ตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้: สิ่งที่ธุรกิจในญี่ปุ่นควรรู้

Checkout
Checkout

Stripe Checkout เป็นแบบฟอร์มการชำระเงินสำเร็จรูปที่คุณสามารถปรับแต่งให้เหมาะสำหรับเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้คุณยังผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังรับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้
    1. อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้แตกต่างจากญี่ปุ่นอย่างไร
    2. ฟีเจอร์ของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้
    3. อีคอมเมิร์ซมอลล์รายใหญ่ในเกาหลีใต้
  3. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนสามารถขยายเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ได้อย่างไร
    1. การสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตนเองและเปิดตัวในเกาหลีใต้
    2. การเปิดหน้าร้านบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้
  4. คุณควรใช้วิธีการชำระเงินแบบใดสำหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้
  5. สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้
    1. เสิร์ชเอนจินหลักคือ Naver
    2. อาจต้องมีสถานะนิติบุคคลในเกาหลีใต้
    3. สินค้าบางรายการไม่สามารถขายผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้
  6. แนวโน้มของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้
    1. กลยุทธ์หลากหลายที่มุ่งเป้ากลุ่ม ’Generation MZ’
    2. การขยายตัวของแฟชั่นและ K-beauty เกาหลีสู่ตลาดต่างประเทศ
  7. ลักษณะสําคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้

เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซทำการขายสินค้าให้กับลูกค้าในต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น สิ่งนี้เรียกว่า "อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน"ซึ่งในญี่ปุ่นนั้น รูปแบบธุรกิจนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะวิธีหนึ่งในการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ

ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนจากญี่ปุ่น ทั้งนี้เพราะทั้ง 2 ประเทศตั้งอยู่ใกล้กัน และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ดนตรี โทรทัศน์ อนิเมะ และมังงะ ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเกาหลีใต้

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจพื้นฐานของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้ รวมถึงสิ่งสำคัญที่ธุรกิจญี่ปุ่นควรรู้ นอกจากนี้ยังจะกล่าวถึงวิธีชำระเงินหลักที่ใช้ในเกาหลีใต้ และแนวโน้มที่น่าสนใจในตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศนี้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้
  • ธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนสามารถขยายเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ได้อย่างไร
  • คุณควรใช้วิธีการชำระเงินแบบใดสำหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้
  • สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้
  • แนวโน้มของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้
  • ลักษณะสําคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้

อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้

มาดูภาพรวมของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ โดยอ้างอิงข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO), กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร, และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น

อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้แตกต่างจากญี่ปุ่นอย่างไร

เกาหลีใต้มีประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีกลับสูงกว่ามาก โดยอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก รองจากจีน สหราชอาณาจักร และอินโดนีเซีย การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการใช้ระบบชำระเงินแบบไร้เงินสดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตามที่เราจะกล่าวถึงโดยละเอียดในภายหลัง ตลาดเสิร์ชเอนจินของเกาหลีใต้นั้น Naver มีบทบาทสำคัญและได้รับความนิยมอย่างสูงในชีวิตประจำวัน จนได้รับการขนานนามอย่างกว้างขวางว่าเป็น "เสิร์ชเอนจินประจำชาติ" ของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ KakaoTalk ยังเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารหลัก เช่นเดียวกับที่ LINE เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในญี่ปุ่น โครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตของประเทศนี้ส่วนใหญ่สร้างขึ้นโดยบริษัทภายในประเทศ ส่งผลให้เกิดสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะในแบบท้องถิ่นของเกาหลีใต้

เกาหลีใต้

ญี่ปุ่น

ประชากรทั้งหมดปี 2024
(JETRO สํานักงานสถิติของกระทรวงการภายในและการสื่อสาร)

ประมาณ 51.22 ล้านคน

ประมาณ 123.8 ล้านคน

ส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ในปี 2023
(กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรม)

2.10% (อันดับ 5 ทั่วโลก)

3.40% (อันดับ 4 ทั่วโลก)

เปอร์เซ็นต์ยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซ
(eMarketer, มกราคม 2024)

25.10% (อันดับ 4 ทั่วโลก)

13.70% (อันดับ 9 ทั่วโลก)

เปอร์เซ็นต์ของการชำระเงินแบบไร้เงินสด
(กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรม)

93.60%

32.50%

ฟีเจอร์ของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้

ต่อไปนี้คือฟีเจอร์และลักษณะเด่นที่สำคัญของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้

