การสมัครใช้บัตรเครดิตองค์กร: คู่มือ

Issuing
Issuing

Stripe Issuing เป็นผู้มอบระบบการให้บริการธนาคารสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพรูปแบบใหม่ แพลตฟอร์มที่ล้ำนวัตกรรม และองค์กรที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีบัตรกว่า 200 ล้านใบที่สร้างขึ้นในระบบ

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. บัตรเครดิตสำหรับบริษัทคืออะไร
  3. ใครบ้างที่มีสิทธิ์ใช้บัตรเครดิตสำหรับบริษัท
  4. การเลือกบัตรเครดิตสำหรับบริษัทให้เหมาะสม
  5. การสมัครใช้บัตรเครดิตสำหรับบริษัท
  6. การจัดการบัตรเครดิตสำหรับบริษัท
  7. การเอาชนะอุปสรรคในการรับบัตรเครดิตสำหรับบริษัท

บัตรเครดิตองค์กรของ Issuing ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ควบคุมค่าใช้จ่ายและสนับสนุนทีมได้ โดยถือเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ช่วยจัดการค่าใช้จ่ายที่ออกแบบเอง และมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการเงินของธุรกิจได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น

การสร้างบัตรเครดิตสำหรับบริษัทมักจะต้องผ่านการกําหนดสิทธิ์การใช้งาน การเลือกโปรแกรมบัตร และการสมัครใช้งาน เมื่อเลือกโปรแกรมบัตรเครดิตสําหรับธุรกิจแล้ว คุณจะต้องพิจารณาว่าฟีเจอร์ สิทธิประโยชน์ และข้อกําหนดด้านเครดิตใดที่เหมาะกับเป้าหมายด้านการเงิน สื่อถึงแบรนด์และหลักการของคุณ รวมถึงน่าดึงดูดสำหรับพนักงานมากที่สุด ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรทราบหากกําลังพิจารณาสร้างบัตรเครดิตสําหรับธุรกิจ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • บัตรเครดิตสำหรับบริษัทคืออะไร
  • ใครบ้างที่มีสิทธิ์ใช้บัตรเครดิตสำหรับบริษัท
  • การเลือกบัตรเครดิตสำหรับบริษัทให้เหมาะสม
  • การสมัครใช้บัตรเครดิตสำหรับบริษัท
  • การจัดการบัตรเครดิตสำหรับบริษัท
  • การเอาชนะอุปสรรคในการรับบัตรเครดิตสำหรับบริษัท

บัตรเครดิตสำหรับบริษัทคืออะไร

บัตรเครดิตสำหรับบริษัทคือบัตรชําระเงินเฉพาะทางที่ออกให้แก่พนักงานเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ เช่น การเดินทาง ร้านอาหาร อุปกรณ์สํานักงาน และการรับรองลูกค้า บัตรเหล่านี้ผูกกับบัญชีบริษัท ซึ่งต่างจากบัตรเครดิตบุคคล โดยปกติแล้วความรับผิดชอบในการชําระเงินจะอยู่กับบริษัท แต่การดําเนินการนี้อาจแตกต่างกันไปตามข้อตกลงแต่ละฉบับ โดยทั่วไปแล้วบัตรขององค์กรจะออกให้กับธุรกิจที่มีรายรับต่อปีอย่างน้อย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ธุรกิจขนาดเล็กสามารถสมัครใช้บัตรเครดิตสําหรับธุรกิจขนาดเล็กได้

ใครบ้างที่มีสิทธิ์ใช้บัตรเครดิตสำหรับบริษัท

ธุรกิจที่ต้องการเปิดตัวโปรแกรมบัตรเครดิตของบริษัทจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนดหลายข้อ

  • การจดทะเบียนธุรกิจ: ธุรกิจจะต้องจดทะเบียนและปฏิบัติงานอย่างถูกกฎหมาย บริษัทจะต้องส่งเอกสารทางกฎหมายที่แสดงให้เห็นว่าถึงสถานะการดำเนินงาน เช่น หนังสือสำคัญการจดทะเบียน ใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือใบรับรองสถานะที่ดี

  • ความสามารถในการชำระคืนหนี้: ธุรกิจจะต้องมีประวัติเครดิตที่ดีและคะแนนเครดิตสูง คะแนนนี้มีผลต่อการชําระคืนเงินกู้ วงเงินสินเชื่อ และสถานะทางการเงินโดยรวม

  • เอกสารทางการเงิน: ธุรกิจต้องแสดงเอกสารที่บ่งบอกถึงความมั่นคงทางการเงิน โดยอาจเป็นงบดุล รายการเดินบัญชีรายรับ ใบแจ้งยอดกระแสเงินสด และแบบแสดงรายการภาษี

  • หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี (TIN): ธุรกิจต้องมี TIN ในสหรัฐอเมริกา หมายเลขนี้จะเรียกว่า EIN (หมายเลขประจําตัวนายจ้าง)

  • การค้ำประกันบุคคล: เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอาจต้องยื่นหนังสือค้ำประกันบุคคลว่าตนจะรับผิดชอบด้านการเงินหากธุรกิจไม่ชำระหนี้

  • บัญชีธนาคารของธุรกิจ: บัตรเครดิตสำหรับองค์กรบางประเภทกําหนดให้ธุรกิจต้องมีบัญชีธนาคารของธุรกิจด้วย

  • รายรับของบริษัท: โดยทั่วไปแล้ว บัตรเครดิตองค์กรจะต้องมีรายได้ขั้นต่ำรายปีที่แน่นอน

  • นโยบายการใช้งาน: บัตรสำหรับองค์กรกําหนดให้ธุรกิจมีนโยบายในการแจกแจงการใช้งานที่เหมาะสม ได้แก่ วงเงินใช้จ่าย ธุรกรรมที่อนุญาต และอื่นๆ อีกมากมาย

การเลือกบัตรเครดิตสำหรับบริษัทให้เหมาะสม

ทุกธุรกิจทุกแห่งมีข้อควรพิจารณาของตัวเองในการเลือกและสมัครใช้บัตรเครดิต การเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะสมจะพิจารณาฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์ของบัตรอย่างรอบคอบ โดยเทียบกับเป้าหมาย ความต้องการ และพฤติกรรมทางการเงินของธุรกิจคุณ การเลือกบัตรที่เหมาะสมต้องดูที่ลักษณะของธุรกิจและฟีเจอร์ของบัตรเครดิต

คุณควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้เมื่อเลือกบัตร

  • ขนาดธุรกิจ: ธุรกิจที่มีรายได้ไม่ถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีควรมองหาบัตรที่ออกแบบมาสําหรับธุรกิจขนาดเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งมักมาพร้อมกับการสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ที่เหมาะกับขอบเขตการดําเนินงาน

  • อุตสาหกรรม: บัตรบางประเภทมีไว้เพื่ออุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจงและมีสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้จ่ายทั่วไปของภาคธุรกิจเหล่านั้น

  • ระยะการเติบโต: ธุรกิจสตาร์ทอัพอาจต้องใช้วงเงินเครดิตที่ยืดหยุ่นและกระบวนการอนุมัติวงเงินที่ง่าย ในขณะที่ธุรกิจที่มั่นคงแล้วอาจต้องการบัตรที่มีคะแนนสะสมมากขึ้นและวงเงินเครดิตที่สูงขึ้น

  • หมวดหมู่การใช้จ่าย: ประเมินประเภทค่าใช้จ่ายที่ธุรกิจของคุณจะใช้ผ่านบัตรเครดิตเหล่านี้บ่อยที่สุด

  • ความถี่ในการใช้งาน: ธุรกิจที่มีการใช้เครดิตต่ำอาจเลือกใช้บัตรที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมรายปี ในขณะที่ธุรกิจที่ใช้งานบ่อยจะได้รับสิทธิประโยชน์การสะสมคะแนนจากการใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่กำหนด

  • สถานะทางการเงิน: แม้ว่าบริษัทขนาดเล็กอาจจะต้องยื่นเอกสารค้ำประกันบุคคลหรือเลือกบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์พื้นฐาน แต่บริษัทที่มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงอาจจะมีสิทธิ์ใช้บัตรที่มีข้อกําหนดดีกว่าและมีรางวัลจูงใจมากขึ้น

เมื่อคุณประเมินคุณสมบัติและข้อควรพิจารณาที่สําคัญของธุรกิจแล้ว ลองดูฟีเจอร์ต่อไปนี้ของโปรแกรมบัตรเครดิตต่างๆ เพื่อเลือกคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุด

  • สิทธิประโยชน์ของบัตร: ค้นหาสิทธิประโยชน์สำหรับการใช้จ่ายที่ธุรกิจของคุณจะใช้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจมีค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางบ่อย ให้มองหาบัตรที่มีโปรแกรมสิทธิประโยชน์ในการเดินทางหรือโปรแกรมสะสมคะแนน

  • APR: เปรียบเทียบอัตราเปอร์เซ็นต์รายปี (APR) ของผู้ออกบัตรหลายๆ ราย หากคุณวางแผนจะทยอยชำระเงินในรอบบิลถัดไป โปรดหาบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า

  • ค่าธรรมเนียมรายปี: วิเคราะห์ค่าธรรมเนียมรายปีเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่าย

  • วงเงิน: ตรวจสอบว่าวงเงินเครดิตตรงตามความต้องการใช้จ่ายของธุรกิจคุณ

  • ตัวเลือกการเรียกเก็บเงินและการชําระเงิน: ตรวจสอบรอบการเรียกเก็บเงินและตัวเลือกการชําระเงินที่ตรงกับแนวทางการจัดการเงินสดของธุรกิจคุณมากที่สุด

  • ฟังก์ชันการผสานการทํางาน: บัตรที่สามารถผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มการเงินและการทําบัญชีของธุรกิจจะทําให้จัดการค่าใช้จ่ายและการรายงานได้ง่าย

  • การควบคุมการใช้จ่ายของพนักงาน: หากให้พนักงานหลายคนใช้บัตร โปรดพิจารณาบัตรที่กําหนดวงเงินใช้จ่ายและข้อจํากัดของแต่ละบุคคลได้

  • การบริการลูกค้า: พิจารณาระดับการบริการลูกค้าที่มีให้ เช่น สิทธิ์เข้าถึงผู้จัดการบัญชีโดยตรง

  • การใช้งานระหว่างประเทศ: สําหรับธุรกิจที่เดินทางหรือทำธุรกรรมต่างประเทศ หรือทั้งสองอย่าง ให้มองหาบัตรที่มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่างประเทศต่ำ มีการยอมรับอย่างแพร่หลาย และการสนับสนุนลูกค้าทั่วโลก

  • ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัย: พิจารณาการรักษาความปลอดภัย ฟีเจอร์ และระบบป้องกันการฉ้อโกงของบัตร เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดปกติ

  • ชื่อเสียงของบริษัทผู้ออกบัตร: ศึกษาเกี่ยวกับชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทผู้ออกบัตร การเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทผู้ออกบัตรที่มีชื่อเสียงอาจทําให้คุณวางใจและได้รับบริการที่มีคุณภาพในระยะยาว

  • คําแนะนําและรีวิว: ค้นหาคําแนะนําจากผู้ใช้คนอื่นๆ และอ่านรีวิวเพื่อทําความเข้าใจประสบการณ์ที่ธุรกิจอื่นๆ ได้รับจากบัตร

  • ข้อเสนอในช่วงแรก: หลังจากพิจารณาผลประโยชน์ระยะยาวของบัตรแล้ว ลองดูข้อเสนอในช่วงแรกที่อาจมีประโยชน์ เช่น ช่วงเวลาที่มี APR 0% หรือคะแนนโบนัส

การสมัครใช้บัตรเครดิตสำหรับบริษัท

การสมัครใช้งานบัตรเครดิตของบริษัทต้องมีการเตรียมพร้อม ความใส่ใจในรายละเอียด และการทําความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธุรกิจคุณ ต่อไปนี้คือคําแนะนําแบบทีละขั้นตอน

  • เลือกตัวแทนที่ได้รับอนุญาต: เลือกตัวแทนบริษัทเพื่อดูแลขั้นตอนการสมัคร ตัวแทนนี้ต้องมีอํานาจในการทําสัญญาทางการเงินที่มีผลผูกพันในนามของธุรกิจ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ด้านการเงินหรือผู้จัดการที่ได้รับอนุญาต

  • พิจารณาความต้องการของคุณ: ระบุเหตุผลว่าทําไมธุรกิจของคุณจึงต้องใช้บัตรเครดิต พนักงานคนใดจะได้รับบัตร และอนุญาตให้พนักงานใช้บัตรเครดิตในกรณีใดบ้าง ขั้นตอนนี้จะเป็นตัวกำหนดฟีเจอร์ที่คุณต้องการ

  • ศึกษาตัวเลือก: เปรียบเทียบบริษัทผู้ออกบัตรและคุณค่าของบัตรต่างๆ เลือกบริษัทผู้ออกบัตรและบัตรที่ตรงกับความต้องการทางธุรกิจของคุณมากที่สุด

  • ตรวจสอบประวัติเครดิต: ตรวจสอบว่าประวัติเครดิตของธุรกิจคุณเป็นปัจจุบัน และแก้ไขข้อผิดพลาดก่อนดําเนินการต่อ

