ความท้าทาย

Kittl เปิดตัวในปี 2022 โดยทีมงานเล็กๆ ที่มีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน นั่นคือการสร้างแพลตฟอร์มกราฟิกดีไซน์ออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อมอบเครื่องมือให้กับนักสร้างสรรค์ที่มีทักษะในทุกระดับ แผนธุรกิจนี้เหมาะกับโมเดลแบบสมัครใช้บริการ แต่ด้วยความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย Kittl จึงคาดว่าระดับการสมัครใช้บริการและโมเดลค่าบริการจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

เพื่อให้เริ่มทำธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว Kittl จำเป็นต้องมีพาร์ทเนอร์การเรียกเก็บเงินและการชำระเงินที่มีเทคโนโลยีที่นำมาใช้งานได้ง่ายซึ่งจะไม่เพิ่มภาระให้กับทีมพัฒนาของตนมากเกินไปตอนเปิดตัว แต่ก็ต้องมีความซับซ้อนมากพอที่จะขยายไปพร้อมกับการเติบโตของบริษัท

"Kittl ทำธุรกิจไปทั่วโลกตั้งแต่ต้น เราจึงต้องการผู้ให้บริการระดับสากลเพื่อรองรับการชำระเงินในต่างประเทศ" Alexandre Willot ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของ Kittl กล่าว "และเรายังต้องการเครื่องมือที่สามารถปรับแต่งได้เรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจด้วย"

ในการทำให้กระบวนการลงทะเบียนและชำระเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับฐานผู้ใช้ทั่วโลก Kittl จึงต้องการเสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลายซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในหลายๆ ท้องถิ่น แต่การให้บริการแก่ฐานลูกค้าทั่วโลกก็ทำให้ Kittl กังวลเกี่ยวกับความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพอัตราการอนุมัติการชำระเงินและการจัดการการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังต้องการโซลูชันที่ทำให้การเก็บภาษีและการทำบัญชีในหลายประเทศง่ายขึ้น เพื่อให้นักพัฒนาและฝ่ายการเงินสามารถมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจ

สุดท้าย ทีมบริหารของ Kittl ตระหนักว่าการรับรู้และตอบสนองต่อเทรนด์การเรียกเก็บเงินและการชำระเงินจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดขณะที่ธุรกิจเติบโต ดังนั้นพาร์ทเนอร์การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินจึงต้องสามารถนำเสนอข้อมูลที่ละเอียดแม่นยำซึ่งเข้าถึงและวิเคราะห์ง่ายได้อีกด้วย

โซลูชัน

Kittl เลือกใช้ Stripe เพื่อตอบสนองด้านการเรียกเก็บเงินและการชำระเงิน เนื่องจากเทคโนโลยีของ Stripe สามารถรองรับโมเดลธุรกิจของบริษัทได้ไม่ว่าจะขยายไปที่ใดหรือตรรกะการสมัครใช้บริการจะมีการเปลี่ยนแปลงจนซับซ้อนเพียงใดก็ตาม "เราต้องการทำงานกับพาร์ทเนอร์ระดับแนวหน้า และเราต้องการเป็นแพลตฟอร์มระดับแนวหน้าด้วยเช่นกัน" Bryan Lee หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Kittl กล่าว "สำหรับเราแล้ว Stripe เป็นตัวเลือกที่ตัดสินใจง่ายมาก"

Stripe Billing ช่วยให้ Kittl สามารถเชื่อมต่อการทำงานและตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย ทำให้เริ่มใช้งานได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือนโดยมีระดับการสมัครใช้บริการแบบรายเดือนอย่างง่าย รวมถึงตัวเลือกใช้ฟรี นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดค่บริการตามประเทศของผู้สมัครใช้บริการได้อีกด้วย ความยืดหยุ่นของ Billing ยังทำให้ Kittl สามารถปรับเปลี่ยนโมเดลการกำหนดราคาให้เหมาะสมกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปได้ด้วย เช่น หนึ่งปีหลังจากเปิดตัว Kittl ได้เพิ่มเครดิตการใช้งานในการสมัครใช้บริการแต่ละระดับ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงเครื่องมือ AI ใหม่ๆ เช่น เครื่องมือสร้างภาพและพื้นหลัง

ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe ยังเหมาะกับบริษัทที่กำลังเติบโตซึ่งอาจมีผู้ใช้ทั่วโลกนับแสนรายอีกด้วย ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพนี้ประกอบด้วย Stripe Elements ซึ่งเป็นชุด UI แบบประกอบสำหรับการออกแบบประสบการณ์การชำระเงินด้วยตัวเอง ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพยังช่วยให้ Kittl รับการชำระเงินด้วย 10 สกุลเงินและวิธีการชำระเงิน 5 วิธี รวมถึง Apple Pay, PayPal และ Link ซึ่งเป็นโซลูชันการชำระเงินที่เร็วขึ้นของ Stripe และเพื่อปรับปรุงอัตราการอนุมัติวงเงิน Kittl ระบบอัปเดตข้อมูลบัตรอัตโนมัติของ Stripe มาใช้เพื่ออัปเดตรายละเอียดบัตรของลูกค้าที่หมดอายุหรือเปลี่ยนใหม่โดยอัตโนมัติ โทเค็นเครือข่ายซึ่งจะแทนที่หมายเลขบัญชีหลักของบัตรด้วยรหัสระบุที่ปลอดภัยและไม่ซ้ำเพื่อปรับปรุงการประมวลผลการชำระเงิน และ Adaptive Acceptance ที่ใช้ AI เพื่อระบุการปฏิเสธที่เป็นเท็จแล้วลองใหม่ได้แบบเรียลไทม์

ในการปรับปรุงอัตราธุรกรรมที่สำเร็จให้มากขึ้นไปอีก Kittl จึงได้นำ Stripe Radar for Fraud Teams มาใช้ Radar ใช้ AI ที่ได้รับการฝึกจากธุรกรรมหลายล้านรายการทั่วโลกเพื่อมาตรวจจับการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ Radar for Fraud Teams ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างกฎที่กำหนดเองบนพื้นฐานของแอตทริบิวต์หลายร้อยรายการ เช่น ที่อยู่ IP, รายละเอียดบัตร, สัญญาณพฤติกรรมของผู้ใช้ และข้อมูลเมตา นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกขั้นสูงเพื่อช่วยให้เข้าใจแนวโน้มของการฉ้อโกงได้ดีขึ้น Kittl หวังว่า Radar จะช่วยแก้ไขปัญหาหนึ่งที่พบเจอบ่อยคือการถูกปฏิเสธธุรกรรมที่มาจากบัตรเติมเงิน ซึ่งพบว่าปัญหานี้มักจะมาพร้อมกับการทดลองใช้งานฟรี ซึ่งลูกค้าลงทะเบียนด้วยบัตรที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินซ้ำได้

สำหรับการจัดการภาษีทั่วโลก Kittl ได้นำ Stripe Tax มาใช้ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถคำนวณ จัดเก็บ และรายงานภาษีจากธุรกรรมทั่วโลกได้ด้วยการผสานการทำงานเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ การใช้ Stripe ยังทำให้ Kittl สามารถเข้าถึงแดชบอร์ด Stripe ซึ่งรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรายได้ การใช้งาน ผู้สมัครใช้บริการ การทดลองใช้งาน อัตราการยกเลิก และการเรียกเก็บเงิน ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายขึ้นเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ

ผลลัพธ์

นักพัฒนาเพียง 3 คนก็สามารถจัดการการเรียกเก็บเงินและการชำระเงินได้

API ของ Stripe ที่ใช้ง่ายสำหรับนักพัฒนาช่วยให้ Kittl สามารถดำเนินงานด้วยทีมพัฒนาขนาดเล็ก โดยมีนักพัฒนาเพียง 3 คนที่ดูแลการเรียกเก็บเงินและการชำระเงินของบริษัท
นอกจากนี้ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพยังช่วยให้ Kittl สามารถเพิ่มวิธีการชำระเงินใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น และบริษัทสามารถทดสอบอัตราการยอมรับของบัตรและกระเป๋าเงินดิจิทัลบางประเภทได้ เช่น iDEAL ในเนเธอร์แลนด์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

อัตราความสำเร็จในการชำระเงินเพิ่มขึ้น 2.12% ด้วยการปรับปรุงระบบอนุมัติธุรกรรม

การปรับปรุงระบบอนุมัติการชำระเงินของ Stripe เช่น ระบบอัปเดตข้อมูลบัตรอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอนุมัติธุรกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้อัตราความสำเร็จในการชำระเงินของ Kittl เพิ่มขึ้น 2.12% ภายในระยะเวลา 12 เดือน นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม 2025 Kittl ได้เริ่มใช้บัญชี Stripe ในสหรัฐอเมริกาสำหรับการรับชำระเงินภายในประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการอนุมัติธุรกรรมของลูกค้าใหม่ในสหรัฐฯ มากกว่า 50%

Radar for Fraud Teams ช่วยลดการสูญเสียลูกค้าจากธุรกรรมที่ผิดนัดชำระ

ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกรรมที่ล้มเหลวหรือถูกบล็อกช่วยให้ Kittl สามารถปรับปรุงอัตราความสำเร็จในการชำระเงินได้มากขึ้น การใช้ Radar for Fraud Teams ทำให้ทีมพัฒนาของ Kittl สามารถสร้างกฎเฉพาะเพื่อบล็อกการชำระเงินด้วยบัตรเติมเงินซึ่งช่วยลดปัญหาการสูญเสียลูกค้าเนื่องจากการผิดนัดชำระได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลและการวิเคราะห์ของ Stripe ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ

ผู้มีอำนาจตัดสินใจของ Kittl ในทุกระดับให้ความสำคัญกับข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากแดชบอร์ด Stripe ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากแอปพลิเคชันของ Stripe ที่บริษัทใช้งานทั้งหมด และนำมาวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ การตัดสินใจต่างๆ เช่น ตลาดที่ควรให้ความสำคัญ วิธีการชำระเงินที่ควรนำเสนอ และการกำหนดราคาสำหรับบริการและการสมัครใช้บริการระดับต่างๆ ได้รับการสนับสนุนจากการวิเคราะห์จุดข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างตลาดต่างๆ เช่น แนวโน้มการใช้วิธีชำระเงินในแต่ละประเทศ

"การมีแดชบอร์ดฟรอนต์เอ็นด์ช่วยได้มาก เพราะเรามีทีมวิศวกรแบ็กเอ็นด์ไม่กี่คนที่เน้นไปที่การปฏิบัติงานด้านการเงิน" Willot กล่าว "แดชบอร์ดให้ข้อมูลเชิงลึกที่คงต้องใช้เวลาจัดทำนานมากถ้าเราพยายามสร้างจาก API เพียงอย่างเดียว"