การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในรัฐแมริแลนด์จะทำให้ธุรกิจของคุณมีพื้นฐานทางกฎหมายและกรอบการทำงานที่ชัดเจน กระบวนการที่รัฐนี้จะค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่การตัดสินใจที่คุณทำตั้งแต่เริ่มต้นจะส่งผลต่อทิศทางของธุรกิจในอนาคตโดยตรง ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายถึงวิธีจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในรัฐแมริแลนด์ รวมถึงขั้นตอนและข้อกำหนดสำคัญที่คุณต้องรู้

เนื้อหาหลักในบทความ

• การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรัฐแมริแลนด์หมายความว่าอย่างไร
  
• การจัดตั้งบริษัทคอร์ปอเรชันในรัฐแมริแลนด์มีข้อดีอย่างไรบ้าง
  
• ขั้นตอนในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรัฐแมริแลนด์มีอะไรบ้าง
  
• การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในรัฐแมริแลนด์มีค่าใช้จ่ายเท่าใด
  
• Stripe Atlas ช่วยอะไรได้บ้าง
  

การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรัฐแมริแลนด์หมายความว่าอย่างไร

การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทคือขั้นตอนทางกฎหมายที่ทำให้ธุรกิจของคุณมีตัวตนทางกฎหมายเป็นของตัวเอง ในรัฐแมริแลนด์ ขั้นตอนนี้หมายถึงการยื่นหนังสือสำคัญการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต่อกรมการประเมินและสรรพากร (Department of Assessments and Taxation) เมื่อการยื่นของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว ธุรกิจของคุณจะมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก โดยสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สิน จ้างพนักงาน ทำสัญญา และมีภาระรับผิดชอบด้านคดีทางกฎหมายในชั้นศาลได้

โครงสร้างองค์กรที่มีที่กั้นจริง

เมื่อคุณจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ก็จะเหมือนกับว่าคุณวางเกราะป้องกันทางกฎหมายระหว่างทรัพย์สินส่วนบุคคลและหนี้สินของธุรกิจของคุณ หากธุรกิจของคุณถูกฟ้องร้องหรือมีหนี้สิน บ้าน เงินออม และรถยนต์ของคุณจะไม่ตกอยู่ในความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ กฎหมายของรัฐแมริแลนด์จะถือให้บริษัทเป็น "บุคคล" แยกต่างหากโดยมีภาระผูกพันและการคุ้มครองเป็นของตนเอง

บริษัทคอร์ปอเรชันในแมริแลนด์จำเป็นต้องมีองค์ประกอบดังนี้:

• คณะกรรมการบริษัทที่กำกับดูแลการบริหารจัดการ

• เจ้าหน้าที่องค์กรที่จัดการการดำเนินงานประจำวัน

• ข้อบังคับที่กำหนดกฎภายใน

• ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนเป็นเจ้าของบริษัทผ่านหุ้น

สถานะภาษีที่ยืดหยุ่น

บริษัทคอร์ปอเรชันทุกแห่งในรัฐแมริแลนด์เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทคอร์ปอเรชันประเภท C (C corp) เพื่อวัตถุประสงค์ด้านภาษี โดยจะมีการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล และผู้ถือหุ้นจะต้องเสียภาษีอีกครั้งจากเงินปันผลที่ได้รับ แต่คุณสามารถเลือกสถานะบริษัทคอร์ปอเรชันประเภท S (S corp) กับกรมสรรพากรสหรัฐอเมริกา (Internal Revenue Service หรือ IRS) หากคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ดังนี้: มีผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 100 ราย มีหุ้น 1 ประเภท และผู้ถือหุ้นเป็นเจ้าของบริษัทต้องเป็นพลเมืองและผู้พำนักอาศัยในสหรัฐอเมริกาหรือเป็นทรัสต์หรืออสังหาริมทรัพย์บางแห่ง การเลือกสถานะนี้จะเปลี่ยนให้มีการเก็บภาษีในระดับผู้ถือหุ้น ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงภาษีนิติบุคคลได้

การจัดตั้งบริษัทคอร์ปอเรชันในรัฐแมริแลนด์มีข้อดีอย่างไรบ้าง

ในรัฐแมริแลนด์ การจัดตั้งบริษัทคอร์ปอเรชันให้ประโยชน์มาตรฐานแบบเดียวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัททั้งหมด เช่น การปกป้องความรับผิด การกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ ความพร้อมในการรองรับนักลงทุน และมีประสิทธิภาพบางอย่างเมื่อดำเนินธุรกิจในรัฐบ้านเกิด ด้านล่างนี้คือรายละเอียดของประโยชน์ที่คุณจะได้รับ

ความต่อเนื่องและความเป็นเจ้าของที่สามารถโอนได้

บริษัทคอร์ปอเรชันในรัฐแมริแลนด์จะมีสถานะดำเนินงานถาวรโดยค่าเริ่มต้น ธุรกิจจะดำเนินต่อไปแม้จะมีผู้ก่อตั้งลาออกหรือผู้ถือหุ้นขายหุ้นของตน ความเป็นเจ้าของบริษัทจะผูกกับหุ้น ซึ่งทำให้สามารถระดมทุน โอนอำนาจควบคุม หรือมอบหุ้นรางวัลตอบแทนแก่สมาชิกในทีมได้ง่ายขึ้น

โครงสร้างชัดเจนที่นักลงทุนคุ้นเคย

หากคุณเลือกที่จะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คุณจะสามารถออกหุ้น มอบสิทธิ์ซื้อหุ้น และสร้าง ตารางทุน เพื่อรองรับการเติบโต นักลงทุนจะคุ้นเคยกับโครงสร้างแบบนี้ดี นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทที่ได้รับเงินทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ส่วนมากจึงมักเป็นรูปแบบบริษัทคอร์ปอเรชัน

ความยืดหยุ่นด้านภาษี

บริษัทคอร์ปอเรชันทั้งหมดในรัฐแมริแลนด์เริ่มต้นจากการเป็น C corp ซึ่งหมายความว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีจากกำไรในระดับองค์กร และมีการเก็บภาษีอีกครั้งเมื่อมีการจ่ายปันผล หรือหากเป็นธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ ก็สามารถเลือกสถานะ S corp เพื่อส่งผ่านรายได้ไปยังการยื่นภาษีส่วนบุคคลของเจ้าของได้ รัฐแมริแลนด์ปฏิบัติตามการเลือกสถานะของรัฐบาลกลาง ดังนั้นจึงไม่ต้องมีขั้นตอนใดเพิ่มเติมในระดับรัฐ

การปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างง่ายในรัฐเดียว

หากคุณมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจในรัฐแมริแลนด์เป็นหลัก การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของคุณในรัฐนี้จะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เพราะการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของคุณในรัฐอื่นจะทำให้คุณต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทต่างชาติในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณเอกสารและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม การอยู่ในรัฐเดียวจะช่วยให้ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมหลายชั้นนั้นได้

รากฐานทางกฎหมายที่มั่นคง

รัฐมีระบบกฎหมายบริษัทและศาลที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี พร้อมมีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งในการพิจารณาคดีทางธุรกิจ ความมั่นคงทางนี้สามารถสร้างความแตกต่างได้จริงเมื่อเกิดข้อพิพาทต่างๆ ขึ้น บางภาคส่วนยังได้รับประโยชน์โดยตรงด้วย เช่น ประมาณ 90% ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (REIT) เลือกที่จะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่รัฐแมริแลนด์เนื่องจากมีกรอบกฎหมายที่เอื้ออำนวย

ขั้นตอนในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรัฐแมริแลนด์มีอะไรบ้าง

กระบวนการจัดตั้งบริษัทในรัฐแมริแลนด์อาจดูเหมือนเป็นเพียงรายการสิ่งที่ต้องทำ ทว่าแต่ละขั้นตอนจะเป็นการวางรากฐานสำหรับวิธีการกำกับดูแล เก็บภาษี และรับรู้ธุรกิจของคุณ วิธีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของคุณมีดังนี้

เลือกชื่อที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและสามารถใช้ได้

ชื่อต้องไม่เหมือนนิติบุคคลที่มีอยู่ในรัฐแมริแลนด์และมีคำต่อท้ายชื่อบริษัท (เช่น "Inc.," "Corporation") โดยจะมีการจำกัดไม่ให้ใช้คำศัพท์บางคำ (เช่น "Bank" "Insurance" "Engineering") เว้นแต่ธุรกิจจะเป็นไปตามข้อกำหนดด้านใบอนุญาตหรือกฎหมาย ใช้ระบบการค้นหานิติบุคคลธุรกิจของรัฐแมริแลนด์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการใช้ชื่อก่อนที่จะยื่น

แต่งตั้งตัวแทนที่จดทะเบียนในรัฐแมริแลนด์

คุณต้องมีตัวแทนที่จดทะเบียนที่มีที่อยู่จริงในรัฐแมริแลนด์และพร้อมให้บริการในช่วงเวลาทำการเพื่อรับเอกสารประกาศทางกฎหมายได้ หากคุณพำนักอาศัยอยู่ในรัฐแมริแลนด์ ตัวแทนอาจเป็นตัวคุณเองหรือเป็นบริการตัวแทนที่จดทะเบียนมืออาชีพ (ไม่สามารถเป็นที่อยู่ตู้ไปรษณีย์ได้)

จัดเตรียมและยื่นหนังสือสำคัญการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท

เอกสารนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันการก่อตัวขึ้นตามกฎหมายของบริษัทคุณ คุณสามารถยื่นออนไลน์ผ่านทางหน้าเว็บ Maryland Business Express หรือทางไปรษณีย์ การยื่นออนไลน์จะดำเนินการเร็วกว่าและมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดน้อยกว่า

หนังสือสำคัญจะต้องมีข้อมูลดังนี้

• ชื่อบริษัทและที่อยู่สำนักงานหลักในรัฐแมริแลนด์

• วัตถุประสงค์ของบริษัท ซึ่งสามารถระบุแบบกว้างๆ ได้ (เช่น “เพื่อมีส่วนร่วมในธุรกิจใดๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย”)

• ชื่อและที่อยู่ของตัวแทนที่จดทะเบียน พร้อมหนังสือยินยอมที่ได้รับการลงนาม

• จำนวนหุ้นจดทะเบียนและมูลค่าที่ตราไว้

• ชื่อผู้จัดตั้ง

• ชื่อกรรมการบริษัทชุดแรก (ถ้ามี)

เลือกสถานะ S corp (หากเกี่ยวข้อง)

หากคุณมีแผนที่จะเสียภาษีในฐานะ S corp ให้ยื่นแบบฟอร์ม 2553 ของ IRS ภายใน 2 เดือน 15 วันนับจากวันเริ่มต้นปีภาษี รัฐแมริแลนด์ยอมรับการเลือกสถานะ S corp ตามที่ยื่นกับรัฐบาลกลาง ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการยื่นแบบฟอร์มในระดับรัฐ

จัดการประชุมคณะกรรมการครั้งแรกและปรับใช้ข้อบังคับ

หลังจากก่อตั้งบริษัท กรรมการบริษัทชุดแรกของคุณ (หรือกรรมการบริษัทเดี่ยว) ควรดำเนินการดังนี้:

• อนุมัติ ข้อบังคับ

• แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ (เช่น ประธาน เลขานุการ เหรัญญิก)

• อนุมัติการออกหุ้น

• บันทึกทุกอย่างในรายงานการประชุมอย่างเป็นทางการ

ไม่จำเป็นต้องยื่นข้อบังคับต่อรัฐก็ได้ แต่คุณต้องเก็บรักษาข้อบังคับไว้ภายในองค์กร

ออกหุ้นให้แก่ผู้ก่อตั้งและบันทึกความเป็นเจ้าของ

คณะกรรมการควรออกหุ้นอย่างเป็นทางการให้กับผู้ก่อตั้งหรือนักลงทุนตามที่ได้รับการอนุมัติในข้อบังคับ เก็บบันทึกบัญชีแยกประเภทหุ้นเพื่อติดตามสถานะความเป็นเจ้าของ และถึงแม้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องยื่นกับรัฐแมริแลนด์ แต่ก็ควรเก็บบันทึกและปรับให้เป็นปัจจุบันและถูกต้องอยู่เสมอ