  • รวบรวมเอกสารประกอบ: รวบรวมเอกสารประกอบที่จําเป็นทั้งหมด รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง TIN, งบการเงิน และใบอนุญาตประกอบกิจการ บัตรแต่ละประเภทมีข้อกําหนดที่แตกต่างกันไป ดังนั้น โปรดยืนยันสิ่งที่คุณต้องการก่อนเริ่มขั้นตอนการสมัคร

  • ส่งใบสมัคร: กรอกแบบฟอร์มสมัครซึ่งคุณอาจต้องระบุรายละเอียดส่วนบุคคลของเจ้าของธุรกิจและ/หรือเจ้าหน้าที่ทางการเงินที่สมัครใช้บัตร รวมถึงข้อมูลธุรกิจ ส่งให้บริษัทผู้ออกบัตร ขั้นตอนการอนุมัติอาจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงไปจนถึง 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากบริษัทผู้ออกบัตรต้องตรวจสอบข้อมูลและประวัติเครดิตที่คุณส่งมา

  • ตรวจสอบข้อตกลงสำหรับเจ้าของบัตร: เมื่อได้รับอนุมัติ ระบบจะกําหนดวงเงินให้คุณและส่งข้อตกลงสำหรับเจ้าของบัตร อ่านข้อกําหนดของข้อตกลงฉบับนี้อย่างละเอียด รวมทั้งวิธีการจัดการกับการโต้แย้งการชําระเงินและการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต

  • สร้างระบบการจัดการบัญชี: สร้างระบบสําหรับการติดตามค่าใช้จ่าย รวบรวมรายงาน และชําระเงินต้นของยอดคงเหลือ

  • แจกจ่ายบัตร: แจกจ่ายบัตรให้แก่พนักงานที่เลือก และแจ้งเจ้าของบัตรแต่ละคนเกี่ยวกับวงเงินใช้จ่ายและนโยบายการใช้งาน พนักงานที่มักจะใช้บัตร ได้แก่ บุคลากรฝ่ายขาย ผู้บริหาร และพนักงานที่มีหน้าที่เดินทางหรือทำการซื้อบ่อย

การจัดการบัตรเครดิตสำหรับบริษัท

เมื่อออกบัตรเครดิตแล้ว ธุรกิจของคุณมีหน้าที่ติดตามและบันทึกค่าใช้จ่าย ดูแลการปฏิบัติตามนโยบายการใช้จ่าย และจ่ายคืนยอดในบัญชีให้ตรงเวลา การจัดการบัญชีบริษัทจะทำให้กำกับดูแลและควบคุมการใช้บัตรเครดิตสำหรับธุรกิจในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการใช้งานบัตรในทางที่ผิดและการรวมค่าใช้จ่ายบัตรกับบันทึกการเงินอื่นๆ คุณควรพิจารณาแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้เพื่อจัดการบัตรสำหรับบริษัท

  • จัดทํานโยบายการใช้จ่ายและขั้นตอนการกระทบยอด: กําหนดว่าการใช้งานบัตรที่ยอมรับมีอะไรบ้าง รวมถึงประเภทการใช้จ่ายที่อนุญาต และการใช้จ่ายที่อยู่นอกเหนือขอบเขต สร้างกระบวนการที่เคร่งครัดเพื่อให้เจ้าของบัตรส่งใบเสร็จและระบุเหตุผลของการใช้จ่าย

  • กําหนดวงเงินเครดิต: พิจารณาการกําหนดวงเงินเครดิตของเจ้าของบัตรแต่ละคนตามความรับผิดชอบและความต้องการใช้จ่าย

  • ฝึกอบรมพนักงาน: ฝึกอบรมเจ้าของบัตรเกี่ยวกับวิธีใช้บัตรให้ถูกต้อง วิธีส่งค่าใช้จ่าย และสิ่งที่ต้องทําหากบัตรถูกขโมยหรือสูญหาย

  • ผสานการทํางานกับซอฟต์แวร์การทําบัญชี: ผสานการทํางานระบบของผู้ให้บริการบัตรกับซอฟต์แวร์การทําบัญชีของคุณเพื่อติดตามค่าใช้จ่ายและสร้างรายงานโดยอัตโนมัติ

  • ตรวจสอบธุรกรรม: หมั่นตรวจสอบธุรกรรมของบัตรแต่ละใบเพื่อตรวจจับข้อผิดพลาดหรือการใช้จ่ายที่ไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่เนิ่นๆ ดําเนินการทันทีหากเกิดข้อมูลที่ไม่ตรงกันหรือละเมิดนโยบายการใช้จ่าย โดยอาจมีการประชุมภายในหรือการดําเนินการทางวินัยที่เป็นทางการ

  • ชําระยอด: หลีกเลี่ยงการเสียดอกเบี้ยและบทลงโทษโดยชําระเงินให้ตรงเวลาเสมอ

  • ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงข้อตกลง: ติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดหรือสิทธิประโยชน์ของบัตร ปรับกลยุทธ์การใช้จ่ายของคุณให้สอดคล้องกันและใช้ประโยชน์จากข้อเสนอใหม่ๆ

  • วิเคราะห์รูปแบบการใช้จ่าย: ประเมินรูปแบบการใช้จ่ายเพื่อระบุโอกาสในการประหยัดต้นทุน เช่น การเจรจาเกี่ยวกับส่วนลดกับผู้ให้บริการบ่อยๆ

  • ปรับนโยบายตามความจําเป็น: เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น โปรดตรวจสอบและอัปเดตนโยบายบัตรเครดิตเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านความจะเป็นในการใช้จ่ายของธุรกิจหรือกลยุทธ์ทางการเงิน

การเอาชนะอุปสรรคในการรับบัตรเครดิตสำหรับบริษัท

หากธุรกิจของคุณประสบปัญหาในการขออนุมัติบัตรเครดิตสำหรับบริษัท กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยได้

  • เพิ่มความสามารถในการชำระคืนหนี้: หากคะแนนเครดิตของธุรกิจไม่น่าเชื่อถือ ให้เน้นที่การปรับปรุงคะแนนโดยชําระหนี้ให้ตรงเวลา ลดการใช้เครดิต และตรวจสอบว่าบันทึกข้อมูลเครดิตไม่มีข้อผิดพลาด

  • สร้างประวัติทางการเงิน: สําหรับธุรกิจใหม่กว่าและธุรกิจขนาดเล็ก ควรเริ่มจากบัตรเครดิตสําหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสินเชื่อจำนวนน้อยๆ ก่อนเพื่อให้มีประวัติทางการเงินที่เป็นบวก

  • รวบรวมเอกสารประกอบที่ครอบคลุม: เอกสารที่ไม่ครบถ้วนอาจทําให้ขั้นตอนการสมัครใช้งานติดขัดได้ ยืนยันว่ารวบรวมเอกสารที่จําเป็นทั้งหมดแล้วก่อนเริ่มขั้นตอนการสมัคร

หลังจากที่ธุรกิจของคุณได้รับอนุมัติให้ใช้บัตรเครดิตแล้ว ก็อาจมีความท้าทายเกี่ยวกับการใช้งานที่เหมาะสมและการจัดการบัญชี ต่อไปนี้เป็นวิธีจัดการปัญหาทั่วไป

  • ข้อกําหนดและเงื่อนไข: อ่านข้อกําหนดของบัตรอย่างระมัดระวัง และขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ออกบัตรหากมีสิ่งใดที่ไม่ชัดเจน การเข้าใจผิดอาจทำให้เกิดการใช้งานในทางที่ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจและเกิดการเรียกเก็บเงินที่ไม่คาดคิด

  • การฝึกอบรมพนักงาน: สร้างโปรแกรมการฝึกอบรมพนักงานที่ครอบคลุมจะอธิบายวิธีการใช้บัตร ผลของการไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนดและการใช้งานในทางที่ผิด ตลอดจนแนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับความปลอดภัยของบัตรและการป้องกันการฉ้อโกง

  • วินัยทางการเงิน: ใช้การควบคุมภายในที่เข้มงวดเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายและการสร้างหนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

  • วงเงิน: ตรวจสอบวงเงินเครดิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้จ่ายและความสามารถในการชำระคืนของคุณ ทํางานร่วมกับบริษัทผู้ออกบัตรเพื่อวงเงินตามความจําเป็น

  • กระบวนการตรวจสอบ: สร้างขั้นตอนการตรวจสอบรายการเดินบัญชีของบัตรเป็นประจําเพื่อรายงานและระบุถึงสาเหตุของปัญหา

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Issuing

Issuing

ระบบการให้บริการธนาคารสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพรูปแบบใหม่ แพลตฟอร์มที่ล้ำนวัตกรรม และองค์กรที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Stripe Docs เกี่ยวกับ Issuing

ดูวิธีใช้ Stripe Issuing API สร้าง จัดการ และแจกจ่ายบัตรชำระเงินสำหรับธุรกิจของคุณ