วิธีเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ความเป็นมาและภาพรวมของการรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย
  3. วิธีเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย
    1. ศึกษาช่องทางชำระเงิน
    2. เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม
    3. สมัครใช้บริการรับชำระเงิน
    4. ตั้งค่าระบบและทดลองใช้งาน
    5. เปิดใช้งานและติดตามผล
  4. ช่องทางรับชำระผ่านบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง
    1. เครื่องรูดบัตรเครดิต (EDC)
    2. เครื่อง POS (Point of Sale)
    3. ผ่านโทรศัพท์
    4. ร้านค้าออนไลน์
    5. QR Code กระเป๋าเงินดิจิตัล และ ลิงค์ชำระเงิน
    6. การหักเงินอัตโนมัติ
    7. แตะแล้วจ่าย
    8. ผ่านซอฟต์แวร์ SoftPOS
    9. Payment Gateway
  5. มาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระผ่านบัตรเครดิต
    1. ระบบ 3D Secure
    2. มาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS
    3. การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
    4. การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication)
    5. การตรวจสอบธุรกรรมที่มีความเสี่ยง
    6. การป้องกันการดึงเงินคืน (Chargeback) และการฉ้อโกง
  6. วิธีตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม
  7. กฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับชำระผ่านบัตรเครดิต
    1. พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
    2. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
    3. พระราชบัญญัติว่าด้วยการควบคุมการให้บริการทางการเงิน พ.ศ. 2565
    4. ข้อกำหนดค่าธรรมเนียมจาก ธปท.
    5. กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
    6. ข้อกำหนดการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
    7. การป้องกันการฟอกเงินและทุจริต
  8. การเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย

ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือหลากหลายประเทศทั่วโลก การรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตกลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างสูง การปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยการเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิต ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการชำระเงิน แต่ยังช่วยให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการมีโอกาสเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย วิธีการเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิต ช่องทางรับชำระและประโยชน์ของบัตรเครดิต มาตรการความปลอดภัย ตลอดจนกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในการใช้ระบบรับชำระผ่านบัตรเครดิต

เนื้อหาหลักในบทความ

  • ความเป็นมาและภาพรวมของการรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย
  • วิธีเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย
  • ช่องทางรับชำระผ่านบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง
  • มาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระผ่านบัตรเครดิต
  • วิธีตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม
  • กฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับชำระผ่านบัตรเครดิต
  • การเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย

ความเป็นมาและภาพรวมของการรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย

การรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยเริ่มต้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 เมื่อเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวและเปิดรับการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น บริษัทบัตรเครดิตระดับโลกอย่าง Visa และ MasterCard เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดไทยในช่วงเวลานั้น โดยนำเสนอความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการชำระเงินสำหรับธุรกิจและผู้บริโภค

ในช่วงแรกนั้นการรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยส่วนใหญ่จะทำผ่านเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ติดตั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าขนาดใหญ่ การใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริโภคที่มีสถานะการเงินดีและมีรายได้มั่นคง จึงทำให้ธุรกิจเริ่มเห็นประโยชน์ในการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับธุรกิจ

ต่อมาในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 เมื่อเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ระบบการรับชำระเงินก็ได้รับการพัฒนาไปสู่การชำระเงินออนไลน์ (e-payment) ซึ่งรวมถึงการใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์อย่างแพร่หลาย ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา เพิ่มความสะดวกสบายและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารและผู้ให้บริการบัตรเครดิตยังมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น โปรแกรมสะสมคะแนน ส่วนลดพิเศษ และโปรโมชันต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว

ในยุคปัจจุบัน การรับชำระผ่านบัตรเครดิตเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและเป็นรากฐานต่อยอดให้ระบบทางการเงินมีการพัฒนาไปไกลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินผ่านเครื่อง POS ที่ทันสมัย ผ่านแอปพลิเคชัน (in-app payment) ต่างๆ หรือการใช้งานผ่านผู้ให้บริการ Payment Gateway โดยการผสานการทำงานเข้ากับบัตรเครดิตเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการทำธุรกรรม ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมสร้างความยั่งยืนให้ระบบการเงินไทยต่อไป

วิธีเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย

การเปิดรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า ขยายฐานตลาด และสามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างมาก ในประเทศไทยการรับชำระผ่านบัตรเครดิตสามารถทำได้ในหลากหลายช่องทาง โดยมีขั้นตอนดังนี้

ศึกษาช่องทางชำระเงิน

ควรเลือกช่องทางที่เหมาะสมและตอบโจทย์ธุรกิจของคุณมากที่สุด เช่น การใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ชำระผ่านเว็บไซต์ด้วย Payment Gateway, การรับชำระผ่าน QR Code หรือ ลิงค์ชำระเงิน เป็นต้น

เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ให้บริการรับชำระเงิน โดยทั่วไปจะคิดค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดชำระแต่ละครั้ง ผู้ให้บริการบางรายจะคิดค่าธรรมเนียมในการถอนหรือการติดตั้งอุปกรณ์ชำระเงินด้วย ดังนั้นควรมีการศึกษาและเปรียบเทียบเพื่อเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะกับความต้องการของธุรกิจ

สมัครใช้บริการรับชำระเงิน

เมื่อเลือกช่องทางชำระเงินและเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมแล้ว สามารถติดต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย หรือผู้ให้บริการรับชำระเงิน เช่น Stripe เพื่อขอเปิดใช้บริการรับชำระผ่านบัตรเครดิต และควรเตรียมเอกสารทางการเงินประกอบการสมัคร เช่น สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการ/เจ้าของธุรกิจ รายละเอียดบัญชีธนาคาร ฯลฯ

ตั้งค่าระบบและทดลองใช้งาน

หากเป็นเครื่องรูดบัตร (EDC) ธนาคารจะติดตั้งและสอนการใช้งาน หากเป็นระบบออนไลน์ จะต้องติดตั้ง API หรือปลั๊กอินบนเว็บไซต์ หรือหากเป็นการรับชำระผ่านระบบออนไลน์ จะต้องมีการตั้งค่าและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของธุรกิจ นอกจากนี้ควรมีการทดสอบระบบเพื่อให้แน่ใจว่าการชำระเงินสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย

เปิดใช้งานและติดตามผล

เมื่อระบบผ่านการทดสอบแล้ว ก็สามารถเปิดใช้งานระบบรับชำระผ่านบัตรเครดิต ควรมีการติดตามและวิเคราะห์ผลการทำธุรกรรมเพื่อให้ขั้นตอนการรับชำระผ่านบัตรเครดิตเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้ในการตลาดและการจัดการ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

ช่องทางรับชำระผ่านบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง

ช่องทางในการรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีข้อดีและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ความปลอดภัย และความสะดวกในการใช้สำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการเอง เพื่อเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมและตอบโจทย์รูปแบบธุรกิจมากที่สุด

เครื่องรูดบัตรเครดิต (EDC)

เครื่อง EDC คืออุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเป็นหลัก ใช้ดึงข้อมูลจากบัตรและติดต่อกับระบบธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น พกพาสะดวก ติดตั้งง่าย

เครื่อง POS (Point of Sale)

อุปกรณ์รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตที่รองรับการชำระเงินแบบเสียบบัตร รูดบัตร และแตะบัตรแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) โดยใช้ในการจัดการการขาย ทั้งการคิดเงิน การบันทึกข้อมูลการขาย และอาจรวมถึงการบริหารจัดการสินค้าในสต็อกระบบรายงาน และการวิเคราะห์ธุรกิจ

Stripe Terminal มอบฟังก์ชัน POS ที่ครบวงจร สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งการใช้งานให้ตอบโจทย์กับความต้องการของแต่ละธุรกิจ