ลงทะเบียนภาษีของรัฐแมริแลนด์ (ตามความจำเป็น)

หากคุณมีแผนที่จะจ้างพนักงาน หรือขายสินค้าหรือบริการที่ต้องเสียภาษี คุณจะต้องลงทะเบียนภาษีของรัฐบางประเภทผ่านหน้า Maryland Business Express

คุณอาจต้องการพิจารณาเกี่ยวกับภาษีเหล่านี้:

• ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: เพื่อหักภาษีเงินได้จากเช็คเงินเดือนพนักงาน

• ประกันการว่างงาน: สำหรับเงินสมทบที่ใช้เป็นกองทุนสวัสดิการว่างงานของรัฐ

• ใบอนุญาตภาษีการขายและภาษีโภคภัณฑ์: เพื่อเก็บภาษีขายจากลูกค้าสำหรับสินค้าหรือบริการที่ต้องเสียภาษี

ยื่นรายงานประจำปีและแบบแสดงรายการภาษีทรัพย์สินส่วนบุคคลของคุณ

ทุกปีคุณต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีทรัพย์สินส่วนบุคคล (รายงานประจำปีฉบับของรัฐแมริแลนด์) และชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณคงสถานะที่ดีไว้ได้

เปิดบัญชีธนาคารของธุรกิจ

เมื่อได้รับหมายเลขประจำตัวนายจ้าง (EIN) และเอกสารการจัดตั้งบริษัทที่ได้รับอนุมัติ คุณจะสามารถเปิดบัญชีธนาคารของธุรกิจและแยกการเงินของธุรกิจต่างหากได้ พอถึงจุดนี้ ก็เท่ากับว่าคุณพร้อมทำธุรกิจแล้ว

การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในรัฐแมริแลนด์มีค่าใช้จ่ายเท่าใด

ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของรัฐแมริแลนด์ค่อนข้างต่ำและคาดเดาได้มากกว่าของรัฐอื่นๆ เมื่อเทียบกับกระบวนการในรัฐต่างๆ เช่น หากจดทะเบียนในเดลาแวร์ คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั้งของรัฐเดลาแวร์และแมริแลนด์เพื่อทำธุรกิจในรัฐแมริแลนด์

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ในรัฐแมริแลนด์มีดังนี้:

• *ค่าธรรมเนียมการยื่นหนังสือสำคัญการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท: * 100 ดอลลาร์

• ค่าธรรมเนียมจัดตั้งองค์กรและค่าทุนจดทะเบียน: 20 ดอลลาร์ (คำนวณจากจำนวนหุ้นที่อนุญาตให้ออกสูงสุดถึง 100,000 ดอลลาร์)

• การประมวลผลแบบเร่งด่วน: 50 ดอลลาร์สำหรับการอนุมัติภายใน 7-10 วันทำการ, 325 ดอลลาร์สำหรับบริการเร่งด่วนในวันเดียวกันทางออนไลน์ หรือ 425 ดอลลาร์สำหรับการยื่นบริการในวันเดียวกันทางไปรษณีย์

• บริการตัวแทนที่จดทะเบียนเชิงพาณิชย์: 100–300 ดอลลาร์

หลังจากที่คุณชำระค่าใช้จ่ายเหล่านี้แล้ว ภาระผูกพันหลักประจำปีของคุณจะเป็นรายงานประจำปีโดยมีค่าธรรมเนียม 300 ดอลลาร์ ซึ่งต้องยื่นภายในทุกวันที่15 เมษายน ของปี

Stripe Atlas ช่วยอะไรได้บ้าง

Stripe Atlas สร้างรากฐานด้านกฎหมายของบริษัทเพื่อให้คุณสามารถระดมทุน เปิดบัญชีธนาคาร และรับชำระเงินได้ภายใน 2 วันทำการจากทุกที่ทั่วโลก

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทกว่า 75,000 แห่งที่จดทะเบียนจัดตั้งโดยใช้ Atlas ซึ่งรวมถึงสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Y Combinator, a16z และ General Catalyst

