กฎระเบียบเกี่ยวกับภาษีการบริโภคที่เคยบังคับใช้ก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นนําระบบใบกำกับภาษีมาใช้ ระบบดังกล่าวรู้จักกันในชื่อ "ระบบใบกำกับภาษีที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์" และถึงแม้ว่าคุณจะทราบแล้วว่าต้องเริ่มออกใบกำกับภาษีเมื่อใด แต่บางครั้งคุณก็อาจไม่แน่ใจว่าควรออกใบกํากับภาษีตอนไหนบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการทำธุรกรรม

บทความนี้จะอธิบายกระบวนการก่อนนำระบบใบกำกับภาษีมาใช้ เมื่อใดที่จำเป็นต้องออกใบกำกับภาษี และระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ระบบใบกำกับภาษีเริ่มนำมาใช้เมื่อใด
  
• คุณจําเป็นต้องออกใบกำกับภาษีให้กับธุรกรรมเมื่อใด
  

ระบบใบกำกับภาษีเริ่มนำมาใช้เมื่อใด

ระบบใบกำกับได้รับการประกาศใช้ในญี่ปุ่นในวันที่ 1 ตุลาคม 2023 และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าระบบใบกํากับภาษีที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์

หลายคนอาจจะยังจําได้ตอนที่ญี่ปุ่นเริ่มนำระบบใบกำกับภาษีนี้มาใช้ แต่คุณยังจําสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการนําระบบใบกำกับภาษีและภาษีการบริโภคมาใช้ได้หรือไม่ ด้านล่างนี้เป็นลําดับเวลาของการนําระบบใบกำกับภาษีมาใช้

ลําดับเวลานี้แสดงว่าภาษีการบริโภคมีมานานแล้วก่อนการประกาศใช้ระบบใบกำกับภาษีในปี 2023

ระบบใบกำกับภาษีช่วยให้ธุรกิจชำระภาษีการบริโภคได้อย่างถูกต้องและเป็นภาษีเครดิตการซื้อที่ใช้ร่วมกับอัตราภาษีการบริโภคหลายๆ แบบได้ หากต้องการออกใบกำกับภาษี องค์กรต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทที่ออกใบกำกับภาษีก่อน

NTA ได้เผยแพร่ผังขั้นตอนการยื่นขอจดทะเบียน ซึ่งให้แนวทางเฉพาะสำหรับผู้ยื่นขอจดทะเบียนแต่ละประเภท ทั้งยังเป็นข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ที่ต้องการจะยื่นขอจดทะเบียนในอนาคต หากรายละเอียดในผังขั้นตอนไม่ตรงกับคุณเลย หรือหากคุณต้องการคําแนะนําเฉพาะเกี่ยวกับวิธีกรอกหนังสือยื่นขอจดทะเบียน โปรดติดต่อสํานักงานภาษีที่เกี่ยวข้อง

Stripe เป็นบริษัทผู้ออกใบกำกับภาษีที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ จึงสามารถออกใบกำกับภาษีที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ตามข้อกําหนดการทำธุรกรรมได้ โดย Stripe Invoicing สามารถสร้างและประมวลผลใบกำกับภาษีได้ภายในไม่กี่นาที ช่วยให้ธุรกิจขยายการดำเนินงานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณจําเป็นต้องออกใบกำกับภาษีให้กับธุรกรรมเมื่อใด

รอบการออกใบกำกับภาษี

หากทําธุรกรรมในเดือนกันยายน 2023 และออกใบแจ้งหนี้ในเดือนตุลาคม 2023 คุณจําเป็นต้องออกใบกำกับภาษีเมื่อใด

ข้อกําหนดสำหรับใบกำกับภาษีจะมีผลกับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป และต้องออกใบกำกับภาษีให้กับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าวหรือหลังจากวันดังกล่าวเป็นต้นไป

หากธุรกรรมเกิดขึ้นก่อนวันที่ 30 กันยายน 2023 คุณไม่จําเป็นต้องออกใบกำกับภาษี ตัวอย่างเช่น หากธุรกรรมเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2023 และออกใบแจ้งหนี้ในเดือนตุลาคม 2023 ก็ไม่จําเป็นต้องออกใบกำกับภาษี

อย่างไรก็ตาม หากธุรกรรมเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2023 และจัดส่งในเดือนตุลาคม 2023 กรณีนี้จะต้องออกใบกำกับภาษี

หากไม่แน่ใจ คุณอาจจะออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามข้อกำหนดของระบบใบกำกับภาษีให้กับธุรกรรมที่เกิดขึ้นจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2023 เป็นต้นไป

การเปลี่ยนมาใช้ระบบใบกำกับภาษี

หลังจากที่ระบบใบกำกับภาษีมีผลบังคับใช้ ธุรกิจต้องจัดเก็บใบกำกับภาษีทั้งหมดเอาไว้เพื่อใช้เป็นเครดิตภาษีการบริโภคสำหรับการซื้อในกรณีส่วนใหญ่

ธุรกิจบางแห่งอาจจะใช้ระบบใบกำกับภาษีไม่ได้ทันทีเนื่องจากเพิ่งจะประกาศใช้เมื่อเร็วๆ นี้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีการกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านหลังจากการเปิดตัวระบบใบกำกับภาษี เพื่อป้องกันความสับสนเกี่ยวกับระบบใหม่และหลีกเลี่ยงไม่ให้ธุรกิจต้องแบกรับภาระอย่างกะทันหัน ในระหว่างนี้ คุณสามารถหักภาษีเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่เทียบเท่ากับภาษีการซื้อได้ แม้ว่าจะไม่ได้ออกใบกำกับภาษีก็ตาม

ระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน

เมื่อพิจารณาจากระดับผลกระทบของระบบใบกำกับภาษี รัฐบาลญี่ปุ่นจึงกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเป็น 6 ปี โดยอนุญาตให้หักภาษีจากการซื้อที่ต้องเสียภาษีจากธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีได้

หรือก็คือตลอดระยะเวลา 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2023 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2026 80% ของการซื้อที่ต้องเสียภาษีจะถูกหักภาษี แม้ว่าพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีจะไม่ได้จดทะเบียนในระบบใบกำกับภาษีและไม่สามารถออกใบกำกับภาษีก็ตาม หลังจากนั้นเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2026 จนถึง 30 กันยายน 2029 จะอนุญาตให้หักภาษีจาก 50% ของการซื้อที่ต้องเสียภาษี และหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2029 เป็นต้นไป ระบบจะไม่อนุญาตการหักภาษีเพิ่มอีก

หลังจากการประกาศใช้ระบบใบกำกับภาษี มีการกําหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ซึ่งในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้หักเปอร์เซ็นต์ออกจากการซื้อที่ต้องเสียภาษีจากบริษัทที่ได้รับการยกเว้นภาษีที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้ระบบใบกำกับภาษีได้ ดังนั้น หากปัจจุบันคุณเป็นธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษี โปรดพิจารณาว่าคุณจําเป็นต้องเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีหรือไม่