วิธีขายเนื้อหาดิจิทัลให้กับลูกค้าต่างประเทศจากญี่ปุ่น

Checkout
Checkout

Stripe Checkout เป็นแบบฟอร์มการชำระเงินสำเร็จรูปที่คุณสามารถปรับแต่งให้เหมาะสำหรับเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้คุณยังผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังรับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ขนาดของตลาดโลกสำหรับเนื้อหาดิจิทัล
  3. วิธีขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ
    1. ใช้แพลตฟอร์มเนื้อหาดิจิทัลที่มุ่งเป้าไปที่ตลาดต่างประเทศ
    2. เปิดเว็บไซต์เนื้อหาของคุณเอง
  4. เรื่องราวความสำเร็จของการขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ
    1. Bandai Namco Entertainment
    2. TV Asahi
  5. ประเด็นที่ควรพิจารณาเมื่อขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ
    1. ภาษีการบริโภคของญี่ปุ่น (JCT)
    2. ระบบภาษีและภาระผูกพันด้านการรายงานสำหรับประเทศอื่นๆ
    3. การจัดส่ง
    4. คุณภาพการแปล
    5. การให้สิทธิ์อนุญาต
    6. การหาลูกค้า
    7. วิธีการชำระเงิน
  6. Stripe Checkout ช่วยอะไรได้บ้าง

ญี่ปุ่นเป็นแหล่งกำเนิดของเนื้อหาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมังงะ, อะนิเมะ, เพลงเจ-ป๊อป และเกม ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนอกประเทศญี่ปุ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในอดีต เมื่อลูกค้าเพลิดเพลินกับหนังสือ ภาพยนตร์ เพลง และความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ พวกเขาบริโภคเนื้อหาเหล่านั้นในรูปแบบอนาล็อกโดยการซื้อเวอร์ชันจริงของสิ่งเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลาย เนื้อหาต่างๆ ก็ได้ย้ายเข้ามาสู่โลกดิจิทัล ปัจจุบันนี้เนื้อหาดิจิทัลได้เป็นที่ยอมรับในญี่ปุ่น เช่นเดียวกับที่อื่นๆ ทั่วโลก

ความต้องการเนื้อหาญี่ปุ่นกำลังเติบโตขึ้นด้วยอิทธิพลของแฟนๆ ในต่างประเทศที่สนใจในวัฒนธรรมย่อย เช่น อะนิเมะและเกม ดังนั้น การขายเนื้อหาดิจิทัลไปยังตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นจึงกลายเป็นช่องทางให้ธุรกิจญี่ปุ่นขยายตัว

มาดูวิธีที่ดีที่สุดในการขายเนื้อหาดิจิทัลข้ามพรมแดนกัน โดยเราจะกล่าวถึงวิธีการขายที่เฉพาะเจาะจง ประเด็นที่ควรพิจารณา และธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ

เนื้อหาหลักในบทความ

  • ขนาดของตลาดโลกสำหรับเนื้อหาดิจิทัล
  • วิธีขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ
  • เรื่องราวความสำเร็จของการขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ
  • ประเด็นที่ควรพิจารณาเมื่อขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ
  • Stripe Checkout ช่วยอะไรได้บ้าง

ขนาดของตลาดโลกสำหรับเนื้อหาดิจิทัล

ข้อมูลที่เผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ช่วยให้เห็นภาพขนาดของตลาดเนื้อหาดิจิทัลทั่วโลก จากข้อมูลของ METI ในปี 2022 ตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตามลำดับคือ

  • สหรัฐอเมริกา: 75.5 ล้านล้านเยน (JPY)
  • จีน: 33.2 ล้านล้านเยน
  • ญี่ปุ่น: 13.1 ล้านล้านเยน

รายงาน "Size of the Global Content Market" ของ METI ได้ทำการสำรวจตลาดตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2022 ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าในปี 2013 ประเทศจีนได้แซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นตลาดเนื้อหาดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และตลาดของจีนก็ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสนใจอย่างล้นหลามที่เนื้อหาดิจิทัลได้รับในประเทศจีนนั้นโดดเด่นแม้ในระดับโลก โดยอัตราการเติบโตของเนื้อหาดิจิทัลในประเทศจีนนั้นเร็วกว่ามากเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดชั้นนำระดับโลก