การสมัครใช้งาน Atlas

การสมัครเพื่อจัดตั้งบริษัทกับ Atlas ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที คุณจะต้องเลือกโครงสร้างบริษัทของคุณก่อน จากนั้นก็ยืนยันว่าชื่อบริษัทของคุณใช้งานได้หรือไม่ และเพิ่มผู้ร่วมก่อตั้งได้สูงสุด 4 คน นอกจากนี้ คุณยังตัดสินใจได้ด้วยว่าจะแบ่งหุ้นอย่างไร รวมถึงสำรองหุ้นบางส่วนไว้สำหรับนักลงทุนและพนักงานในอนาคต แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ และลงนามเอกสารทั้งหมดแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากนั้นผู้ร่วมก่อตั้งจะได้รับอีเมลเชิญให้ลงนามในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเช่นกัน

การรับชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN ของคุณ

หลังจากจัดตั้งบริษัทแล้ว Atlas จะยื่นของ EIN ให้คุณ โดยผู้ก่อตั้งที่มีหมายเลขประกันสังคม ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์มือถือของสหรัฐอเมริกาจะมีสิทธิ์ได้รับการดำเนินการแบบเร่งด่วนจาก IRS ส่วนผู้ก่อตั้งที่ไม่มีข้อมูลดังกล่าวก็จะได้รับการดำเนินการแบบมาตรฐาน ซึ่งอาจใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ Atlas ยังรองรับการชำระเงินและการธนาคารก่อนมี EIN ด้วย คุณจึงเริ่มรับชำระเงินและทำธุรกรรมต่างๆ ได้ก่อนที่จะได้รับ EIN

การซื้อหุ้นของผู้ก่อตั้งแบบไร้เงินสด

ผู้ก่อตั้งสามารถซื้อหุ้นเริ่มต้นโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (เช่น ลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร) แทนเงินสดได้ โดยหลักฐานการซื้อจะได้รับการจัดเก็บไว้ในแดชบอร์ด Atlas ทรัพย์สินทางปัญญาของคุณจะต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐจึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ หากคุณมีทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่าสูงกว่านั้น โปรดปรึกษาทนายความก่อนที่จะดำเนินการต่อ

การยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) อัตโนมัติ

ผู้ก่อตั้งสามารถยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดย Atlas จะยื่นเอกสารให้คุณ (ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาหรือนอกสหรัฐอเมริกา) โดยใช้ USPS Certified Mail และติดตามข้อมูล คุณจะได้รับเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) ที่ลงนามและหลักฐานการยื่นเอกสารโดยตรงในแดชบอร์ด Stripe

เอกสารทางกฎหมายของบริษัทระดับโลก

Atlas ให้บริการเอกสารทางกฎหมายทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเริ่มดำเนินธุรกิจบริษัทของคุณ โดยเอกสารสำหรับบริษัทคอร์ปอเรชันประเภท C ของ Atlas ได้รับการสร้างขึ้นโดยร่วมงานกับ Cooley ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักงานกฎหมายการร่วมลงทุนชั้นนำของโลก โดยเอกสารเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณระดมทุนได้ทันทีและช่วยให้มั่นใจว่าบริษัทของคุณจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย โดยครอบคลุมถึงแง่มุมต่างๆ เช่น โครงสร้างกรรมสิทธิ์ การแจกจ่ายหุ้น และการ ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี

Stripe Payments ฟรีหนึ่งปี พร้อมเครดิตและส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Atlas ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ระดับแนวหน้าเพื่อมอบส่วนลดและเครดิตสุดพิเศษกับผู้ก่อตั้ง ซึ่งได้แก่ส่วนลดสำหรับเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงานด้านวิศวกรรม ภาษี การเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการปฏิบัติงานจากผู้นำอุตสาหกรรมอย่าง AWS, Carta และ Perplexity เรายังมอบตัวแทนที่จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ให้คุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในปีแรกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ในฐานะผู้ใช้ Atlas คุณยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก Stripe เช่น การประมวลผลการชำระเงินแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงสุด 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Atlas ช่วยคุณจัดตั้งธุรกิจใหม่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และเริ่มใช้งานได้เลยวันนี้