีในลักษณะเดียวกัน ในฐานะเจ้าของธุรกิจ การรู้ว่าการขายของคุณอยู่ในหมวดหมู่ใด ต้องเสียภาษีหรือไม่ ปลอด GST หรือเก็บภาษีขาเข้า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตั้งราคาสินค้าอย่างถูกต้อง การเรียกเก็บเงินจากลูกค้าในจำนวนที่ถูกต้อง และการเคลมเครดิต GST ที่คุณมีสิทธิ์ได้รับ

หมวดหมู่ต่างๆ มีดังนี้

อัตรามาตรฐาน

สินค้าและบริการส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนี้ หากธุรกิจของคุณขายสินค้าที่ต้องเสียภาษี คุณต้องเรียกเก็บ GST 10% จากการขายแต่ละครั้ง ตัวอย่างทั่วไปได้แก่:

• สินค้าปลีก เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องสำอาง

• การขาย บริการด้านการต้อนรับ เช่น อาหารในร้านอาหาร กาแฟ และการสั่งกลับบ้าน

• บริการเฉพาะทาง เช่น การให้คำปรึกษา งานกฎหมาย การออกแบบกราฟิก และการตลาด

ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดคาเฟ่ จะมีการคิด GST กับกาแฟ แซนด์วิช สินค้าที่มีแบรนด์ และอื่นๆ หากคุณเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ที่ออกใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าในซิดนีย์ คุณจะเรียกเก็บ GST จากบริการของคุณ โดยให้ถือว่าต้องเรียกเก็บ GST เว้นแต่กฎหมายจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

การขายที่ปลอด GST

คุณ ไม่ต้องเพิ่ม GST ในการขายเหล่านี้ แต่คุณยังสามารถเคลมเครดิต GST สำหรับการซื้อของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำการขายเหล่านี้ได้

การขายที่ไม่ต้องเสีย GST ถูกจำกัดอยู่ในหมวดหมู่เฉพาะ โดยรวมถึง:

• อาหารพื้นฐานส่วนใหญ่

• บริการทางการแพทย์และสุขภาพ

• ยา

• หลักสูตรการศึกษาและวัสดุการเรียนการสอน

• บริการดูแลเด็ก

• การส่งออก

การขายที่มีการหักภาษีขาเข้า

คุณไม่ต้องเรียกเก็บ GST จากการขายที่มีการหักภาษีขาเข้า และคุณไม่สามารถเคลมเครดิต GST จากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขายเหล่านี้ กิจกรรมเหล่านี้อยู่นอกระบบ GST

ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดสองตัวอย่างคือ

• บริการทางการเงิน เช่น การให้เงินกู้และการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้า

• ค่าเช่าที่อยู่อาศัย

หากธุรกิจของคุณมีรายได้จากทั้งสองอย่างนี้ คุณจะไม่เรียกเก็บ GST และคุณไม่สามารถเคลม GST คืนจากค่าใช้จ่ายที่คุณใช้ในการสร้างรายได้ดังกล่าวได้

คุณจะเก็บ GST จากลูกค้าได้อย่างไร

GST เป็นอัตราคงที่ 10% ที่ใช้กับการขายที่ต้องเสียภาษีส่วนใหญ่ แต่การนำไปใช้และการสื่อสารขึ้นอยู่กับโครงสร้างราคาและวิธีที่ลูกค้าซื้อจากคุณ

การตั้งราคาโดยมี GST

การคำนวณ GST เป็นเรื่องง่าย กล่าวคือ คุณเพิ่ม 10% ของราคาสินค้าหรือบริการ ธุรกิจในออสเตรเลียต้องแสดงราคาทั้งหมดรวม GST เมื่อแสดงหรือโฆษณาราคาให้ลูกค้า

หากคุณกำลังขายสินค้าหรือบริการที่ไม่มี GST ให้แสดงอย่างชัดเจนโดยการทำเครื่องหมาย GST เป็น $0 AUD หรือยืนยันว่าการขายไม่รวมภาษี

ใบกำกับภาษี

หากการขาย เกิน $82.50 AUD (รวม GST) และลูกค้าของคุณขอใบกำกับภาษี คุณต้องจัดทำใบกำกับภาษีที่ตรงตามมาตรฐานของ ATO ภายใน 28 วัน ใบกำกับภาษีควรมี ABN ของคุณ จำนวน GST ที่เรียกเก็บ และคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ขาย นี่เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะสำหรับลูกค้า B2B ของคุณที่ต้องการใบกำกับภาษีเพื่อเคลมเครดิตภาษีซื้อของพวกเขา

การติดตาม GST ที่เก็บได้

ทุกครั้งที่ลูกค้าชำระเงินให้คุณ ส่วนหนึ่งของเงินนั้นคือภาษีที่คุณจะส่งไปยัง ATO คุณต้องติดตาม GST นั้นแยกต่างหากในบันทึกของคุณเพื่อไม่ให้สับสนกับรายได้จากธุรกิจ ซอฟต์แวร์บัญชีสามารถทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นโดยการติดตาม GST ที่เก็บได้โดยอัตโนมัติ

อีคอมเมิร์ซและการทำงานอัตโนมัติ

หากคุณกำลังดำเนินธุรกิจออนไลน์ คุณไม่จำเป็นต้องทำการคำนวณเหล่านี้ด้วยตนเอง เครื่องมือเช่น Stripe Tax สามารถนำ GST 10% ไปใช้โดยอัตโนมัติตามสถานที่ตั้งของลูกค้าและประเภทของสินค้า และให้รายงานที่ครอบคลุมเกี่ยวกับจำนวนที่คุณเก็บได้

เครดิตภาษีขาเข้า (input tax credits) คืออะไร และช่วยลดความรับผิดชอบ GST ได้อย่างไร

เครดิตภาษีขาเข้า หรือที่เรียกว่าเครดิต GST เป็นฟีเจอร์หลักของระบบ GST ของออสเตรเลีย หากธุรกิจของคุณจดทะเบียนสำหรับ GST คุณสามารถขอคืน GST ที่คุณจ่ายสำหรับการซื้อทางธุรกิจที่มีสิทธิ์ จำนวนที่ขอคืนจะถูกหักออกจากจำนวนที่คุณเก็บจากลูกค้า ซึ่งจะทำให้ภาระภาษีอยู่ที่ลูกค้าสุดท้ายตามที่ควรจะเป็น

วิธีการทำงานของระบบมีดังนี้

• คุณเก็บ GST 10% จากสินค้าส่วนใหญ่และบริการ นี่คือ "ภาษีขาออก" ของคุณ

• นอกจากนี้ คุณยังจ่าย GST 10% สำหรับการซื้อธุรกิจหลายรายการ เช่น สินค้าคงคลัง อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์ นี่คือ "ภาษีขาเข้า" ของคุณ

• เมื่อถึงเวลายื่น BAS ของคุณ คุณจะหักภาษีขาเข้าจากภาษีขาออก ส่วนต่างคือจำนวนที่คุณต้องจ่ายให้ ATO

• หาก GST ขาเข้าของคุณสูงกว่าจำนวน GST ขาออก (เช่น ในช่วงไตรมาสที่ขายไม่ค่อยได้หรือหลังจากการซื้อทุนขนาดใหญ่) คุณจะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืน

อะไรบ้างที่ถือว่าเป็นเครดิตภาษีขาเข้า

ในการขอเครดิตภาษีขาเข้า ต่อไปนี้ทั้งหมดต้องเป็นจริง

• ธุรกิจของคุณใช้การซื้อเพื่อทำการขายที่ต้องเสียภาษีหรือปลอด GST

• รายการหรือบริการที่คุณซื้อมี GST รวมอยู่ในราคา

• คุณมีใบกำกับภาษีที่ถูกต้องสำหรับการซื้อที่เกิน $82.50 AUD (รวม GST)

หากเงื่อนไขใด ๆ เหล่านี้ไม่เป็นไปตามที่กำหนด คุณไม่สามารถเคลมเครดิต GST ได้ มิฉะนั้นเมื่อคุณยื่น BAS ของคุณกับ ATO และรายงานจำนวน GST ที่คุณเก็บได้ คุณสามารถเคลมเครดิตได้

คุณไม่สามารถเคลมเครดิตภาษีขาเข้าได้ใน:

• ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายที่ต้องเสียภาษี

• การซื้อส่วนตัวหรือส่วนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

• รายการบางอย่างที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของ ATO เช่น รถหรู

ATO มีกฎเพิ่มเติมสำหรับกรณีพิเศษ รวมถึงการแบ่งสัดส่วนสำหรับการซื้อที่ใช้ร่วมกันและข้อจำกัดในหมวดหมู่เฉพาะ

คุณจะต้องยื่นแบบแสดงกิจกรรมทางธุรกิจอย่างไรและเมื่อใด

เมื่อจดทะเบียน GST แล้ว คุณจะต้องรายงานจำนวน GST ที่คุณเก็บจากการขายและที่จ่ายในค่าใช้จ่ายทางธุรกิจเป็นประจำ โดยการยื่น BAS กับ ATO

คุณต้องยื่น BAS บ่อยแค่ไหน

ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ยื่น BAS รายไตรมาส แต่บางแห่งก็ยื่นเป็นรายเดือน

หากคุณยื่นรายไตรมาส วันครบกำหนดของคุณจะเป็น

• 28 ตุลาคม สําหรับไตรมาสแรก (กรกฎาคม - กันยายน)

• 28 กุมภาพันธ์ สําหรับไตรมาสที่ 2 (ตุลาคม - ธันวาคม)

• 28 เมษายน สําหรับไตรมาสที่ 3 (มกราคม - มีนาคม)

• 28 กรกฎาคม สําหรับไตรมาสที่ 4 (เมษายน - มิถุนายน)

หากคุณยื่นรายเดือน กำหนดวันยื่น BAS ของคุณจะเป็นวันที่ 21 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น BAS เดือนมีนาคมจะครบกำหนดยื่นในวันที่ 21 เมษายน โดยคุณจะต้องรายงานรายเดือนหากมียอดขายเกิน 20 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

คุณจะยื่น BAS ได้อย่างไร

คุณสามารถยื่น BAS ของคุณได้

• ผ่าน บริการออนไลน์สำหรับธุรกิจ ของ ATO

• ผ่านตัวแทนภาษีหรือตัวแทน BAS ที่ขึ้นทะเบียน

• ทางไปรษณีย์

• ทางโทรศัพท์หากคุณไม่มีการขายและไม่มี GST ที่ต้องรายงาน

ใช้ซอฟต์แวร์บัญชีเพื่อทำให้การเตรียมงานง่ายขึ้น ระบบส่วนใหญ่ติดตาม GST ที่จ่ายและเก็บ และหลายระบบจะกรอกแบบฟอร์ม BAS ของคุณให้อัตโนมัติหรือรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการ ด้วย Stripe คุณสามารถส่งออก สรุป GST ระดับธุรกรรม ได้จากแดชบอร์ด Stripe

บทลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามกฎ GST มีอะไรบ้าง

ATO คาดหวังให้ธุรกิจปฏิบัติตามข้อกำหนด GST และจะบังคับใช้กฎ GST หากธุรกิจของคุณไม่ปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ คุณอาจต้องได้รับบทลงโทษทางการเงิน ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย และเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยและผลเสียที่จะได้รับ

ไม่ลงทะเบียนเมื่อกำหนดให้ทำ

หากคุณจดทะเบียนไม่ทัน ATO อาจจะ

• จดทะเบียนย้อนหลังและกำหนดให้คุณจ่าย GST ทั้งหมดที่คุณควรจะเก็บจากลูกค้า

• ใช้บทลงโทษสำหรับการไม่ลงทะเบียนตามเวลา

• ให้จ่ายดอกเบี้ยเพื่อชดเชยความล่าช้า

หากคุณไม่ได้เรียกเก็บ GST จากลูกค้าในช่วงเวลานั้น ผลเสียก็จะเกิดกับรายรับของคุณ ยิ่งคุณล่าช้ามากเท่าไหร่ ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกลงโทษมากขึ้นตามเวลา

ไม่เรียกเก็บหรือรายงาน GST ต่ำกว่าเป็นจริง

หากคุณจดทะเบียนแต่ไม่เรียกเก็บ GST จากการขายที่ต้องเสียภาษี คุณยังคงต้องชำระ GST หากคุณรายงาน GST ต่ำเกินจริงใน BAS ของคุณ ATO จะถือว่าเป็นการแถลงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คุณอาจต้องชำระ

• ค่าปรับจากการชำระไม่ครบ เริ่มต้นที่ 25% ของ GST ที่ยังไม่ได้ชำระในกรณีที่เป็นความผิดพลาดจากความไม่รอบคอบ และอาจสูงถึง 75% ในฐานการละเลยกฎหมายโดยเจตนา

• ค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยทั่วไป (GIC) ที่สะสมรายวันจากภาษีที่ยังไม่ได้ชำระ

เรียกเก็บ GST ทั้งที่ยังไม่ได้จดทะเบียน

การเรียกเก็บ GST โดยไม่ได้จดทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อย่าคิดภาษีในราคา ใบกำกับภาษี หรือใบเสร็จรับเงิน

หากคุณเรียกเก็บ GST ตอนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและไม่ได้นำส่งให้ ATO

• ATO อาจสั่งให้คุณคืนเงินให้กับลูกค้า

• คุณอาจต้องเสียค่าปรับ ถูกตรวจสอบ หรือทั้งสองอย่าง

ยื่น BAS ของคุณล่าช้า

การยื่นล่าช้าอาจทำให้ถูกลงโทษในฐานที่ไม่ยื่น แม้ว่าจะไม่มี GST ที่ต้องชำระใน BAS ของคุณ โทษนี้จะสะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีหน่วยโทษ 1 หน่วยต่อระยะเวลา 28 วัน (สูงสุด 5 หน่วย) ทั้งนี้หนึ่งหน่วยโทษ มีมูลค่า 330 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ATO อาจยกเว้นโทษหรือลงโทษเล็กน้อยในการทำความผิดครั้งแรกสำหรับธุรกิจที่มีประวัติการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ดี แต่ก็ไม่ควรคาดหวังความเมตตา เพราะการยื่นตรงเวลาหรือขอขยายเวลาถ้าจำเป็นน่าจะปลอดภัยกว่า

การชำระ BAS ล่าช้า

หากคุณยื่น BAS แต่ไม่ชำระ GST ที่ค้างชำระภายในวันที่กำหนด ATO จะใช้มาตรการ

• GIC คิดดอกเบี้ยทบต้นรายวัน
  

อัตรา GIC จะถูกกำหนดรายไตรมาส ซึ่งแค่ดอกเบี้ยอย่างเดียวก็เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วแล้ว หากกระแสเงินสดของคุณตึงตัว การยื่นตรงเวลาและขอผ่อนชำระน่าจะดีกว่าการไม่ชำระแล้วรอการบังคับใช้กฎระเบียบ

การเก็บบันทึกไม่เพียงพอ

ATO คาดหวังให้คุณเก็บบันทึก GST อย่างถูกต้อง ซึ่งได้แก่การเก็บใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารสนับสนุนเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี หากไม่ทำตาม คุณอาจสูญเสียเครดิต GST ที่ควรจะได้ในระหว่างการตรวจสอบ และอาจได้รับการลงโทษหากการกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอถูกพิจารณาว่าเป็นเท็จหรือบิดเบือน

จัดระเบียบใบแจ้งหนี้และบัญชีแยกประเภทของคุณ นี่เป็นวิธีป้องกันปัญหาที่ใช้แรงน้อยที่สุดแล้ว

การจงใจหลีกเลี่ยงภาระ GST

การฉ้อโกง GST โดยเจตนา (เช่น การซ่อนการขายเงินสด การปลอมแปลงใบกำกับภาษี การยื่น BAS เท็จโดยรู้ตัว) อาจส่งผลให้เกิด

• บทลงโทษทางการเงินจำนวนมาก

• ข้อหาทางอาญา

• การตรวจสอบและการติดตามการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นเวลาหลายปี

ATO ใช้เครื่องมือการจับคู่ข้อมูล บันทึกธนาคาร และเกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อตรวจจับรูปแบบที่น่าสงสัย หากคุณกำลังคิดตัดขั้นตอนหรือปลอมแปลงตัวเลข ก็คิดไว้ได้เลยว่า ATO จะสังเกตเห็นแน่นอน

หากคุณยื่นไม่ทันกำหนด ยื่นข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้จดทะเบียนในเวลาที่ควร แนะนำให้กระตือรือร้นจะดีกว่า เพราะบางครั้ง ATO ก็จะลดโทษหรือยกเลิกบทลงโทษให้หากคุณเปิดเผยข้อผิดพลาดโดยสมัครใจก่อน ATO จะพบปัญหา การทำแต่เนิ่นๆ แสดงถึงความสุจริตใจและช่วยให้ข้อผิดพลาดที่แก้ไขได้ไม่บานปลาย