ผ่านโทรศัพท์

การรับชำระเงินผ่านโทรศัพท์ ใช้เมื่อผู้ถือบัตรไม่สามารถหรือไม่สะดวกชำระเงินด้วยตนเอง เช่น การสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ ผู้ประกอบการหรือร้านค้าจะต้องเป็นฝ่ายป้อนข้อมูลบัตรเครดิตลงระบบที่ได้รับอนุญาตจากธนาคาร ด้วยการกรอกข้อมูลหมายเลขบัตรลงในเทอร์มินัล POS หรือผ่านแพลตฟอร์มการชําระเงินออนไลน์แทนลูกค้า

ร้านค้าออนไลน์

ร้านค้าออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบชำระเงินออนไลน์ ผู้ซื้อสามารถกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อทำธุรกรรมได้โดยตรง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงแอปต่างๆ ที่รองรับการชำระเงินในตัว (In-App Purchase) เช่น 7-Eleven, Grab หรือ Shopee ที่สามารถใช้บัตรเครดิตผูกกับบัญชีผู้ใช้และหักเงินโดยตรง

QR Code กระเป๋าเงินดิจิตัล และ ลิงค์ชำระเงิน

ลูกค้าสามารถสแกน QR Code เพื่อชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารหรือกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับบัตรเครดิตได้ นอกจากนี้ร้านค้ายังสามารถส่งลิงก์ชำระเงินให้ลูกค้าโอนเงินผ่านบัตรเครดิตได้โดยง่าย ช่องทางชำระเงินเหล่านี้ช่วยให้ร้านค้าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่อง POS ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนสำหรับการค้าขายออนไลน์

การหักเงินอัตโนมัติ

การหักเงินอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิตเหมาะสำหรับบริการสมัครสมาชิกรายเดือนหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเป็นประจำ ระบบจะหักเงินจากบัตรเครดิตของลูกค้าโดยอัตโนมัติเมื่อตรงตามรอบบิล เช่น ค่าบริการโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต หรือค่าสมาชิกแพลตฟอร์มสตรีมมิง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยไม่ต้องชำระเงินเอง

แตะแล้วจ่าย

การชำระเงินแบบไร้สัมผัส หรือการแตะแล้วจ่าย ช่วยให้ลูกค้าสามารถแตะบัตรเครดิตที่เครื่อง POS หรืออุปกรณ์รับชำระที่รองรับเทคโนโลยี NFC โดยไม่ต้องเสียบหรือรูดบัตร ใช้เวลาทำรายการเพียงไม่กี่วินาที เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการให้บริการที่รวดเร็วและลดการสัมผัสเพื่อความปลอดภัย

ผ่านซอฟต์แวร์ SoftPOS

ซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนอุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ตที่รองรับเทคโนโลยี NFC ให้กลายเป็นเครื่องรับชำระเงินแบบไร้สัมผัส โดยไม่ต้องใช้เครื่อง POS แบบดั้งเดิม เหมาะสำหรับร้านค้าขนาดเล็ก หรือผู้ให้บริการที่ต้องการความสะดวกในการรับบัตรเครดิตได้ทุกที่

Payment Gateway

ระบบตัวกลางที่เชื่อมโยงร้านค้าออนไลน์กับธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตเพื่อประมวลผลการชำระเงินอย่างปลอดภัย รองรับทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และช่องทางชำระเงินดิจิทัลแบบอื่นๆ มักมีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อความปลอดภัยสูง นิยมใช้ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและบริการสมัครสมาชิก

Stripe Payments โซลูชันชำระเงินที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาด มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดด้วย (PCI DSS) Level 1 สำหรับการจัดการข้อมูลบัตรเครดิต

การรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมที่ผู้ประกอบการควรพิจารณา ซึ่งค่าบริการนั้นจะแตกต่างกันไปตามช่องทางชำระเงิน ผู้ให้บริการ และแพ็กเกจที่เลือกใช้งาน เช่น ค่าติดตั้งเครื่องมือ ค่าธรรมเนียมรายเดือน ค่าใช้จ่ายต่อรายการ เป็นต้น ควรติดต่อธนาคารหรือผู้ให้บริการโดยตรงเพื่อสอบถามถึงค่าธรรมเนียม ส่วนลด หรือสิทธิประโยชน์จากช่องทางชำระเงินจากผู้ให้บริการที่คุณสนใจ

มาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระผ่านบัตรเครดิต

การรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดโดยหน่วยงานทางการเงินอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยและองค์กรระหว่างประเทศ โดยธุรกิจจำเป็นต้องปฏิบัติตาม มาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง และรักษามาตรฐานความปลอดภัยให้กับทั้งระบบของธุรกิจและขั้นตอนในการทำธุรกรรมของลูกค้า

ยกตัวอย่างมาตรฐานความปลอดภัย เช่น:

ระบบ 3D Secure

3D Secure (Verified by Visa/ MasterCard SecureCode) เป็นระบบความปลอดภัยที่ใช้การยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในการทำธุรกรรมออนไลน์ ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมข้อมูลบัตรและการฉ้อโกงทางการเงิน เช่น การยืนยันตัวตนผ่านรหัส OTP (One Time Password) ที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือ

มาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS

PCI DSS (Payment Card Industry Data Security Standard) เป็นมาตรฐานสากลนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลบัตรเครดิตและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การจำกัดการเข้าถึงข้อมูล และการตรวจสอบระบบเพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอก มีการประเมินความเสี่ยงและดำเนินการควบคุมความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของการเก็บ ประมวลผล และส่งข้อมูลบัตรเครดิต

การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)

การเข้ารหัสหรือกระบวนการแปลงข้อมูลจากรูปแบบที่สามารถอ่านและเข้าใจได้ (plain text) ไปเป็นรูปแบบที่ไม่สามารถอ่านหรือทำความเข้าใจได้ (cipher text) ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างผู้ส่งและผู้รับมีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงจากการถูกฉ้อโกงหรือโจรกรรม

การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication)

การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัยเป็นกลไกที่เพิ่มความปลอดภัยในเทคโนโลยีการชำระเงินเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งในการตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะมีการอนุญาตให้เข้าถึงการดำเนินธุรกรรม เช่น การใช้รหัสผ่านควบคู่กับการยืนยันผ่านโทรศัพท์มือถือหรือข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า

การตรวจสอบธุรกรรมที่มีความเสี่ยง

กระบวนการประเมิน วิเคราะห์ และติดตามธุรกรรมที่น่าสงสัย มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการทุจริตหรือการโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี และใช้ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการทำรายการผิดปกติ เช่น ธุรกรรมที่มีจำนวนเงินสูง ความถี่ในการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือข้อมูลผู้ใช้ที่ไม่ตรงกับประวัติการใช้งานปกติ อาจมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่หรือเพิ่มกระบวนการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมก่อนอนุมัติธุรกรรม

การป้องกันการดึงเงินคืน (Chargeback) และการฉ้อโกง

เพื่อลดความเสี่ยงจาก Chargeback ร้านค้าควรจัดเก็บหลักฐานการทำธุรกรรม เช่น ใบเสร็จและลายเซ็นลูกค้า หรือบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้การใช้ระบบอย่าง KYC (Know Your Customer) หรือการตรวจสอบตัวตนของลูกค้าก่อนให้บริการ เช่น การยืนยันตัวตนผ่านบัตรประชาชนหรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

การยืนยันผ่านรหัส OTP (One-Time Password) หรือระบบชำระเงินที่มีการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (Two-Factor Authentication) ก็เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยป้องกันการฉ้อโกงและลดความเสี่ยงในการใช้ข้อมูลปลอมทางออนไลน์ได้

วิธีตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม

สำหรับธุรกรรมที่ทำการชำระ ณ จุดขาย ร้านค้าสามารถตรวจสอบชื่อผู้ถือบัตร ลายเซ็น วันหมดอายุ และเลข CVV ก่อนดำเนินการชำระเงิน รวมทั้งควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของบัตรโดยสามารถทำดังนี้

  • ตรวจสอบตัวเลขนูนบนบัตรและแถบแม่เหล็กว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่
  • เปรียบเทียบหมายเลขบนบัตรกับใบเสร็จ หากไม่ตรงกัน อาจเป็นบัตรปลอม
  • ใช้เครื่องอ่านบัตรเครดิตที่ได้มาตรฐานจากธนาคาร เพื่อป้องกันข้อมูลถูกปลอมแปลง
  • ตรวจสอบลายน้ำหรือโฮโลแกรมบนบัตร ซึ่งควรเปลี่ยนสีเมื่อมองจากมุมต่างๆ
  • ตรวจสอบแถบแม่เหล็กและสังเกตลายเซ็นที่ด้านหลังของบัตร
  • หากมีข้อสงสัย ให้ขอเอกสารยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตร

กฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับชำระผ่านบัตรเครดิต

การรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและข้อกำหนดที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลัก เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจว่ามีการดำเนินงานที่เป็นธรรมและปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ประกอบการและผู้ถือบัตร ซึ่งกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับการรับชำระผ่านบัตรเครดิต มีดังนี้

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522

กฎหมายนี้มีไว้เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภคจากผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการ ซึ่งรวมถึงบริการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ที่ต้องมีความชัดเจนในข้อมูลและเงื่อนไขการใช้งาน นอกจากนี้บทบัญญัติยังกำหนดมาตรการป้องกันผลประโยชน์ของผู้บริโภคจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรมและการปฏิบัติที่เอาเปรียบของผู้ให้บริการ

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544

พระราชบัญญัติที่กำหนดหลักเกณฑ์ให้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความถูกต้องตามกฎหมายเทียบเท่ากับเอกสารกระดาษ ช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลอย่างเช่นการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ให้มีมาตรการรับรองความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบธุรกรรม

พระราชบัญญัติว่าด้วยการควบคุมการให้บริการทางการเงิน พ.ศ. 2565

พระราชบัญญัติที่มีจุดประสงค์เพื่อควบคุมและกำกับดูแลธุรกิจที่ให้บริการทางการเงินทุกรูปแบบ รวมถึงการบริการที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต นโยบายและข้อบังคับในกฎหมายนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการในการเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

ข้อกำหนดค่าธรรมเนียมจาก ธปท.

ข้อกำหนดนี้ถูกออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อกำกับและควบคุมการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้บริการบัตรเครดิตอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส ผู้ให้บริการต้องปฏิบัติตามโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่กำหนดและไม่สามารถคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากผู้บริโภคเมื่อใช้บัตรเครดิต ยกเว้นในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ในการเก็บ รักษา และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคในระบบดิจิทัล ซึ่งรวมถึงข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต ผู้ประกอบการจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลและต้องจัดการข้อมูลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

ข้อกำหนดการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน

การรับชำระเงินจากบัตรเครดิตต่างประเทศจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของเครือข่ายบัตร (Visa, MasterCard ฯลฯ) และข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น การดำเนินธุรกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ โดยกำหนดให้มีการตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและปฏิบัติตามข้อบังคับของแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

การป้องกันการฟอกเงินและทุจริต

ธุรกิจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และมีกระบวนการยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรที่เข้มงวด ต้องมีการตรวจสอบและป้องกันการฟอกเงินและกิจกรรมที่ทุจริตในกลุ่มธุรกิจการเงิน โดยผู้ให้บริการบัตรเครดิตต้องรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย ช่วยให้สามารถระบุและหยุดยั้งกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้ทันท่วงทีอย่างมีประสิทธิภาพ

การเปิดรับชำระผ่านบัตรเครดิตในประเทศไทย

การเปิดรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขาย ขยายตลาดและฐานลูกค้า และเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าและบริการ อย่างไรก็ดี การอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าก็มีอีกด้านที่ธุรกิจต้องคำนึงถึง คือการป้องกันการดึงเงินคืน การฉ้อโกง และค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการรับชำระผ่านบัตรเครดิต

อีกปัจจัยหลักในการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่ทุกๆ ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ คือการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การออกใบกำกับภาษีและการปฏิบัติตามกฎของธนาคารแห่งประเทศไทย การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับชำระผ่านบัตรเครดิตอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย พร้อมสร้างรายได้อย่างมหาศาลด้วยวิธีชําระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe