การชําระสินเชื่อหมุนเวียนอาจส่งผลต่อค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขการชําระเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการชําระเงินที่เลือก อย่างไรก็ตาม ระบบการชําระสินเชื่อหมุนเวียนของญี่ปุ่นแตกต่างจากระบบในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้บัตรเครดิตในญี่ปุ่น ลูกค้ามักถูกถามว่าต้องการชําระเงินคืนเป็นก้อนหรือใช้ระบบการชําระสินเชื่อหมุนเวียนซึ่งเป็นฟีเจอร์เฉพาะของญี่ปุ่น

สําหรับธุรกิจในญี่ปุ่น คุณจําเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน การรับทราบข้อมูลอยู่เสมอสามารถนําไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นและสม่ำเสมอ สําหรับพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ต้องการขยายธุรกิจไปทั่วโลก การมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการชําระสินเชื่อหมุนเวียนและวิธีการทํางานในญี่ปุ่นถือเป็นสิ่งสําคัญ

เราจะอธิบายเกี่ยวกับระบบการชําระสินเชื่อหมุนเวียนและวิธีการชําระเงินที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นนี้ พร้อมทั้งอธิบายข้อดีและข้อเสียให้เข้าใจง่ายๆ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การชําระสินเชื่อหมุนเวียนคืออะไร
  
• วิธีการชําระเงินสําหรับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  
• ข้อดีของการชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  
• ข้อเสียของการชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  
• ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  
• วิธีใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  
• คําถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  
• ข้อควรรู้ก่อนใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียน
  

การชําระสินเชื่อหมุนเวียนคืออะไร

การชําระสินเชื่อหมุนเวียนเป็นวิธีการชําระเงินที่ใช้โดยบัตรเครดิต ธนาคาร และบริษัทการเงินเพื่อผู้บริโภค การชําระสินเชื่อหมุนเวียนช่วยให้ลูกค้าชําระเงินเป็นรายเดือนได้ตามจํานวนที่ต้องการ ดังนั้นลูกค้าจํานวนมากจึงเลือกใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียนสําหรับการซื้อสินค้าราคาแพง ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายระบบนี้ รวมถึงการชําระสินเชื่อบัตรเครดิตหมุนเวียน และความแตกต่างจากวิธีการชําระเงินที่คล้ายกัน

การชําระสินเชื่อหมุนเวียนในญี่ปุ่นมีหลักการทํางานอย่างไร

การชําระสินเชื่อหมุนเวียนช่วยให้ลูกค้าชําระเงินตามที่กําหนดไว้ล่วงหน้า จํานวนเงินที่ชําระรายเดือนยังคงเท่าเดิม ไม่ว่าจะซื้อกี่ครั้งหรือใช้จ่ายไปเท่าใดก็ตาม จํานวนเงินที่ใช้ได้สูงสุด (กล่าวคือ วงเงิน) จะถูกกําหนดไว้ในระหว่างการคัดกรองสมาชิกครั้งแรก และขึ้นอยู่กับรายได้ เครดิต และข้อมูลอื่นๆ ของผู้สมัคร ทั้งนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้จ่ายเกินวงเงินดังกล่าว ค่าธรรมเนียมการประมวลผลรายเดือนจะคิดตามยอดคงเหลือ การชําระเงินจะดําเนินต่อไปจนกว่าจะชําระยอดคงเหลือจนหมด

การชําระสินเชื่อหมุนเวียนและการชําระเงินแบบผ่อนชําระแตกต่างกันอย่างไร

เช่นเดียวกับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน การชําระเงินแบบผ่อนชําระจะมีการแบ่งจ่ายเป็นหลายงวด ด้วยเหตุนี้ ในตอนแรกอาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจความแตกต่างระหว่างการชําระสินเชื่อหมุนเวียนและการชําระเงินแบบผ่อนชําระ อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สําคัญบางประการ

สถาบันการเงินจะกําหนดจํานวนงวดสําหรับการผ่อนชําระ (เช่น 12 หรือ 18 งวด) ซึ่งแตกต่างจากการชําระสินเชื่อหมุนเวียน จากตัวเลือกที่สถาบันการเงินมีให้ ลูกค้าจะเลือกจํานวนงวดผ่อนชําระที่ต้องการ การชําระเงินแบบผ่อนชําระยังมีความชัดเจนว่าลูกค้าจะชําระเงินคืนเสร็จสิ้นเมื่อใด ดังนั้นจึงเป็นวิธีการชําระเงินที่เหมาะสมสําหรับลูกค้าที่ต้องการชําระเงินคืนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาหนึ่งๆ

ข้อเสียอย่างหนึ่งของการชําระเงินแบบผ่อนชําระคืออาจมีบางครั้งที่ยอดชําระรายเดือนจะมีจํานวนสูง สิ่งนี้อาจสร้างแรงกดดันต่อการเงินภายในครัวเรือนของลูกค้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของพวกเขา

การชําระสินเชื่อหมุนเวียนเทียบกับสินเชื่อบัตร

สินเชื่อบัตรคือบริการเงินกู้ที่บุคคลทั่วไปใช้ในการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือบริษัทการเงินเพื่อผู้บริโภค แล้วชําระคืนส่วนที่ยืม รวมทั้งดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบัตรธนาคารมักจะกําหนดไว้ที่ 1.5%–15% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยของการชําระสินเชื่อหมุนเวียนมักจะกําหนดไว้ที่ 15%–18% ดังนั้นการใช้สินเชื่อบัตรธนาคารจึงมีแนวโน้มที่จะถูกกว่าการใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียน ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่วงเงินสินเชื่อบัตรก็มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าเช่นกัน

สินเชื่อบัตรยังขาดฟีเจอร์ด้านการซื้อ ด้วยเหตุนี้ สินเชื่อบัตรจึงไม่เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการใช้สําหรับการซื้อของในแต่ละวัน และเหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการยืมเงินสดมากกว่า

วิธีการชําระเงินสําหรับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน

มีวิธีการชําระเงินสําหรับสินเชื่อหมุนเวียนในญี่ปุ่นอยู่หลายวิธี ได้แก่ ยอดเงินคงที่ อัตราคงที่ และยอดคงเหลือแบบอัตราเลื่อน วิธีการชําระเงินจะกําหนดค่าธรรมเนียมการประมวลผล ยอดการชําระเงินรายเดือน ระยะเวลาการชําระคืน ฯลฯ

วิธีชำระแบบยอดคงที่

วิธีการชำระแบบยอดคงที่มีสองประเภท: เงินต้นคงที่และเงินต้นคงที่บวกดอกเบี้ย แต่ละวิธีล้วนมีโครงสร้างแตกต่างกัน

วิธีชำระแบบเงินต้นคงที่

เมื่อใช้วิธีการชําระเงินต้นแบบคงที่ ลูกค้าจะกําหนดจํานวนเงินที่ต้องชําระเป็นจํานวนคงที่ในแต่ละเดือน แต่ไม่รวมค่าธรรมเนียมการประมวลผล ค่าธรรมเนียมการประมวลผลจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือนตามยอดคงเหลือที่ทบยอดมา

วิธีการชําระเงินแบบยอดคงที่มีสัดส่วนของจํานวนเงินที่จ่ายให้กับเงินต้นมากกว่า ทําให้จํานวนเงินที่ชําระคืนทั้งหมดน้อยกว่าวิธีการชําระเงินแบบเงินต้นคงที่บวกดอกเบี้ย ส่วนสิ่งอื่นๆ จะเท่ากัน

วิธีการชําระเงินแบบเงินต้นคงที่บวกดอกเบี้ย

เมื่อใช้วิธีชําระเงินต้นคงที่บวกดอกเบี้ย คุณจะสามารถระบุจํานวนเงินที่ชําระรายเดือน รวมถึงค่าธรรมเนียมได้ด้วย แม้ว่าลูกค้าจะทําการซื้อเพิ่มเติม จํานวนเงินที่ชําระรายเดือนก็ยังคงเท่าเดิม