นอกจากนี้ จีนยังมีอัตราการแปลงเนื้อหาวิดีโอ เพลง และเกมให้เป็นดิจิทัลสูงที่สุดในปี 2022

ประเทศ

อัตราการแปลงเนื้อหาวิดีโอเป็นดิจิทัล

อัตราการแปลงเนื้อหาเพลงเป็นดิจิทัล

อัตราการแปลงเนื้อหาเกมเป็นดิจิทัล

จีน

100.0%

100.0%

99.3%

สหรัฐอเมริกา

94.3%

87.1%

91.9%

ญี่ปุ่น

71.0%

52.5%

90.9%

แม้ว่าขนาดตลาดของญี่ปุ่นจะไม่ได้เล็ก แต่เมื่อมองผ่านมุมมองระดับโลกแล้ว ตลาดญี่ปุ่นก็ยังตามหลังอยู่ อย่างไรก็ตาม การขายเนื้อหาดิจิทัลให้กับประเทศต่างๆ เช่น จีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขนาดตลาดที่ใหญ่กว่า นับเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจญี่ปุ่นในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและเพิ่มยอดขาย

ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและจีน ที่ซึ่งอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนกำลังเฟื่องฟู มีลูกค้าจำนวนมากที่สนับสนุนเนื้อหาญี่ปุ่น เมื่อพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของความต้องการด้านการท่องเที่ยวขาเข้า ก็มีความสนใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวต่อเนื้อหาดิจิทัลของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ดังนั้น สำหรับธุรกิจญี่ปุ่น การเติบโตสามารถมาจากการขยายขอบเขตและการขายเนื้อหาดิจิทัลให้กับลูกค้าต่างประเทศ

วิธีขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ

การขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศมีวิธีหลักอยู่ 2 วิธี

ใช้แพลตฟอร์มเนื้อหาดิจิทัลที่มุ่งเป้าไปที่ตลาดต่างประเทศ

วิธีแรกคือการใช้แพลตฟอร์มที่ดำเนินการในต่างประเทศ ยกตัวอย่างจากการใช้เนื้อหาวิดีโอ ธุรกิจสามารถสร้างรายรับได้โดยการนำเสนอวิดีโอให้กับบริการสตรีมมิงและขายวิดีโอเหล่านั้นบนแพลตฟอร์มดังกล่าว

การใช้บริการวิดีโอสตรีมมิงบนแพลตฟอร์มที่เป็นที่รู้จักพอสมควรแล้วมีข้อดีในการนำเสนอวิดีโอของคุณไปยังผู้ชมกลุ่มใหญ่กว่าที่คุณจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมในการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจสอบโครงสร้างราคาค่าบริการล่วงหน้า สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการทำความเข้าใจว่าแพลตฟอร์มในต่างประเทศบางแพลตฟอร์มนั้นอาจไม่รองรับภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นจึงอาจจำเป็นต้องจ้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ

มีแพลตฟอร์มจำนวนมากที่สามารถใช้ขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศได้ แต่ตัวอย่างบางส่วนได้แก่

  • Amazon Kindle Direct Publishing (KDP): สำหรับหนังสือและบทความ
  • Udemy: สำหรับเนื้อหาให้ความรู้ออนไลน์
  • Twitch: สำหรับการเล่นเกมและการบรรยาย การสตรีมเพลง และการสตรีมงานศิลปะ (เช่น การวาดภาพแบบเรียลไทม์ การสอนการวาดภาพ ฯลฯ)

เปิดเว็บไซต์เนื้อหาของคุณเอง

วิธีที่สองคือการเปิดเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจคุณเอง และจากนั้นจึงขายเนื้อหาผ่านช่องทางนั้น ตัวอย่างเช่น หากบริษัทของคุณต้องการใช้วิธีนี้สำหรับการสตรีมวิดีโอ คุณสามารถใช้บริการสร้างเว็บไซต์สตรีมมิงวิดีโอได้ ในกรณีนี้ แม้ว่าคุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินและค่าธรรมเนียมการใช้ระบบให้กับผู้ให้บริการที่เสนอบริการสร้างเว็บไซต์ แต่การสร้างเว็บไซต์ขายวิดีโอเองจะดำเนินไปได้ค่อนข้างราบรื่น

