แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้คือแบบฟอร์มดิจิทัลที่ใช้เพื่ออํานวยความสะดวกในการชําระเงินค่าผลิตภัณฑ์และการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อลูกค้าโต้ตอบกับแบบฟอร์มเหล่านี้ ระบบจะแสดงยอดรวมที่ต้องชําระและแจ้งเตือนให้ชําระเงินโดยไม่เปลี่ยนเส้นทางไปยังแพลตฟอร์มอื่น จากแบบสํารวจของ McKinsey ปี 2024 ลูกค้า 9 ใน 10 คนในสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้ทําการชําระเงินแบบดิจิทัลบางประเภทในช่วงปีที่ผ่านมา และแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ก็เป็นวิธีที่ง่ายสําหรับธุรกิจที่จะใช้ประโยชน์จากเทรนด์นี้
ด้านล่างนี้เราจะอธิบายการทํางานของแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ วิธีการที่ธุรกิจสามารถปรับปรุงการเรียกเก็บเงิน และวิธีเอาชนะความท้าทายที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ทำงานให้กับธุรกิจได้อย่างไร
- แบบฟอร์มที่ชําระเงินได้จะช่วยปรับปรุงการเรียกเก็บเงินได้อย่างไร
- Stripe ทำให้การสร้างแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ง่ายขึ้นอย่างไร
- ความท้าทายที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้มีอะไรบ้าง และคุณจะหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร
แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ทำงานให้กับธุรกิจได้อย่างไร
แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้เป็นวิธีจัดการการชําระเงินที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ แบบฟอร์มจะรวบรวมข้อมูลที่จําเป็นสําหรับการดําเนินการชําระเงิน ได้แก่ ข้อมูลของลูกค้า วิธีการชําระเงิน และจํานวนเงินที่ต้องชําระ เมื่อลูกค้ากรอกแบบฟอร์มแล้วกด "ชําระเงิน" ลูกค้าจะเชื่อมต่อกับระบบที่ปลอดภัยซึ่งจะจัดการธุรกรรม ระบบนี้จะเข้ารหัสรายละเอียด ส่งออกไปเพื่อขออนุมัติ และประมวลผลธุรกรรม
ทันทีที่การชําระเงินได้รับการอนุมัติ ทั้งผู้ขายและลูกค้าจะได้รับแจ้งทันที แบบฟอร์มเหล่านี้มักจะซิงค์กับเครื่องมือที่คุณมีอยู่ เช่น ซอฟต์แวร์การทําบัญชีหรือการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ดังนั้นระบบจะติดตามและจัดระเบียบการชําระเงินโดยที่คุณไม่ต้องดําเนินการเพิ่มเติม
แบบฟอร์มที่ชําระเงินได้จะช่วยปรับปรุงการเรียกเก็บเงินได้อย่างไร
แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ช่วยแก้ปัญหาการชําระเงินได้หลายอย่าง ต่อไปนี้คือวิธีที่แบบฟอร์มนี้สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณ
แบบฟอร์มทำให้ชำระเงินได้ง่ายจนไม่สามารถเพิกเฉยได้
การชําระเงินล่าช้าจํานวนมากเกิดขึ้นเนื่องจากลูกค้ามองว่าการชําระเงินเป็นเรื่องยุ่งยาก แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนนี้โดยทําให้กระบวนการง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกรอกจำนวนล่วงหน้า ลูกค้าไม่จําเป็นต้องพิมพ์อะไรหรือเขียนเช็ค เพื่อให้ลูกค้าชําระเงินได้ภายในไม่กี่คลิก
ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการเรียกเก็บเงิน
ข้อผิดพลาด เช่น หมายเลขใบแจ้งหนี้ไม่ถูกต้อง จำนวนเงินขาดหายไป และบัตรเครดิตที่หมดอายุอาจทําให้เกิดความล่าช้าได้มาก แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้โดยอัตโนมัติ โดยจะคํานวณยอดรวมที่ถูกต้อง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบัตรเครดิต และซิงค์กับบันทึกของคุณ เพื่อให้ไม่มีใครต้องค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาด
ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
แบบฟอร์มที่ทันสมัยและปลอดภัยแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับเวลาและเงินของลูกค้า
เปลี่ยนการชําระเงินให้เป็นข้อมูลเชิงลึก
แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้จะติดตามทุกอย่าง ตั้งแต่ว่าใครชําระเงิน ชำระอย่างไร ชำระเมื่อไหร่ เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเริ่มเห็นรูปแบบต่าง เช่น วิธีการชําระเงินที่ลูกค้าต้องการ ข้อมูลเชิงลึกนี้ช่วยให้คุณปรับแต่งกระบวนการได้อย่างละเอียดเพื่อให้รับการชําระเงินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ช่วยให้คาดการณ์กระแสเงินสดของคุณได้
ยิ่งการชำระเงินเข้ามาเร็วเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งกังวลน้อยลงว่าจะมีในธนาคารพอที่จะจ่ายเงินเดือนหรือค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ หรือไม่ แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ช่วยให้คาดการณ์กระแสเงินสดขาเข้าได้มากขึ้น
Stripe ทำให้การสร้างแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ง่ายขึ้นอย่างไร
Stripe ทําให้การสร้างแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างสูง ระบบการรับชําระเงินของ Stripe ช่วยให้คุณออกแบบแบบฟอร์มสําหรับแบรนด์และขั้นตอนการทํางานของคุณโดยเฉพาะได้ นี่คือวิธีการสร้างแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้กับ Stripe
ช่องการชําระเงินที่ปรับแต่งได้
Stripe Elements คือไลบรารีองค์ประกอบ UI สําเร็จรูป (เช่น ช่องบัตร วิธีการชําระเงิน การจัดการข้อผิดพลาด) ที่ช่วยให้คุณออกแบบแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้ของตนเองโดยไม่ต้องสร้างองค์ประกอบทั้งหมดตั้งแต่ต้น องค์ประกอบเหล่านี้สามารถปรับแต่งได้อย่างมากและเข้ากับการออกแบบเว็บไซต์หรือแอปของคุณ ในขณะที่ Stripe จะจัดการงานแบ็กเอนด์ให้คุณ เช่น การเข้ารหัสและการแปลงเป็นโทเค็น
ลิงก์ชําระเงินแบบไดนามิก
Stripe Payment Links ช่วยให้คุณไม่ต้องดําเนินการพัฒนาเอง คุณสามารถสร้างแบบฟอร์มการชําระเงินได้โดยตรงจากแดชบอร์ด Stripe ด้วยการป้อนจํานวนเงิน สกุลเงิน และวิธีการชําระเงิน จากนั้น คุณจะได้รับลิงก์ที่แชร์ได้ซึ่งนําไปยังแบบฟอร์มในระบบซึ่งคุณสามารถส่งให้ลูกค้าผ่านอีเมล ข้อความ หรือแม้แต่รหัส QR ได้
การผสานการทํางานกับ Stripe Checkout
Stripe Checkout เป็นหน้าการชําระเงินสําเร็จรูปที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์และตําแหน่งที่ตั้งของลูกค้าเพื่อเสนอวิธีการชําระเงินและสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง เป็นโซลูชันที่สวยงามและโฮสต์อย่างสมบูรณ์ซึ่งสามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าและคูปอง ได้ในไม่กี่คลิกในแดชบอร์ด เหมาะสําหรับธุรกิจที่ต้องการแบบฟอร์มที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ต้องการสร้างด้วยตัวเอง
วิธีการชําระเงินที่ปรับให้เข้ากับท้องถิ่น
Stripe ปรับแบบฟอร์มให้เข้ากับวิธีการชําระเงินที่นิยมใช้ในท้องถิ่นได้ ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าของคุณอยู่ในยุโรป แบบฟอร์มในระบบ Stripe จะให้ความสําคัญกับตัวเลือกการชําระเงินอย่างการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA และ iDEAL การปรับเปลี่ยนแบบไดนามิกนี้ทําให้การชําระเงินง่ายขึ้นสําหรับลูกค้า และเพิ่มโอกาสที่จะได้รับเงินอย่างรวดเร็ว
การตรวจจับการฉ้อโกงในตัว
