การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ เป็นหนึ่งในวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในธุรกิจค้าปลีกในเยอรมนี ทั้งร้านค้าแบบมีหน้าร้านและอีคอมเมิร์ซ ในปี 2023 การซื้อออนไลน์ในเยอรมนีประมาณ 27%ได้รับการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ ด้วยเหตุนี้ บริษัทที่มีลูกค้าในเยอรมนีจึงควรใช้การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้เป็นทางเลือกในการชําระเงิน
ในบทความนี้ คุณจะได้ศึกษาว่าการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้คืออะไร หลักการทำงาน ข้อดีข้อเสีย และวิธีการที่ธุรกิจนำเสนอให้กับลูกค้า
มีอะไรในบทความนี้บ้าง
- การชำระเงินตามใบแจ้งหนี้คืออะไร
- การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีหลักการทำงานอย่างไร
- ข้อดีของการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีอะไรบ้าง
- ข้อเสียของการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีอะไรบ้าง
- ผู้ค้าปลีกจะเสนอการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร
การชำระเงินตามใบแจ้งหนี้คืออะไร
การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้เป็นวิธีการชําระเงินแบบรอชำระประเภทหนึ่งที่ลูกค้าไม่ต้องชําระเงินจนกว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ ลูกค้าสั่งซื้อผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องชําระเงินตอนซื้อ โดยใบแจ้งหนี้จะส่งไปพร้อมกับการจัดส่งหรือส่งแบบดิจิทัลแทน ใบแจ้งหนี้นี้จะระบุวันครบกําหนดการชําระเงินไว้อย่างชัดเจน (เช่น 30 วันหลังจากได้รับสินค้า) ภายในระยะเวลาดังกล่าว ลูกค้าจะต้องโอนยอดเงินตามใบแจ้งหนี้ไปยังบัญชีที่บริษัทกําหนด
การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีหลักการทำงานอย่างไร
การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ทําได้ง่ายๆ ในแค่ไม่กี่ขั้นตอน ต่อไปนี้คือขั้นตอนโดยสรุป
การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์
ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการในร้านค้าออนไลน์ตามปกติ เรียกดูเว็บไซต์ และเพิ่มสินค้าลงในรถเข็น ที่ขั้นตอนการชําระเงิน ลูกค้าเลือกตัวเลือก "การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้"
นอกจากนี้การชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ยังใช้กับร้านค้าแบบมีหน้าร้านได้ด้วย โดยลูกค้าต้องสอบถามที่ร้าน เนื่องจากผู้ค้าปลีกทุกรายไม่ได้เสนอตัวเลือกนี้ นอกจากนี้ บางครั้งการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ยังมีให้บริการกับลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ลูกค้หรือธุรกิจที่ซื้อขายกันเป็นประจำ
การตรวจสอบเครดิต
ผู้ค้าปลีกหลายรายจะตรวจสอบเครดิตลูกค้าที่เลือกชําระเงินตามใบแจ้งหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระเงิน โดยพิจารณาจากเกณฑ์ต่างๆ เช่น ประวัติการชําระเงินที่ผ่านมาและสถานการณ์ทางการเงินของลูกค้า หากการตรวจสอบเครดิตของลูกค้าเป็นบวก การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้จะได้รับการอนุมัติ
ธุรกิจบางแห่งหรือผู้ให้บริการชําระเงินของธุรกิจบางรายยังจํากัดมูลค่าสูงสุดของคําสั่งซื้อโดยอิงตามความน่าเชื่อถือทางเครดิตของลูกค้าด้วย ในกรณีเหล่านี้ ลูกค้าอาจซื้อได้ไม่เกิน 300 หรือ 500 ยูโรเท่านั้น
การจัดส่งและการออกใบแจ้งหนี้
หลังจากตรวจสอบเครดิตสําเร็จแล้ว สินค้าจะถูกจัดเตรียมเพื่อการจัดส่งและส่งให้ลูกค้า การจัดส่งจะมีใบแจ้งหนี้ที่มีข้อมูลสําคัญทั้งหมดส่งไปด้วย ได้แก่ ยอดเงินในใบแจ้งหนี้ วันที่ครบกําหนด และรายละเอียดธนาคารของบริษัท หรืออาจส่งผ่านช่องทางดิจิทัลทางอีเมลก็ได้
สำหรับการชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ในร้านค้าแบบมีหน้าร้าน ลูกค้าสามารถรับสินค้าเลยหรือเลือกรับในภายหลัง โดยขึ้นอยู่กับว่ามีสินค้าอยู่ในสต็อกหรือไม่ ในหลายๆ กรณี ธุรกิจจะออกใบแจ้งหนี้เลยในขั้นตอนการคิดเงิน แต่ก็สามารถส่งใบแจ้งหนี้ได้ในภายหลังทางอีเมล ทางไปรษณีย์ หรือส่งมาพร้อมกับการจัดส่งสินค้า ผู้ค้าปลีกบางรายกำหนดให้ต้องเซ็นชื่อเพื่อยืนยันสัญญาการซื้อ และบางรายอาจกำหนดให้ชำระค่ามัดจำ
ใบเสร็จและการตรวจสอบสินค้า
ลูกค้าจะได้รับสินค้าที่สั่งและมีโอกาสตรวจสอบสินค้าก่อนส่งการชําระเงิน ขั้นตอนนี้ช่วยให้ลูกค้าได้ตรวจสอบความสมบูรณ์ คุณภาพ และข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ที่อาจเกิดขึ้น
การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้
ลูกค้าจะต้องชำระเงินตามยอดใบแจ้งหนี้ไปยังบัญชีที่บริษัทกำหนดภายในระยะเวลาการชําระเงินที่ระบุ ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ภายใน 14-30 วัน โดยควรระบุวัตถุประสงค์การชําระเงินให้ถูกต้องเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงการชําระเงินกับคําสั่งซื้อได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น หากระบุเหตุผลการชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ไว้ว่า "ใบแจ้งหนี้หมายเลข 12345678" หมายเลขใบแจ้งหนี้ก็ควรจะระบุไว้ตามนั้นในรายการโอนเงิน
หรือลูกค้าอาจจะส่งสินค้าคืนให้บริษัทก่อนวันครบกําหนดการชําระเงินก็ได้ ในกรณีนี้ จะไม่มีการกำหนดการชำระเงิน
ขั้นตอนการติดตามหนี้สําหรับการชําระเงินที่ล่าช้า
หากลูกค้าไม่ชําระเงินตรงตามเวลาในใบเรียกเก็บเงิน กระบวนการติดตามหนี้ก็จะเริ่มต้นขึ้น อันดับแรก บริษัทจะส่งการแจ้งเตือนการชําระเงินตามด้วยจดหมายติดตามหนี้ หากลูกค้ายังคงไม่ชําระเงิน บริษัทสามารถโอนหน้าที่การติดตามให้กับตัวแทนเรียกเก็บหนี้ได้
การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีข้อดีอะไรบ้าง
การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีข้อดีหลายประการสําหรับลูกค้าและธุรกิจ ต่อไปนี้คือภาพรวมข้อดีข้อหลักๆ
ข้อดีสําหรับลูกค้า
- ความยืดหยุ่นในการชําระเงิน: ลูกค้ามีกําหนดเวลาการชําระเงินและสามารถชําระเงินตามยอดในใบแจ้งหนี้ที่ค้างชําระได้ภายในช่วงเวลาการชําระเงินนั้น แทนที่จะต้องชำระเงินในตอนที่สั่งซื้อ ลูกค้าสามารถเลือกเวลาในการชําระเงินที่ยืดหยุ่นมากขึ้นได้
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: วิธีนี้ต่างจากการซื้อแบบผ่อนชำระ เนื่องจากการซื้อแบบลงบัญชีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือค่าดอกเบี้ย หากลูกค้าชำระตามกำหนดการชําระเงิน
- ขั้นตอนการชําระเงินที่ง่ายดาย: การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้เป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาและมักจะไม่จําเป็นต้องป้อนรายละเอียดของธนาคารหรือบัตรเครดิตที่ละเอียดอ่อนในทันที