การไลฟ์สดขายของเป็นเครื่องมือขายยอดนิยม

ไลฟ์สดขายของกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ การไลฟ์สดขายของหมายถึงวิธีการขายที่ใช้การสตรีมวิดีโอเพื่อโฆษณาสินค้าให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ลูกค้าในเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะอาศัยการดูรีวิวและการบอกต่อเมื่อซื้อสินค้าใหม่ๆ ในการไลฟ์สดขายของ อินฟลูเอนเซอร์จะนำเสนอคุณภาพและลักษณะของสินค้าในไลฟ์วิดีโอ ทำให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสถึงตัวสินค้าได้จริง ซึ่งปกติจะทำไม่ได้ผ่านเนื้อหาที่เป็นภาพนิ่งที่ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม วิดีโอเหล่านี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าหรือไม่

การไลฟ์สดขายของมักใช้เพื่อโปรโมตสินค้าที่ลูกค้าไม่สามารถลองใช้ได้จริง เช่น เครื่องสำอางที่ลูกค้าไม่สามารถรู้ได้ว่าจะดูเป็นอย่างไรเมื่ออยู่บนผิวหน้า จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน หรือจะมีกลิ่นแบบใด นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมกับสินค้าประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เพราะลูกค้าไม่สามารถรู้ได้ว่าสินค้าจะให้สัมผัสอย่างไร พอดีกับร่างกายแค่ไหน หรือดูเป็นอย่างไรเมื่อสวมใส่ วิดีโอการไลฟ์สดขายของไม่ได้มีแค่อินฟลูเอนเซอร์หรือคนดังเท่านั้น แต่บางครั้งเจ้าของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซก็ร่วมออกไลฟ์เองด้วย

ระบบแต้มสะสมและการแจกคูปองได้รับความนิยมอย่างมาก

การแข่งขันระหว่างธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ดุเดือดมาก ธุรกิจต่างๆ ใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เป็นเอกลักษณ์และระบบแต้มสะสมเฉพาะของแต่ละธุรกิจสามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าได้อย่างมาก คูปองที่จำกัดช่วงเวลาก็มักจะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับเว็บไซต์ได้เช่นกัน

มีทั้งอีคอมเมิร์ซมอลล์ขนาดใหญ่และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเฉพาะทาง

ในเกาหลีใต้ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ อีคอมเมิร์ซมอลล์ขนาดใหญ่ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดเล็กที่เน้นขายสินค้าประเภทเฉพาะ เหมือนกับ Rakuten Ichiba ของญี่ปุ่น อีคอมเมิร์ซมอลล์ขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงเครื่องสำอาง เสื้อผ้า อาหาร ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์

ในทางกลับกัน เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดเล็กและเฉพาะทางจะมุ่งขายสินค้าที่มีจุดประสงค์เฉพาะเจาะจง เว็บไซต์เหล่านี้มักมีความเชี่ยวชาญสูงและมุ่งเป้าลูกค้ากลุ่มเฉพาะ เช่น เว็บไซต์แฟชั่นอาจเน้นขายเฉพาะเสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้ามือสอง หรืออุปกรณ์ฟิตเนส

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเฉพาะทางเหล่านี้มักดำเนินการโดยธุรกิจขนาดเล็กหรือบุคคลทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้คือ แม้ว่าเว็บไซต์จะมีขนาดเล็กหรือดำเนินการโดยบุคคลเพียงคนเดียว ก็ยังสามารถเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมากได้ เว็บไซต์ที่เชี่ยวชาญในหมวดหมู่เดียวมีข้อได้เปรียบคือสามารถดึงดูดและรักษาฐานแฟนหรือลูกค้าประเภทเฉพาะกลุ่มได้

อีคอมเมิร์ซมอลล์รายใหญ่ในเกาหลีใต้

ต่อไปนี้คืออีคอมเมิร์ซมอลล์รายใหญ่ในเกาหลีใต้ โปรดทราบว่าไม่มีเว็บไซต์ใดที่รองรับภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นธุรกิจญี่ปุ่นที่ต้องการใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้จะต้องแปลและปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับท้องถิ่น

Coupang

Coupang เป็นอีคอมเมิร์ซมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ และมักถูกขนานนามว่าเป็น "Amazon แห่งเกาหลีใต้" Coupang จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งแฟชั่น ความงาม และอาหาร บริการจัดส่งด่วน Rocket Delivery ของบริษัทซึ่งสามารถส่งของได้ภายในวันถัดไป ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า

Coupang ยังมีบริการอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่ชื่อว่า Rocket Overseas สำหรับลูกค้าชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่นอกประเทศ ภายใต้บริการนี้มี Japan Store ที่จำหน่ายสินค้าจากญี่ปุ่น เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ให้กับลูกค้าชาวเกาหลีใต้ โดย Coupang จะซื้อสินค้าจากธุรกิจญี่ปุ่น แล้วจัดส่งจากคลังสินค้าของตนหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่า Coupang ได้ยกเลิกบริการจัดส่งจากเกาหลีใต้ไปญี่ปุ่นในปี 2023 แล้ว ดังนั้นลูกค้าที่อยู่ในญี่ปุ่นจะไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าบน Coupang ได้อีกต่อไป

GMarket

GMarket เป็นหนึ่งในอีคอมเมิร์ซมอลล์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งแตกต่างจาก Coupang ตรงที่ลูกค้าในญี่ปุ่นสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่าย และเข้าถึงสินค้าที่ไม่มีขายในญี่ปุ่นได้ ส่วนเว็บไซต์ก็มีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ระบบสะสมแต้มที่ใช้เป็นส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป รวมถึงระบบรีวิวสินค้าแบบครบถ้วน ทำให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งคล้ายกับการใช้ Rakuten Ichiba อย่างมาก

11Street

11Street เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภทเช่นเดียวกับ Coupang เว็บไซต์รองรับการจัดส่งระหว่างประเทศ รวมถึงไปยังญี่ปุ่น และยังให้ลูกค้าเลือกสกุลเงินที่ต้องการใช้ในการสั่งซื้อได้

TMON

TMON เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอีกแห่งในเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับอีคอมเมิร์ซมอลล์รายใหญ่อื่นๆ เว็บไซต์มีสินค้าหลากหลาย เช่น อาหาร แฟชั่น และบริการด้านประสบการณ์ เช่น การท่องเที่ยวและสันทนาการ จุดเด่นอย่างหนึ่งของ TMON คือกิจกรรมพิเศษแบบจำกัดเวลา เช่น การจัดส่งฟรีในวันศุกร์ หรือแฟลชเซลล์ที่ผูกกับช่วงเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม TMON ไม่รองรับการจัดส่งระหว่างประเทศ (รวมถึงญี่ปุ่น) ดังนั้น บริการทั้งหมดจะมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่อยู่ในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนสามารถขยายเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ได้อย่างไร

แม้ว่าจะมีหลากหลายวิธีในการเริ่มใช้งานธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน แต่มาดูที่กลยุทธ์หลักที่ธุรกิจในญี่ปุ่นควรรู้ หากต้องการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้โดยเฉพาะ

การสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตนเองและเปิดตัวในเกาหลีใต้

กลยุทธ์นี้คือการที่ธุรกิจจัดตั้งและใช้งานเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตนเอง โดยสามารถปรับแต่งฟังก์ชันและการออกแบบของเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถสะท้อนภาพลักษณ์และสไตล์ของแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม ในการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ธุรกิจสามารถใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน (ASP) เป็นโครงสร้างพื้นฐาน หรือจะพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเองก็ได้

อย่างไรก็ตาม การสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมักใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น เจ้าของธุรกิจจึงต้องบริหารกระแสเงินสดอย่างรอบคอบ และให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของต้นทุน นอกจากนี้ ควรมีระบบที่แข็งแกร่งในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทีมพัฒนาภายในองค์กรกับพาร์ทเนอร์ภายนอก

นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่มุ่งเป้าลูกค้าในเกาหลีใต้ การสร้างเว็บไซต์ที่รองรับภาษาเกาหลีอย่างครบถ้วนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจควรจ้างพนักงานที่มีความสามารถทางภาษาเกาหลี และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้

การเปิดหน้าร้านบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้

อีกหนึ่งทางเลือกของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนคือการเปิดหน้าร้านผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีฐานอยู่ในเกาหลีใต้ ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ตลาดของเกาหลีใต้มีทั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเฉพาะทางและอีคอมเมิร์ซมอลล์ขนาดใหญ่ โดยธุรกิจสามารถเลือกขายในแบบใดแบบหนึ่งหรือทั้งสองแบบก็ได้ ข้อดีของการใช้มอลล์อีคอมเมิร์ซที่มีอยู่แล้วคือ ตัวแพลตฟอร์มนั้นมีเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าอยู่ในระดับหนึ่ง จึงอาจดึงดูดลูกค้าได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต้องตรวจสอบกับแต่ละอีคอมเมิร์ซมอลล์ล่วงหน้าเกี่ยวกับรายละเอียดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดหน้าร้าน รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเปิดร้านด้วย