Stripe ลดความยุ่งยากในการสร้างแบบฟอร์มด้วยการผสานการตรวจจับการฉ้อโกงเข้ากับกระบวนการชําระเงินโดยตรง การชําระเงินทุกรายการที่เรียกเก็บผ่านแบบฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย Stripe จะได้รับการสแกนโดย Stripe Radar ซึ่งเป็นระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยอัตโนมัติ
การปรับภาษีและค่าบริการ
Stripe ทำให้คํานวณภาษีและส่วนลดอัตโนมัติง่ายขึ้นด้วยเครื่องมือในตัว ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Tax ของ Stripe เพื่อคํานวณและแสดงภาษีโดยอัตโนมัติตามตําแหน่งที่ตั้งของลูกค้า ในทํานองเดียวกัน คุณสามารถใช้ส่วนลดและรหัสโปรโมชันที่ขั้นตอนการชําระเงินโดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเองหรือผสานการทํางานกับบริษัทอื่น
ระบบอัตโนมัติหลังการชําระเงิน
เมื่อใช้อินเทอร์เฟซการสร้างโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ของ Stripe หรือแดชบอร์ด คุณสามารถเชื่อมโยงแบบฟอร์ที่ชำระเงินได้เข้ากับการดําเนินการต่างๆ เช่น ส่งอีเมลยืนยันการชําระเงิน การอัปเดตระเบียน CRM และเรียกใช้กระบวนการดําเนินการตามคําสั่งซื้อ ซึ่งทําให้แบบฟอร์มของคุณเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการทํางานอัตโนมัติที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ความท้าทายที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบบฟอร์มที่ชำระเงินได้มีอะไรบ้าง และคุณจะหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร
แบบฟอร์มที่ชำระเงินได้มีประโยชน์มาก แต่อาจมีปัญหาที่รบกวนลูกค้า ทำให้การชําระเงินล่าช้า หรือแม้กระทั่งทําให้คุณเสียเงิน นี่คือสิ่งที่ต้องระวังและวิธีหลีกเลี่ยง
แบบฟอร์มที่ซับซ้อนเกินไป
หากการกรอกแบบฟอร์มของคุณรู้สึกเหมือนงานเพราะมีช่องข้อมูลมากเกินไป มีคําแนะนําที่ไม่ชัดเจน หรือมีการออกแบบที่เทอะทะ ลูกค้าอาจออกจากแบบฟอร์มก่อนที่จะกด "ชําระเงิน"
วิธีแก้ปัญหา
ทำให้เรียบง่าย ขอเฉพาะข้อมูลที่คุณต้องการจริงๆ
ทำให้สบายตาและทำตามได้ง่าย ป้ายกํากับควรชัดเจนและไม่ควรมีองค์ประกอบเยอะเกินไป
ลองใช้ด้วยตัวคุณเอง หากคุณไม่อยากกรอกข้อมูล ลูกค้าก็จะรู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน
ตัวเลือกการชําระเงินไม่เพียงพอ
แต่ละคนก็ชำระเงินด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป เช่น การจํากัดแบบฟอร์มให้ใช้เฉพาะบัตรเครดิต อาจทำให้ลูกค้าที่ต้องการโอนผ่านสํานักหักบัญชีอัตโนมัติ (ACH) หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay ใช้งานแบบฟอร์มไม่ได้
วิธีแก้ปัญหา
เสนอตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย บัตรเครดิตและบัตรเดบิตก็จำเป็น แต่ลองเพิ่มกระเป๋าเงินดิจิทัล การโอนเงินผ่าน ACH หรือวิธีการชําระเงินในท้องถิ่นด้วย หากคุณให้บริการลูกค้าในระดับสากล หลายๆ แพลตฟอร์ม (รวมถึง Stripe) ทําให้สิ่งนี้เป็นเรื่องง่าย
ใส่ใจกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ หากลูกค้าของคุณส่วนใหญ่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ให้ศึกษาว่าวิธีการชําระเงินใดได้รับความนิยมในภูมิภาคดังกล่าว
การจัดการกับข้อผิดพลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ
การกรอกแบบฟอร์มแล้วคลิก "ส่ง" และได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่คลุมเครือ หรือที่แย่กว่านั้นก็คือไม่ได้รับข้อความอะไรเลย อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่พอใจ
วิธีแก้ปัญหา
ใช้ข้อความแสดงข้อผิดพลาดแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น หากหมายเลขบัตรไม่ถูกต้อง ให้แจ้งให้ลูกค้าทราบทันทีแทนที่จะรอให้ลูกค้าคลิก "ส่ง" ก่อน
ทําให้ข้อผิดพลาดชัดเจนและดําเนินการได้ หากใช้บัตรไม่สําเร็จ โปรดแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงสาเหตุ (เช่น หมดอายุ ถูกปฏิเสธ) และแนะนําขั้นตอนต่อไปให้ลูกค้าทราบ
ข้อมูลการเรียกเก็บเงินที่คลุมเครือ
หากลูกค้าไม่เข้าใจในทันทีว่าตนถูกเรียกเก็บค่าอะไรหรือทำไม สิ่งนี้อาจสร้างความสงสัยได้ ความสับสนในขั้นตอนนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการชำระเงินล่าช้าหรือการขาดชำระ
วิธีแก้ปัญหา
ระบุในแบบฟอร์มว่ายอดรวมประกอบด้วยค่าอะไรบ้าง
ลิงก์ไปยังนโยบายต่างๆ เช่น การคืนเงินและข้อกําหนดการให้บริการ หากมีความเกี่ยวข้อง
ข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
หากแบบฟอร์มของคุณดูไม่ปลอดภัย ลูกค้าจะไม่มั่นใจในการป้อนข้อมูลการชําระเงิน
วิธีแก้ปัญหา
ใช้ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่น่าเชื่อถือที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎการจัดการข้อมูล
ปรับแบบฟอร์มให้ดูเป็นระเบียบและแสดงแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าจ่ายเงินให้คุณ ไม่ใช่บุคคลที่สาม
เน้นฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัย เช่น ป้าย Secure Sockets Layer (SSL) และป้าย "Secure Checkout" เพื่อความมั่นใจ
การผสานการทํางานที่ไม่มรประสิทธิภาพ
หากแบบฟอร์มไม่ซิงค์กับเครื่องมือที่คุณใช้อยู่ (เช่น ซอฟต์แวร์การทําบัญชีหรือ CRM) การชําระเงินอาจสูญหายไปและสร้างงานเพิ่มเติมให้คุณและส่งผลกระทบต่อลูกค้า
วิธีแก้ปัญหา
ทดสอบการเชื่อมต่อระบบอย่างละเอียด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการชำระเงินเข้าสู่ระบบของคุณได้โดยไม่ทำให้อะไรเสียหาย
เลือกเครื่องมือที่ทํางานร่วมกันได้ หลายๆ แพลตฟอร์มมีการผสานการทํางานที่พร้อมใช้งานได้ทันทีซึ่งทำให้ขั้นตอนนี้ง่ายขึ้น
ลิงก์ที่หมดอายุ
หากคุณกําลังใช้ลิงก์การชําระเงินที่จำกัดให้ใช้งานได้ภายในเวลาสั้นๆ ลิงก์ที่หมดอายุแล้วจะสร้างความยุ่งยากโดยไม่จําเป็น ลูกค้าจะรู้สึกไม่พอใจและคุณอาจเสียการชำระเงินนั้นไปได้
วิธีแก้ปัญหา
กําหนดวันหมดอายุที่เหมาะสม อย่าเร่งให้ลูกค้าชําระเงินภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่จะจําเป็นจริงๆ
ทำให้สร้างลิงก์ใหม่ได้ง่ายๆ หากจําเป็น เพียงแค่มีปุ่ม "ต้องการลิงก์ใหม่ใช่ไหม" ก็แก้ไขปัญหานี้ได้
ประสบการณ์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ไม่ดี
ผู้คนหันมาจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักร 69% ของผู้ซื้อออนไลน์ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อทำการซื้อสินค้าในปี 2023 หากแบบฟอร์มไม่ปรับแต่งให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ คุณอาจสูญเสียการชําระเงินจากลูกค้าเหล่านั้น
วิธีแก้ปัญหา
ใช้การออกแบบที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์เพื่อให้แบบฟอร์มของคุณปรับตามขนาดหน้าจอ
ทดสอบแบบฟอร์มบนอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้ทุกที่
ไม่ติดตามผล
บางครั้งลูกค้าอาจลืมชําระเงิน หากไม่ติดตามผล คุณจะสูญเสียรายรับนั้นไป
วิธีแก้ปัญหา
ส่งการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติสําหรับแบบฟอร์มที่กรอกไม่ครบถ้วน
ใส่ลิงก์ในอีเมลติดตามผลเพื่อให้ลูกค้าทำต่อจากจุดที่ค้างไว้ได้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