ข้อดีของวิธีนี้คือเว็บไซต์เฉพาะที่โฟกัสแค่เพียงเนื้อหาของบริษัทคุณเองจะช่วยให้แน่ใจได้ว่าวิดีโอของคุณจะไม่ถูกกลืนหายไปในกองวิดีโอของคู่แข่ง นอกจากนี้ การออกแบบและเลย์เอาต์ของเว็บไซต์ยังสามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ และสามารถนำวิธีการชำระเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามาใช้ได้ โดยมีความสามารถในการเพิ่มประเภทการชำระเงินแบบไร้เงินสดได้หลายรูปแบบ

เรื่องราวความสำเร็จของการขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ

มาดูตัวอย่างของหลายๆ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ ตามที่ได้รับการบันทึกโดยสำนักงานกิจการวัฒนธรรมกัน

Bandai Namco Entertainment

บริษัท Bandai Namco Entertainment Inc. ได้เปิดตัวเกมสวมบทบาท (RPG) สำหรับสมาร์ทโฟนชื่อ "Dragon Ball Z: Dokkan Battle" เป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคม 2015 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 เกมดังกล่าวได้เปิดให้เล่นในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และตอนนี้มียอดดาวน์โหลดสะสมเกิน 350 ล้านครั้งแล้ว นอกจากนี้ ภายหลังจากการเปิดตัวในญี่ปุ่น เวอร์ชันภาษาอังกฤษก็ได้ถูกปล่อยออกมาในเดือนกรกฎาคม 2015 ซึ่งมียอดดาวน์โหลดถึง 10 ล้านครั้งใน 35 ประเทศและภูมิภาคภายในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกันนั้น

ในกรณีนี้ กุญแจสู่ความสำเร็จของบริษัทคือการร่วมมือกับบริษัทพาร์ทเนอร์ในท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ นอกจากนี้ ธุรกิจนี้ยังจัดงานฉลองครบรอบทุกเดือนมกราคมและดำเนินมาตรการอื่นๆ เพื่อรองรับแฟนๆ ทั่วโลก โดยให้บริการที่ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินได้อย่างต่อเนื่อง

TV Asahi

นอกจากนี้ ยังมีกรณีความสำเร็จของการขยายธุรกิจไปต่างประเทศในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ของญี่ปุ่นด้วย (หลักๆ แล้วคือละคร เมื่อพูดถึงทีวี) ตัวอย่างเช่น ละครเรื่อง Ossan's Love ของ TV Asahi ในปี 2018 มีการขายในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย โดยประกอบด้วยเกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง, ไทย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และมองโกเลีย รายการดังกล่าวออกอากาศในต่างประเทศพร้อมกับประเทศญี่ปุ่น และต่อมาก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศเหล่านั้น

เนื่องจากรายการญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าจะมีการผลิตฉบับรีเมคและเผยแพร่ไปยังประเทศและภูมิภาคต่างๆ มากยิ่งขึ้น ในกรณีของ TV Asahi ซึ่งเป็นผู้ทำการพัฒนาฉบับรีเมค ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้เนื้อหาสอดคล้องกับวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศเป้าหมายแต่ละแห่ง ซึ่งรวมถึงการเพิ่มฉากต้นฉบับที่มีเฉพาะในเวอร์ชันสากลและการนำเสนอเพลงจากศิลปินดังในท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นที่เหมาะสมซึ่งปรับแต่งให้เข้ากับผู้ชมในพื้นที่ วิธีการนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจนี้

ประเด็นที่ควรพิจารณาเมื่อขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศ

เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่จะมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าต่างประเทศที่สนใจเนื้อหาดิจิทัลของญี่ปุ่น เพราะวิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นซึ่งขยายไปไกลกว่าประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การขายเนื้อหาดิจิทัลในต่างประเทศนั้นแตกต่างจากการทำธุรกรรมภายในประเทศโดยทั่วไป และมีหลายประเด็นที่ควรคำนึงถึง

ภาษีการบริโภคของญี่ปุ่น (JCT)

JCT จะถูกเรียกเก็บกับสินค้าและบริการที่ซื้อและบริโภคในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่าเมื่อลูกค้าที่อาศัยอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นซื้อเนื้อหาดิจิทัลของญี่ปุ่น จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีการบริโภค อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต้องกำหนดการตั้งค่าบนเว็บไซต์เนื้อหาของตนล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีการบริโภคกับผู้ใช้ในต่างประเทศ โดยทั่วไปแล้ว การตั้งค่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้จากหน้าจออินเทอร์เฟซการจัดการของเว็บไซต์เนื้อหา

ระบบภาษีและภาระผูกพันด้านการรายงานสำหรับประเทศอื่นๆ

การขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแบบจับต้องได้หรือแบบดิจิทัล ต่างก็ถือเป็นอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เมื่อดำเนินการอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ธุรกิจจำเป็นต้องตระหนักถึงระบบภาษีของประเทศอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งระบบภาษีและภาระผูกพันด้านการรายงานจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเทศที่ทำการขาย ตัวอย่างหนึ่งของกรณีนี้ก็คือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งมีการนำมาใช้ในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวล่วงหน้าโดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในแต่ละประเทศที่คุณอาจทำธุรกิจด้วย วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับระบบภาษีที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม

การจัดส่ง

การขายเนื้อหาดิจิทัลถือเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์อย่างเคร่งครัด ซึ่งหมายความว่าไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่สามารถหยิบหรือสัมผัสได้ ที่จะไม่มีการจัดส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง สำหรับเว็บไซต์ที่จัดการการขายทั้งเนื้อหาดิจิทัลและสินค้าที่จับต้องได้ จำเป็นต้องมีการแยกความแตกต่างของทั้งสองอย่างและกำหนดค่าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลให้เป็นสินค้าที่ไม่สามารถจัดส่งได้

คุณภาพการแปล

ลูกค้าจะไม่สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหาดิจิทัล เช่น อีบุ๊กและภาพยนตร์ได้ หากพวกเขาไม่เข้าใจเนื้อหานั้น ดังนั้น หากคุณกำลังขายเนื้อหาดิจิทัลให้กับลูกค้าต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรองรับภาษาของแต่ละประเทศอย่างเหมาะสม

คุณอาจเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีเป็นพิเศษหากคุณเคยประสบกับอุปสรรคทางภาษาด้วยตัวเองในฐานะลูกค้ามาก่อน บางทีคุณอาจเคยสตรีมวิดีโอจากต่างประเทศแล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ คือรู้สึกว่าคำแปลนั้นแปลกไปหน่อย หากคุณเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน มีความเป็นไปได้สูงว่าเนื้อหานั้นจะถูกแปลโดยใช้บริการแปลภาษาฟรีที่ไม่สามารถจัดการกับความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนของภาษานั้นๆ ได้

เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาดิจิทัลที่ธุรกิจของคุณขายจะไม่ถูกมองในแง่ลบ ขอแนะนำให้คุณใช้บริการหรือเครื่องมือคุณภาพสูงในการแปลและปรับเนื้อหาภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับให้เข้ากับภาษาอื่นๆ

การให้สิทธิ์อนุญาต

การให้สิทธิ์ใช้งานเนื้อหาดิจิทัลก็สามารถทำได้เช่นกัน ตัวอย่างของเนื้อหาที่ให้สิทธิ์ใช้งานได้ ได้แก่ ภาพถ่าย ภาพประกอบ วิดีโอ และเพลง

เมื่อสร้างรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลของธุรกิจคุณโดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้งาน ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการคัดลอกโดยไม่ได้รับอนุญาต กำหนดวันหมดอายุสำหรับการใช้เนื้อหา และกำหนดข้อกำหนดการใช้งานที่ชัดเจน

การหาลูกค้า

การหาลูกค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาซื้อเนื้อหาดิจิทัลของธุรกิจคุณ เพราะหลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อหาดิจิทัล เช่น ภาพยนตร์หรืออัลบั้มบางอย่างนั้นมีอยู่ ซึ่งต่างจากวัตถุที่ลูกค้ามองเห็นได้จริงในร้านค้า กลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จะรับรู้ถึงเนื้อหาของคุณ คือการใช้การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) อย่างละเอียด