ในระยะแรกของการชําระคืน จะมีอัตราส่วนค่าธรรมเนียมต่อเงินต้นจํานวนมาก วิธีนี้อาจทําให้การลดจํานวนเงินต้นทําได้ยากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการแบบเงินต้นคงที่ ซึ่งอาจส่งผลให้มียอดชําระคืนโดยรวมสูงขึ้นด้วย

วิธีแบบอัตราคงที่

ด้วยวิธีแบบอัตราคงที่ จํานวนเงินที่ชําระจะถูกกําหนดโดยการคูณเปอร์เซ็นต์คงที่ (เช่น อัตราคงที่) ด้วยยอดคงเหลือแล้วบวกค่าธรรมเนียมการประมวลผล เมื่อยอดค้างชําระลดลง จํานวนเงินที่ต้องชําระก็ลดลงด้วย อย่างไรก็ตามหากอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ํา การลดลงของเงินต้นจะช้าลง นอกจากนี้ยังจะใช้เวลานานกว่าในการชําระคืนให้หมด แม้ว่าจํานวนเงินที่ชําระรายเดือนจะยังคงต่ําก็ตาม

วิธีแบบอัตราเลื่อน

ด้วยวิธีแบบอัตราเลื่อน จํานวนเงินที่ชําระรายเดือนจะเปลี่ยนแปลงเป็นขั้นๆ ไปตามยอดคงเหลือในการชําระเงิน ตัวอย่างเช่น:

• หากยอดการชําระเงินน้อยกว่า 100,000 เยน จํานวนเงินที่ชําระคือ 10,000 เยน
  
• หากยอดการชําระเงินอยู่ระหว่าง 100,000–200,000 เยน จํานวนเงินที่ชําระคือ 20,000 เยน
  
• หากยอดการชําระเงินอยู่ระหว่าง 200,000–300,000 เยน จํานวนเงินที่ชําระคือ 30,000 เยน เป็นต้น
  

การปรับอัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริษัทการเงินแต่ละแห่ง

ข้อดีของการชําระสินเชื่อหมุนเวียน

แม้ว่าข้อเสียของการชําระสินเชื่อหมุนเวียนจะเด่นชัด แต่การชําระเงินประเภทนี้อาจสะดวกสําหรับลูกค้ามาก เมื่อิงตามเวลาและสถานการณ์ ต่อไปนี้คือประโยชน์ของการชําระสินเชื่อหมุนเวียนในญี่ปุ่น

การชําระเงินในความเร็วที่ต้องการ

แผนการชําระสินเชื่อหมุนเวียนช่วยให้ลูกค้าติดตามรายได้และชําระเงินได้ตามเวลาที่ต้องการ จํานวนเงินที่จ่ายในแต่ละเดือนจะเท่าๆ กัน ทําให้ง่ายต่อการจัดการงบประมาณครัวเรือน

ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

หากลูกค้าจําเป็นต้องซื้อสินค้าราคาแพงกะทันหัน ก็สามารถชําระเงินเป็นเงินก้อนเดียวได้ อย่างไรก็ตาม หากมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่อื่นๆ เช่น สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์ พวกเขาอาจไม่ต้องการชําระทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อเตรียมพร้อมสําหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด คุณควรรวมการชําระสินเชื่อหมุนเวียนไว้เป็นตัวเลือกการชําระเงิน เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้แบบมั่นคงและไร้ความกังเวล

การชําระคืนก่อนกําหนดและแบบก้อนใหญ่

เมื่อใช้แผนการชําระสินเชื่อหมุนเวียน ลูกค้าจะสามารถชําระเงินรายเดือนตามที่กําหนดไว้ และชําระเพิ่มเล็กน้อยในเดือนต่างๆ เมื่อมีเงินมากขึ้น พวกเขายังสามารถชําระเงินเต็มจํานวนเป็นเงินก้อนเดียวเมื่อได้รับเงินสดเพิ่ม หากจ่ายเงินก่อนกําหนดหรือชําระเงินก้อนใหญ่ ก็สามารถลดระยะเวลาการชําระคืนและประหยัดค่าธรรมเนียมการประมวลผลได้

ข้อเสียของการชําระสินเชื่อหมุนเวียน

ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสียของการใช้การชําระสินเชื่อแบบหมุนเวียน

ค่าธรรมเนียมการประมวลผลสูง

ค่าธรรมเนียมการประมวลผลสําหรับการชําระสินเชื่อหมุนเวียนนั้นมีจำนวนไม่น้อย หากระยะเวลาการชําระเงินสั้น ก็อาจไม่น่ากังวลมากนัก อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการชําระเงินจํานวนมากเป็นระยะเวลานาน เป็นไปได้ว่าค่าธรรมเนียมการประมวลผลจะสูงกว่าเงินต้น

ระยะเวลาชําระคืนที่ยาวนาน

ลูกค้าที่ชําระเงินด้วยบัตรเครดิตเสมอและชําระเงินรายเดือนเป็นจํานวนต่ําจําเป็นต้องทราบว่าการชําระคืนให้หมดนั้นจะใช้เวลานาน ลูกค้าอาจต้องการตรวจสอบจํานวนเงินที่ชําระ หรือชำระเงินให้หมดตั้งแต่เนิ่นๆ หรือเงินก้อนเพื่อลดระยะเวลาการชําระคืน

การใช้จ่ายมากเกินไป

เมื่อใช้สินเชื่อมุนเวียน การชําระเงินรายเดือนจะเท่ากันไม่ว่าลูกค้าจะใช้บัตรบ่อยเพียงใดหรือใช้จ่ายมากแค่ไหนก็ตาม จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่านี่คือวิธีการชําระเงินในฝัน พวกเขาอาจจบลงด้วยการใช้จ่ายมากเกินไปและตระหนักว่าถึงขีดจํากัดวงเงิน ลูกค้าสามารถติดตามยอดคงเหลือสินเชื่อหมุนเวียนและรอบการชําระเงินได้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้

ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน

วิธีการชําระเงินและอัตราค่าธรรมเนียมการประมวลผล

ก่อนเลือกแผนการชําระสินเชื่อหมุนเวียน ลูกค้าควรตรวจสอบวิธีการชําระเงินและอัตราค่าธรรมเนียมการประมวลผล ดังที่กล่าวมาข้างต้น จํานวนเงินที่เรียกเก็บจะแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับวิธีการชําระเงิน หากลูกค้าใช้แผนการชําระสินเชื่อหมุนเวียนเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อจะแตกต่างกันเพียง 1% จํานวนเงินสุดท้ายของยอดเรียกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เว็บไซต์ทางการของสถาบันการเงินหลายแห่งมีแบบจําลองสําหรับวิธีการชําระเงินแต่ละวิธีให้ลูกค้าตรวจสอบ

วงเงิน

ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตสําหรับการชําระสินเชื่อหมุนเวียนที่เกินวงเงิน ลูกค้าสามารถตรวจสอบวงเงินล่วงหน้าได้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถึงขีดจํากัด

จํานวนเงินที่ชําระคืน

ลูกค้าควรพิจารณาจํานวนเงินที่สามารถชําระสําหรับสินเชื่อหมุนเวียนได้ โดยพิจารณาจากรายได้และค่าใช้จ่ายต่อเดือน พวกเขาควรกําหนดจํานวนเงินที่เป็นจริงที่พวกเขาจะสามารถจ่ายได้แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ในทางกลับกัน การกําหนดจํานวนเงินที่ต่ําเกินไปจะส่งผลให้ระยะเวลาการชําระคืนยาวนานขึ้นและค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีที่สูงขึ้น ลูกค้าควรกําหนดจํานวนเงินที่ชําระรายเดือนให้เหมาะกับตน โดยคํานึงถึงปัจจัยหลายประการ

