เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป หน่วยงานภาษีจะกำหนดให้ต้องมีการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้มีหมายเลขเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ส่วนใหญ่ในอิตาลี ธุรกิจหลายแห่งจําเป็นต้องปรับตัวตามข้อกําหนดนี้ โดยการใช้ระบบเพื่อจัดการใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และดูแลให้มั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎใหม่

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายวิธีการทำงานของการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกิจ ความท้าทายและวิธีแก้ไขสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมทั้งการพัฒนาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ภาคบังคับในอิตาลี
  
• การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มีวิธีอย่างไรสําหรับธุรกิจ
  
• รหัสผู้รับในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกิจ
  
• การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกิจขนาดเล็ก: ความท้าทายและวิธีแก้ไข
  
• แนวโน้มและการพัฒนาในอนาคตในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
  

การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ภาคบังคับในอิตาลี

กฎหมายฉบับที่ 205 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2017 ได้ประกาศใช้การออกใบกำกับภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ภาคบังคับในอิตาลีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 อย่างไรก็ตาม จนถึงปี 2023 หมวดหมู่ผู้เสียภาษีบางประเภทจะได้รับการยกเว้น เช่น หมวดหมู่ภายใต้หลักเกณฑ์อัตราคงที่หรือหลักเกณฑ์อัตราขั้นต่ำ

พระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 36/2022 ยกเลิกข้อยกเว้นเหล่านี้และขยายการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ภาคบังคับไปยังผู้มีหมายเลขเสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป โดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ภาษีหรือรายรับที่สร้าง

กลุ่มต่อไปนี้ยังคงได้รับยกเว้นภาษีจากการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ภาคบังคับในอิตาลีในปี 2024:

• ผู้ที่ออกใบกำกับภาษีให้กับนิติบุคคลหรือบุคคลต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้มีถิ่นพำนักหรือไม่มีสถานภาพทางการเงินในอิตาลี
  
• ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่ส่งข้อมูลไปที่ระบบบัตรสุขภาพ (Sistema Tessera Sanitaria)
  
• บุคคลที่ไม่จําเป็นต้องส่งข้อมูลให้กับระบบบัตรสุขภาพ แต่เป็นผู้ที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่บุคคลทั่วไป
  

พระราชกฤษฎีกา Milleproroghe 2025 ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2024 ได้ขยายการยกเว้นการออกใบกำกับภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขประเภทสุดท้ายจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2025 และห้ามไม่ให้มีการออกใบกำกับภาษีเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลของบุคคลจะถูกส่งผ่านระบบแลกเปลี่ยนของกรมสรรพากร ซึ่งไม่รับประกันว่าจะสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัว จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเร็วๆ นี้

การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มีวิธีอย่างไรสําหรับธุรกิจ

อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่จะใช้การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หมายถึงเอกสารในรูปแบบภาษามาร์กอัปแบบขยายได้ (XML) ที่สร้างขึ้นโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการเว็บ จากนั้นจะส่งผ่านระบบการแลกเปลี่ยน (Sistema di Interscambio หรือ SDI) ของกรมสรรพากรอิตาลี (Agenzia delle Entrate)

SDI ตรวจสอบว่าใบกำกับภาษีมีข้อมูลภาษีที่จำเป็นหรือไม่ จากนั้นจึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าจัดส่งให้กับลูกค้า โดยออกใบรับการส่งมอบให้กับซัพพลายเออร์

โปรดจําไว้ว่า ระบบจะออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เมื่อคุณส่งให้กับ SDI เท่านั้น ดังนั้น วันออกจึงไม่ใช่วันที่ระบุไว้ในช่องวันที่ของใบกำกับภาษี

รหัสผู้รับในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกิจ

ข้อมูลที่บริษัทต้องใช้จัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะเหมือนกันกับใบกำกับภาษีแบบกระดาษทุกประการ ยกเว้นรหัสผู้รับ ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า “รหัสผู้รับ SDI” หรือ “รหัส SDI” รหัสนี้ช่วยให้มั่นใจว่าจะทำการจัดส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ไปยังธุรกิจหรือผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง รหัสผู้รับจะลิงก์กับซอฟต์แวร์หรือบริการเว็บที่ผู้รับใช้ เพื่อให้ผู้รับสามารถรับใบกำกับภาษีเข้าสู่ระบบการจัดการใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยตรง

แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่มีรหัสผู้รับของลูกค้า คุณสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แก่บริษัทได้แม้ไม่มีรหัสผู้รับ ในกรณีนี้ ผู้รับใบกำกับภาษีสามารถรับผ่านวิธีการต่อไปนี้ได้

• ที่อยู่อีเมลที่ได้รับการรับรอง (PEC): ระบุที่อยู่ PEC ของผู้รับ (หากทราบ) ในช่องผู้รับ PEC แล้วป้อน "0000000" ในช่องรหัสผู้รับในใบกำกับภาษี
  
• พอร์ทัลของผู้รับ: ป้อน 0 เป็นจำนวน 7 ครั้ง (เช่น 0000000) ในช่องรหัสผู้รับ ในสถานการณ์นี้ SDI จะยังคงประมวลผลใบกำกับภาษีที่มีสถานะ “ไม่สามารถจัดส่งได้” และใบกำกับภาษีจะอยู่ในส่วนให้คำปรึกษาบนพอร์ทัลใบกำกับภาษีและใบเสร็จของกรมสรรพากรของอิตาลี เราขอแนะนำให้แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าใบกำกับภาษีนี้อยู่ในส่วนที่สงวนไว้
  

การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกิจขนาดเล็ก: ความท้าทายและวิธีแก้ไข

เมื่ออิตาลีเริ่มใช้การออกใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกิจ ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบอาชีพที่ไม่ถึงเกณฑ์มูลค่าการซื้อขายที่กำหนดจะได้รับการยกเว้น อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ธุรกิจเกือบทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเรื่องการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบอาชีพจึงอาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการการออกใบกำกับภาษี

ความท้าทายหลักๆ คือการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่จําเป็นต่อการจัดการใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ไปพร้อมๆ กับการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับใหม่ ธุรกิจทุกแห่งจะต้องใช้บริการซอฟต์แวร์การจัดการใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือบริการผ่านระบบคลาวด์

เครื่องมือฟรีทั้งจากสํานักงานสรรพากรอิตาลีและบริการแบบเสียค่าใช้จ่ายจะพร้อมให้บริการสําหรับวัตถุประสงค์นี้ เครื่องมือที่หน่วยงานสรรพากรอิตาลีให้บริการมีดังนี้

• ขั้นตอนบนเว็บ: ใช้เพื่อรวบรวมและส่งใบกำกับภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถเข้าถึงได้ผ่านพอร์ทัล ใบกำกับภาษีและใบเสร็จ (Fatture e Corrispettivi)
  
• ซอฟต์แวร์พีซี: ให้บริการในเว็บไซต์สำนักงานสรรพากรของอิตาลี ซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้คุณสร้างและบันทึกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้เท่านั้น
  
• FatturAE: แอปที่มีอยู่ในร้านค้า iOS หรือ Android ที่คุณสามารถใช้เพื่อส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้
  

ผู้ให้บริการเชิงพาณิชย์นำเสนอเครื่องมือการจัดการการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สำหรับธุรกิจ โดยหลายรายมีแพ็กเกจบริการในราคาที่แตกต่างกันเพื่อรองรับความต้องการและงบประมาณของธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบอาชีพ โปรดเลือกเครื่องมือหรือบริการที่ช่วยให้การเปลี่ยนจากใบกำกับภาษีแบบกระดาษเป็นอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายๆ

• เป็นระบบคลาวด์และเข้าถึงได้จากทุกที่
  
• ช่วยให้บริหารจัดการการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดได้ (ซึ่งมักจะซับซ้อนกว่าและมีต้นทุนการบำรุงรักษาและอัปเดตที่สูงกว่า)
  
• มีแดชบอร์ดที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย
  
• เสนอการสนับสนุนทางเทคนิคแบบเฉพาะ
  
• สามารถเชื่อมต่อการทํางานกับซอฟต์แวร์การจัดการธุรกิจอื่นๆ ได้
  

เมื่อธุรกิจของคุณขยายกิจการ การจัดการกระบวนการออกใบกำกับภาษีของธุรกิจอาจมีความซับซ้อนมากขึ้น เครื่องมือบางอย่างสามารถช่วยทําให้ขั้นตอนนี้เป็นอัตโนมัติ เช่น Stripe Invoicing ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการออกใบกำกับภาษีที่ครอบคลุมและปรับขนาดได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างและส่งใบกำกับภาษีสําหรับการชําระเงินแบบครั้งเดียวและตามแบบแผนล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใดๆ Stripe Invoicing ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและรับการชําระเงินได้เร็วขึ้น เนื่องจากผู้บริโภค ถึง 87% ชําระเงินจากใบกำกับภาษี Stripe ภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์บุคคลที่สาม คุณยังสามารถใช้ Stripe Invoicing สำหรับการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นได้อีกด้วย

แนวโน้มและการพัฒนาในอนาคตในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

ขอบเขตของการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ในอิตาลีอาจขยายตัวออกไปอีกในปีต่อๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการด้านการดูแลสุขภาพสำหรับบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะกลายเป็นทางเลือกหรือบังคับใช้ในภาคส่วนนี้หรือไม่ นอกจากนี้ คุณสามารถคาดหวังได้ว่าประเทศในสหภาพยุโรปอื่นๆ จะนำระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น โรมาเนียกลายเป็นประเทศที่ 2 หลังจากอิตาลีที่นำระบบนี้มาใช้ โดยกำหนดให้บริษัทในโรมาเนียทั้งหมดต้องใช้การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป

เบลเยียมจะมีการกำหนดให้ต้องออกและรับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2026 ขณะที่ในฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2026 เป็นต้นไป ทุกบริษัทจะต้องรับใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ แต่การออกใบกํากับภาษีดังกล่าวจะมีผลกับบริษัทขนาดกลางและใหญ่เท่านั้น ข้อกำหนดในการออกจะขยายออกไปเพื่อรวมธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น ในวันที่ 1 กันยายน 2027 ประเทศต่างๆ เช่น โครเอเชีย เยอรมนี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และสเปนมีแนวโน้มที่จะกําหนดให้ธุรกิจต้องส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า

แม้ว่าหลายประเทศจะกำลังดำเนินการเพื่อสร้างระบบการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ของยุโรป แต่คุณสามารถคาดหวังได้ว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลานานพอสมควร ปัจจุบัน กฎหมายยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศสมาชิกแต่ละประเทศ ทำให้การจัดการการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกิจมีความซับซ้อน โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการดำเนินงานระหว่างประเทศ

ผลลัพธ์โดยตรงได้แก่ การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่งและโซลูชันในระบบคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามกฎระเบียบในแต่ละประเทศในยุโรป การรองรับการทำงานร่วมกันได้กับเครื่องมือการจัดการธุรกิจอื่น และการรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้เพื่อลดความซับซ้อนในการจัดการการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สำหรับบริษัทต่างๆ