นอกเหนือจากการชําระเงินแบบครั้งเดียวและสองครั้งแล้ว คุณยังสามารถทําธุรกรรมบัตรเครดิตโดยใช้วิธีชำระสินเชื่อหมุนเวียน การผ่อนชําระ (แบ่งชำระ) และการชำระจากโบนัสได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไม่ได้มีอิสระในการเลือกวิธีการชําระเงินเสมอไป เนื่องจากธุรกิจที่ขายสินค้าราคาต่ำมักกําหนดให้ต้องชําระเงินแบบครั้งเดียว ในทางตรงกันข้าม ร้านค้าในญี่ปุ่นที่ขายสินค้าราคาสูงมักจะเสนอการชําระเงินแบบแบ่งชำระ ชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียน และการชําระเงินแบบพิเศษ

เนื่องจาก "การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียน" และ "การชําระเงินแบบผ่อนชําระ" เป็นการชำระแบบแบ่งเป็นส่วนๆ จึงอาจดูเหมือนกัน แต่จํานวนเงินที่ชำระรายเดือนและจํานวนครั้งในการชําระเงินจะต่างกันตามตัวเลือกของคุณ ด้วยเหตุนี้จึงควรเข้าใจความแตกต่างและใช้ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ในบทความนี้ เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการชําระเงินแบบผ่อนชําระในญี่ปุ่น รวมถึงประเด็นสําคัญ รวมถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนเทียบกับการชําระเงินแบบผ่อนชําระ: ข้อแตกต่างที่สําคัญ
  
• ข้อดีข้อเสียของการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการผ่อนชําระ
  
• การเปรียบเทียบวิธีการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและแบบผ่อนชําระ
  
• วิธีเลือกระหว่างตัวเลือกแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการผ่อนชําระ
  
• ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับการผ่อนชําระและการชําระเงินแบบมีหรือไม่มีดอกเบี้ย
  
• ทําไมบางคนจึงคิดว่าสินเชื่อหมุนเวียนเป็นสิ่ง "อันตราย"
  
• วิธีการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตอื่นๆ
  
• คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตัวเลือกแบบชำระสินเชื่อหมุนเวียนและการผ่อนชําระ
  
• การเตรียมการเพื่อนําการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการชําระเงินแบบผ่อนชําระมาใช้
  

การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนเทียบกับการชําระเงินแบบผ่อนชําระ: ข้อแตกต่างที่สําคัญ

มาดูความแตกต่างระหว่างการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการชําระเงินแบบผ่อนชําระโดยละเอียดกัน ทั้งสองแบบเป็นการชำระแบบแบ่งเป็นส่วนๆ แต่มีกลไกแตกต่างกันมาก

การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียน

การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนช่วยให้คุณสามารถกําหนดยอดชำระรายเดือนเป็นจํานวนเงินคงที่ได้โดยไม่คํานึงถึงยอดการใช้บัตรเครดิตทั้งหมดหรือจํานวนครั้งที่คุณใช้บัตร

ตัวอย่างข้างต้นกำหนดยอดชําระเงินรายเดือนไว้ที่ 10,000 เยน ในกรณีนี้ แม้ว่าคุณจะใช้บัตรจนเต็มวงเงิน ยอดชำระรายเดือนของคุณจะยังคงเป็น 10,000 เยน + ค่าธรรมเนียมการจัดการ แต่เมื่อยอดรวมที่ต้องชำระสูงขึ้นเนื่องจากคุณใช้จ่ายมากขึ้น อาจทำให้ติดตามได้ยากว่าคุณจะชำระยอดคงเหลือหมดเมื่อใด เว้นแต่คุณจะคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด

คุณสามารถเลือกแบ่งชำระก่อนใช้บัตร หรือในตอนที่ซื้อสินค้าในร้านค้าหรือทางออนไลน์

การชําระเงินแบบผ่อนชําระ

การชําระเงินแบบผ่อนชําระ แตกต่างจากแผนการชำระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนตรงที่คุณต้องระบุจํานวนครั้งที่จะชําระเงินเมื่อทำธุรกรรมแต่ละรายการ หากคุณซื้อสินค้าเพิ่ม คุณต้องระบุว่าจะแบ่งชำระเป็นกี่ส่วนแต่ละครั้งที่ซื้อ ดังนั้นค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้บัตรมากขึ้น