- ความปลอดภัยและความเชื่อมั่น: ลูกค้าจะได้เห็นสินค้าก่อนชําระเงิน ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซื้อกับผู้ค้าปลีกรายใหม่หรือรายที่ไม่คุ้นเคย
- ไม่มีความเสี่ยงเรื่องสินค้าชำรุด: สามารถคืนสินค้าได้โดยไม่ต้องมีการชำระเงินหากสินค้าชำรุดหรือบกพร่อง โดยลูกค้าไม่มีความเสี่ยงทางการเงินใดๆ
ข้อดีสําหรับผู้ค้าปลีก
- ความพึงพอใจของลูกค้า: ลูกค้าจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อใช้วิธีการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในผู้ค้าปลีกและเสริมสร้างความภักดีของลูกค้า
- ความเสี่ยงการละทิ้งการซื้อที่ลดลง: ลูกค้ามีโอกาสละทิ้งการซื้อน้อยกว่าเมื่อใช้วิธีการชําระเงินแบบลงบัญชี ทั้งนี้เนื่องจากลูกค้าไม่จําเป็นต้องป้อนข้อมูลการชําระเงินที่ละเอียดอ่อนระหว่างขั้นตอนการชําระเงิน
- รายรับที่เพิ่มขึ้น: การชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ช่วยลดอุปสรรคในการซื้อเนื่องจากลูกค้าไม่ต้องชําระเงินจนกว่าจะได้รับสินค้า ซึ่งเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าและเพิ่มรายรับให้ธุรกิจ
- ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน: บริษัทที่ให้บริการการชําระเงินแบบลงบัญชีสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่รับการชําระเงินล่วงหน้าหรือการชําระเงินทันทีเท่านั้น
ข้อเสียของการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้มีอะไรบ้าง
แม้ว่าการซื้อแบบลงบัญชีจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่บางประการ ต่อไปนี้เป็นสรุปประเด็นสําคัญๆ สําหรับลูกค้าและผู้ค้าปลีก
ข้อเสียสําหรับลูกค้า
- ค่าธรรมเนียมการชําระเงินล่าช้า: หากไม่ชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ตรงเวลา ลูกค้าอาจถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการชําระเงินล่าช้าและค่าดอกเบี้ย
- การตรวจสอบเครดิต: บางบริษัทมีการตรวจสอบเครดิตลูกค้า หากข้อมูลที่ได้เป็นลบก็อาจปฏิเสธวิธีการชําระเงินดังกล่าว ทำให้ลูกค้าที่มีเครดิตไม่ดีอาจชําระเงินแบบลงบัญชีได้
- ภาพรวมการชําระเงิน: เมื่อลูกค้าซื้อแบบลงบัญชีหลายรายการ อาจทำให้การติดตามใบแจ้งหนี้ที่ค้างชําระและวันที่ครบกําหนดชําระทั้งหมดได้ยาก ด้วยเหตุนี้ การชําระเงินอาจถูกมองข้ามหรือล่าช้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
- ไม่มีส่วนลดทันที: ผู้ค้าปลีกบางรายอาจเสนอส่วนลดหากทำการชําระเงินทันที ซึ่งการซื้อสินค้าแบบลงบัญชีไม่มีให้
ข้อดีสําหรับผู้ค้าปลีก
- ค่าผิดนัดและการชำระเงินล่าช้า: ผู้ค้าปลีกมีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่ชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงินหรือชําระเงินล่าช้า ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสภาพคล่องสําหรับผู้ค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเสี่ยงเกิดกับเงินจำนวนมาก
- ค่าใช้จ่ายในการจัดการที่เพิ่มขึ้น: งานด้านการจัดการใบแจ้งหนี้ที่ค้างชําระ จดหมายติดตามหนี้ และการแจ้งเตือนการชําระเงินอาจต้องใช้เวลา ผู้ค้าปลีกมักต้องทุ่มเททรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อการจัดการลูกหนี้การค้า นอกจากนี้การตรวจสอบเครดิตก็อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
- อัตราการคืนสินค้าอาจสูงขึ้น: ลูกค้าที่ซื้อแบบลงบัญชีมีแนวโน้มที่จะส่งคืนสินค้ามากกว่า เนื่องจากยังไม่มีข้อผูกพันทางการเงิน ทำให้อาจรู้สึกรับผิดชอบที่จะเก็บสินค้าตามที่สั่งซื้อไว้น้อยลง
ดูข้อดีข้อเสียของการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้เพิ่มเติมได้จากข้อมูลเปรียบเทียบอย่างละเอียดของเรา
ผู้ค้าปลีกจะเสนอการชําระเงินตามใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร
หากคุณทำธุรกิจและต้องการเริ่มรับชําระตามใบเรียกเก็บเงิน มีบางสิ่งที่คุณต้องเตรียมการล่วงหน้าดังต่อไปนี้
การคุ้มครองทางกฎหมาย
อันดับแรก คุณจะต้องเข้าใจข้อกําหนดทางกฎหมายที่มีผลกับคุณ หากมีข้อสงสัย โปรดหาคําแนะนําทางกฎหมาย ตัวอย่างเช่น ในเยอรมนี คุณต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งของเยอรมนี (BGB) และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการตรวจสอบเครดิต และยังควรต้องกําหนดเงื่อนไขการชําระเงินที่ชัดเจนตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งรวมถึงวันครบกําหนดชําระและผลที่ตามมาจากการชําระเงินที่ล่าช้า
การดำเนินงานทางด้านเทคนิค
ต่อมาคือการดำเนินงานทางด้านเทคนิค ผู้ให้บริการภายนอกสามารถช่วยได้โดยให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคที่จําเป็น Stripe Payments ช่วยให้คุณเสนอวิธีการชําระเงินที่แตกต่างกันกว่า 100 วิธีให้แก่ลูกค้าในเยอรมนีได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงคําสั่งซื้อ ซึ่งช่วยให้คุณรับและจัดการการชําระเงินทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ตัวเลือกการชําระเงินเพิ่มเติมควรผสานรวมอยู่ในเว็บไซต์ของคุณในแบบที่ใช้งานง่าย เพื่อให้กระบวนการซื้อดําเนินไปอย่างราบรื่น
การจัดการหนี้การค้าที่ค้างชําระ
เป็นไปได้ว่าใบแจ้งหนี้บางส่วนที่คุณออกจะมีการชําระเงินล่าช้า คุณจึงควรติดตามหนี้ที่ค้างชําระทั้งหมดภายในเวลาที่เหมาะสม โดยติดตามการชําระเงินที่เข้ามา ออกจดหมายติดตามหนี้ และส่งเรื่องต่อไปยังตัวแทนเรียกเก็บหนี้หากจำเป็น บริษัทหลายแห่งใช้เครื่องมืออัตโนมัติเพื่อส่งการแจ้งเตือนและจดหมายติดตามหนี้ การดําเนินการนี้ช่วยลดภาระด้านการจัดการและช่วยให้แน่ใจว่าไม่มีการพลาดการชําระเงิน
เพื่อการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรพิจารณาใช้บริการแฟคตอริงหรือประกันภัยหนี้การค้า แฟคตอริงเป็นบริการที่คุณสามารถขายหนี้การค้าที่ค้างชําระให้กับบริษัทที่ให้บริการแฟคตอริงเพื่อรับยอดใบแจ้งหนี้ก้อนใหญ่ได้ทันที โดยบริษัทแฟคตอริงจะหักเงินบางส่วนในใบแจ้งหนี้ไว้เป็นค่าธรรมเนียม จากนั้นบริษัทแฟคตอริงจะรับความเสี่ยงในการประมวลผลการชําระเงินเอง
เมื่อคุณใช้ Stripe Payments คุณจะได้รับประโยชน์จากการได้รับเงินที่รวดเร็วเป็นพิเศษ: Stripe จะส่งเงินตามยอดใบแจ้งหนี้ให้ภายใน 2 วัน ไม่ว่าลูกค้าของคุณจะชําระเงินหรือไม่หรือเมื่อใด ขั้นตอนการออกใบแจ้งหนี้และการติดตามหนี้ของคุณจะถูกส่งให้ Stripe จัดการโดยสมบูรณ์
การติดต่อลูกค้า
ข้อสุดท้าย คุณควรแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงตัวเลือกการชําระเงินใหม่ของคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือการแจ้งบนเว็บไซต์ของคุณ ในจดหมายข่าว หรือทางอีเมลส่วนบุคคล โดยควรโปร่งใสเกี่ยวกับข้อกําหนดการชําระเงิน วันที่ครบกําหนด และผลลัพธ์จากการชําระเงินที่ล่าช้า
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