หากธุรกิจไม่ต้องการใช้มอลล์อีคอมเมิร์ซในการขายสินค้า ก็สามารถเปิดเว็บไซต์เฉพาะทางเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน

คุณควรใช้วิธีการชำระเงินแบบใดสำหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้

เมื่อขายสินค้าให้กับลูกค้าในเกาหลีใต้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศนั้น

ด้วยโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ล้ำหน้าและการทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดที่กลายเป็นเรื่องปกติในเกาหลีใต้ การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและมือถือจึงเป็นวิธีการหลัก รัฐบาลเกาหลีใต้ยังให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล จึงมีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าการชำระเงินแบบไร้เงินสดจะขยายตัวมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้

วิธีการชำระเงินหลักที่ใช้ในตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ ได้แก่

  • Visa และ Mastercard
  • KakaoPay
  • Naver Pay
  • Samsung Pay
  • PAYCO
  • Toss

จะเห็นได้ว่ามีวิธีการชำระเงินหลากหลายประเภทที่ใช้กันในอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ สำหรับธุรกิจจากญี่ปุ่นที่ต้องการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้ การสามารถรองรับวิธีการชำระเงินเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้

ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อต้องการขายสินค้าให้กับลูกค้าในเกาหลีใต้ผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน

เสิร์ชเอนจินหลักคือ Naver

ในประเทศญี่ปุ่น เสิร์ชเอนจินที่ใช้กันมากที่สุดคือ Google และ Yahoo! JAPAN ส่วนในเกาหลีใต้ เสิร์ชเอนจินที่ครองตลาดคือ Naver เนื่องจากอัลกอริทึมของ Naver แตกต่างจากของ Google อย่างมาก กลยุทธ์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพบนเสิร์ชเอนจิน (SEO) ที่ใช้ได้ผลกับ Google อาจไม่มีผลใดๆ เลยกับ Naver ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเป้าตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้จำเป็นต้องปรับให้เหมาะสมกับ Naver โดยเฉพาะ

ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ของคุณมีบล็อก การเผยแพร่เนื้อหาผ่าน Naver Blog จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ในเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ เนื่องจากโฆษณาโฆษณาแบบ Listing มักได้ผลดีบน Naver จึงจำเป็นต้องใส่ใจกับองค์ประกอบอย่างเช่น ชื่อหน้าเพจและประโยคเปิดของเนื้อหา

อาจต้องมีสถานะนิติบุคคลในเกาหลีใต้

ในหลายกรณี การมีสถานะเป็นนิติบุคคลในเกาหลีใต้ถือเป็นข้อบังคับในการตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือเปิดหน้าร้านในอีคอมเมิร์ซมอลล์ เนื่องจากเอกสารและขั้นตอนการขอสถานะนิติบุคคลต้องดำเนินการเป็นภาษาเกาหลี จึงควรพิจารณาใช้บริการเอเจนซี่เพื่อช่วยให้ขั้นตอนเหล่านี้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ หลังจากได้รับสถานะนิติบุคคลแล้ว อาจมีภาระภาษีตามรายได้ที่เกิดขึ้น จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระภาษี

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อีคอมเมิร์ซมอลล์อาจไม่จำเป็นต้องมีสถานะนิติบุคคล ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขอย่างละเอียดก่อนเปิดหน้าร้าน

สินค้าบางรายการไม่สามารถขายผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้

เมื่อขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน จะต้องตรวจสอบก่อนว่าสินค้านั้นสามารถส่งออกไปยังประเทศเป้าหมายได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้นำเข้าสุราผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน สุราทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นของนำเข้าหรือผลิตในประเทศ จะต้องจำหน่ายผ่านผู้ค้าส่งเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถขายสุราโดยตรงให้กับลูกค้าผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้

ข้อจำกัดนี้ยังใช้กับอีคอมเมิร์ซมอลล์ขนาดใหญ่ที่เน้นตลาดภายในประเทศของเกาหลีใต้ด้วย เช่น Gmarket ก็ไม่สามารถขายโซจูหรือมักกอลลีที่ผลิตในประเทศได้

ดังนั้น ธุรกิจควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าสินค้าใดบ้างที่สามารถและไม่สามารถขายผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้

แนวโน้มของอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้

การเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซส่งผลกระทบอย่างมากต่อพฤติกรรมการจับจ่ายในชีวิตประจำวันของลูกค้าในเกาหลีใต้ มาดูแนวโน้มล่าสุด 2 ประการของอีคอมเมิร์ซในประเทศนี้กัน