รายการเดินบัญชี

ยิ่งลูกค้าใช้บัตรเครดิตเพื่อการชําระสินเชื่อหมุนเวียนนานเท่าใด ระยะเวลาการชําระเงินคืนก็จะยิ่งนานขึ้นเท่านั้น พวกเขาสามารถตรวจสอบยอดคงเหลือและระยะเวลาการชําระคืนในรายการเดินบัญชี รวมทั้งจัดการการชําระเงินเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การชําระเงินใช้เวลานานเกินไป

วิธีใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียน

คุณทราบหรือไม่ว่าลูกค้าจะใช้ตัวเลือกการชําระสินเชื่อหมุนเวียนได้เมื่อไร ลูกค้าอาจไม่สามารถใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายการสินค้านั้นๆ ในญี่ปุ่น ลูกค้ามักจะใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียนได้ในสถานการณ์ต่อไปนี้

ขณะซื้อของ

เมื่อชําระเงินในร้านค้าหรือเลือกวิธีการชําระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ลูกค้าสามารถเลือกใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียนได้

หลังการซื้อของ

แม้ว่าจะเลือกวิธีการชําระเงินที่ไม่ใช่สินเชื่อหมุนเวียนในร้านค้าหรือบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ลูกค้าก็สามารถเปลี่ยนเป็นวิธีการชําระสินเชื่อหมุนเวียนได้ในภายหลัง

การลงทะเบียนล่วงหน้า

คุณสามารถตั้งค่าบัตรเครดิตให้ใช้แผนการชําระสินเชื่อหมุนเวียนโดยอัตโนมัติสําหรับการซื้อทั้งหมด

บัตรเครดิตสําหรับการชําระสินเชื่อหมุนเวียน

ลูกค้าสามารถเลือกบัตรเครดิตที่อนุญาตให้ชําระสินเชื่อหมุนเวียนเท่านั้น

Frequently asked questions (FAQs) about revolving payments

Here are some answers to common questions about Japan’s revolving payment system:

Is there a trick to paying off revolving credit card debt quickly?

The key to paying off revolving payments quickly is to make the repayment period as short as possible. Specifically, customers can do the following:

• Make an early or advance repayment.
  
• Increase the amount of their monthly repayments.
  
• Make a lump-sum repayment.
  

Is there a way to pay off revolving credit in a lump sum?

How customers repay a revolving payment in a lump sum varies by credit card company. In general, they can repay a revolving payment in a lump sum using the following methods:

• Submit a lump sum on the next payment date.
  
• Make a bank account transfer of the full amount owed.
  
• Deposit the amount owed at an automated teller machine (ATM).
  

What is the interest rate on revolving payments?

The interest rate for revolving payments differs slightly depending on the financial institution, but many offer an effective annual rate of 15%–18%.

ข้อควรรู้ก่อนใช้การชําระสินเชื่อหมุนเวียน

ในบทความนี้ เราได้อธิบายเกี่ยวกับระบบการชําระสินเชื่อหมุนเวียน วิธีการชําระเงิน ข้อดี ข้อเสีย ประเด็นที่ต้องพิจารณา และวิธีใช้ แม้ว่าการชําระสินเชื่อหมุนเวียนมีแนวโน้มที่จะมีชื่อเสียงในทางลบ เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมการประมวลผลที่สูงและมีแนวโน้มที่จะยืดระยะเวลาการชําระคืน แต่ก็อาจเป็นวิธีการชําระเงินที่สะดวกมากหากลูกค้ามีความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้งาน

Stripe กําลังเตรียมเปิดใช้วิธีการชําระเงินที่แตกต่างกันสามวิธีในตลาดญี่ปุ่น ได้แก่ การชําระเงินแบบผ่อนชําระผ่านบัตรเครดิต การชําระสินเชื่อหมุนเวียน และการชําระเงินโบนัส เวอร์ชันตัวอย่างของวิธีการเหล่านี้พร้อมใช้งานสําหรับการทดสอบแล้ว ดังนั้นโปรดติดต่อเราหากคุณสนใจที่จะทดสอบกับองค์กรของคุณ