นอกจากนี้ กิจกรรมส่งเสริมการขายบนโซเชียลมีเดีย เช่น ไลฟ์คอมเมิร์ซ ก็ได้กลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากคุณใช้วิธีการลักษณะนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณก็สามารถคาดหวังที่จะบรรลุผลลัพธ์ด้านการส่งเสริมการขายที่สำคัญได้

การวิเคราะห์ลูกค้าก็เป็นกุญแจสำคัญเช่นกัน ระบุกลุ่มเป้าหมายสำหรับเนื้อหาดิจิทัลแต่ละประเภทของคุณ วิเคราะห์ว่าลูกค้าค้นพบเนื้อหาของคุณได้อย่างไร และอะไรที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขาในท้ายที่สุด และใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อปรับปรุงอัตราการได้มาซึ่งลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

วิธีการชำระเงิน

ลองนึกภาพว่าความพยายามในการหาลูกค้าทั้งหมดของคุณได้ผลดี และลูกค้าจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศเริ่มเข้าชมเว็บไซต์ของธุรกิจคุณ แม้ว่าคุณจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้แล้ว แต่หากคุณไม่ได้ใช้วิธีการชำระเงินที่พวกเขาต้องการใช้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะยกเลิกการซื้อ

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินที่จำเป็นสำหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยทั่วไป แนวทางที่ดีคือการเสนอการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ควบคู่ไปกับการผสานการทำงานกับตัวเลือกการชำระเงินแบบไร้เงินสดแบบต่างๆ ที่นิยมใช้กันในประเทศและภูมิภาคเป้าหมายของคุณ โดยสิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนของหน้าการชำระเงินบนเว็บไซต์ของคุณ

การมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นแก่ลูกค้าในต่างประเทศสามารถช่วยปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าและนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำได้ ซึ่งในที่สุดจะช่วยปรับปรุงอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินให้กับเนื้อหาดิจิทัลที่ธุรกิจของคุณนำเสนอได้

Stripe Checkout ช่วยอะไรได้บ้าง

Stripe Checkout เป็นรูปแบบการชำระเงินสำเร็จรูปที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้คุณรับชำระเงินบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ง่ายๆ

Checkout สามารถช่วยคุณทำสิ่งเหล่านี้ได้

  • เพิ่มการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน: การออกแบบที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่และขั้นตอนการชำระเงินแบบคลิกเดียวของ Checkout ทำให้ลูกค้าสามารถป้อนและนำข้อมูลการชำระเงินกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย
  • ลดเวลาในการพัฒนา: ฝัง Checkout ลงในเว็บไซต์ของคุณโดยตรง หรือส่งลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่โฮสต์โดย Stripe ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด
  • ปรับปรุงความปลอดภัย: Checkout จะจัดการข้อมูลบัตรที่ละเอียดอ่อน ทำให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI ได้ง่ายขึ้น
  • ขยายไปทั่วโลก: แปลงค่าบริการเป็นสกุลเงินต่างๆ ได้มากกว่า 100 สกุลเงินด้วย Adaptive Pricing ซึ่งรองรับมากกว่า 30 ภาษา และแสดงวิธีการชำระเงินที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะปรับปรุงการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินให้ดีขึ้นแบบไดนามิก
  • ใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง: ผสานการทำงานของ Checkout กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Stripe เช่น Billing สำหรับการชำระเงินตามรอบบิล, Radar สำหรับการป้องกันการฉ้อโกง และอื่นๆ อีกมากมาย
  • รักษาการควบคุม: ปรับแต่งประสบการณ์การชำระเงินได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการบันทึกวิธีการชำระเงินและการตั้งค่าการดำเนินการหลังการซื้อ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า Checkout ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ขั้นตอนการชำระเงินได้อย่างไร หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

บทความอื่นๆ

  • เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง โปรดลองอีกครั้งหรือติดต่อฝ่ายสนับสนุน

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Checkout

Checkout

ผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe เพื่อให้รับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Checkout

สร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยและผสานรวมกับเว็บไซต์ของคุณหรือโฮสต์ไว้ในระบบของ Stripe