แต่คุณไม่สามารถกําหนดจำนวนงวดผ่อนชำระเองได้ตามใจตัวเอง โดยเลือกได้จากตัวเลือกที่กําหนดโดยบริษัทบัตรเครดิตเท่านั้น

ในตัวอย่างการผ่อนชําระ ลูกค้าซื้อสินค้ามูลค่า 100,000 เยนเป็นการแบ่งชำระ 5 ครั้ง ยอดชำระแต่ละเดือนคือ 20,000 เยน + ค่าธรรมเนียมการจัดการ ซึ่งลูกค้าจะต้องชําระเงินจำนวนนี้เป็นเวลาห้าเดือน (ห้าครั้ง) เพื่อชำระให้ครบจำนวน

ทั้งนี้คุณสามารถตั้งค่าการแบ่งชำระได้ในตอนที่ซื้อสินค้าหรือหลังจากนั้น

ข้อดีข้อเสียของการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการผ่อนชําระ

เมื่อคุณทราบถึงความแตกต่างระหว่างการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการชำระเงินแบบผ่อนชําระแล้ว มาดูข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบกัน

ทั้งการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการชําระเงินแบบผ่อนชำระมีค่าธรรมเนียม แต่บริษัทจะยกเว้นค่าธรรมเนียมให้หากคุณกำหนดการแบ่งชำระเป็นสองงวด ด้วยเหตุนี้ การผ่อนชําระจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหากคุณสามารถแบ่งชําระเป็นสองงวดได้

การเปรียบเทียบวิธีการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและแบบผ่อนชําระ

ค่าธรรมเนียมการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนหรือวิธีชำระเงินแบบแยก แบบไหนถูกกว่ากัน เราจะจําลองใช้ตัวอย่างที่เจาะจงซึ่งมีวันที่เริ่มต้นเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 (ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวันที่เริ่มต้น) โดยจะจําลองว่าตัวเลือกใดคุ้มค่ากว่า

การเปรียบเทียบภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน (ระยะเวลาสั้นกว่า)

อันดับแรก เราจะเปรียบเทียบเงื่อนไขเดียวกันกับระยะเวลาชําระคืนที่สั้นกว่า

• จํานวนเงินที่ยืม: 120,000 เยน
  
• ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 15%
  
• จํานวนงวดการชําระเงิน: 3
  

ผู้บริโภคใช้วิธีอัตราคงที่สําหรับการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียน โดยจำนวนต้นที่ชำระคือ 40,000 เยนต่อเดือน

ผลการจําลอง:

ในสถานการณ์นี้ ค่าใช้จ่ายในการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการผ่อนชำระจะเท่ากัน

การเปรียบเทียบภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน (ระยะเวลานานกว่า)

เมื่อระยะเวลาการชําระคืนสั้น ค่าธรรมเนียมของแผนการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับแผนการผ่อนชําระมีราคาเกือบจะเท่ากัน ต่อไปเราจะเปรียบเทียบเงื่อนไขเดียวกันกับระยะเวลาการชําระคืนที่นานขึ้น

• จํานวนเงินที่ยืม: 120,000 เยน
  
• ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 15%
  
• จํานวนงวดการชําระเงิน: 24
  

ผู้บริโภคใช้วิธีชำระเงินแบบการชำระสินเชื่อหมุนเวียนโดยชำระเงินต้นรายเดือน 5,000 เยน

ผลการจําลอง:

ค่าใช้จ่ายของแผนชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนลดลง 839 เยน แม้ว่าคนจำนวนมากจะคิดว่าการชําระสินเชื่อหมุนเวียนจะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมค่าคอมมิชันอาจต่ำกว่าการผ่อนชําระ