กลยุทธ์หลากหลายที่มุ่งเป้ากลุ่ม "Generation MZ"

ในเกาหลีใต้ ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซจำนวนมากใช้กลยุทธ์การขายที่มุ่งเป้ากลุ่มที่เรียกว่า "Generation MZ" ซึ่งเป็นการรวมกันของกลุ่ม Millennials และ Gen Z สำหรับ Generation MZ ซึ่งเติบโตมากับยุคดิจิทัล การช้อปปิ้งออนไลน์และการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน และปัจจัยสำคัญในการดำเนินเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ก็คือ การมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ Generation MZ

ตัวอย่างเช่น ไลฟ์คอมเมิร์ซเป็นวิธีการขายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Generation MZ การใช้กลยุทธ์ online-merge-offline (OMO) เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญในการเข้าถึง Generation MZ ในโลกอีคอมเมิร์ซ กลยุทธ์ OMO นี้ยังเป็นแนวโน้มหลักในตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของจีนอีกด้วย

Kakao Gift ซึ่งเป็นบริการของขวัญออนไลน์จากแอปแชทชื่อดังของเกาหลีใต้อย่าง KakaoTalk ก็ได้รับความนิยมในหมู่ Generation MZ บริการนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งบัตรของขวัญดิจิทัลและของขวัญประเภทอื่นๆ ให้กับครอบครัวและเพื่อนผ่านทางแชทได้อย่างง่ายดาย จึงถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในเกาหลีใต้ทั้งในฐานะเครื่องมือสื่อสารและบริการเชื่อมต่อกับอีคอมเมิร์ซ

การขยายตัวของแฟชั่นและ K-beauty เกาหลีสู่ตลาดต่างประเทศ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์แฟชั่นและความงามของเกาหลีใต้ได้รับความสนใจจากนานาประเทศ โดยเฉพาะเครื่องสำอางจากเกาหลีใต้ (ที่รู้จักกันทั่วไปว่า "K-beauty") ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก และมีการจำหน่ายในญี่ปุ่นผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน

ข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามจากเกาหลีคือ มีคุณภาพสูงแต่จำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผล อัตราส่วนความคุ้มค่าต่อราคาที่ดีเยี่ยมนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สินค้ากลุ่ม K-beauty ได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างแพร่หลาย ธุรกิจแบรนด์ K-beauty ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่จำนวนมากก็กำลังมองหาโอกาสในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในอนาคตด้วยเช่นกัน

ลักษณะสําคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้

ในบทความนี้ เราได้กล่าวถึงสิ่งที่คุณควรรู้หากต้องการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตลาด คุณลักษณะเฉพาะ และประเด็นอื่นๆ อีกมากมายที่ควรพิจารณา เนื่องจากเกาหลีใต้ตั้งอยู่ใกล้กับญี่ปุ่นในเชิงภูมิศาสตร์ จึงมีศักยภาพสูงในการเป็นจุดหมายปลายทางของธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีผู้บริโภคจำนวนมากซึ่งให้ความสนใจในแบรนด์และสินค้าจากญี่ปุ่นอีกด้วย ที่สำคัญ การท่องเที่ยวขาเข้าของญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังนี้ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้

หากต้องการเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเกาหลีใต้ คุณจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศนี้ การเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป้าหมายอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่ม Generation MZ จึงเป็นสิ่งสำคัญ การนำเสนอวิธีการชำระเงินที่ใช้กันทั่วไปในเกาหลีใต้เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในตลาดนี้ โดยเฉพาะการรองรับรูปแบบการชำระเงินแบบไร้เงินสดหลายประเภท รวมถึงบัตรเครดิต

Stripe มีฟังก์ชันหลากหลายที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานด้านบริการรับชำระเงินให้มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับชำระเงินแบบไร้เงินสด เช่น บัตรเครดิต การประมวลผลข้อมูล และการจัดการรายได้ Stripe Checkout รองรับมากกว่า 30 ภาษา และมากกว่า 135 สกุลเงิน ทั้งนี้ Checkout ยังสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเรียบง่ายให้กับหน้าชำระเงินของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ซึ่งจะช่วยมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นและน่าพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งอาจช่วยเพิ่มอัตราการทำรายการซื้อสำเร็จของธุรกิจได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Checkout

Checkout

ผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe เพื่อให้รับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Checkout

สร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยและผสานรวมกับเว็บไซต์ของคุณหรือโฮสต์ไว้ในระบบของ Stripe