อัตราค่าคอมมิชชันที่แตกต่างกัน

เนื่องจากอัตราค่าคอมมิชชันของแผนชำระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนจะสูงกว่าการผ่อนชำระ เราจะเปรียบเทียบด้วยอัตราการชําระสินเชื่อหมุนเวียนในอัตรา 18% และการแบ่งชําระในอัตรา 15% โดยจำนวนเงินที่ยืมและจำนวนงวดชำระอยู่ในเงื่อนไขเดียวกัน

วิธีการชำระเงิน: สินเชื่อหมุนเวียน
จํานวนเงินที่ยืม: 480,000 เยน
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 18%
จํานวนเงินที่ชําระ: 20,000 เยน (สมมติว่าชําระเงิน 24 งวด)

วิธีการชำระเงิน: ผ่อนชำระ
จํานวนเงินที่ยืม: 480,000 เยน
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 15%
จํานวนงวดการชําระเงิน: 24

ผลการจําลอง:

การผ่อนชําระจะถูกกว่า 11,387 เยน ส่วนต่างอัตราค่าคอมมิชชั่น 3% ส่งผลมากต่อจํานวนเงินที่ชําระทั้งหมด

หมายเหตุ: ผลการคํานวณการเรียกเก็บเงินจําลองใช้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น จํานวนเงินจริงที่คุณจ่ายอาจแตกต่างจากที่คํานวณด้วยอัตราดอกเบี้ยรายวันและรายเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยอดคงเหลือ การใช้วงเงินเพิ่มเติม และตัวแปรอื่นๆ

วิธีเลือกระหว่างตัวเลือกแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการผ่อนชําระ

ทั้งการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการผ่อนชําระมีการใช้งานในแบบของตัวเอง คุณต้องเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของคุณมากที่สุด

การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในกรณีใด

หากคุณมีรายได้ต่อเดือนคงที่และยากที่จะจ่ายมากกว่าจํานวนที่กำหนด ตัวเลือกแบบสินเชื่อหมุนเวียนน่าจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายกว่า เนื่องจากช่วยให้คุณยังคงมีค่าใข้จ่ายต่อเดือนในระดับเดิมหรือใกล้เคียง นอกจากนี้ยังช่วยให้จัดการได้ง่ายขึ้น เช่น การชําระคืนก่อนกําหนดเมื่อคุณได้รับโบนัสหรือเงินปันผลจากหุ้น เป็นต้น

การชําระเงินแบบผ่อนชําระเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในกรณีใด

เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายหากผ่อนชําระไม่เกิน 2 งวด วิธีนี้จะคุ้มค่ามากกว่าหากแบ่งชําระเป็น 2 งวด ตัวเลือกนี้จะดีที่สุดหากคุณต้องการทราบวันครบกําหนดชําระและจํานวนการเรียกเก็บเงินรายเดือนคงที่

ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับการผ่อนชําระและการชําระเงินแบบมีหรือไม่มีดอกเบี้ย

วงเงินบัตรเครดิตแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ วงเงินช้อปปิ้ง วงเงินผ่อนชําระ และวงเงินเบิกเงินสดล่วงหน้า ซึ่งมีการกำหนดว่าคุณจะใช้ได้เท่าใด ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถใช้เกินเกณฑ์ได้

การแบ่งชำระและการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนใช้วงเงินส่วนผ่อนชำระ ซึ่งมีการจํากัดวงเงินที่คุณสามารถใช้กับการผ่อนชำระเป็นงวด

ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียน

บริการบางอย่างไม่สามารถใช้แผนชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนได้ เช่น การเบิกเงินสดล่วงหน้า ค่าเบี้ยประกันภัย และการเรียกเก็บเงินรายปี และคุณไม่สามารถใช้การชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับรายการสินค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์ นอกจากนี้ คุณยังต้องติดตามวงเงินใช้จ่ายของตนเอง เนื่องจากคุณจะไม่สามารถใช้แผนชำระสินเชื่อหมุนเวียนได้หากเกินวงเงิน

ประเด็นสําคัญเกี่ยวกับการชําระเงินแบบผ่อนชําระ

ผู้ออกบัตรเครดิตบางรายอาจไม่อนุญาตให้ชําระเงินแบบผ่อนชําระ นอกจากนี้บริษัทผู้ออกบัตรยังเป็นผู้ตัดสินใจด้วยว่ามีตัวเลือกให้ผ่อนชำระได้กี่งวดบ้าง ซึ่งคุณจะต้องเลือกว่าจะเลือกชำระแบบกี่งวดในตัวเลือกเหล่านั้นที่เหมาะกับคุณ และเช่นเดียวกับแผนการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียน หากคุณใข้วงเงินผ่อนชําระเกินจำนวนแล้ว คุณจะไม่สามารถใช้ตัวเลือกนี้ได้

ทําไมบางคนจึงคิดว่าสินเชื่อหมุนเวียนเป็นสิ่ง "อันตราย"

แผนชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนช่วยให้คุณรักษาระดับยอดที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนให้อยู่ในจำนวนประมาณเท่าเดิม จึงทำให้ดูน่าจะสะดวกมากในตอนแรก แม้ว่าจะมีการใช้วิธีชําระแบบสินเชื่อหมุนเวียนอย่างแพร่หลาย แต่หลายคนก็ยังมองว่าการชําระเงินแบบนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีหรือมีความเสี่ยง

เนื้อหาส่วนนี้จะสํารวจว่าทําไมบัตรเครดิตสินแบบเชื่อหมุนเวียนจึงอาจถูกมองว่า "อันตราย"

ค่าธรรมเนียมการจัดการสูง

ค่าธรรมเนียมการจัดการสําหรับการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนนั้นสูง แม้ว่าบริษัทบัตรเครดิตแต่ละแห่งจะติดค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วอัตราค่าธรรมเนียมการจัดการของแผนชำระสินเชื่อหมุนเวียนมักจะกําหนดไว้ที่ 15%–18% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับเดียวกับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค หากคุณยืมเงินจํานวนมาก ยอดเงินคงก็มักจะไม่ลดลงง่ายๆ ซึ่งทำให้ต้องชำระค่าใช้จ่ายยาวนานขึ้น

ทราบได้ยากว่าต้องชำระคืนทั้งหมดเป็นจำนวนเงินเท่าใด

สำหรับการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียน หากคุณใช้จ่ายอยู่ในวงเงิน จํานวนเงินที่คุณชําระในแต่ละเดือนจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าคุณจะทําธุรกรรมเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม เนื่องจากจํานวนเงินที่คุณจ่ายจะเท่าเดิมไม่ว่าคุณจะใช้จ่ายมากแค่ไหน จึงง่ายที่จะใช้จ่ายเกินตัวแล้วพบว่าจํานวนเงินทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก

บอกได้ยากว่าจะชำระเงินคืนครบเมื่อใด

บริษัทต่างๆ จะกําหนดระยะเวลาการชําระเงินคืนครบตามจำนวนสินเชื่อที่ใช้และยอดชำระรายเดือน ซึ่งแตกต่างจากการผ่อนชําระที่มีการกําหนดจํานวนงวดชำระเงิน ทุกครั้งที่คุณซื้อสินค้าเพิ่มเติม ระยะเวลาการชําระเงินคืนก็จะขยายออกไป ตรวจสอบระยะเวลาสิ้นสุดในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตของคุณเป็นประจําเพื่อป้องกันการชำระเงินเกิน

วิธีการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตอื่นๆ

ยังมีวิธีการชำระเงินแบบอื่นๆ นอกเหนือจากการชําระแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการแบ่งชําระด้วย

การชําระเงินแบบครั้งเดียว

การเรียกเก็บเงินแบบครั้งเดียวหรือแบบก้อนเดียวเป็นวิธีตั้งต้นในการชําระเงินด้วยบัตรเครดิต เมื่อถึงกำหนด บริษัทผู้ออกบัตรเครดิตจะรวมยอดเงินที่คุณใช้เพื่อให้คุณชำระคืนในวันครบกำหนดชำระเงินถัดไป

เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการสําหรับธุรกรรมแบบครั้งเดียวและรายจ่ายก็ตรงไปตรงมา คุณจึงจัดการเงินและป้องกันการใช้จ่ายเกินตัวได้ง่าย ในทางกลับกันเมื่อคุณซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ค่าใช้จ่ายรายเดือนก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตรวจสอบบัญชีของคุณเป็นประจําให้เป็นนิสัยเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์มีเงินไม่พอจ่ายในวันครบกำหนด

การชําระเงินจากโบนัส

โดยปกติลูกค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเป็นเงินก้อนในช่วงเดือนโบนัส เนื่องจากนายจ้างมักจะจ่ายโบนัสในฤดูร้อนและฤดูหนาว ลูกค้าก็จะใช้จ่ายเงินโบนัสด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทบัตรเครดิตแต่ละแห่งจะเป็นผู้กําหนดว่าลูกค้าจะสมัครชำระเงินด้วยโบนัสได้เมื่อใด

นอกจากนี้ยังมีการชำระเงินด้วยโบนัสแบบหนึ่งและสองครั้ง อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าบริษัทบัตรเครดิตบางแห่งมีช่วงเวลาที่ไม่ให้ใช้ข้อเสนอชำระด้วยโบนัส หรืออาจไม่มีตัวเลือกให้จ่ายแบบสองครั้ง

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตัวเลือกการชำระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการผ่อนชําระ

เราได้รวบรวมรายการคําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการชําระเงินแบบผ่อนชําระมาให้คุณ

แบบไหนประหยัดกว่ากันระหว่างแบบผ่อนชำระหรือแบบชำระสินเชื่อบัตรเครดิตหมุนเวียน

คำตอบแตกต่างไปตามจำนวนเงินที่ใช้และค่าธรรมเนียมการจัดการ ก่อนที่จะใช้บริการ ให้ทําการจําลองเพื่อคํานวณจํานวนครั้งการชําระคืนและยอดรวมที่คุณจะต้องชําระ

สามารถเปลี่ยนวิธีการชําระเงินจากแผนผ่อนชําระเป็นแผนชำระสินเชื่อหมุนเวียนได้หรือไม่

บริษัทบัตรเครดิตหลายแห่งเสนอบริการที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนจากแผนการผ่อนชําระเป็นแผนการชำระสินเชื่อหมุนเวียนได้ ติดต่อบริษัทบัตรเครดิตของคุณเพื่อรับรายละเอียด คำตอบที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละแห่ง

สามารถใช้ทั้งการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนและแบบผ่อนชําระได้หรือไม่

บัตรเครดิตหลายใบอนุญาตให้คุณใช้ทั้งการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและแบบผ่อนชําระ อย่างไรก็ตาม บริการเหล่านี้จะมีหรือไม่แตกต่างกันไปตามบริษัทและประเภทบัตรที่ใช้ ดังนั้นโปรดติดต่อบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตของคุณเพื่อขอทราบรายละเอียด

การเตรียมการเพื่อนําการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนและการชําระเงินแบบผ่อนชําระมาใช้

บทความนี้ได้อธิบายความแตกต่างระหว่างการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียนกับการชําระเงินแบบผ่อนชําระ ฟีเจอร์ และประเด็นสําคัญไปแล้ว จากมุมมองของผู้ใช้ แผนการชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนเป็นวิธีที่สะดวกหากคุณไม่สามารถชําระเงินก้อนเดียวทั้งหมดได้ บางครั้งคนก็เลือกชำระแบบสินเชื่อหมุนเวียนหรือการผ่อนชําระเพื่อซื้อสินค้าราคาแพง ทั้งๆ ที่ทราบว่าอาจมีค่าธรรมเนียมการจัดการ

Stripe กําลังเตรียมรองรับการชําระเงินแบบสินเชื่อหมุนเวียน แบบผ่อนชําระ และโบนัสด้วยบัตรเครดิตในตลาดญี่ปุ่น เวอร์ชันเบต้าพร้อมให้ทดสอบแล้ว ผู้ค้าที่สนใจเข้าร่วมสามารถติดต่อได้ที่หน้าติดต่อของ Stripe